Sense in the Darkness (บทที่ 6)

กระทู้สนทนา
Louis killer : Sense in the Darkness
Authors : 0.00 น.
Type : Thriller-Drama
Rated : PG-13







บทนำ-บทที่ 1 : http://ppantip.com/topic/30744563
บทที่ 2 : http://ppantip.com/topic/30767175
บทที่ 3 : http://ppantip.com/topic/30786508
บทที่ 4 : http://ppantip.com/topic/30805522
บทที่ 5 : http://ppantip.com/topic/30827015







บทที่ 6





          “เราจะลงบันทึกว่าคุณแจ้งว่าถูกทำร้ายร่างกาย  แต่เราไม่สามารถสรุปได้หรอกนะว่าคนร้ายคนนั้นคือเดอะริปเปอร์ที่เรากำลังตามหาอยู่”   หมวดคาร์เตอร์กล่าวสรุปกับผมและอีธานหลังจากหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับตำรวจอีกคนข้างหลัง
          เมื่อดูเหมือนว่าทุกอย่างในคืนนี้จะผ่านไปด้วยดีแล้ว  หมวดคาร์เตอร์ก็ให้ผมและอีธานกลับบ้านได้   แต่ทันทีที่หมวดคาร์เตอร์หันหลังกลับเตรียมจะเดินออกไปนอกห้อง  เสียงของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างผมก็เอ่ยเป็นเชิงชะงักไว้
          “คุณคิดว่าเมืองนี้จะมีฆาตกรอยู่สักกี่คน”
          “ว่าไงนะ”   หมวดคาร์เตอร์หันกลับมาทันทีที่สิ้นเสียงของอีธาน  เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นและเริ่มเค้นคำถาม
          “คุณหมายความว่าอย่างไร”
          “บอกผมสิ  คุณรู้จักเมืองนี้ดีกว่าผม”   ดวงตาภายใต้แว่นดำที่ใช้การไม่ได้นั้นเงยขึ้นราวกับกำลังสบสายตาอีกฝ่าย   เมื่อไม่มีเสียงใดตอบกลับมาจากหมวดคาร์เตอร์เขาจึงพูดต่อ
          “ถ้าคุณจับฆาตกรคดีถุงศพที่ท่าเรือเก่าไม่ได้  คุณจะไม่มีทางจับเดอะริปเปอร์ได้”
          “ทำไม”  
          “ฆาตกรรายแรกที่เปิดคดีฆาตกรรมให้เมืองนี้จะเป็นผู้ฆ่าเดอะริปเปอร์”
          หมวดคาร์เตอร์เริ่มขมวดคิ้ว  ใบหน้าเขาฉายแววเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
        “เพราะอะไรล่ะ”
          “ก็นี่เป็นที่ของเขา”
          หมวดคาร์เตอร์ยันตัวลุกขึ้นทันทีที่สิ้นประโยคของอีธาน  เขาทำเป็นไม่สนใจคำพูดเมื่อครู่แล้วทำท่าว่าจะออกจากห้องไปอีกครั้ง
          “เขาจะลงมืออีกในไม่ช้า  คุณจะรอรับถุงดำ  หรือจะหยุดเขาล่ะ”
          เสียงประตุปิดสนิทเหลือไว้แต่ผม  อีธาน  และอีกคน  นายตำรวจ แจ็ค  โฮล์ดี้
          “คุณจะบอกว่าฆาตกรมีสองคนหรือ”   เป็นเสียงของนายตำรวจแจ็ค  ที่ทำท่าสนใจมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
          “มันก็ชัดเจนอยู่บนเหยื่อแล้ว”
          “ผมก็คิดอย่างนั้น”   แจ็คหันหน้ามาสบตาผม  ผมเลิกคิ้วส่งกลับ  แต่ไม่มีอารมณ์ที่จะปั้นยิ้มไปให้  แล้วเขาก็พูดต่อ   “ว่าแต่...  คุณออกไปทำอะไรดึกดื่นอย่างนั้น”
          อีธานไม่ตอบอะไร  เขาเงียบไปเฉยๆ  เหมือนกับตอนที่หมวดคาร์เตอร์สอบสวนเมื่อครู่  เขาก็ไม่ยอมตอบอะไร  เอาแต่นั่งเงียบจนหมวดคาร์เตอร์ถอดใจไปเอง   นั่นสิ...  ผมก็อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ชอบออกไปเดินเล่นตอนกลางคืนนัก  แถมยังได้เจอแจ็คพ็อตถึงสองครั้ง  
          “เอาเถอะ  คุณกลับบ้านได้แล้วล่ะ  ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมเราจะแจ้งไป”   ผมและอีธานเตรียมลุกกลับบ้านตามที่แจ็คบอก
          “ส่วนนายอยู่ก่อน  ฉันมีเรื่องจะถาม”   ผมเลิกคิ้วส่งกลับเขาไปอีกรอบ  วันนี้ผมเหนื่อยเกินกว่าจะมาเล่นเกมกับเขาแล้วนะ   รอจนกระทั่งอีธานเดินออกไป  ผมนั่งลงให้นายตำรวจสอบสวนอย่างรู้หน้าที่  
          “มาร์ติน”
          “แจ็ค”   ผมทักกลับทันที   “คุณเรียกผมว่าหลุยส์ก็ได้นะ”
          “ขอเตือนนะ  อย่าพยายามกวนประสาทฉันเหมือนคราวที่แล้วอีก”
          “ครับ  ไม่พยามยาม...  กวนประสาท”   มันอดไม่ได้จริงๆแฮะ   แจ็คเขม่นใส่ผมหนึ่งทีก่อนจะเดินไปตั้งท่ากอดอกยืนพิงโต๊ะทำงานแล้วหันหน้าหาผมที่อยู่ตรงข้าม   เราเล่นเกมจ้องตากันอยู่สักพัก
        “นายพกมีดติดตัวอย่างที่ให้การอยู่เป็นประจำหรือ”   ผมฟังนิ่ง  ทบทวนคำพูดสักพัก  แล้วตอบเขากลับไป
          “ครับ”
          “เพื่ออะไร”
          “ไม่รู้สิครับ  อาจจะเอาไว้ป้องกันตัว  ก็พักนี้มีฆาตกรเดินเพ่นพ่านอยู่ตอนดึกๆ”
          “มีดล่าเนื้อเนี่ยนะ”  
          ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะอธิบาย   “มีดล่าเนื้อ  ใบตาย  ทรงดรอปพ้อยท์  ขนาดเล็ก  ของสะสมของผมน่ะ”   ดูเหมือนว่านายตำรวจคนนี้ยังไม่หายเคลือบแคลงใจในตัวผม   สีหน้าของเขาฟ้องอยู่ทนโท่ว่า  ไม่ไว้ใจ   ผมลุกขึ้นเข้าไปประชิดตัวเขา  แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบา  แต่ชัดถ้อยชัดคำ
          “แจ็ค...  ใบมีดสองนิ้วครึ่งน่ะฆ่าคนให้ตายสนิทไม่ได้หรอกนะ  ชำแหละก็ไม่ได้”   เป็นไปตามคาด  เขาตวัดสายตาขึ้นมามองผมทันที   เราต่างคนต่างเงียบอยู่นาน  ก่อนจะเป็นผมที่ทำลายความเงียบพร้อมส่งยิ้มมุมปากไปให้
          “ถ้าคุณให้ผมดูบาดแผลของเหยื่อ  ผมอาจจะบอกได้นะว่า  ฆาตกรใช้มีดอะไร”   เขาเอาแต่จ้องตาผม  ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ  แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความสับสนครุ่นคิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่