Sense in the Darkness (บทที่ 5)

กระทู้สนทนา
Louis killer : Sense in the Darkness
Authors : 0.00 น.
Type : Thriller-Drama
Rated : PG-13







บทนำ-บทที่ 1 : http://ppantip.com/topic/30744563
บทที่ 2 : http://ppantip.com/topic/30767175
บทที่ 3 : http://ppantip.com/topic/30786508
บทที่ 4 : http://ppantip.com/topic/30805522








บทที่ 5


    



          เช้ามืดอันสงบเงียบขอเมืองเล็กยังคงเต็มไปด้วยเมฆหนาสีดำทึบที่ยังคงไม่ลาจากท้องฟ้าไป   กลางคืนที่ยาวนานกว่ากลางวันสร้างความเงียบเหงาให้กับผู้คนในเมือง   ไร้ผู้คนตามท้องถนนและตรอกซอกซอย   ตึกเก่าก่อด้วยอิฐโทรมๆเปิดกิจการเป็นหอพักเล็กๆในตรอกแคบย่านชุมชนของเมือง   หนึ่งในห้องริมติดหน้าต่างชั้น4ของตึกยังคงมีแสงไฟอ่อนๆลอดออกมาจากความถี่ของม่านมู่ลี่   โคมไฟตั้งโต๊ะสาดแสงสีส้มอ่อนพอถนอมสายตาตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานไม้ราคาถูกๆแบบที่สามารถซื้อได้ตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์มือสอง   มีเพียงโคมไฟตัวเดียวบนโต๊ะทำงานนั้นที่ส่องแสงสลัวต้านความมืดในห้อง   นิ้วเรียวยาวกำลังหมุนมีดใบตายทรงดรอปพ้อยท์ไปมา   ปลายแหลมของมีดจิ้มเข้าที่ท้องนิ้วชี้อีกข้างเล่นๆเสมือนว่าเป็นการบริหารนิ้ว   แสงจากโคมไฟเต้นล้อประกายแวววาวบนใบมีดคม   นิ้วมือเรียวควงมีดไปมาโดยที่สายตาครมกริบไม่แพ้ใบมีดคู่นั้นยังคงจับจ้องข่าวหนังสือพิมพ์ที่แปะอยู่บนบอร์ดฝาห้อง   นัยน์ตาสีมหาสมุทรไร้อารมณ์นั้นทอดมองออกไปบนหน้าหนังสือพิมพ์ของเมื่อวานที่ขึ้นข่าวการฆาตกรรมหญิงโสเภณีในซอกตึกของย่านเสื่อมโทรม   มีดที่ควงอยู่นั้นหยุดลงกะทันหัน  ปลายแหลมของมีดปักลงบนหนังสือพิมพ์   นัยน์ตาสีมหาสมุทรคู่เดิมฉายแววอำมหิตขึ้น







          รองเท้าหนังขัดมันแวววับกำลังก้าวไปตามซอยลึกของย่านรวมสถานที่เที่ยวกลางคืน   ในหัวของเจ้าของรองเท้าหนังคู่นั้นยังคงเต็มไปด้วยใบหน้าภรรยาที่รัก   เขารีบมาทำงานแต่เช้าเลยทำให้พลาดอาหารเช้าหอมกรุ่นฝีมือภรรยาของเขา   แต่ภาพอันอบอุ่นหอมหวานเหล่านั้นก็พลันหายไปทันทีที่แจ็ค โฮล์ดี้เดินมาถึงที่เกิดเหตุ   ร่างของหญิงวัยกลางคนถูกจับขึงไว้บนกำแพงลวด  เธออยู่ในสภาพเปลือย  แขนทั้งสองข้างถูกขึงให้กางออก  ขาทั้งสองถูกมัดรวบไว้ด้วยกัน  ดูคล้ายกับไม้กางเขน   ผมสีแดงเข้มกระเซิงปรกลงมาตามใบหน้าที่สัพพะหงกลง   สิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้พบเห็นดูเหมือนจะเป็นช่วงท้องของเธอที่ถูกผ่าออกกว้างตั้งแต่ทรวงอกจนถึงอวัยวะเพศ   อวัยวะภายในไหลลงมากองอยู่บนพื้นเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็น   ส่วนหนึ่งของอวัยวะเหล่านั้นถูกนำมาเรียงต่อกันเป็นคำบนพื้นว่า  แพศยา
          แจ็คสุดจะทนกับภาพตรงหน้าจนต้องหันหน้าหนี   สายตาของเขาไปปะกับภาพของคาร์เตอร์ที่กำลังก้มหน้าก้มตารับคำเทศจากเหล่านายอำเภอชุดใหญ่   สีหน้าของคาร์เตอร์บอกบุญไม่รับก็คงจะพอกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานแถวนี้ที่พากันทำงานอย่างขวักไขว่   เมื่อเขารู้สึกตัวว่ากำลังยืนเกะกะการทำงานของคนอื่นจึงพาร่างของตัวเองออกมาจากสถานที่นั้นพอสักระยะหนึ่ง   
          “ให้ตายเถอะ แจ็ค เดอะริปเปอร์ กลับมาเกิดรึไงวะเนี่ย”   ริค ฮ็อกกี้ เพื่อนสนิทที่สุดในตอนนี้ของแจ็คเอ่ยขึ้นขณะเดินมายืนขนาบข้าง
          “หรือไม่มันก็ยังไม่ได้ไปเกิด”   ริคหันขวับตามเสียงแจ็คในทันที







          ในที่สุดนายตำรวจหน้าใหม่ก็ได้หน้าที่ประจำเสียที   หน้าที่ของแจ็คประจำอยู่ที่ฝ่ายสอบสวนพยานและผู้ต้องสงสัย   แน่นอนว่าทันทีที่รู้หน้าที่แจ็คถามกลับคาร์เตอร์ว่าทำไมถึงมอบหน้าที่นี้กับเขาซึ่งเป็นเพียงนายตำรวจใหม่   เหตุผลที่คาร์เตอร์ให้คือ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่มีความกระตือรือร้นในตัวฆาตกร   เหตุผลที่ได้ทำให้แจ็คถึงกับกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก   เขาเริ่มแขยงกับหน้าที่สอบสวนตั้งแต่คราวที่ได้สอบสวนมาร์ติน   ดีนะที่ศพนี้ไม่มีวี่แววเชื่อมโยงเกี่ยวกับมาร์ติน   ถึงเขาจะสงสัยมาร์ตินเป็นอันดับหนึ่ง   แต่ในใจเขานั้นพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงการสนทนากับผู้ชายที่มีรอยยิ้มลึกลับคนนั้นทุกครั้งไป     
          “แจ็ค”   แจ็คก้าวเท้าตามเสียงเรียกคาร์เตอร์ที่เรียกตนเข้าห้องประชุม
          “ศพรายแรกคือ  บาบาร่า เลนซ์  สันนิษฐานว่าอายุประมาณ 35 ปี  อาชีพโสเภณี  ไม่มีประวัติ  หาเช้ากินค่ำ  ถูกฆาตกรรมในเวลาประมาณตีหนึ่งของคืนวาน   ศพรายที่สองคือ  แม็กกี้ แบ็ททิส  อายุ 30 ปี  เป็นนักเต้นอยู่ที่สตันนิ่ง”
          “บาร์เปลื้องผ้า”   ตำรวจนายหนึ่งเอ่ยขึ้นมาอย่างรู้ดี  
          “ใช่”   ตอบกลับห้วนๆแล้วเล่าต่อ   “พ่อแม่อาศัยอยู่อีกรัฐหนึ่ง  เธอออกจากบ้านมาตั้งแต่วัยรุ่น  หาเลี้ยงตัวเอง  ถูกฆาตกรรมเวลาประมาณตีหนึ่งครึ่ง”
          “ผลชันสูตรเป็นไงบ้าง”   คาร์เตอร์ถามอย่างรีบร้อน
          “บาดแผลของศพทั้งสองใกล้เคียงกัน  พบรอยฟกช้ำตามลำตัว  มันทรมานพวกเธอก่อนจากนั้นก็ปาดคอ  และชำแหละศพซะ  สภาพศพน่าจะลงมือด้วยเวลาที่ใกล้เคียงกันด้วย”
          “เราเจอกับฆาตกรต่อเนื่องเข้าแล้ว”   เสียงคาร์เตอร์พูดเบาๆคล้ายกลับจะบอกกกับตัวเอง  แต่ก็ดังพอที่จะให้ตำรวจนายอื่นได้ยินด้วย
          “ศพบอกอะไรได้อีกมั่ง”   แจ็คเค้นหาข้อมูลต่อ  แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือใบหน้าสงสัยของตำรวจฝ่ายพิสูจน์หลักฐานคนนั้น
          “รอยผ่า รอยผ่าฉกรรจ์ขนาดนี้  เขาควรจะใช้อาวุธประเภทไหนลงมือ”   แจ็คว่าพร้อมกลับโยนรูปศพที่ถูกชำแหละที่ช่วงท้องลงบนโต๊ะ
          “อาจจะเป็นมีดโบวี่  ด้ามยาวเลยทีเดียว”
          “มันเป็นพวกฆาตกรคลุ้มคลั่งสติแตก ถือมีดไล่แทงโสเภนีงั้นเหรอ... แบบแจ็ค เดอะริปเปอร์”   หนึ่งในตำรวจพูดพร้อมทำหน้าสยองตามความคิดในหัว
          “แจ็ค เดอะริปเปอร์ไม่ใช่พวกสติแตกคลุ้มคลั่ง  ฆาตกรคนนี้ควบคุมตัวเองอยู่  รู้ว่าจะต้องทำอะไร  ทำออกมาแล้วจะเป็นแบบไหน  จงใจนำเสนอผลงานตัวเอง  ให้เรารู้ว่าทั้งสองศพนี้เป็นผลงานของมัน และจะมีผลงานต่อไป”   ตำรวจทั้งโต๊ะกำลังตั้งใจฟังการวิเคราะห์ของแจ็คอย่างใจจดใจจ่อ
          “ผลงานเหรอ?”  ริคถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
          “แพศยา  นั่นล่ะลายเซ็นต็มัน”   แจ็ควางรูปถ่ายลงบนโต๊ะ  ตัวอักษรที่เขียนด้วยเลือดรูปหนึ่ง  และอีกรูปเขียนด้วยอวัยวะ
          “นายอำเภอสั่งมาว่าให้สอบสวนทั้งผู้หญิงและผู้ชายทุกคนที่อยู่ในระแวกนั้นให้หมด  ไอ้ฆาตกรโรคจิตที่เลียนแบบแจ็ค เดอะริปเปอร์คนนี้จะหนีรอดออกไปไม่ได้!   เอาล่ะ!  ออกไปลากตัวมันมาทุกคน ไปๆๆ”   คาร์เตอร์สั่งลูกน้องทุกคนให้ไปทำงาน   ตำรวจหลายนายแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนรวมถึงแจ็คด้วย
          “แจ็ค”   คาร์เตอร์เรียกเป็นเชิงรั้งแจ็คไว้ก่อน
          “ฉันจะพูดตรงๆเลยนะ  ฉันน่ะมันก็แก่แล้ว   ทำงานมาสามสิบกว่าปีก็ไม่เคยพบเคยเจอคดีแบบที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้  ฉันเห็นแววในตัวนายตั้งแต่วันที่นายเดินเข้ากรมนี้มา  นายเข้าใจหรือเปล่าแจ็ค”
          “ครับ”   แจ็คพยักหน้าตอบโดยไม่สบตาอีกฝ่าย
          คาร์เตอร์ตบไหล่แจ็คเบาๆแล้วเดินออกจากห้องไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่