[SR] รีวิว OPPO Find Mirror by bacidea

กระทู้รีวิว


วันนี้นาย bacidea กลับมาพร้อมกับ OPPO Find Mirror ซึ่งเป็นมือถือ 2 ซิมที่น่าจับตามองรุ่นหนึ่ง



เริ่มตั้งแต่สเป็ก
- CPU MTK6589, 4 core, 1.2 GHz
- GPU PowerVR SGX544
- RAM 1 GB
- Storage 16 GB
- จอแสดงผล IPS ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (312 PPI)
- กล้อง 8 ล้าน
- กล้องหน้า 2 ล้าน (เลนส์มุมกว้างพิเศษ)
- รองรับ 2 ซิม ( 3G ทุกเครือข่าย)
- ระบบ Gesture สั่งงานด้วยท่าทาง
- ระบบเสียง Dirac HD Sound
- แบตเตอรี่ 2000 mAh
- Android 4.2.1
- น้ำหนัก 110 กรัม


มาดูโหวงเฮ้งกันบ้าง

เริ่มจากการวางเทียบขนาดกับ Xperia Z




พลิกมาดูด้านหน้าก็ประมาณนี้ครับ





พลิกมาดูด้านหลังกันบ้าง



ถ้าสังเกตจะเห็นว่าตัวกล้องจะยื่นออกจากตัวเครื่องเล็กน้อย ...ซึ่งส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบการออกแบบแนวนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงที่กล้องจะเป็นรอยมากกว่าปรกติ แต่มันก็แลกมาด้วยความบางและเบามากๆ เพียง 110 กรัม

ด้านล่างเป็นช่องเสียบสาย MicroUSB สำหรับชาร์จและต่อเข้าคอม



ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียง



ส่วนด้านบนก็เป็นช่องเสียบหูฟัง



ด้านซ้ายนี้จะเยอะหน่อย เพราะนอกจากปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ยังมีถาดใส่ซิมด้วย




ถาดใส่ซิมค่อนข้างจะแนวพอตัวเลยพ่อคุณเอ๊ย

เครื่องรองรับ 3G ทุกเครือข่ายทั้ง 2 ซิม และสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เนทจากซิมไหน



รวมทั้งสามารถเปิด-ปิดซิมได้ ไม่จำเป็นต้องเอาซิมออกจากตัวเครื่อง

...เผื่อว่าใส่เบอร์ทำงาน กับเบอร์ส่วนตัว พอเลิกงาน ก็กดปิดเบอร์ที่ทำงานซะ :p



ส่วนของ Smart dual SIMs เป็นการเปิดใช้งาน 2 ซิมพร้อมกับ ทำให้สามารถรับสายซ้อนจากอีกซิมได้ (เพื่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบกับเครือข่ายก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายในการโอนสายรึเปล่า)



ส่วน Carrier Logo ช่วยแสดงสัญลักษณ์เครือข่ายที่ใช้งาน



อีกส่วนที่ผมชอบก็คือ Connect alert เป็นการเตือนเมื่อโทรติด จะได้ไม่ต้องเอาแนบหูไว้ตลอดเวลา

ตามด้วย Auto redial เป็นการโทรซ้ำอัตโนมัติ (ผมเคยใช้โหมดนี้ง้อสาวมาแล้ว เค้านึกว่าผมขยันโทรรัวๆ แต่จริงๆผมเปิด Auto redial ก๊ากๆๆ)



นอกจากนี้ยังมีการเก็บสถิติการใช้งานของซิมทั้ง 2

และในการโทรออกและการส่งข้อความ มีปุ่มเลือกว่าจะใช้ซิมไหน




*** หมายเหตุ แป้นพิมพ์ที่ติดมากับเครื่องเป็น GO keyboard แต่ในรูปผมใช้ Swype

สามารถตั้งเสียงเรียกเข้าและเสียงแจ้งเตือนของแต่ละซิมได้ด้วย



เรื่องที่น่าสังเกตก็คือ พื้นที่การใช้งานที่ว่ามีมาให้ 16 GB แต่เท่าที่ผมลองเล่นดู มันเหลือใช้จริง 1 GB สำหรับลงแอพ และ 12 GB สำหรับเก็บข้อมูลทั่วไป

และเนื่องจากสเป็กกับหน้าจอเครื่องนี้ช่างน่าเอาไปเล่นเกมมากๆ ดูแล้ว 1 GB คงไม่เพียงพอสำหรับการลงแอพ



ดังนั้นผมแนะนำให้ตั้งค่าการเก็บแอพไว้ที่ Phone storage ไม่งั้นพื้นที่ไม่พอแน่ๆ



เราสามารถเลือกตำแหน่งที่เก็บของแต่ละแอพได้เช่นกัน ซึ่งระบบนี้บางคนจะคุ้นหูกับคำว่า app2sd มากกว่า... แต่หลักการทำงานก็คล้ายๆกันครับ



กลับมาดูหน้าตาการใช้งานกันบ้าง



ส่วนของการแจ้งเตือน ด้านบนสุดจะเป็น Quick Settings สำหรับเปิด-ปิดการเชื่อมต่อต่างๆ

ถัดลงมาเป็นการแจ้งเตือน และจะมีปุ่ม clear ด้านล่าง สำหรับลบการแจ้งเตือนทั้งหมด หรือถ้าต้องการลบทีละอันก็ปัดนิ้วไปด้านข้างได้

ด้านล่างสุดจะเป็นชื่อเครือข่ายที่เราใช้อยู่ครับ



ผมลองไม่ตั้งค่าการเก็บแอพไปไว้ที่ Phone Storage ...ผลทดสอบคือลงแอพได้ประมาณนี้เครื่องก็เต็มแล้วครับ ...ดังนั้นควรตั้งตำแหน่งเก็บแอพไว้ที่ Phone Storage ครับท่าน

*** หมายเหตุ เกมที่ผมโหลดมาทดสอบ ตัวเกมค่อนข้างใหญ่เลยกินพื้นที่เยอะ



เมื่อกดปุ่ม home ค้างไว้จะเป็นการเรียกแอพล่าสุดขึ้นมา และสามารถกด clear แอพทั้งหมดได้ด้วยปุ่มเดียว แต่ถ้าแอพไหนที่เราไม่ต้องการให้ปิด ก็สามารถทำได้ด้วยการกดล็อกแม่กุญแจไว้ครับ



อีกส่วนที่ผมชอบก็คือหน้า lock screen ที่สามารถเลือกรูปแบบการปลดล็อกได้



จุดเด่นอีกอย่างของ OPPO ก็คือระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกใจผมมากๆ โดยเฉพาะ App protection เพราะมันสามารถเลือกใส่รหัสเฉพาะบางแอพได้



อีกลูกเล่นที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนก็คือ การตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่อง



มาถึงระบบ Gesture หรือการสั่งงานด้วยท่าทาง อันนี้ผมขอขยี้หน่อยนึง เพราะมันพัฒนาจากรุ่นก่อนๆเยอะพอควรเลย
- Flip mute คว่ำเครื่องเพื่อปิดเสียง
- Auto answer รับสายอัตโนมัติเมื่อเอาเครื่องแนบหู
- Handsfree switch ปิดการสนทนาผ่านลำโพง เมื่อยกเครื่องแนบหู
- Smart notification แจ้งเตือนด้วยการสั่นเมื่อหยิบเครื่องขึ้นมาใช้งาน
- Smart sleep จอจะไม่ดับถ้ายังมองหน้าจอ
- Gesture to answer โบกมือผ่านหน้าจอเพื่อรับสาย
- Double click to brighten up แตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดจอ

ดูตัวอย่างจากคลิปนี้ก็ได้ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



จากการใช้งานจริง เมื่อมีสายเข้าแล้วโบกมือผ่านหน้าจอ เครื่องจะทำการรับสาย พร้อมกับเปิดระบบสนทนาผ่านลำโพงให้ และเมื่อเราหยิบเครื่องมาแนบหู มันก็จะเปลี่ยนเป็นโหมดปรกติให้ทันที

และมันเหมาะมากสำหรับคนที่กังวลว่าปุ่มเปิดเครื่องจะเสื่อมเร็ว เพราะมันสามารถแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอได้ และมีไอคอนสำหรับล็อกหน้าจอ สรุปว่าไม่จำเป็นต้องใช้ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเลย

แถมให้อีกนิด รุ่นนี้รองรับวิทยุ FM ด้วยนะครับ เสียบหูฟังพร้อมใช้งาน



มาทดสอบการเล่นเกมกันบ้าง ผมลองทดสอบไป 4 เกม Subway, Wild blood, Minion Rush, Candy Crush ผลที่ได้ทำผมประหลาดใจเพราะ Wild blood ที่ใช้ Unreal Engine เล่นได้ลื่นเลย แต่ Minion Rush กระตุกครับ




สำหรับการดูหนัง ฟังเพลง ผมว่า Mirror ทำได้ดีนะครับ เสียงดังและเพราะด้วย ไม่ใช่ดังแบบแตกๆ

และถ้ากดปิดเครื่องระหว่างดูหนัง จะเป็นการล็อกหน้าจอ ป้องกันมือไปโดนเวลาดูหนังครับ



เรื่องกล้อง ข้อเสียคือปรับความละเอียดและอัตราส่วนไม่ได้ ซึ่งภาพที่ได้จะเป็นอัตราส่วน 4:3 ...ซึ่งตัวผมเองชอบ 16:9 เลยผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อหยิบมาใช้งาน พบว่าคุณภาพที่ได้ถือว่าน่าประทับใจครับ



โหมดใช้งานก็มีประมาณนี้ ...ส่วนของ Rewind ถ้าพูดง่ายๆก็คือโหมด Best Face หรือการเลือกใบหน้าที่ดูดีที่สุดครับ



การถ่ายคลิป ปรับได้ 2 แบบคือ Full HD 1080P และ HD 720P



กล้องหน้าจะมีโหมดให้เลือกใช้น้อยกว่า



และกล้องหน้าก็สามารถถ่ายคลิปแบบ Full HD ได้เช่นกัน ซึ่งจุดขายอีกอย่างมันอยู่ที่กล้องหน้านี่แหละครับ มุมมองกว้างมาก เดี๋ยวเรามาดูกันอีกที



อีกแอพก็คือ Lomo ที่ OPPO ใส่มาให้เกือบทุกรุ่น เป็นการใส่ลูกเล่นให้รูปถ่ายครับ

มาดูตัวอย่างรูปถ่ายกันบ้าง






ทดสอบถ่ายโหมด HDR



มาลองเทียบในที่แสงน้อย Find Mirror โหมด Normal และ Xperia Z โหมด Auto



ขนาดเต็ม http://goo.gl/hlTPCW , http://goo.gl/D7XRxr

จุดขายมันอยู่ที่กล้องหน้าครับ ตั้งกล้องไว้ที่จุดเดียวกัน แต่ Mirror มุมมองกว้างจริงๆ แล้วภาพที่ออกมาถือว่าสวยเลยทีเดียว



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



สรุป

โดยรวมแล้วผมประทับใจกล้องเป็นพิเศษครับ โดยเฉพาะกล้องหน้าที่เป็นแบบ wide ทำให้เก็บภาพได้กว้างกว่า เหมาะสำหรับการถ่ายรูปหลายๆคนด้วยกล้องหน้า หรือการถ่ายเก็บบรรยากาศรอบๆ ความเร็วที่ใช้งานจริงถือว่าลื่นมาก หน้าจอมีความละเอียดที่ดี รวมทั้งระบบสั่งงานด้วยท่าทางและที่สำคัญคือน้ำหนัก 110 กรัม ซึ่งถือว่าเบามากๆ

ถ้าให้ติ ผมขอติเรื่องพื้นที่ 16 GB ที่ให้มา เหลือใช้จริงราวๆ 13 GB แต่แบ่งไว้ให้ลงแอพเพียง 1 GB จึงควรตั้งค่าให้ตัวเครื่องทำการเก็บแอพไว้ในส่วนของ Phone storage จะช่วยให้มีพื้นที่โหลดแอพได้มากขึ้น

*** หมายเหตุ เฟิร์มแวร์ที่ใช้ทดสอบ อาจจะไม่ใช่ตัวที่ขายจริง ตัวที่ขายอาจจะมีการปรับปรุงมากกว่านี้

อ่านเต็มๆที่ http://www.bacidea.com/review-oppo-find-mirror.html
http://www.facebook.com/bacidea
ชื่อสินค้า:   OPPO Find Mirror
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่