กระทู้นี้ผมคัดลอกมาจากเวปๆหนึ่ง อยากนำมาแชร์เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
รบกวนผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเล่น option ให้คำชี้แนะหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับบทความด้านล่างด้วยครับ
ผมโพสต์กระทู้นี้เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนแบบหนึ่งซึ่งผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าในระยะยาวจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง
การลงทุนที่ผมจะพูดถึงนี้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง หากผู้ลงทุนไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนในหุ้น, กองทุน ETF และอนุพันธ์อย่าง Options เป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ อาจทำให้เกิดผลขาดทุนถาวรได้อย่างมากเลยทีเดียว
ขอให้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนด้วยนะครับ
1. ทำความเข้าใจก่อนว่า TDEX กับ SET50 Index Options เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน และ "เกือบจะเหมือนกัน"
2. สัญญา Options 1 สัญญา จะมีค่าครอบคลุม TDEX จำนวน 20,000 หน่วย (ในที่นี้จะเรียกว่า 1ล็อต)
3. เมื่อเริ่มต้น หรือไม่มี TDEX ในมือเลย ให้ดูดัชนี SET50 แล้วจึง Short Put Options ที่จุดที่ต่ำกว่าดัชนี SET50 ปัจจุบันให้มากที่สุด
แต่ต้องให้ได้รับ Premium ที่พอรับได้ (ยิ่ง Short ต่ำก็ยิ่งปลอดภัย แต่ Premium ที่ได้รับก็ยิ่งต่ำ)
4. เก็บ Put Options ที่ Short ไว้ ตามข้อ 3 ไว้จนหมดอายุ (หรือ Long คืนหากได้กำไร) และต้องไม่ลืมสำรองเงินเอาไว้ซื้อ TDEX เป็นล็อตตามจำนวนสัญญาที่ Short
5. อย่าทำอะไรเกินตัวด้วยการ Short หลายๆสัญญาทั้งๆที่มีเงินสำรองไม่พอที่จะซื้อ TDEX ให้ได้จำนวนล็อตเท่ากับจำนวนสัญญาในข้อ3
6. เมื่อ Put Options จากข้อ 3 หมดอายุลง จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ 2กรณี
6.1 ดัชนี SET50 อยู่เหนือหรือเท่ากับจุดที่เรา Short Put ไว้ -- กรณีนี้เราจะได้ Premium จากข้อ 3 มาเป็นผลตอบแทน จากนั้นเริ่มทำ ข้อ3 ใหม่
6.2 ดัชนี SET50 ตกลงไปจนต่ำกว่าจุดที่เรา Short Put ไว้ -- กรณีนี้เราจะขาดทุนจาก Short Put Options ให้ใช้เงินสำรองซื้อ TDEX เป็นจำนวนล็อตตามจำนวน
สัญญา แล้วนำผลขาดทุนไปรวม ผลที่ได้ให้ถือว่า เราได้ซื้อ TDEX ณ ดัชนี SET50 ที่เรา Short Put ไว้พอดี (ราคา TDEX ปัจจุบันที่ต่ำกว่านั้น ให้ถือว่าเป็นการ
ขาดทุนทางบัญชี)
7. ต่อจาก 6.2 ให้เรา Short Call Options เป็นจำนวนสัญญาตามจำนวนล็อต TDEX ที่เรามี โดย Short ณ ดัชนีที่สูงกว่าต้นทุน หรือดัชนีปัจจุบันมากๆ เพื่อล็อคราคาที่เราต้องการขายออกไป (ยิ่ง Short สูงก็ยิ่งมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ Premium ที่ได้รับก็จะต่ำลง)
8. ถ้ามีเงินสำรองเหลือ สามารถทำข้อ 3 ควบคู่กับข้อ 7 ได้ด้วย
9. เก็บ Call Options จากข้อ 7 ไว้จนหมดอายุ จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ 2กรณี
9.1 ดัชนี SET50 อยู่ต่ำกว่าหรือเท่ากับจุดที่เรา Short Call ไว้ -- กรณีนี้เราได้ Premium จากข้อ 7 มาเป็นผลตอบแทน และเริ่มทำข้อ 7 ใหม่ โดยที่ TDEX ยังอยู่
เหมือนเดิม
9.2 ดัชนี SET50 พุ่งขึ้นสูงจนอยู่เหนือจุดที่เรา Short Call ไว้ -- กรณีนี้เราจะขาดทุนจาก Call Options แต่ TDEX เราจะได้กำไร ให้เราขายทำกำไร TDEX ตามราคา
ตลาดมาชดเชย
10. เริ่มกระบวนการทั้งหมดใหม่อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายว่าเราจะมีจำนวนล็อต TDEX ที่มากขึ้นเรื่อยๆ (เพื่อทำการ Short Call และเก็บกิน Premium ได้มากขึ้น) และได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ TDEX เข้าไปลงทุนไว้
กรณีตัวอย่าง
ขณะนี้ TDEX มีราคาประมาณ 7.5 บาท
1 ล็อต = TDEX จำนวน 20,000 หน่วย = 150,000 บาท
10 ล็อต = เงินลงทุน 1,500,000 บาท
ราคาสัญญา Call Options ที่สามารถขายได้อยู่ที่ประมาณ 12-20 บาท (ขึ้นอยู่กับ Strike Price ที่ต้องการ) โดยมีตัวคูณดัชนี =200
จะได้รับเงินค่า Premium ประมาณ 24,000 บาท ถึง 40,000 บาท โดยมีอายุสัญญา 3 เดือน (เฉลี่ยเดือนละ 8,000 ถึง 13,000 บาท) ไม่รวมปันผลประมาณ 2-3% ต่อปี
นั่นหมายความว่า ยิ่งมีจำนวนล็อต TDEX มากขึ้น ก็จะมีโอกาสสร้างกระแสเงินสดได้สูงขึ้น
ผมเขียนการลงทุนทั้ง 10 ข้อโดยมีสมมติฐานว่าผู้อ่านน่าจะมีความรู้เรื่อง TDEX และ Options อยู่พอสมควรแล้ว ท่านใดที่อ่านแล้วรู้สึกไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องตกใจครับ ถือว่าโชคดีแล้วที่ยังไม่รู้เรื่อง คำแนะนำคือค่อยๆศึกษาเรื่องของ TDEX และ Options จากพื้นฐานก่อน จากนั้นค่อยมาทำความเข้าใจกับทั้ง 10 ข้ออีกครั้งนะครับ
การลงทุนแบบนี้ไม่ใช่การลงทุนที่ดีที่สุด เพราะมันเป็นกระบวนการที่ช้ามาก, Leverage น้อย และเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ถ้าใครกำลังมองหาสิ่งที่จะเป็นเครื่องจักรผลิตกระแสเงินสดในอนาคต ผมคิดว่าการลงทุนแบบนี้น่าจะอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการพิจารณาของคุณครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Credit
TDEX + SET50 Index Options (กระทู้แลกเปลี่ยนความเห็น)
รบกวนผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเล่น option ให้คำชี้แนะหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับบทความด้านล่างด้วยครับ
ผมโพสต์กระทู้นี้เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนแบบหนึ่งซึ่งผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าในระยะยาวจะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง
การลงทุนที่ผมจะพูดถึงนี้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง หากผู้ลงทุนไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการลงทุนในหุ้น, กองทุน ETF และอนุพันธ์อย่าง Options เป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ อาจทำให้เกิดผลขาดทุนถาวรได้อย่างมากเลยทีเดียว
ขอให้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนด้วยนะครับ
1. ทำความเข้าใจก่อนว่า TDEX กับ SET50 Index Options เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน และ "เกือบจะเหมือนกัน"
2. สัญญา Options 1 สัญญา จะมีค่าครอบคลุม TDEX จำนวน 20,000 หน่วย (ในที่นี้จะเรียกว่า 1ล็อต)
3. เมื่อเริ่มต้น หรือไม่มี TDEX ในมือเลย ให้ดูดัชนี SET50 แล้วจึง Short Put Options ที่จุดที่ต่ำกว่าดัชนี SET50 ปัจจุบันให้มากที่สุด
แต่ต้องให้ได้รับ Premium ที่พอรับได้ (ยิ่ง Short ต่ำก็ยิ่งปลอดภัย แต่ Premium ที่ได้รับก็ยิ่งต่ำ)
4. เก็บ Put Options ที่ Short ไว้ ตามข้อ 3 ไว้จนหมดอายุ (หรือ Long คืนหากได้กำไร) และต้องไม่ลืมสำรองเงินเอาไว้ซื้อ TDEX เป็นล็อตตามจำนวนสัญญาที่ Short
5. อย่าทำอะไรเกินตัวด้วยการ Short หลายๆสัญญาทั้งๆที่มีเงินสำรองไม่พอที่จะซื้อ TDEX ให้ได้จำนวนล็อตเท่ากับจำนวนสัญญาในข้อ3
6. เมื่อ Put Options จากข้อ 3 หมดอายุลง จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ 2กรณี
6.1 ดัชนี SET50 อยู่เหนือหรือเท่ากับจุดที่เรา Short Put ไว้ -- กรณีนี้เราจะได้ Premium จากข้อ 3 มาเป็นผลตอบแทน จากนั้นเริ่มทำ ข้อ3 ใหม่
6.2 ดัชนี SET50 ตกลงไปจนต่ำกว่าจุดที่เรา Short Put ไว้ -- กรณีนี้เราจะขาดทุนจาก Short Put Options ให้ใช้เงินสำรองซื้อ TDEX เป็นจำนวนล็อตตามจำนวน
สัญญา แล้วนำผลขาดทุนไปรวม ผลที่ได้ให้ถือว่า เราได้ซื้อ TDEX ณ ดัชนี SET50 ที่เรา Short Put ไว้พอดี (ราคา TDEX ปัจจุบันที่ต่ำกว่านั้น ให้ถือว่าเป็นการ
ขาดทุนทางบัญชี)
7. ต่อจาก 6.2 ให้เรา Short Call Options เป็นจำนวนสัญญาตามจำนวนล็อต TDEX ที่เรามี โดย Short ณ ดัชนีที่สูงกว่าต้นทุน หรือดัชนีปัจจุบันมากๆ เพื่อล็อคราคาที่เราต้องการขายออกไป (ยิ่ง Short สูงก็ยิ่งมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ Premium ที่ได้รับก็จะต่ำลง)
8. ถ้ามีเงินสำรองเหลือ สามารถทำข้อ 3 ควบคู่กับข้อ 7 ได้ด้วย
9. เก็บ Call Options จากข้อ 7 ไว้จนหมดอายุ จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ 2กรณี
9.1 ดัชนี SET50 อยู่ต่ำกว่าหรือเท่ากับจุดที่เรา Short Call ไว้ -- กรณีนี้เราได้ Premium จากข้อ 7 มาเป็นผลตอบแทน และเริ่มทำข้อ 7 ใหม่ โดยที่ TDEX ยังอยู่
เหมือนเดิม
9.2 ดัชนี SET50 พุ่งขึ้นสูงจนอยู่เหนือจุดที่เรา Short Call ไว้ -- กรณีนี้เราจะขาดทุนจาก Call Options แต่ TDEX เราจะได้กำไร ให้เราขายทำกำไร TDEX ตามราคา
ตลาดมาชดเชย
10. เริ่มกระบวนการทั้งหมดใหม่อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายว่าเราจะมีจำนวนล็อต TDEX ที่มากขึ้นเรื่อยๆ (เพื่อทำการ Short Call และเก็บกิน Premium ได้มากขึ้น) และได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ TDEX เข้าไปลงทุนไว้
กรณีตัวอย่าง
ขณะนี้ TDEX มีราคาประมาณ 7.5 บาท
1 ล็อต = TDEX จำนวน 20,000 หน่วย = 150,000 บาท
10 ล็อต = เงินลงทุน 1,500,000 บาท
ราคาสัญญา Call Options ที่สามารถขายได้อยู่ที่ประมาณ 12-20 บาท (ขึ้นอยู่กับ Strike Price ที่ต้องการ) โดยมีตัวคูณดัชนี =200
จะได้รับเงินค่า Premium ประมาณ 24,000 บาท ถึง 40,000 บาท โดยมีอายุสัญญา 3 เดือน (เฉลี่ยเดือนละ 8,000 ถึง 13,000 บาท) ไม่รวมปันผลประมาณ 2-3% ต่อปี
นั่นหมายความว่า ยิ่งมีจำนวนล็อต TDEX มากขึ้น ก็จะมีโอกาสสร้างกระแสเงินสดได้สูงขึ้น
ผมเขียนการลงทุนทั้ง 10 ข้อโดยมีสมมติฐานว่าผู้อ่านน่าจะมีความรู้เรื่อง TDEX และ Options อยู่พอสมควรแล้ว ท่านใดที่อ่านแล้วรู้สึกไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องตกใจครับ ถือว่าโชคดีแล้วที่ยังไม่รู้เรื่อง คำแนะนำคือค่อยๆศึกษาเรื่องของ TDEX และ Options จากพื้นฐานก่อน จากนั้นค่อยมาทำความเข้าใจกับทั้ง 10 ข้ออีกครั้งนะครับ
การลงทุนแบบนี้ไม่ใช่การลงทุนที่ดีที่สุด เพราะมันเป็นกระบวนการที่ช้ามาก, Leverage น้อย และเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ถ้าใครกำลังมองหาสิ่งที่จะเป็นเครื่องจักรผลิตกระแสเงินสดในอนาคต ผมคิดว่าการลงทุนแบบนี้น่าจะอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการพิจารณาของคุณครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้