นิรโทษกรรม ... แม้ไม่ถูกใจ แต่ก็จะพยายามเข้าใจ

กระทู้สนทนา
เมื่อเราอยู่ร่วมกันในสังคม และมีสิทธิเสรีที่จะคิดเห็น ซึ่งอาจจะเหมือนกัน หรือแตกต่างกัน
บ้างก็มองว่าแบบนี้ดี แบบนั้นไม่ดี แตกต่างกันไปตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนที่ได้รับมา
ซึ่งก็รวมไปถึงความเชื่อ ความชอบ มุมมองที่แตกต่างกันไป ... จึงไม่ควรไปเอาเหตุผลเพียงว่า
ฉันมีการศึกษา ฉันมีช่องทางรับรู้ ฉันโน่น นี่ นั่น ... ดังนั้น สิ่งที่ฉันเชื่อที่ฉันคิด คือ ดีที่สุด ถูกที่สุด

เท้าความมาก็คือ พื้นฐานของความขัดแย้งของพวกเรา ณ จุดที่เราปักหลักเชื่อเอาว่า ความคิดตนเองนั้นถูกอีกฝ่ายหนึ่งผิด
ขนาดพ่อแม่มาบอกมากำหนดว่าเราควรทำอะไร เรียนอะไร ... เรายังเถียงว่า อย่ามากำหนดชีวิตของเรา เราขอเลือกเอง
แต่กระนั้น ... เรากลับพยายามที่จะยัดเยียดความคิดว่า ทุกคนต้องเชื่อเหมือนเรา เชื่อแตกต่างคือผิด บ้างถึงขั้นจะไล่ออกไปจากประเทศกันเลย

ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะฝ่ายไหนชุมนุม พื้นฐานของการชุมนุมก็คือ อยากเรียกร้อง อยากได้ในสิ่งที่ตนเอง ฝ่ายตนเอง ต้องการ
ปากก็บอกว่าเพื่อประชาชน ... ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่าเพื่อประชาชนส่วนหนึ่งที่เห็นด้วยเท่านั้น ถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน เชื่อเหมือนกัน ... ก็คงไม่มีเสื้อสีนั้น สีนี้ ... ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ทำเป็นหลับตาไปข้างหนึ่ง ปิดหูไปข้างหนึ่ง หนักขึ้นมาถึงขั้นว่า เราต้องยอมสูญเสียเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เรา(บางพวกต้องการ) ... เน้นนะครับว่าเป็นทุกฝ่ายไม่ได้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

จากเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มา แม้จะรู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี กับการกระทำของผู้ชุมนุม จนบางทีจิตใจก็ยังเอียงข้างไปบ้าง
แต่หากทำใจให้เย็นแล้วมองให้ดี ... มันเป็นสงครามของความขัดแย้งของสองฝั่งความคิด ความเชื่อ ที่นับวันแต่ละฝ่ายก็ยิ่งระดมความคิดใส่ลงไปเพื่อยกหางความคิดตนเอง และใส่ความฝ่ายตรงข้าม จนถึงขั้นที่ว่า "ฆ่าพวกที่คิดต่างไม่บาป"

ณ จุดนี้วันนี้ โชคดี(หรือโชคร้ายไม่รู้)ที่ความรุนแรงยังไม่ถึงขนาดปี 2519-2523 ... แต่ความผิดที่แต่ละฝ่ายก่อกันไว้ที่ผ่านมา 2549-ปัจจุบัน ก็เป็นประเด็นที่แต่ละฝ่ายยังคงยืนหยัดสู้กันอยู่ ด้วยเชื่อว่า "ผู้ที่ชนะจะเป็นฝ่ายถูก หากแพ้จะเป็นฝ่ายผิด" สังคมจึงครุไปด้วยความเกมการเมือง(ที่ผู้ได้ประโยชน์แอบอยู่ข้างหลังเสมอ)

หากว่าการนิรโทษกรรม จะช่วย ลบล้างความผิด(เหมือนดัง 66/23) ไปว่าที่กระทำกันไปนั้น เกิดจากความคิดความเชื่อทางการเมืองที่แตกต่าง ผสมกับเหตุการณ์พาไป ... ก็ถือว่าทุกฝ่ายได้แสดงจุดยืน(แม้จะผิดวิธี)กันออกมาเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาบ้านเมืองกันต่อไป
ใครเจ็บใครตาย ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็ควรมีการเยียวยา แม้รู้อยู่ว่ามันไม่อาจทดแทนสิ่งที่ได้รับมาได้ แต่หากยังเอาคำว่าถูกของเราเพื่อจะเอาผิดอีกฝ่าย ... สุดท้ายมันจะยิ่งพากันไปหาทางตัน อันจะทำให้เหตุการณ์มันรุนแรงมากขึ้น

ถามใจเราว่าเราอยากจะให้บ้านเมืองเราไปต่อจนถึงจุดนั้น?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่