ชีวิตความรัก (มหาลัยฯ)#3

ปี 2 เทอม 2

    เมื่อผมอกหักจากรักไม่รักในเทอมที่แล้วมา จนถึงเป็นช่วงเดือนสิงหาคม ผมก็ได้เริ่มคุยกับสาวที่เจอร้านคาราโอเกะในช่วงหลังสอบมิดเทอม ของเทอม 2 ปี 1 ผมได้คุยกับเธอผ่านทางเฟสบุคมากขึ้น และได้คุยโทรศัพกันขึ้นเยอะเลย สำหรับผู้หญิงคนนี้เธอจมูกโด่งมาก สูง ขาว หน้าตาสวย คมๆหน่อยๆครับ เธอเคยเรียนที่เดียวกับผม แต่ตอนนี้ย้ายไปเรียนมหาลัยเอกชนใน กทม. แล้ว แต่เธอมีแฟนแล้วนะครับ เธอบอกผมเป็นแฟนที่เลิกๆคบๆบ่อยครั้ง ในช่วงนั้นแฟนเธอก็ไม่ได้สนใจเลย ผมจึงคุยกับเธอในฐานะเพื่อน
    
    แต่ลักษณะการคุยก็ส่อไปในเชิงหยอกมากกว่า ผมไม่คิดจะเป็นมือที่สามของใครนะครับ (เธอมาเองอ่ะนะ) แต่เธอชอบโทรมาหาผมบ่อยๆและคุยปรับทุกข์กัน จนมีอยู่ช่วงนึงเธอบอกกับผมว่า แฟนเขาคงไม่กลับมาคบกับเธออีกแล้ว แต่ผ่านไปประมาณเดือนนึงการพูดคุยของผมกับเธอเสมือนต่างคนต่างก็มีใจให้กันมากขึ้น และแล้วแฟนเก่าเขาเอาเบอร์โทรของเธอเอง โทรมาหาผมและต่อว่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หาว่าผมอยากได้ผู้หญิงของชาวบ้านมากหรือไง ผมก็ตอบกลับไปว่า พี่ควรจะถามผู้หญิงมากกว่านะครับว่าเป็นยังไง เขาก็ต่อว่าผมนั่นนี่โน่น ผมก็ไม่ได้ฟังหรอกครับ แค่ไม่ได้ตัดสายทิ้งไปให้เขาพูดให้สบายใจและตัดสายไปเอง
    
    เมื่อผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ เธอก็ติดต่อกลับมาหาผม ขอโทษผม ร้องไห้ และบอกกับผมว่า ขอบใจในทุกสิ่งที่คอยคุยคอยอยุ่เป็นเพื่อนเธอมาตลอด เธอบอกว่าต่อจากนี้ก็คงหยุดคุยกันไปก่อน ผมก็คิดไรมากไม่ได้ครับ ก็ต้องตกลงตามที่เธอร้องขอมา ไม่อยากจะทำให้ใครต้องเลิกกันเพราะผมด้วย

    แต่หลังจากนั้นไม่นานในช่วงของเดือนกุมภา เธอมีปัญหากับแฟนเก่าอีกแล้ว ครานี้ถึงกับเลิกกันเลย เธอก็ติดต่อมาหาผม และก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ จนเธอแน่ใจแล้วว่า เลิก จนผมมั่นใจแล้วว่าเลิกชัวร์ ก็ได้คุยกันมากขึ้น ผมพยายามขอเธอเป็นแฟน แต่เธอก็ยังเล่นตัวอยู่ครับ บอกผมว่ารีบหรอ.. จนมาถึงช่วงเมษายน ผมได้เป็นตัวแทนของนิสิตมหาลัยไปดูงานที่ต่างประเทศ ที่ไต้หวัน เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน โดยไปพักอยู่ที่ กทม. ก่อนวันเดินทาง

    ตอนเย็นของก่อนวันเดินทางเธอก็มาหาผม เราได้เจอกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานมากหลายเดือน ผมกับเธอคุยกันจนมีความสัมพันธ์กันดีขึ้น เริ่มสุกงอม ในการคุยกันเย็นวันนั้น ผมกับเธอไปเดินหาของกินในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เราจับมือกัน ผมอบอุ่นและมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้เธอ แต่เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ เย็นวันนั้นเธอบอกผมเองว่า รู้สึกใจหายที่ผมจะต้องไปต่างประเทศ เพราะด้วยความเป็นห่วงนั่นล่ะครับ เช้าของวันที่จะเดินทางเธอได้โทรมาหาผม และบอกว่าเมื่อคืนเธอร้องไห้ไม่หยุดเลย ได้เจอผมแค่แป๊ปเดียว แล้วก็เดินทางไปตั้งไกล กลัวติดต่อกันลำบาก เธอบอกที่จริงอยากจะมาส่งถึงสนามบินเลย แต่พอดีมีธุระตอนเช้าก็เลยไม่ได้มา

    พอไปถึงที่ไต้หวัน ผมก็ไปทำกิจกรรม ศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆ คืนวันแรกไปพักโรงแรมแห่งหนึ่ง พอดีเลยว่าแถวๆแผนกต้อนรับมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรี ผมก็เลยคุยกับเธอผ่านโปรแกรม MSN ซึ่งแป้นพิมพ์เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ พิมพ์ยากมาก ก็พิมพ์เป็นภาษาคาราโอเกะคุยกันล่ะครับ เธอก็บอกว่าคิดถึง ตามประสาคนเป็นห่วงครับ แล้วผมก็พิมพ์ไปอีกว่า pen fan gun mai? เธอก็ยังตอบอีกว่า รีบหรอ.. เหมือนเดิมครับ ผมก็ยังไม่ท้อ ก็คุยกับเธอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผมดูงานตามสถานที่ต่างๆเสร็จเรียบร้อย แต่ขอบอกว่าสาวใต้หวันนี่โดนใจผมเลย หน้าตาน่ารักมาก รู้สึกเพลินตาไปเลยทีเดียว

    พอกลับจากไต้หวัน มาถึงสนามบินที่ไทยก็ประมาณ 2 ทุ่ม ผมเพิ่งลงเครื่องไม่ถึง 5 นาที เธอก็โทรมาหาผมแล้วล่ะครับ เราคุยกันหวานมาก เป็นห่วงเป็นใย คิดถึง แต่ก็ไม่ได้เจอกันในตอนนั้น เพราะรถตู้มหาลัยมารับกลับมอที่ต่างจังหวัดเลย ผ่านไป 2 อาทิตย์เธอก็นั่งรถไปหาผมที่มหาลัย เพราะผมต้องทำกิจกรรม ตัดงบประมาณกิจกรรมนิสิต ต่อให้เสร็จก่อนเปิดเทอมปีสาม เธอก็ไปอยู่กับผมประมาณ 4 วันได้ครับ เราไปเที่ยวหลายๆที่ด้วยกัน ผมมีความสุขมากที่ได้ไปกับเธอ เหมือนโลกใบนี้มีเพียงเราสองคน ดูเหมือนจะน้ำเน่านะ แต่ผมรู้สึกได้จริงๆ
    
    ในช่วงนั้นผมเอ่ยขอเป็นแฟนกับเธอเป็นรอบที่ 3 แต่เธอก็ยังคงตอบเหมือนเดิม ผมเริ่มท้อแต่ไม่ถอยครับ ก็ยังคุยกับเธอแบบแฟนแต่ไม่ใช่แฟนไปเรื่อยๆ จนขึ้นปี 3 ครับ ครานี้ล่ะมาตามกันต่อว่าผมจะได้เป็นแฟนเธอหรือเปล่า เพราะเธอเล่นตัวซะขนาดนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้เป็นแฟนกับเธอเต็มตัวซะที...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่