ต้องการไปที่เดียวกัน แต่ ทางเดินแตกต่างกัน
สิ่งนั้นคือ “การปรองดอง”
ประมวลจากสื่อต่าง ๆ ปรากฏว่า รัฐบาล เห็นว่า การนิรโทษ จะเป็นการลดความขัดแย้งที่เกิดในบ้านเมืองมากว่า 7 ปี ผู้ที่สมควรได้รับการนิรโทษคือ ผู้ที่เป็นเหยื่อของการปราบปราม หรือ ผู้ที่เป็นเยื่อของความล้มเหลวของการรักษากฎหมาย ซึ่งหมายความรวมไปถึงต้องมีการนิรโทษ รวมทั้งเหตุการณ์ ไม่ใช่จำเพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งหมายรวมถึง ความผิดในคดีอาญาด้วย
ในส่วน ญาติฝ่ายผู้เสียชีวิตในการณ์สลายการชุมนุมเดือน เมษายน 2553 มีเนื้อหาจะนิรโทษให้แก่ ประชาชนทุกสี ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ ปี 2549 – 2553 แต่ไม่รวมแกนนำ นปช. ผู้สั่งการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ ที่ก่อให้เกิดความสูญเสีย ทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต
ในส่วนแนวคิดของฝ่ายค้าน เห็นว่า ควรมีการปลดล็อคออกไปทีละส่วน ๆ เลือกปลดออกในส่วนที่ ปลดได้ง่าย ๆไปก่อน กำหนดขอบเขตให้ชัดว่า พฤติกรรมใดบ้างที่ควรนิรโทษกรรมได้ ในกรณีย์ ทำความผิดกฎหมายบ้านเมือง ไม่ควรเหมารวมว่าเป็นปัญหาการเมือง โดยตั้งต้นจาก การพยายามช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ตามเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญในสถานะการณ์ปรกติ
เป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล ที่ต้องสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรงขยายตัวยิ่งขึ้น การจะโยนไปให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ซึ่ง "ไม่มีน้ำยา" คงไม่ถูกต้องนัก
ผู้เสนอเห็นว่า...............ใครทำสิ่งใดผิดกฎหมายใด ควรได้รับโทษก่อน จึงตามมาด้วยการอภัยตามสมควรแก่การณ์
ส่วนผู้ใดเห็นต่างไปอย่างไร เชิญตามอัธยาศรัย
ปรองดอง หรือ ปรุงเดือด
ต้องการไปที่เดียวกัน แต่ ทางเดินแตกต่างกัน
สิ่งนั้นคือ “การปรองดอง”
ประมวลจากสื่อต่าง ๆ ปรากฏว่า รัฐบาล เห็นว่า การนิรโทษ จะเป็นการลดความขัดแย้งที่เกิดในบ้านเมืองมากว่า 7 ปี ผู้ที่สมควรได้รับการนิรโทษคือ ผู้ที่เป็นเหยื่อของการปราบปราม หรือ ผู้ที่เป็นเยื่อของความล้มเหลวของการรักษากฎหมาย ซึ่งหมายความรวมไปถึงต้องมีการนิรโทษ รวมทั้งเหตุการณ์ ไม่ใช่จำเพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งหมายรวมถึง ความผิดในคดีอาญาด้วย
ในส่วน ญาติฝ่ายผู้เสียชีวิตในการณ์สลายการชุมนุมเดือน เมษายน 2553 มีเนื้อหาจะนิรโทษให้แก่ ประชาชนทุกสี ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ ปี 2549 – 2553 แต่ไม่รวมแกนนำ นปช. ผู้สั่งการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ ที่ก่อให้เกิดความสูญเสีย ทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต
ในส่วนแนวคิดของฝ่ายค้าน เห็นว่า ควรมีการปลดล็อคออกไปทีละส่วน ๆ เลือกปลดออกในส่วนที่ ปลดได้ง่าย ๆไปก่อน กำหนดขอบเขตให้ชัดว่า พฤติกรรมใดบ้างที่ควรนิรโทษกรรมได้ ในกรณีย์ ทำความผิดกฎหมายบ้านเมือง ไม่ควรเหมารวมว่าเป็นปัญหาการเมือง โดยตั้งต้นจาก การพยายามช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ตามเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญในสถานะการณ์ปรกติ
เป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล ที่ต้องสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรงขยายตัวยิ่งขึ้น การจะโยนไปให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ซึ่ง "ไม่มีน้ำยา" คงไม่ถูกต้องนัก
ผู้เสนอเห็นว่า...............ใครทำสิ่งใดผิดกฎหมายใด ควรได้รับโทษก่อน จึงตามมาด้วยการอภัยตามสมควรแก่การณ์
ส่วนผู้ใดเห็นต่างไปอย่างไร เชิญตามอัธยาศรัย