(หมายเหตุ ผมเขียนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 17/8)
วันนีผมไปธุระแถวนั้น มาถึงก็สองโมงกว่าแล้ว เห็นว่าคนยังเยอะอยู่ก็เลยไปทำธุระก่อน กลับมาราวสามโมงยี่สิบ. ไปชะโงกดู (กระจกหน้าร้านมันสะท้อน และสายตาผมก็ชักแย่แล้ว เลยต้องชะโงกเอาหน้าชิดติดกระจก) เห็นคนเยอะ ก็เดินเลยไป.
แต่แล้วก็คิดว่า เอาน่า ไหนๆ ก็มาแถวนี้แล้ว ร้านเก่าแก่ผมก็ชอบกินเพราะมักจะมีอะไรเด็ดๆ
ก็อุตส่าห์เดินย้อนกลับมา. เปิดประตูเข้าไปนั่ง. เห็นลูกค้าโต๊ะใหญ่สองโต๊ะเช็คบิลแล้ว (แปลว่าพนักงานน่าจะพร้อม) ผมก็ยกมือเรียกพนักงานเพื่อจะขอเมนู
ปรากฏว่า นั่ง รอ พยายามมองหน้าเพื่อจะสบตาพนักงาน ยกมือแล้วยกมืออีก อยู่ราวสิบนาที. ไม่มีใครเห็นผมครับ.
ผมก็เลยไม่รอล่ะครับ ไปกินอย่างอื่นก็ได้
ถ้าลูกค้าเดินมาคนเดียวแล้วจะไม่ต้อนรับก็ขอให้ขึ้นป้ายใหญ่ๆ ไว้หน้าร้านเลยนะครับ.
ขอบคุณสำหรับทิชชู่เช็ดขี้มูกแผ่นนึง. ผมวางทิ้งไว้บนโต๊ะนั่นแหละ
ใครรู้จักร้านครัวอัปสร ข้างๆ ท่าวาสุกรี ฝากไปบอกด้วยนะครับ
วันนีผมไปธุระแถวนั้น มาถึงก็สองโมงกว่าแล้ว เห็นว่าคนยังเยอะอยู่ก็เลยไปทำธุระก่อน กลับมาราวสามโมงยี่สิบ. ไปชะโงกดู (กระจกหน้าร้านมันสะท้อน และสายตาผมก็ชักแย่แล้ว เลยต้องชะโงกเอาหน้าชิดติดกระจก) เห็นคนเยอะ ก็เดินเลยไป.
แต่แล้วก็คิดว่า เอาน่า ไหนๆ ก็มาแถวนี้แล้ว ร้านเก่าแก่ผมก็ชอบกินเพราะมักจะมีอะไรเด็ดๆ
ก็อุตส่าห์เดินย้อนกลับมา. เปิดประตูเข้าไปนั่ง. เห็นลูกค้าโต๊ะใหญ่สองโต๊ะเช็คบิลแล้ว (แปลว่าพนักงานน่าจะพร้อม) ผมก็ยกมือเรียกพนักงานเพื่อจะขอเมนู
ปรากฏว่า นั่ง รอ พยายามมองหน้าเพื่อจะสบตาพนักงาน ยกมือแล้วยกมืออีก อยู่ราวสิบนาที. ไม่มีใครเห็นผมครับ.
ผมก็เลยไม่รอล่ะครับ ไปกินอย่างอื่นก็ได้
ถ้าลูกค้าเดินมาคนเดียวแล้วจะไม่ต้อนรับก็ขอให้ขึ้นป้ายใหญ่ๆ ไว้หน้าร้านเลยนะครับ.
ขอบคุณสำหรับทิชชู่เช็ดขี้มูกแผ่นนึง. ผมวางทิ้งไว้บนโต๊ะนั่นแหละ