จากข่าวนี้ อำนาจการสงสัยอำนาจการหยุดยั้งของปืน Tavor เทียบกัย M-16

กระทู้คำถาม
เหตุการณ์ ระทึกขวัญครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อ พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา พงส.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุ ตำรวจสายสืบของสภ.บ้านผือ 2 คน และตำรวจบ้านอีก 1 คน รวม 3 คนถูกยิงบาดเจ็บ ขณะเข้าไปล่อซื้อยาบ้าจากคนร้าย ที่ศาลปู่ตา บ้านดอนหอ ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จึงรุดเข้าตรวจสอบพื้นที่

ที่เกิดเหตุพบ ร.ต.ต.ไพฑูรย์ ปราบพาล อายุ 53 ปี รอง สว.สส. ถูกยิงด้วยปืนทาโวร์ เข้าที่ท้องน้อย กระสุนทะลุหลัง อาการสาหัส ด.ต.กมล ฟองสมุทร ผบ.หมู่ สส. ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ต้นขาซ้ายทะลุ และ นายธีรภัทร ณเกศร อายุ 46 ปี ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน สภ.บ้านผือ ถูกยิงที่ชายโครงด้านซ้ายกระสุนทะลุออก ต้องนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านผือ จนอาการปลอดภัย

สอบ สวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้คือ พลทหารวีระพงษ์ กุลนนท์ อายุ 22 ปี สังกัด ร.13 พัน.3 ค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 4 ต.บ้านข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอ้อยห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่

ร.ต.ต.พิสุทธิธรรม ศรีบูจันดี รอง สว.สส.สภ. บ้านผือ ซึ่งอยู่ในชุดล่อซื้อจับกุม เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบสวนสืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้วัยรุ่นในเขต ต.ข้าวสาร จึงออกสืบสวนหาข่าวจนแน่ชัดว่าพลทหารวีระพงษ์ เป็นเอเยนต์ในพื้นที่ จึงวางแผนให้สายสืบเข้าไปล่อซื้อยาบ้า 3 เม็ด ในราคา 600 บาท

โดย นัดหมายส่งของกันที่ศาลปู่ตา บ้านดอนหอ จากนั้นจึงวางกำลังซุ่มอยู่โดยรอบ เมื่อสายเข้าไปรับยาบ้า จึงแสดงตนเข้าจับกุม แต่คนร้ายกลับไหวตัวทัน แล้วชักปืนออกมายิงสวนถูกเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ จากนั้นใช้จังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอ้อย

พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เดินทางมาบัญชาการจับกุมด้วยตัวเอง โดยประสานตำรวจจาก สภ. กลางใหญ่ ร่วมสนธิกำลังกับตำรวจ สภ.บ้านผือ รวม 60 นาย เข้าปิดล้อมป่าอ้อยดังกล่าว

พร้อมใช้เครื่องขยายเสียง ประกาศเรียกให้พลทหารหนุ่มออกมามอบตัวเป็นระยะๆ แต่เจ้าตัวแสบไม่ยอมจนมุมง่ายๆ ยังยิงปืนออกมาเป็นระยะๆ แถมยังปาระเบิดออกมาอีก 3 ลูก จนเจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหลบกันจ้าละหวั่น

เมื่อ เรียกแล้วไม่ยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงติดตาม นายกัง กุลนนท์ อายุ 47 ปี พ่อบังเกิดเกล้าของพลทหารวีระพงษ์ ให้มาเกลี้ยกล่อมบุตรชาย ขอให้มอบตัวโดยเร็ว เพื่อให้โทษหนักจะได้เป็นเบา

แต่ขณะที่ นายกังเดินหายเข้าไปในป่าอ้อย เจ้าหน้าที่ก็ต้องหมอบลงด้วยความตกใจ เมื่อเกิดเสียงปืนลั่นขึ้นมา 3 นัด พอสงบเสียง ขณะกำลังหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป นายกังก็เดินกลับออกมา พร้อมแจ้งว่าพลทหารวีระพงษ์ใช้อาวุธคู่มือจบชีวิตตัวเองแล้วต่อหน้าตน เพื่อหนีความผิด

โดยนายกังเล่าด้วยน้ำตาว่า ลูกชายของตนเมื่อเรียนจบ ม.3 ก็ออกมาทำไร่ไถนาตามประสา ไม่เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งเรื่องเสพและจำหน่าย ต่อมาได้ตรวจคัดเลือกทหาร และไปเป็นทหารเกณฑ์ที่ ร.13 พัน.3 ค่ายพระยาสุรวงศ์ วัฒนศักดิ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี และไปประจำการอยู่ที่ชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ

ก่อน เกิดเหตุลูกชายได้พักจึงกลับมาอยู่ที่บ้านเมื่อวันที่ 9 ก.ค. และมีกำหนดจะเดินทางกลับไปประจำการที่ศรีสะเกษ ในวันที่ 18 ก.ค.นี้ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อยาบ้า แล้วยิงต่อสู้กันจนต้องยิงตัวตายหนีความผิดดังกล่าว

ดูจากรายงานข่าว แล้วสงสัย ตำรวจที่ถูก Tavor ยิงทั้ง 3 นาย สงสัยเรื่องอำนาจการหยุดยั้งเทียบกับ M-16 เพราะดูแล้วกระสุนทะลุหมด น่าจะเป็นเพราะความแรงของกระสุน 5.56 ซึ่งถ้ากระสุนทะลุผ่านร่างกายไปด้วยความเร็วสูง ถ้าไม่โดนจุดสำคัญจริงๆ นี่แสดงว่าคนที่โดนยิงยังมีโอกาสตอบโต้ได้อีกใช่มั้ยครับ ความจริงทั้งสองเป็นปืนลำกล้องมีเกลียวเหมือนกัน ซึ่ง M-16 นี่เท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่ที่โดนจะหมดสิทธิลุกเลย เพราะกระสุนเข้าไปควงสว่านคว้านข้างในร่างกาย ทำลายอวัยวะ กระดูก เละหมดแต่นี่ทะลุไปเลย เป็นเพราะความเร็วต้นกระสุน มันน้อยกว่า M-16  ทำให้คลื่นกระแทกที่จะทำให้หัวกระสุนเปลี่ยนทิศทางเมื่อปะทะวัตถุได้น้อยกว่า M-16 ใช่มั้ยครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ป.ล.ทหารเกณฑ์ ค่ายไหนเนี่ย ปล่อยพักกลับบ้านเอาปลย.กับได้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่