ซูซูกิลดบทบาทมอเตอร์ไซค์ไซซ์เล็ก พลิกเกมชูบิ๊กไบก์ดันไทยฐานผลิตใหญ่รับเออีซี

กระทู้ข่าว
"ซูซูกิ" ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เปิดศึกตลาดบิ๊กไบก์ ดันไทยเป็นฮับผลิตป้อนตลาดทั่วโลกแทนญี่ปุ่น หวังพลิกเกมแจ้งเกิดแบบรถยนต์ "สวิฟท์" เดินหน้าทวงมาร์เก็ตแชร์ตลาดสองล้อ 20% ภายใน 5 ปี เทงบฯเฟสแรก 500 ล้านสำหรับสายการผลิตรถใหม่รวม 4 รุ่น

     นายซาโตชิ อูชิดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ซูซูกิ เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทว่า บริษัทเตรียมรุกทำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรถขนาด 200 ซีซีขึ้นไป โดยจะผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วโลก ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่แห่งที่ 2 ต่อจากบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งยังคงมีการผลิตอยู่ในบางรุ่น แต่สำหรับรุ่นใหม่ ๆ นั้นจะถูกผลิตในประเทศไทย โดยในเฟสแรกนั้นได้ลงทุนในสายการผลิตราว 200-300 ล้านบาท สำหรับการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง เบื้องต้นจะมีการผลิต2 รุ่นก่อน ซึ่งจะมีกำลังการผลิต

     สำหรับรถรุ่นใหม่ราว 10,000 คัน จะเปิดตัวในประเทศก่อน 1 รุ่นภายในไตรมาสนี้ และจะเริ่มส่งออก ส่วนในอนาคตก็น่าจะมีการผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หากได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

เหตุผลที่บริษัทแม่เลือกลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ของไทยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมถึงการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ลดข้อจำกัดด้านการค้าและภาษีลง และประเทศไทยก็เป็นฐานการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่สำคัญ ซึ่งมีผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศที่แข็งแกร่ง ส่วนการผลิตในญี่ปุ่นนั้นมีต้นทุนที่สูง

     สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านการบริการหลังการขาย บริษัทจะแบ่งตัวแทนจำหน่ายเป็น 2 กลุ่ม คือ ส่วนของการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขนาดกลางนั้น จะคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีรูปแบบโชว์รูมแบบ 3 เอส คือมีทั้งความพร้อมและสแปร์พาร์ต จากจำนวนตัวแทนจำหน่ายทั้งหมดราว 250 ราย ที่มีเอาต์เลต 500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อมาเป็นผู้จำหน่าย

     รถจักรยานยนต์ขนาดกลางราว 60-100 รายภายในปีนี้ ส่วนรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบก์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1,000 ซีซีขึ้นไปนั้น จะต้องเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแยกต่างหากโดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เริ่มเตรียมความพร้อมด้วยการจัดเทรนนิ่งให้กับช่างในแต่ละศูนย์บริการ เพื่อสามารถให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าได้

"ในตลาดทั่วโลกซูซูกิเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ เรามีสินค้าในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและรถบิ๊กไบก์ที่เป็นตำนานเป็นที่ยอมรับของลูกค้า จึงมองว่าถึงเวลาพลิกเกมในการทำตลาด ด้วยสินค้าที่มีเอกลักษณ์มีความโดดเด่น ซึ่งเป็นทางของเราจริง ๆ ส่วนรถจักรยานยนต์ทั่วไปก็ยังคงมีการผลิตอยู่ แต่สัดส่วนคงจะน้อยลงไป" นายอูชิดะกล่าว

     ด้านตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วไปนั้นบริษัทก็ยังคงทำตลาดอยู่ แต่สัดส่วนอาจจะน้อยลงจากเดิม ซึ่งภายในปีนี้น่าจะมีการเปิดตัวเพิ่มเติมอีกราว 3 รุ่น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการลงทุนสำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่ทุกรุ่นราว 500 ล้านบาท ทำให้ในอนาคตบริษัทจะมีกำลังการผลิตที่ 300,000 คัน จากปัจจุบันที่มีการผลิต 400,000 คัน เนื่องจากเปลี่ยนมาผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดกลางเพิ่มขึ้นแทนที่รถจักรยานยนต์ทั่วไป

     ด้านยอดขายนั้น บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะมียอดขายเป็นไปตามเป้าที่ 100,000 คัน หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายเพียง 30,000 คันเท่านั้น เนื่องจากมีการแนะนำรถใหม่เพียง 1 รุ่นเท่านั้น ต่างจากคู่แข่งที่แนะนำสินค้าใหม่ราว 10 รุ่น และตั้งเป้าหมายระยะกลางด้วยการเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาด จากปัจจุบัน 3% เพิ่มเป็น 20% ภายใน 5 ปี

ทั้งนี้ สำหรับนายซาโตชิ อูชิดะ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ให้เข้ามาดูแลตลาดในประเทศไทย มีนโยบายในการดำเนินงานหลัก 4 ด้าน คือ การให้ความร่วมมือและสนับสนุนผู้แทนจำหน่าย, การพัฒนาสินค้าให้มีจุดเด่น มีความแตกต่างจากคู่แข่ง สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้, การพัฒนาระบบบริการหลังการขาย และการสร้างแบรนด์ให้เติบโตและแข็งแกร่ง

     บริษัทเชื่อว่าการปรับแผนการดำเนินงานครั้งนี้ด้วยรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ จะทำให้บริษัทสามารถกลับมามียอดขายเติบโตอย่างชัดเจนอีกครั้ง ดังเช่นรถยนต์ซูซูกิ "สวิฟท์" ที่เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั่วโลก และทำให้แบรนด์ซูซูกิเป็นที่ยอมรับของลูกค้าในประเทศ จากปัจจุบันที่บริษัทมียอดขายเป็นอันดับ 3 ขณะที่ยอดขายซูซูกิในหลาย ๆ ประเทศเป็นอันดับ 1 หรือ อันดับ 2 เท่านั้น

     ขณะที่ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยนั้น คาดว่าจะคงระดับยอดขายรวมอยู่ที่ 2 ล้านคันไปต่อเนื่องจนถึงอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่นั้นจะเติบโตอย่างชัดเจนต่อเนื่อง โดยรถจักรยานยนต์ขนาดกลางคือรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาด 200 ซีซี ไปจนถึงรุ่นที่ต่ำกว่า 1,000 ซีซี นั้นในปีที่ผ่านมามียอดขายรวม 10,000 คัน ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตแบบขึ้นเป็น 20,000 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ขนาด 1,000 ซีซีขึ้นไปนั้น น่าจะมียอดขายอยู่ที่ราวปีละ 100 คัน

ที่มา: http://auto.sanook.com/5703/ซูซูกิลดบทบาทมอเตอร์ไซค์ไซซ์เล็ก-พลิกเกมชูบิ๊กไบก์ดันไทยฐานผลิตใ/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่