นี่แม่ …นั่นก็แม่
อนัตดา พุทธิกุล
ในคฤหาสน์หรูสีชมพูหลังเดียวของซอยแรก ของหมู่บ้านไฮคลาส ที่ราคาบ้าน สตาร์ทที่เก้าล้านแปด แอนด์อัพ
ภายในห้องอาหารเลิศหรู ผนังห้องสีครีม โต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมขนาดสิบสองคน สไตล์ หลุยส์ตั่งตะหง่านกลางห้อง เหนือโต๊ะ มีโคมไฟ แชนเดอเลียร์ (chandelier) ห้อยระย้า
แม่บ้านวัยกลางคน เดินวนไปวนมาที่หัวโต๊ะ สำรวจทุกอย่าง ก่อนคุณหนูจะลงมา จาน ชาม ส้อม ช้อน แก้วคริสตัล ผ้าเช็ดปาก วางอยู่ในตำแหน่งของมัน
อาหารเช้า มีซีเรียล ( Cereal ) ขนมปังปิ้งทาแยม ผลไม้รวม น้ำส้มคั้นสดๆ แต่ทุกอย่างจะเสิร์ฟ ก็ตอนคุณหนูลงมา
ขนมปังต้องปิ้งเดี๋ยวนั้น น้ำส้ม นม น้ำ ต้องเย็นได้ที่ จะมาเอาตั่งทิ้ง ให้ละลาย คุณหนู เห็น เป็นได้กวาดจากโต๊ะกระจายเกลื่อน
จะเก้าโมงแล้ว แต่ยังไร้วี่แววของคุณหนู ท่าคงจะยังนอนไม่ตื่น แน่ละ เมื่อคืน คุณหนูกลับบ้านเกือบสองยาม ซึ่งคุณผู้หญิงคงไม่รู้ เพราะคุณผู้หญิงเอง กว่าจะกลับก็ร่วมตีสอง
จริงๆนะ ป้าสม ถ้างานหาง่ายๆละก้อ ป่านนี้ หนูลาออกจากที่นี่ไปนานแล้ว คุณผู้หญิงนะไม่เท่าไหร่ วันๆทำแต่งาน งกๆ ไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน แต่ที่ทนจะไม่ไหว ก็คุณหนูขี้วีน นั่นแหละ ให้ตายเถอะน่า เด็กอะไรก็ไม่รู้ ก้าวร้าว ปากจัด จิกหัวใช้ พวกเรายังกับเราเป็นทาส แก้วแม่ครัว ปรับทุกข์เสมอๆ เรื่อยมา
คนรับฟัง ได้แต่ฟังยิ้มๆ ไม่ว่ากระไร นอกจากอีกฝ่ายจ้อ ไม่หยุด นั่นแหละ ถึงจะค้านเรียบๆ ในประโยคเดิมๆ
ทำไงได้ละแก้ว ในเมื่อเราเป็นคนรับใช้ นายว่าอะไร เราก็ทำตาม
หนูรู้ป้า แต่ถึงยังงั้น คนใช้ก็เป็นคน เหมือนกัน
“ตึงๆๆ” เสียงฝีเท้าย่ำตึงๆ จากชั้นบนลงบันไดกระชั้น ดึงความคิดของแม่บ้านกลับคืนมา เจ้าตัว ไม่รอช้า จัดแจง เช็คทุกอย่างบนโต๊ะ ด้วยสายตา อีกครั้ง อย่างว่องไว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็รีบผันผายไปยังห้องครัวใกล้ๆ เพื่อไปจัดหาอาหารเช้าที่เตรียมไว้ มาให้คุณหนู
“ยายสม คุณกานดาไปไหน ” เด็กสาวในเครื่องแบบมหาวิทยาลัย มีชื่อ ร้องถามแม่บ้าน ที่รินน้ำส้มจากเหยือกใส่แก้วช้าๆ
“ท่านมีประชุมทุกวันจันทร์ ค่ะ คุณหนู” คุณหนูลืมแล้ว หรือ ว่ารู้แล้ว แต่แกล้งถาม ประโยคท้ายยั้งไว้ทัน เพราะรู้ดี หากหลุดออกไป อะไรจะเกิดขึ้น
“แต่วันนี้ มันวันเกิดฉัน นี่นา “เด็กสาวแผดเสียงออกมา แม่บ้านวางแก้วน้ำส้มกับเหยือกลงบนโต๊ะ มือสั่น ยิ้มฝืนๆ ตอบไม่เต็มเสียง
“คุณท่านไม่ลืมหรอกค่ะ ท่านฝากไอ้นี่ไว้ให้คุณหนู ” แม่บ้านพูดจบ ก็ เดินไปยัง เบรคฟาสต์ บาร์ (Breakfast Bar) ใกล้ๆ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับ ซอง และกล่องเล็กๆ วางลงตรงหน้าเด็กสาว
“อะไร ” เด็กสาวตวาด ห้วนๆ
“สมไม่รู้หรอกค่ะ คุณหนู คุณท่าน บอกแต่ว่า คุณหนูตื่นเมื่อไหร่ ก็ให้คุณหนูเมื่อนั้น”
“คุณกานดา บอกยายสม อย่างนั้นเหรอ” เด็กสาวถามเสียงแหลม หน้าตางองุ้ม แม่บ้านไม่ตอบ เพียงแต่พยักหน้าน้อยๆ
แก้วพูดถูก เด็กคนนี้ ก้าวร้าว เกินตัว กับแม่ ยังไม่เว้น กะอีแค่ คำสั้นๆ ว่า แม่ ไม่เรียก ดันผ่าเรียก ชื่อ ยังกับแม่เป็นเพื่อนเล่นอย่างนั้น
เฮ้อ หรือว่า เราจะต้องหางานใหม่เสียที คิด แต่ไม่ได้พูดออกมา และก็คงไม่ทำด้วย เพราะสมัยนี้ งาน ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ
BMW Series 320 i ซีรีส์ 3 สีแดงเพลิง ตะบึงไปข้างหน้าราว กับจะแข่งกับพายุ มือทั้งสองกำพวงมาลัยเกร็ง หน้าตาเครียดขึ้ง ขอบตาร้อนผ่าว ร่ำจะร้องให้เสียให้ได้ เมื่อนึกไปถึง ถ้อยคำในการ์ดวันเกิด ที่ผู้เป็นแม่ ฝากไว้
สุขสันต์วันเกิดลูก แม่หวังว่า หนูคงจะถูกใจ ของขวัญวันเกิดปีนี้ ของหนู แม่แห็นหนูบ่นว่าอยากได้ BMW สองล้านกว่าๆ เลยนะจะบอกให้ .. รัก จากแม่ …
“หนูก็พูดไปอย่างนั้น แม่ไม่รู้เหรอไง ระหว่างรถ กับแม่ หนูอยากได้แม่ มากกว่ารถ ได้ยินไหม หนูอยากได้แม่”
น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ ก่อนหน้านั้น พรั่งพรูออกมา มองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าพร่าพราย เจ้าตัวไม่รอช้า รีบเอาท่อนแขนปาดน้ำตาเร็วๆ
ที่หน้าโรงเรียนประถม ..
แม่ลูกคู่นั้นยืนอยู่ตรงหน้าประตูเข้าโรงเรียน เด็กหญิงในเครื่องแบบเก่าคร่ำ ชุดเดียว ที่ป้าแจ่มแม่ค้าปลาท้ายตลาด ที่ตนกับแม่ไปอาศัยแคร่ไม่ไผ่หน้าบ้านแกพักพิง ให้มา ชุดที่ว่า เป็นของหลานแก ที่ขึ้นชั้นใหม่ ดังนั้นมันจึง ทั้งเก่า และหลวมโพรก
เด็กหญิงมองเพื่อนๆที่เดินผ่านไป ในชุดใหม่ กับรอยยิ้ม ก็รู้สึกหม่นใจ
เพื่อนมีชุดใหม่ ได้ค่าขนมหลายๆบาท เอาไปซื้ออาหารอร่อยๆ ที่โรงเรียน ข้าวผัด หรือก๋วยเตี๋ยว แถมเพื่อนบางคนยังซื้อขนมเค้กจากร้านข้างโรงเรียน ไปกินอวดเพื่อนๆ ตอนพักเที่ยง ขนมเค็กที่ตัวเองมองตาละห้อย ทุกครั้งที่เดินผ่าน ร้านเค้ก
และแม้นว่าเพื่อนบางคน จะไม่ได้กินอาหารของโรงเรียน หากนำอาหารใส่กล่องมากิน แต่อาหารของเพื่อนๆ ก็สลับสับเปลี่ยน ไม่ใช่ ใข่ดาว หรือใข่เจียว ที่ตนกินซ้ำๆ
เด็กหญิงคิดเงียบๆ แต่ไม่ได้พูดออกมา หากส่งยิ้มให้แม่ ที่ส่งยิ้มมาให้ และยิ้มของแม่ดูจะสดใส ตัดกับเสื้อผ้าเก่าคร่ำ ที่แม่ใส่สวม ใช่แต่ตัวเองที่มีชุดเดียว แม่ก็มีชุดเดียวเหมือนกัน
เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นลายดอกไม้เก่าๆ กับ กางเกงขาสามส่วนสีดำ
แม่วางมือลงบนศีรษะป้อมๆ เอ่ยยิ้มๆ อย่างใจดี
“วันหนึ่ง หนูจะมีชุดใหม่ ได้ค่าขนม มากกว่านี้ เพื่อหนูจะได้เอาไปซื้อ อาหารที่โรงเรียน ซื้อ ก๋วยเตี๋ยว ที่หนูบ่นว่าอยากกิน อ้อ แล้วก็เค้กอร่อยๆ ”
เด็กหญิงกระพริบตาถี่ๆ คิดในใจ เราไม่ได้พูดสักหน่อย แม่รู้ได้อย่างไร
“ แต่ถ้าหนูอยากกินก๋วยเตี๋ยว กับ ขนมเค้กละก้อ หนูต้องเอาใจช้วยแม่ ให้ได้งานใหม่“ แม่ว่ายิ้มๆ
เด็กหญิงไม่พูดอะไร จัดแจงหลับตาทั้งสองเร็วๆ ประณมมือเพียงอก ทำปากมุมมิบ
ผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะล่วงรู้ ถึงคำอฐิษฐาน ของลูกสาว เลยยื่นมือไปขยี้ศีรษะกลมๆของลูกไปมา ก้มหน้าลงไปถาม
““อฐิษฐานเสร็จ หรือยัง”
เด็กหญิงลืมตาขึ้นมาเร็วๆ ตอบยิ้มๆ
“เสร็จแล้วแม่ หนูขอให้แม่ได้งานใหม่ หนูเอง จะได้กินก๋วยเตี๋ยว ที่โรงเรียน กับ ขนมเค้ก”
“แม่สัญญา ถ้าแม่ได้งาน หนูก็จะได้กินก๋วยเตี๋ยว กับ ขนมเค้ก ”
เด็กหญิงได้ยิน คำสัญญา ของแม่ ก็ยิ้มกว้าง แม่ก้มลงมาต่ำ ร้องบอกกสาวตัวน้อย เหมือนทุกวัน ราวกับท่องอาขยาน
“ไปเถอะลูก แล้วอย่าลืมที่แม่สอนไว้ เวลาเรียน อย่าคุย ครูสอนอะไร ตั้งใจฟังให้ดี ” แม่ร้องบอกเรียบๆ เด็กหญิงยิ้มแป้น ตอบสั้นๆ
“จ๊ะแม่ “ พูดเท่านั้น ก็ประณมมือไหว้ อย่างอ่อนช้อน จากนั้นก็ หมุนตัวเร็วๆ เดินเข้าประตูโรงเรียนไป
นางรอ จนลูกสาวตัวเล็กๆ เดินปะปนกับเพื่อนๆ ก่อนจะหายไปในอาคารตรงหน้า นางก็หมุนตัวกลับก้าวช้าๆ
ไปข้างหน้า ปล่อยความคิด โลดแล่นกลับ ไปยังอดีต อันขื่นขม
ตอนที่นาง ยังแป็นเด็ก แม่กับพ่อทำงานโรงงาน ตกเย็นกินเหล้า พอได้ที่ก็ทะเลาะ ตบตีกัน เป็นอย่างนั้น จนนางอายุสิบสี่ พ่อกับแม่ ก็แยกทางกัน แม่มีสามีใหม่ พ่อมีเมียใหม่แล้วไม่หันมาแลตนอีกเลย
วันหนึ่ง พ่อเลี้ยงพยายามจะปลุกปล้ำตน ตนฟ้องแม่ กลับโดนแม่ตบหน้า หาว่าโกหก นางทนพ่อใหม่ กับความอยุติธรรมของแม่ไม่ไหว เลยหนีออกจากบ้าน ตะเวนรับจ้างเขาไปทั่ว แลกข้าว แลกที่พัก จนได้ไปทำงานที่ร้านข้าวแกงแห่งนั้น ทำได้พักใหญ่ ลูกชายเจ้าของร้านดอดเข้าปลุกปล้ำยาม ดึก พอนางตั่งท้อง เจ้าของร้านจับได้ แทนที่จะด่าว่าลูกชาย กลับไล่ตนเองออกจากร้าน พร้อมกับลูกในท้อง
นางต้องระเหเร่ร่อน รับจ้างเขา แลกข้าว และที่พัก กระทั่งคลอดลูกในแผนกอนาถา ของโรงพยาบาลแห่งนั้น อย่างโดดเดี่ยว
ตอนนั้นอายุนาง แค่สิบห้า ย่างสิบหก แต่ต้องมาแบกรับภาระหนักอึ้ง ชีวิตน้อยๆชีวิตหนึ่งที่ลืมตาขึ้นมาในโลก
ถ้าเป็นสิ่งของ ไม่อยากได้ จะโยนทิ้ง ไม่มีใครว่า แต่นี่ลูกตาดำๆ
ไม่ว่า เขาจะเกิดมา ด้วยเหตุผลใด ขึ้นชื่อว่า เป็นแม่ นางก็ต้องทำหน้าที่แม่ ให้ดีที่สุด และไม่มีวัน ที่นางจะทำกับลูก เหมือนกับที่แม่ ทำกับนาง
ไม่มีวัน !
นี่แม่.. นั่นก็แม่ ( เรื่องสั้นๆพิเศษๆ เนื่องในวันแม่ )
อนัตดา พุทธิกุล
ในคฤหาสน์หรูสีชมพูหลังเดียวของซอยแรก ของหมู่บ้านไฮคลาส ที่ราคาบ้าน สตาร์ทที่เก้าล้านแปด แอนด์อัพ
ภายในห้องอาหารเลิศหรู ผนังห้องสีครีม โต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมขนาดสิบสองคน สไตล์ หลุยส์ตั่งตะหง่านกลางห้อง เหนือโต๊ะ มีโคมไฟ แชนเดอเลียร์ (chandelier) ห้อยระย้า
แม่บ้านวัยกลางคน เดินวนไปวนมาที่หัวโต๊ะ สำรวจทุกอย่าง ก่อนคุณหนูจะลงมา จาน ชาม ส้อม ช้อน แก้วคริสตัล ผ้าเช็ดปาก วางอยู่ในตำแหน่งของมัน
อาหารเช้า มีซีเรียล ( Cereal ) ขนมปังปิ้งทาแยม ผลไม้รวม น้ำส้มคั้นสดๆ แต่ทุกอย่างจะเสิร์ฟ ก็ตอนคุณหนูลงมา
ขนมปังต้องปิ้งเดี๋ยวนั้น น้ำส้ม นม น้ำ ต้องเย็นได้ที่ จะมาเอาตั่งทิ้ง ให้ละลาย คุณหนู เห็น เป็นได้กวาดจากโต๊ะกระจายเกลื่อน
จะเก้าโมงแล้ว แต่ยังไร้วี่แววของคุณหนู ท่าคงจะยังนอนไม่ตื่น แน่ละ เมื่อคืน คุณหนูกลับบ้านเกือบสองยาม ซึ่งคุณผู้หญิงคงไม่รู้ เพราะคุณผู้หญิงเอง กว่าจะกลับก็ร่วมตีสอง
จริงๆนะ ป้าสม ถ้างานหาง่ายๆละก้อ ป่านนี้ หนูลาออกจากที่นี่ไปนานแล้ว คุณผู้หญิงนะไม่เท่าไหร่ วันๆทำแต่งาน งกๆ ไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน แต่ที่ทนจะไม่ไหว ก็คุณหนูขี้วีน นั่นแหละ ให้ตายเถอะน่า เด็กอะไรก็ไม่รู้ ก้าวร้าว ปากจัด จิกหัวใช้ พวกเรายังกับเราเป็นทาส แก้วแม่ครัว ปรับทุกข์เสมอๆ เรื่อยมา
คนรับฟัง ได้แต่ฟังยิ้มๆ ไม่ว่ากระไร นอกจากอีกฝ่ายจ้อ ไม่หยุด นั่นแหละ ถึงจะค้านเรียบๆ ในประโยคเดิมๆ
ทำไงได้ละแก้ว ในเมื่อเราเป็นคนรับใช้ นายว่าอะไร เราก็ทำตาม
หนูรู้ป้า แต่ถึงยังงั้น คนใช้ก็เป็นคน เหมือนกัน
“ตึงๆๆ” เสียงฝีเท้าย่ำตึงๆ จากชั้นบนลงบันไดกระชั้น ดึงความคิดของแม่บ้านกลับคืนมา เจ้าตัว ไม่รอช้า จัดแจง เช็คทุกอย่างบนโต๊ะ ด้วยสายตา อีกครั้ง อย่างว่องไว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็รีบผันผายไปยังห้องครัวใกล้ๆ เพื่อไปจัดหาอาหารเช้าที่เตรียมไว้ มาให้คุณหนู
“ยายสม คุณกานดาไปไหน ” เด็กสาวในเครื่องแบบมหาวิทยาลัย มีชื่อ ร้องถามแม่บ้าน ที่รินน้ำส้มจากเหยือกใส่แก้วช้าๆ
“ท่านมีประชุมทุกวันจันทร์ ค่ะ คุณหนู” คุณหนูลืมแล้ว หรือ ว่ารู้แล้ว แต่แกล้งถาม ประโยคท้ายยั้งไว้ทัน เพราะรู้ดี หากหลุดออกไป อะไรจะเกิดขึ้น
“แต่วันนี้ มันวันเกิดฉัน นี่นา “เด็กสาวแผดเสียงออกมา แม่บ้านวางแก้วน้ำส้มกับเหยือกลงบนโต๊ะ มือสั่น ยิ้มฝืนๆ ตอบไม่เต็มเสียง
“คุณท่านไม่ลืมหรอกค่ะ ท่านฝากไอ้นี่ไว้ให้คุณหนู ” แม่บ้านพูดจบ ก็ เดินไปยัง เบรคฟาสต์ บาร์ (Breakfast Bar) ใกล้ๆ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับ ซอง และกล่องเล็กๆ วางลงตรงหน้าเด็กสาว
“อะไร ” เด็กสาวตวาด ห้วนๆ
“สมไม่รู้หรอกค่ะ คุณหนู คุณท่าน บอกแต่ว่า คุณหนูตื่นเมื่อไหร่ ก็ให้คุณหนูเมื่อนั้น”
“คุณกานดา บอกยายสม อย่างนั้นเหรอ” เด็กสาวถามเสียงแหลม หน้าตางองุ้ม แม่บ้านไม่ตอบ เพียงแต่พยักหน้าน้อยๆ
แก้วพูดถูก เด็กคนนี้ ก้าวร้าว เกินตัว กับแม่ ยังไม่เว้น กะอีแค่ คำสั้นๆ ว่า แม่ ไม่เรียก ดันผ่าเรียก ชื่อ ยังกับแม่เป็นเพื่อนเล่นอย่างนั้น
เฮ้อ หรือว่า เราจะต้องหางานใหม่เสียที คิด แต่ไม่ได้พูดออกมา และก็คงไม่ทำด้วย เพราะสมัยนี้ งาน ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ
BMW Series 320 i ซีรีส์ 3 สีแดงเพลิง ตะบึงไปข้างหน้าราว กับจะแข่งกับพายุ มือทั้งสองกำพวงมาลัยเกร็ง หน้าตาเครียดขึ้ง ขอบตาร้อนผ่าว ร่ำจะร้องให้เสียให้ได้ เมื่อนึกไปถึง ถ้อยคำในการ์ดวันเกิด ที่ผู้เป็นแม่ ฝากไว้
สุขสันต์วันเกิดลูก แม่หวังว่า หนูคงจะถูกใจ ของขวัญวันเกิดปีนี้ ของหนู แม่แห็นหนูบ่นว่าอยากได้ BMW สองล้านกว่าๆ เลยนะจะบอกให้ .. รัก จากแม่ …
“หนูก็พูดไปอย่างนั้น แม่ไม่รู้เหรอไง ระหว่างรถ กับแม่ หนูอยากได้แม่ มากกว่ารถ ได้ยินไหม หนูอยากได้แม่”
น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ ก่อนหน้านั้น พรั่งพรูออกมา มองเห็นทุกสิ่งตรงหน้าพร่าพราย เจ้าตัวไม่รอช้า รีบเอาท่อนแขนปาดน้ำตาเร็วๆ
ที่หน้าโรงเรียนประถม ..
แม่ลูกคู่นั้นยืนอยู่ตรงหน้าประตูเข้าโรงเรียน เด็กหญิงในเครื่องแบบเก่าคร่ำ ชุดเดียว ที่ป้าแจ่มแม่ค้าปลาท้ายตลาด ที่ตนกับแม่ไปอาศัยแคร่ไม่ไผ่หน้าบ้านแกพักพิง ให้มา ชุดที่ว่า เป็นของหลานแก ที่ขึ้นชั้นใหม่ ดังนั้นมันจึง ทั้งเก่า และหลวมโพรก
เด็กหญิงมองเพื่อนๆที่เดินผ่านไป ในชุดใหม่ กับรอยยิ้ม ก็รู้สึกหม่นใจ
เพื่อนมีชุดใหม่ ได้ค่าขนมหลายๆบาท เอาไปซื้ออาหารอร่อยๆ ที่โรงเรียน ข้าวผัด หรือก๋วยเตี๋ยว แถมเพื่อนบางคนยังซื้อขนมเค้กจากร้านข้างโรงเรียน ไปกินอวดเพื่อนๆ ตอนพักเที่ยง ขนมเค็กที่ตัวเองมองตาละห้อย ทุกครั้งที่เดินผ่าน ร้านเค้ก
และแม้นว่าเพื่อนบางคน จะไม่ได้กินอาหารของโรงเรียน หากนำอาหารใส่กล่องมากิน แต่อาหารของเพื่อนๆ ก็สลับสับเปลี่ยน ไม่ใช่ ใข่ดาว หรือใข่เจียว ที่ตนกินซ้ำๆ
เด็กหญิงคิดเงียบๆ แต่ไม่ได้พูดออกมา หากส่งยิ้มให้แม่ ที่ส่งยิ้มมาให้ และยิ้มของแม่ดูจะสดใส ตัดกับเสื้อผ้าเก่าคร่ำ ที่แม่ใส่สวม ใช่แต่ตัวเองที่มีชุดเดียว แม่ก็มีชุดเดียวเหมือนกัน
เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นลายดอกไม้เก่าๆ กับ กางเกงขาสามส่วนสีดำ
แม่วางมือลงบนศีรษะป้อมๆ เอ่ยยิ้มๆ อย่างใจดี
“วันหนึ่ง หนูจะมีชุดใหม่ ได้ค่าขนม มากกว่านี้ เพื่อหนูจะได้เอาไปซื้อ อาหารที่โรงเรียน ซื้อ ก๋วยเตี๋ยว ที่หนูบ่นว่าอยากกิน อ้อ แล้วก็เค้กอร่อยๆ ”
เด็กหญิงกระพริบตาถี่ๆ คิดในใจ เราไม่ได้พูดสักหน่อย แม่รู้ได้อย่างไร
“ แต่ถ้าหนูอยากกินก๋วยเตี๋ยว กับ ขนมเค้กละก้อ หนูต้องเอาใจช้วยแม่ ให้ได้งานใหม่“ แม่ว่ายิ้มๆ
เด็กหญิงไม่พูดอะไร จัดแจงหลับตาทั้งสองเร็วๆ ประณมมือเพียงอก ทำปากมุมมิบ
ผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะล่วงรู้ ถึงคำอฐิษฐาน ของลูกสาว เลยยื่นมือไปขยี้ศีรษะกลมๆของลูกไปมา ก้มหน้าลงไปถาม
““อฐิษฐานเสร็จ หรือยัง”
เด็กหญิงลืมตาขึ้นมาเร็วๆ ตอบยิ้มๆ
“เสร็จแล้วแม่ หนูขอให้แม่ได้งานใหม่ หนูเอง จะได้กินก๋วยเตี๋ยว ที่โรงเรียน กับ ขนมเค้ก”
“แม่สัญญา ถ้าแม่ได้งาน หนูก็จะได้กินก๋วยเตี๋ยว กับ ขนมเค้ก ”
เด็กหญิงได้ยิน คำสัญญา ของแม่ ก็ยิ้มกว้าง แม่ก้มลงมาต่ำ ร้องบอกกสาวตัวน้อย เหมือนทุกวัน ราวกับท่องอาขยาน
“ไปเถอะลูก แล้วอย่าลืมที่แม่สอนไว้ เวลาเรียน อย่าคุย ครูสอนอะไร ตั้งใจฟังให้ดี ” แม่ร้องบอกเรียบๆ เด็กหญิงยิ้มแป้น ตอบสั้นๆ
“จ๊ะแม่ “ พูดเท่านั้น ก็ประณมมือไหว้ อย่างอ่อนช้อน จากนั้นก็ หมุนตัวเร็วๆ เดินเข้าประตูโรงเรียนไป
นางรอ จนลูกสาวตัวเล็กๆ เดินปะปนกับเพื่อนๆ ก่อนจะหายไปในอาคารตรงหน้า นางก็หมุนตัวกลับก้าวช้าๆ
ไปข้างหน้า ปล่อยความคิด โลดแล่นกลับ ไปยังอดีต อันขื่นขม
ตอนที่นาง ยังแป็นเด็ก แม่กับพ่อทำงานโรงงาน ตกเย็นกินเหล้า พอได้ที่ก็ทะเลาะ ตบตีกัน เป็นอย่างนั้น จนนางอายุสิบสี่ พ่อกับแม่ ก็แยกทางกัน แม่มีสามีใหม่ พ่อมีเมียใหม่แล้วไม่หันมาแลตนอีกเลย
วันหนึ่ง พ่อเลี้ยงพยายามจะปลุกปล้ำตน ตนฟ้องแม่ กลับโดนแม่ตบหน้า หาว่าโกหก นางทนพ่อใหม่ กับความอยุติธรรมของแม่ไม่ไหว เลยหนีออกจากบ้าน ตะเวนรับจ้างเขาไปทั่ว แลกข้าว แลกที่พัก จนได้ไปทำงานที่ร้านข้าวแกงแห่งนั้น ทำได้พักใหญ่ ลูกชายเจ้าของร้านดอดเข้าปลุกปล้ำยาม ดึก พอนางตั่งท้อง เจ้าของร้านจับได้ แทนที่จะด่าว่าลูกชาย กลับไล่ตนเองออกจากร้าน พร้อมกับลูกในท้อง
นางต้องระเหเร่ร่อน รับจ้างเขา แลกข้าว และที่พัก กระทั่งคลอดลูกในแผนกอนาถา ของโรงพยาบาลแห่งนั้น อย่างโดดเดี่ยว
ตอนนั้นอายุนาง แค่สิบห้า ย่างสิบหก แต่ต้องมาแบกรับภาระหนักอึ้ง ชีวิตน้อยๆชีวิตหนึ่งที่ลืมตาขึ้นมาในโลก
ถ้าเป็นสิ่งของ ไม่อยากได้ จะโยนทิ้ง ไม่มีใครว่า แต่นี่ลูกตาดำๆ
ไม่ว่า เขาจะเกิดมา ด้วยเหตุผลใด ขึ้นชื่อว่า เป็นแม่ นางก็ต้องทำหน้าที่แม่ ให้ดีที่สุด และไม่มีวัน ที่นางจะทำกับลูก เหมือนกับที่แม่ ทำกับนาง
ไม่มีวัน !