ท่อน้ำมันดิบปตท.รั่วกลางทะเลกว่า 70 ตัน

ท่อส่งน้ำมันดิบปตท.รั่วกลางทะเลกว่า 70 ตัน คราบน้ำมันกระจายเป็นบริเวณกว้าง นักวิชาการระบบนิเวศทางทะเลแนะเร่งกำจัดคราบก่อนแพร่กระจายถึงฝั่ง

เมื่อเวลา 07.30น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค จ.ระยองว่า ท่อส่งน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน)ห่างจากฝั่งท่าประมาณ 10 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 18 กม. ท่ามกลางกระแสคลื่นและลมแรงจัด ได้เกิดอุบัติเหตุท่อส่งน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้วรั่ว ทำให้น้ำมันดิบไหลทะลักออกสู่ทะเลประมาณ 50 - 70 ตัน แพร่กระจายบนผิวน้ำเป็นบริเวณกว้าง ขณะนี้กองทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปดูที่เกิดเหตุพร้อมวางบูมล้อมบริเวณคราบน้ำมันและฉีดน้ำยา

ด้าน นายประทีป เอ่งฉ้วน ผอ.สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง กล่าวว่าเบื้องต้นได้รับรายงานเกิดอุบัติเหตุบริเวณแท่นรับน้ำมันดิบของ บริษัท ปตท.ห่างจากฝั่งท่าเรือมาบตาพุดประมาณ 10 ไมล์ทะเลท่อน้ำมันเกิดการรั่วไหล ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำบูมไปล้อมบริเวณคราบน้ำมันที่รั่วไหลกลางทะเลแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันดิบได้เรียบร้อยแล้ว.
คพ.กรมเจ้าท่าร่วมขจัดคราบ

ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันกำลังถ่ายน้ำมันดิบผ่านทุ่นรับน้ำมันดิบมายัง โรงกลั่น ได้เกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้วรั่วที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ(Single Point Mooring) ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20กิโลเมตร

​ทันทีที่เกิดเกตเจ้าหน้าที่ได้​หยุดการส่งน้ำมันและควบคุมสถานการณ์ด้วยการปิดวาล์วทันที เพื่อไม่ให้มีการรั่วเพิ่ม และได้นำทุ่นกักน้ำมัน (boom) กักคราบน้ำมันไว้และใช้เครื่องมือเก็บคราบน้ำมัน oil skimmer เก็บคราบน้ำมันขึ้นไปเก็บในภาชนะบนเรือ จำนวนน้ำมันที่รั่วอยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนที่แน่ชัด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ล่าสุด ทัพเรือภาคที่ 1 กรมเจ้าท่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมควบคุมมลพิษ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. ทราบในเบื้องต้นและเข้าร่วมมือในการปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันสำหรับสาเหตุ และความคืบหน้าของการเก็บและขจัดคราบน้ำมัน บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป

นักวิชาการชี้เร่งเก็บคราบ

ด้านนายธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการที่เชี่ยวชาญระบบนิเวศทางทะเล กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันรั่วจำนวน 70 ตันถือว่าไม่น้อย แต่หากสามารถใช้ทุ่นกักน้ำมันเอาไว้ได้ไม่ให้แพร่กระจายเข้ามาสู่ชายฝั่งก็คงมีปัญหาไม่มากนักเพราะหลังจากนี้ก็จะต้องหาแนวทางในการกำจัดน้ำมัน โดยอาจจะใช้วิธีตักน้ำที่ปนเปื้อนน้ำมันออกไปกำจัด หรือใช้วิธีการเผารวมไปถึงวิธีการสุดท้ายอาจจะใช้สารเคมีในการกำจัด ซึ่งคงจะต้องให้เป็นวิธีสุดท้ายเพราะว่ามีการปนเปื้อน

"เวลาน้ำมันรั่วหากสามารถกักเอาไว้ ไม่ให้แพร่กระจายไปถึงชายฝั่งทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จะลดปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นต้องระวังไม่ให้แพร่กระจายเนื่องจากต้องไปตามเก็บที่ชายฝั่งจะมีปัญหามากกว่า" นายธรณ์

อย่างไรก็ตามผลกระทบที่เกิดขึ้นคงไม่มากนัก หากสามารถควบคุมคราบน้ำมันได้ แต่จากการคำนวณอัตราการแพร่กระจายจากคลื่นลมและเกิดขึค้นมากว่า 4-5 ชั่วโมง คาดว่าการแพร่กระจายน่าจะขยายวงออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งหากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีบูมในการควบคุมการแพร่กระจายของน้ำมันเพียงพอก็จะไม่มีปัญหา แต่ต้องระวังไม่ให้คราบน้ำมันกระจายถึงชายฝั่งเพราะจะกระทบกับแหล่งท่องเที่ยว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
http://bit.ly/17KyKbq

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่