หุ้น PRANDA ในมุมมองนักลงทุน

กระทู้สนทนา
หุ้น  PRANDA ดีไหม

สิ่งที่คุณจะได้จากห้องนี้คือ หุ้นตัวนี้ไม่ดี หรืออาจเพราะเค้าไม่ได้ศึกษา หรืออะไรก็ช่างในนี้ส่วนใหญ่จะชอบหุ้นอย่าง

INTUCH   CPF   CSL    ADVANC    TRUE    CPALL   หุ้น IPO ใหม่ๆ แรงๆ ราคาวิ่ง วอลุ่มเยอะๆ

สิ่งที่คุณเอามาถามคือหุ้น ที่ไม่มีข่าวมาค่อนข้างนาน  มวลชน ไม่สนใจ  คนหมู่มากไม่พูดถึง ธรรมชาติของคนที่ไม่รู้จัก หุ้นตัวนี้ หรือตัวเองไม่มีก็จะใส่ ทุกเรื่องราวสรรสร้างให้หุ้นตัวนั้น ไม่ค่อยมีค่า    ผมไม่มีหุ้นตัวนี้ แต่พอมีข้อมูลคร่าวๆ ดังนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



- บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) (“PRANDA”) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516

- ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีเป็นหลัก ปัจจุบันเป็นผู้นำด้านการส่งออกเครื่องประดับอัญมณีของไทย ซึ่งมีการกระจายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคที่สำคัญของโลก อันได้แก่ อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

รูปแบบธุรกิจ

1. ฐานการผลิต(Production bases) เครื่องประดับอัญมณีที่มีประสิทธิภาพในด้านการประหยัดขนาดการผลิต (Economies of Scale) ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าเหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า และได้กระจายความเสี่ยงทางด้านการผลิตเพื่อให้ครอบคลุมแทบทุกระดับราคาสินค้า โดยกลุ่มบริษัทฯมี 7 โรงงานใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และ จีน ทำให้มีกำลังการผลิตรวม 8.23 ล้านชิ้นต่อปี


2.ฐานออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Design and Product Development Base) ที่ ประกอบด้วยทีมงานการออกแบบที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงาน และทีมงานผลิตต้นแบบที่มีทักษะในระดับโลก เพื่อการพัฒนาแบบสินค้าให้กับแบรนด์ชั้นนำ และแบรนด์ของตนเอง



3.ฐานการจัดจำหน่าย(Distribution base) โดยบริษัทฯมีบริษัทจัดจำหน่ายที่เป็นของตนเอง และตัวแทนจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงทางการตลาด และการขยายตลาดในเวลาเดียวกัน ฐานจัดจำหน่ายเหล่านี้กระจายตามภูมิภาคที่สำคัญของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมันนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม อินเดีย และไทย โดยช่องทางการจัดจำหน่ายมีทั้งการขายส่งให้กับผู้จัดจำหน่าย รายใหญ่ รายย่อย การเปิดร้านค้าของตัวเอง และระบบแฟรนซ์ไชส์


4.ฐานพัฒนาสินค้าแบรนด์ (Brands Development Base) พัฒนาแบรนด์ของบริษัทฯ และแบรนด์ที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการจัดจำหน่าย โดยวางแผน การตลาด การจัดการแบรนด์ รวมไปถึงการวางกลยุทธ์รวมด้านแบรนด์ เพื่อพัฒนาและสร้างคุณค่าแบรนด์ให้กับแบรนด์ในกลุ่มบริษัท



มาดู  อัตราส่วนอย่างง่าย 10 ปีย้อนหลัง

อัตรากำไรขั้นต้น  หมายความว่า   ขายไป 130 บาท  ทุน 100 บาท   กำไร 30 บาท ซึ่ง 10 ปียังไม่เคยติดลบ ในเรื่องการทำกำไร


กำไรสุทธิ ต่อหุ้น   คือกำไร ที่หักทุกสิ่งอย่าง  ก็ไม่เคยติดลบ มา 10 ปี


DE    อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน       ถ้าเกิน 1 ไม่ดี ถือว่าติดลบ   ดูย้อนไป 10 ปี หนี้สินไม่มากขนาด มากกว่าทุน


ROE ส่วนตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น   หมายถึง  เราลงทุนธุรกิจเป็นเงิน 100 บาท  สิ้นปี  มีเงิน 110 บาท แสดงว่า ROE = 10 ดูแล้ว 10 ปีก็โตตลอด




ความเสี่ยงที่คุณจะเจอคือ

1.  ค่าเงินเพราะเน้นการส่งออก ค่าเงินบาทมีผลต่อคู่ค้าในการตัดสินใจ หรือรายได้ เมื่อหักลบอัตราแลกเปลี่ยน ( ระยะสั้น )

2.  คู่แข่ง  แต่ไม่มากรายเนื่องจากเป็นธุรกิจที่ลงทุนสูง คู่แข่งต้องชัดเจนจริงๆ

3. คนมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ( แต่เราลืมคิดไปว่า เราเอาความจนของไทยเป็นที่ตั้งไม่ได้ เนื่องจากสินค้าขายทั่วโลกทั้งอินเดีย ยุโรป)

4. ราคาทองคำ

จุดแข็ง

1.  สินค้าที่เราพูดคือ  เครื่องประดับที่ทำจากทอง เพชร ทับทิม  ซึ่งมูลค่า ค่อนข้างสูงไม่ผันผวน เหมือนสินค้า IT เช่น โทรสับ คอมพิวเตอรื เสื้อผ้า หากเทรนเปลี่ยน จะถึงขั้นขาดทุน แต่ หุ้นเครื่องประดับ เหมือนเราหุ้นกับเจ้าของร้านทอง


2. ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวมากนัก เรื่องสัมปทาน พวกเรื่องการเปลี่ยนขั้วไม่มีผล



ตัวอย่างการลงทุนระยะยาว 5 ปี   PRANDA


PRANDA     หากเราลงทุน 100,000 บาท  จากปี 52



ผลประโยชน์ไม่ทบต้น


ราคา 4.82   ประมาณ 20,700 หุ้น
ปันผลปี 2552 รวม 0.5 ต่อหุ้น  = 10,350 บาท

           2553 รวม 1.03 ต่อหุ้น =  21,321 บาท ( แจกปันผลกำไรสะสม จึงมาก )

          2554 รวม 0.6  ต่อหุ้น = 12,420 บาท

          2555 รวม 0.6 ต่อหุ้น = 12,420 บาท

         2556  ต้นปี 0.5 ต่อหุ้น = 10,350 บาท

คำนวณมูลค่าล่าสุด 8 บาท  มีหุ้น 20,700 มูลค่าตามตลาด  = 165,600 + ปันผล 66,861 บาท = 232,461 บาท แบบไม่ทบต้น หรือ


เงินงอกเงย 132 เปอร์เซ็นต์  หรือ   26.5 ต่อปี ครับ


หมายเหตุ :   ปี2552 หุ้นหลายตัวมีราคาถูก ซึ่งในช่วงนี้อาจอยู่ในช่วงหุ้นราคาสูง แต่ระยะยาวผลตอบแทนก็ค่อนข้างสม่ำเสมอ


หมายเหตุ :  ไม่สามารถนำมาเทียบกับหุ้นปั่นแป๊ะ อาจรวยจริงอะไรจริง แต่ไม่มีความสม่ำเสมอใดๆ



ทุกสายทางย่อมดีหมด  แล้วแต่วิธีการใช้ ความชำนาญ  ทางขึ้นสู่ ยอดเขา( ดอย ) มีหลายทาง  แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ วิวๆ เดียวกัน

เอาใจ สาย พื้นฐาน  และสายเทคนิค

หุ้นที่ค้าขายกับคนรวยๆ คุณคิดดูหากคนที่รวยมากๆ เค้าต้องสะสมของสวยๆงามๆ เป็นธรรมดาจริงไหมครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




เม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาวเม่าติดดอยเม่าหนาว





คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




น่าจะเป็นคำตอบครอบคุม ไตรมาส 1 และ 2 ครับ  ทั้งเรื่องค่าเงินที่ขาดทุน  บลาๆ ที่คุณถามมา เสียเวลาฟังนิดเดียวดีกว่ามาเถียงในเว็บบอร์ดครับ

ดร. นิเวศ  กับ ดร. ไพบูลย์ ถามให้ครับ ผมว่าน่าจะครอบคุม

สงสัยเรื่องขาดทุน ไตรมาส 1 - 2   2556 ดูคลิปนี้เลยครับ ไม่ต้องรอใครมาอธิบายละ เพราะในนี้คงไม่มีกรรมการบริหารมาคอยตอบ ชัดเจนสุดๆ แล้วครับ  พวกข้อมูล   เป็นเอกสาร อาจให้มิติการรับรู้ ไม่ครบ  ขนาดหนังยังต้อง 4DX  แล้ววิเคราะห์หุ้น จะมาวิเคราะห์ 1D ทำไม เปิดในคลิปเลยใครสงสัย

ในคลิปนาที ที่ 46.00 เค้า ก็บอกเรื่องค่าเงิน  เรื่องราคาทองที่ผันผวน  แต่คู่ค้าที่แข็งแกร่ง เค้าก็บอกเค้ากลับมาแล้ว  เราก็ต้องรอชม

ธุรกิจ 10 ปีย้อนหลัง   เค้าก็เอามาให้ดูให้ชม      เค้าก็บอกยังไม่ขาดทุนซักปี     ปีนี้จะขาดทุน หรือไม่  รอดูอีก 2 ไตรมาส ครับ ปวดม้าม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่