Sense in the Darkness (บทที่ 3)

กระทู้สนทนา
Sense in the Darkness
Authors : 0.00 น.
Type : Thriller-Drama
Rated : PG-13







บทนำ-บทที่ 1 : http://ppantip.com/topic/30744563
บทที่2 : http://ppantip.com/topic/30767175







บทที่ 3





          “ผู้ตายชื่อแอมเบอร์ โรส เป็นนักศึกษาเอกปรัชญา อายุ 20 ปี  ประวัติสะอาดไร้คดี แถมเป็นสาวฮ็อตของมหาวิทยาลัย น่าเสียดายจริงจริ๊ง” ตำรวจนายหนึ่งเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาเสียดายอย่างสุดซึ้งไปยังรูปถ่ายของหญิงสาวผมบลอนด์ ผิวสีแทน หุ่นนางแบบ ใบหน้าคมคายฉาบด้วยยิ้มที่ยั่วยวนและสดใสไปในตัว รูปถ่ายนี้ถ่ายไว้ก่อนที่แอมเบอร์ โรส จะเสียชีวิตไม่กี่วัน
          “โรสเหรอ ให้ตายเถอะ พ่อแม่ของเธอเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้ซะด้วย บางทีถ้าพวกเขาไม่พอใจที่เราจับตัวฆาตกรไม่ได้ มีหวังกรมตำรวจเก่าซอมซ่อนี้ได้โดนยุบแหงๆ” ริค ฮ็อคกี้ เอ่ยขึ้นหวาดๆตามประสาคนปากไม่อยู่สุข
          “ไม่ต้องห่วงหรอก ดูเหมือนว่านายอำเภอจะไม่พอใจที่พวกเราทำงานไม่ทันใจ ก็เลยจะเข้ามาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเลย” นายตำรวจใหญ่วัยอาวุโสที่สุดในกรม แจ้งข่าวกับลูกน้องของเขาที่พากันจับกลุ่มนินทาอยู่ ทำเอาลุกน้องแต่ละคนต่างกระจายกระวีกระวาดไปประจำตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคนอย่างว่องไวด้วยความเสียวสันหลังวาบๆ ก็เล่นนินทาไม่เห็นหัวหัวหน้าขนาดนี้ ดูเหมือนเขามีสิทธิ์จะตกงานก่อนที่กรมตำรวจจะโดนยุบเสียอีก
          “แจ็ค ได้เวลาแล้ว” แจ็พยักหน้ารับรู้ตอบกลับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกเขาเข้าไปในห้องสอบสวน
          เจ้าหน้าที่คนนั้นเดินออกไปทิ้งไว้เพียงเขากับพยานผู้พบศพตรงหน้า
          “เอมิลี่ (Emily)ช่วยเล่าเหตุการณ์ที่คุณพบศพแอมเบอร์ โรสให้ผมฟังที”
          นายตำรวจสอบสวนหนุ่มยิงคำถามใส่เด็กสาวผมน้ำตาลตรงหน้าอย่างไม่รีรอ นัยน์ตาสีฟ้าใสนั่นมีแววตกใจเล็กน้อยก่อนจะเล่าเหตุการณ์ให้นายตำรวจหนุ่มฟังด้วยความลำบากใจ
          “ฉันก็แค่เอิ่ม...จะไปคืนหนังสือ พอขากลับ...ฉันก็พบศพนั่นแล้ว” น้ำเสียงของเอมิลี่เต็มไปด้วยความสั่นเครือ เธอยังคงตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดช่วงชีวิตของเธอ เธอไม่เคยพบเคยเห็นความสยดสยองแบบนี้มาก่อน
          “หมายความว่าอย่างไร ตอนคุณเดินเข้าไปในหอสมุดนั่น ฐานอนุสาวรีย์ยังไม่มีศพอย่างนั้นหรือ?”
          เอมีลี่พยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ
          “คุณช่วยประมาณเวลาการเข้าออกหอสมุดของคุณได้มั้ย”
          “...ฉันเข้าไปคืนหนังสือในเวลาประมาณตีห้าครึ่งตอนนั้นท้องฟ้ายังเป็นตอนกลางคืนอยู่ แต่พอออกมาจากหอสมุด กลับกลายเป็นว่ารุ่งเช้าเสียแล้ว ฉันก้าวออกมาจากหอสมุดได้ไม่กี่เมตรก็พบศพนั่น... และโทรไปแจ้งตำรวจ”
          “หอสมุดที่นี่เปิด24ชั่วโมงหรือ?”
          เอมืลี่ชะงักเล็กน้อยกับคำถามของแจ็ค เธอก้มหน้ารวบรวมความกล้าแล้วตอบกลับไป
          “เปล่าหรอกค่ะ เวลาทำการของห้องสมุดคือ หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็นของทุกวันเท่านั้น..หอสมุดจะมีรักษาความปลอดภัยเฝ้าไว้ตลอด  มีเพียงนักศีกษาไม่กี่คนที่จะมีอภิสิทธิ์พิเศษสามารถเข้าออกหอสมุดนอกเหนือเวลาทำการได้”
          “นักศึกษาที่มีอภิสิทธิ์พิเศษนั่นคืออะไร”
          “ก็พวกนักศึกษาดีเด่นของมหาวิทยาลัยยังไงล่ะ... เอิ่ม... เราเรียกตัวเองว่า สมาคมลับ”
          “ผมพอจะเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับสมาคมลับต่างๆในมหาวิทยาลัยอยู่บ้างนะ เอมีลี่ ตามคำให้การของคุณ ประมาณดูแล้วคุณใช้เวลาอยู่ในหอสมุดไม่เกิน20นาที ไม่มีทางที่ฆาตกรจะลงมือทำทั้งหมดภายในระยะเวลาแค่นั้นได้ทัน และที่สำคัญโดยไม่มีใครเห็น เป็นไปได้มั้ยว่า ความมืดอาจจะบดบังสายตาคุณไม่ให้เห็นศพก่อนเข้าไปในหอประชุม”
          “ฉันยืนยัน  ไม่มีศพอยู่ที่อนุสาวรีย์ก่อนเวลาตีห้าครึ่ง ฉันผูกพันกับมหาวิทยาลัยนี้ หากมีซอกมุมไหนในมหาวิทยาลัยเกิดความผิดปกติขึ้น ฉันย่อมรู้สึกได้แล้ว” คราวนี้เอมีลี่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไร้แววกังวลใจเหมือนคำตอบก่อนๆ
          เอมีลี่มีพยานคือยามรักษาความปลอดภัยหอสมุดที่สามารถยืนยันเวลาที่เธออยู่ได้ เธอจึงพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย
          “ได้ความว่าอย่างไร แจ็ค” หัวหน้าคาร์เตอร์เอ่ยถามกับลูกน้องของตนที่ตอนนี้สีหน้าเครียดครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
          “ฆาตกรคือคนในมหาวิทยาลัย” เดนนิส คาร์เตอร์แทบจะหันขวับทันทีที่สิ้นเสียงของแจ็ค หน้าตาของเขาเค้นเอาคำอธิบายประกอบเหตุผล
          “เขาต้องรู้ทุกซอกทุกมุมของมหาวิทยาลัยพอที่จะขนศพมาซ่อนไว้ไม่ให้คนเห็นได้ เขารอเวลาที่จะประกาศให้คนทั้งมหาวิทยาลัยเห็นผลงานของเขาในรุ่งเช้า เขาวางแผนการฆ่านี้มาอย่างดี เขาจัดการศพอย่างรวดเร็ว ไร้เสียง ไร้ร่องรอย จากสภาพศพ ผมคิดว่าเธออาจจะตายหลังจากการถูกมัดติดกับฐานหิน”
          คาร์เตอร์ได้แต่ทำสีหน้าเอือมระอากับการกระทำที่มันชักจะผิดปกติเข้าไปทุกวันของคนเมืองนี้ ก่อนจะเอ่ยถามอีกเหตุผลที่สำคัญไป
          “เหตุจูงใจล่ะคืออะไร เรื่องชู้สาวหรือ?”
          “เรื่องนั้นผมยังไม่ทราบ แต่คงไม่มีผู้ชายคนไหนบนโลกทำกับผู้หญิงที่ตนเองรักแบบนี้หรอกครับ”
          คาร์เตอร์ตบไหล่แจ็ค โฮล์ดี้สองสามทีเป็นเชิงให้พยายามต่อไปก่อนจะเดินกลับเข้าออฟฟิตของตน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่