1. e p และ n เกิดความบังเอิญ 1 ใน ล้านล้านล้านล้านล้านล้าน(0.000000........001%) ส่วน.. ชนกันไปชนกันมา จนกลายเป็นเซลของสิ่งมีชีวิตอย่างง่ายในอวกาศ
2. เซลของสิ่งมีชีวิตอย่างง่ายๆในอวกาศ ก็เกิดความบังเอิญ 1 ในหลายล้านส่วน.. (0.000...001%) ดันเกิดขึ้นที่ ดาวหาง (ถ้ามันเกิดที่อื่น มันจะตาย แต่ถ้ามันเกิดที่ดาวหาง ดาวหางมี carbon กับน้ำแข็ง ทำให้สิ่งมีชีวิตเซลเดียว ยังมีชีวิตอยู่ได้)
3. เกิดความบังเอิญ 1 ในกี่ล้านส่วนก็ไม่รู้ ดันมีดาวหางวิ่งผ่านมาใกล้ๆโลก แล้วชิ้นส่วนดาวหางก็ดันตกใส่โลก จนนำแบคทีเรียมาสู่โลกเราด้วย
4. บังเอิญจริงๆ ที่ระบบสุริยะของเรา ดันอยู่ขอบๆของกาแล็กซี่ แต่ก็ไม่ได้ขอบมาก อยู่ในระยะที่พอดีเป๊ะ --' (ถ้าอยู่ใกล้ๆใจกลางกาแล็กซี่ อุณหภูมิจะร้อนเกินไป อาจไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าอยู่ขอบนอกเกินไป ก็อาจจะหนาวเกินไป)
5. บังเอิ๊ญญญญญ บังเอิญ!! ว่าโลกเรา ดันเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 3 พอดี --' มีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ไม่ใกล้ ไม่ไกล ระยะพอเหมาะ (ถ้าใกล้เกินไป ร้อนเกิน สิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไกลเกินไป ก็จะหนาวเกิน สิ่งมีชีวิตอยู่ไม่ได้)
6. บังเอิ๊ญญญ บังเอิญ!! โลกเราดันมีดวงจันทร์แค่ 1 ดวง ดวงจันทร์ไม่ได้เป็นแค่ดาวบริวารของโลก แต่มีผลกับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลกด้วย ทำให้เกิดน้ำขึ้น-น้ำลง และให้แสงสว่างในยามค่ำคืน ทำให้พวกสัตว์ต่างๆสามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ (รวมไปถึง มนุษย์ในยุคที่ยังก่อไฟไม่เป็นด้วย ก็ใช้แสงจันทร์ในการมองเวลากลางคืน)
7. บังเอิ๊ญญญญญ บังเอิญ .. ว่า. ดวงอาทิตย์ปล่อยลมสุริยะออกมา ถ้าเป็นดาวดวงอื่น สิ่งมีชีวิตคงอยู่ไม่ได้ แต่บังเอิญว่า โลกของเรา ดันมีภูมิคุ้มกันอย่างดี --' มีสนามแม่เหล็กโลก คอยกันลมสุริยะเอาไว้ให้
8. บังเอิ๊ญญญญญญ บังเอิญ ที่โลกของเรา มีแสงจากดวงอาทิตย์! การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลก ต้องอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น!! ถ้าไม่มีแสงอาทิตย์ ก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิต (พืชต้องใช้แสงในการสังเคราะห์แสง ทำอาหาร, มนุษย์ก็ต้องใช้แสงอาทิตย์ในการดำรงชีวิต และผลิตวิตามินบางชนิดให้กับร่างกาย)
9. บังเอิ๊ญญญญญญญญ บังเอิญ ว่า.. ในระบบสุริยะจักรวาลของเรา มันมี "วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยอยู่" หากปราศจากดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ (ที่อยู่ถัดจากดาวอังคาร) ป่านนี้ โลกของเราคงโดนอุกาบาตตกใส่ปีละหลายลูก (วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยพวกนี้ เป็นกันชนอย่างดีที่ช่วยป้องกันหินอุกาบาตในอวกาศจากบริเวณชั้นนอก เลยดาวอังคารออกไป ทำให้โลกเราปลอดภัย)
10. บังเอิ๊ญญญญญญญญญ บังเอิญ.. ว่า.. ระบบสุริยะของเรา ดันมีดาวพฤหัส เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 5 พอดี ดาวพฤหัส เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่เป็น 11 เท่าของโลก และเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาลของเรา แรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสเยอะมาก แต่ละปีแต่ละปี ดาวพฤหัสจะเป็นเหมือนกันชนที่คอยดึงดูดพวกอุกาบาตก้อนใหญ่ๆไม่ให้วิ่งเข้ามาสู่บริเวณดาวเคราะห์ชั้นใน
11. บังเอิ๊ญญญญญญญ บังเอิญ.. ว่า.. โลก ดันมีขนาดพอเหมาะ พอเจาะ ถ้าเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ แรงดึงดูดเยอะ สิ่งมีชีวิตก็จะมีขนาดใหญ่ เทอะทะ และเคลื่อนไหวเชื่องช้า ไม่สามารถวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาได้ แต่ถ้าดาวเคราะห์มีขนาดที่เล็กเกินไป อายุของดาวเคราะห์ดวงนั้นจะสั้น แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนดาวดวงนั้นก็จะมีเวลาไม่มากพอที่จะวิวัฒนาการมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา (ดาวโลก เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาด พอดี! เป๊ะ! สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา)
11. บังเอิ๊ญญญญญญญ... บังเอิญ.. ว่า.. ดวงจันทร์ ดันมีรอบการโคจรที่พอดีเป๊ะ จนทำให้.. "หันด้านเดียวเข้าหาโลกของเรา ตลอดเวลา" (รอบการโคจรรอบโลก กับการหมุนรอบตัวเอง มันพอดีเป๊ะที่ทำให้หันด้านเดียวเข้าหาโลกตลอดเวลา --') มันเป็นความบังเอิญที่.. ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้.. แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว --' บังเอิญจริงๆ --'
12. บังเอิ๊ญญญญ บังเอิญ.. ที่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้.. ดันเกิดมาพร้อม "สัญชาตญาณ" พอลืมตาขึ้นมาดูโลกปุ๊บ ก็รู้ทันทีว่าต้องดำรงชีวิตอย่างไร ไม่ต้องเข้าโรงเรียน ไม่ต้องมีใครมาสอน รู้เองโดยสัญชาตญาณ (ยกเว้นมนุษย์ มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ ต้องเข้าโรงเรียน ต้องมีพ่อแม่สอน ไม่งั้นไม่รู้ ว่าต้องดำรงชีวิตยังไง --')
13. บังเอิ๊ญญญญญญ.. บังเอิญ.. ที่ดวงอาทิตย์ ดันเป็น "ดาวฤกษ์ขนาดกลาง" พอดี --' ถ้าดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ อัตราการเผาผลาญของมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ดาวฤกษ์มีอายุสั้น แต่หากดวงอาทิย์เป็นดาวฤกษ์ขนาดเล็ก เชื้อเพลิงก็หมดเร็วเหมือนกัน ทำให้อายุสั้น ดาวฤกษ์ที่อายุสั้นจะมีเวลาไม่มากพอที่จะทำให้ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบมัน ถือกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาได้.. แต่ดวงอาทิตย์ของเรา เป็นดาวฤกษ์ขนาดกลาง อัตราการเผาผลาญไม่เร็วเท่าดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ ทำให้ดาวเคราะห์โลกยังพอมีเวลาที่จะเกิดการวิวัฒนาการจากแบคทีเรียจนกลายมาเป็นมนุษย์ --'
14. บังเอิ๊ญญญญญ.. บังเอิญ.. ไม่รู้ว่าโมเลกุลสมัยก่อน มันชนกันยังไง มันคั่วกันคลุกเคล้ากันยังไง จนทำให้โลกของเรามี "มหาสมุทร" --' อุกกาบาตที่มีแบคทีเรียติดมาด้วย ถ้าไปตกที่ดาวดวงอื่น แบคทีเรียพวกนั้นคงไม่สามารถวิวัฒนาการจนกลายมาเป็นคนได้ แต่เพราะมาตกที่ "ดาวโลก" ซึ่งมี ดิน น้ำ ลม ไฟ อุณหภูมิพอเหมาะ จนสามารถวิวัฒนาการตัวเองจนมาเป็นคนได้ --'
15. บังเอิ๊ญญญญญญ... บังเอิญ... ที่ "พืช" ดันเป็นสิ่งมีชีวิตที่.. กินได้ ไม่มีเลือด ตัดยอดไปก็งอกใหม่ได้ และที่สำคัญ พืช เป็นสิ่งมีชีวิตที่ ใช้คาร์บอนไดอ็อกไซด์ผลิตอาหาร(มนุษย์หายใจออก) แล้ว"ผลิตก๊าซอ็อกซิเจน" สู่อากาศ(มนุษย์หายใจเข้า) ทำให้มนุษย์มีอากาศหายใจ ถ้าโลกนี้มีแต่สัตว์ ไม่มีพืช โลกนี้ก็คงไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาเกิดขึ้น
16. บังเอิ๊ญญญญญญ... บังเอิญ...
มีอีกเยอะ มีเกิน 16 ข้อแน่ๆ แต่ตอนนี้นึกออกแค่นี้
ใครคิดออก ช่วยโพสต์เพิ่มด้วย
กว่าโลกใบนี้ จะกลายมาเป็นดาวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ มันผ่านความบังเอิญมาเป็นร้อย เป็นพัน (มีความบังเอิญระดับผิวโลกด้วยนะ เดี๋ยวนึกได้จะค่อยๆมาเติมทีหลัง)
หลายๆความบังเอิญ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป สิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา จะไม่สามารถถือกำเนิดบนโลกมนุษย์ได้เลย!!
มนุษย์ ดาวโลก และ ความบังเอิญ
2. เซลของสิ่งมีชีวิตอย่างง่ายๆในอวกาศ ก็เกิดความบังเอิญ 1 ในหลายล้านส่วน.. (0.000...001%) ดันเกิดขึ้นที่ ดาวหาง (ถ้ามันเกิดที่อื่น มันจะตาย แต่ถ้ามันเกิดที่ดาวหาง ดาวหางมี carbon กับน้ำแข็ง ทำให้สิ่งมีชีวิตเซลเดียว ยังมีชีวิตอยู่ได้)
3. เกิดความบังเอิญ 1 ในกี่ล้านส่วนก็ไม่รู้ ดันมีดาวหางวิ่งผ่านมาใกล้ๆโลก แล้วชิ้นส่วนดาวหางก็ดันตกใส่โลก จนนำแบคทีเรียมาสู่โลกเราด้วย
4. บังเอิญจริงๆ ที่ระบบสุริยะของเรา ดันอยู่ขอบๆของกาแล็กซี่ แต่ก็ไม่ได้ขอบมาก อยู่ในระยะที่พอดีเป๊ะ --' (ถ้าอยู่ใกล้ๆใจกลางกาแล็กซี่ อุณหภูมิจะร้อนเกินไป อาจไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าอยู่ขอบนอกเกินไป ก็อาจจะหนาวเกินไป)
5. บังเอิ๊ญญญญญ บังเอิญ!! ว่าโลกเรา ดันเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 3 พอดี --' มีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ ไม่ใกล้ ไม่ไกล ระยะพอเหมาะ (ถ้าใกล้เกินไป ร้อนเกิน สิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไกลเกินไป ก็จะหนาวเกิน สิ่งมีชีวิตอยู่ไม่ได้)
6. บังเอิ๊ญญญ บังเอิญ!! โลกเราดันมีดวงจันทร์แค่ 1 ดวง ดวงจันทร์ไม่ได้เป็นแค่ดาวบริวารของโลก แต่มีผลกับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลกด้วย ทำให้เกิดน้ำขึ้น-น้ำลง และให้แสงสว่างในยามค่ำคืน ทำให้พวกสัตว์ต่างๆสามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ (รวมไปถึง มนุษย์ในยุคที่ยังก่อไฟไม่เป็นด้วย ก็ใช้แสงจันทร์ในการมองเวลากลางคืน)
7. บังเอิ๊ญญญญญ บังเอิญ .. ว่า. ดวงอาทิตย์ปล่อยลมสุริยะออกมา ถ้าเป็นดาวดวงอื่น สิ่งมีชีวิตคงอยู่ไม่ได้ แต่บังเอิญว่า โลกของเรา ดันมีภูมิคุ้มกันอย่างดี --' มีสนามแม่เหล็กโลก คอยกันลมสุริยะเอาไว้ให้
8. บังเอิ๊ญญญญญญ บังเอิญ ที่โลกของเรา มีแสงจากดวงอาทิตย์! การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลก ต้องอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น!! ถ้าไม่มีแสงอาทิตย์ ก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิต (พืชต้องใช้แสงในการสังเคราะห์แสง ทำอาหาร, มนุษย์ก็ต้องใช้แสงอาทิตย์ในการดำรงชีวิต และผลิตวิตามินบางชนิดให้กับร่างกาย)
9. บังเอิ๊ญญญญญญญญ บังเอิญ ว่า.. ในระบบสุริยะจักรวาลของเรา มันมี "วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยอยู่" หากปราศจากดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ (ที่อยู่ถัดจากดาวอังคาร) ป่านนี้ โลกของเราคงโดนอุกาบาตตกใส่ปีละหลายลูก (วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยพวกนี้ เป็นกันชนอย่างดีที่ช่วยป้องกันหินอุกาบาตในอวกาศจากบริเวณชั้นนอก เลยดาวอังคารออกไป ทำให้โลกเราปลอดภัย)
10. บังเอิ๊ญญญญญญญญญ บังเอิญ.. ว่า.. ระบบสุริยะของเรา ดันมีดาวพฤหัส เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 5 พอดี ดาวพฤหัส เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่เป็น 11 เท่าของโลก และเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาลของเรา แรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสเยอะมาก แต่ละปีแต่ละปี ดาวพฤหัสจะเป็นเหมือนกันชนที่คอยดึงดูดพวกอุกาบาตก้อนใหญ่ๆไม่ให้วิ่งเข้ามาสู่บริเวณดาวเคราะห์ชั้นใน
11. บังเอิ๊ญญญญญญญ บังเอิญ.. ว่า.. โลก ดันมีขนาดพอเหมาะ พอเจาะ ถ้าเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ แรงดึงดูดเยอะ สิ่งมีชีวิตก็จะมีขนาดใหญ่ เทอะทะ และเคลื่อนไหวเชื่องช้า ไม่สามารถวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาได้ แต่ถ้าดาวเคราะห์มีขนาดที่เล็กเกินไป อายุของดาวเคราะห์ดวงนั้นจะสั้น แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนดาวดวงนั้นก็จะมีเวลาไม่มากพอที่จะวิวัฒนาการมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา (ดาวโลก เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาด พอดี! เป๊ะ! สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา)
11. บังเอิ๊ญญญญญญญ... บังเอิญ.. ว่า.. ดวงจันทร์ ดันมีรอบการโคจรที่พอดีเป๊ะ จนทำให้.. "หันด้านเดียวเข้าหาโลกของเรา ตลอดเวลา" (รอบการโคจรรอบโลก กับการหมุนรอบตัวเอง มันพอดีเป๊ะที่ทำให้หันด้านเดียวเข้าหาโลกตลอดเวลา --') มันเป็นความบังเอิญที่.. ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้.. แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว --' บังเอิญจริงๆ --'
12. บังเอิ๊ญญญญ บังเอิญ.. ที่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้.. ดันเกิดมาพร้อม "สัญชาตญาณ" พอลืมตาขึ้นมาดูโลกปุ๊บ ก็รู้ทันทีว่าต้องดำรงชีวิตอย่างไร ไม่ต้องเข้าโรงเรียน ไม่ต้องมีใครมาสอน รู้เองโดยสัญชาตญาณ (ยกเว้นมนุษย์ มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ ต้องเข้าโรงเรียน ต้องมีพ่อแม่สอน ไม่งั้นไม่รู้ ว่าต้องดำรงชีวิตยังไง --')
13. บังเอิ๊ญญญญญญ.. บังเอิญ.. ที่ดวงอาทิตย์ ดันเป็น "ดาวฤกษ์ขนาดกลาง" พอดี --' ถ้าดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ อัตราการเผาผลาญของมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ดาวฤกษ์มีอายุสั้น แต่หากดวงอาทิย์เป็นดาวฤกษ์ขนาดเล็ก เชื้อเพลิงก็หมดเร็วเหมือนกัน ทำให้อายุสั้น ดาวฤกษ์ที่อายุสั้นจะมีเวลาไม่มากพอที่จะทำให้ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบมัน ถือกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาได้.. แต่ดวงอาทิตย์ของเรา เป็นดาวฤกษ์ขนาดกลาง อัตราการเผาผลาญไม่เร็วเท่าดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ ทำให้ดาวเคราะห์โลกยังพอมีเวลาที่จะเกิดการวิวัฒนาการจากแบคทีเรียจนกลายมาเป็นมนุษย์ --'
14. บังเอิ๊ญญญญญ.. บังเอิญ.. ไม่รู้ว่าโมเลกุลสมัยก่อน มันชนกันยังไง มันคั่วกันคลุกเคล้ากันยังไง จนทำให้โลกของเรามี "มหาสมุทร" --' อุกกาบาตที่มีแบคทีเรียติดมาด้วย ถ้าไปตกที่ดาวดวงอื่น แบคทีเรียพวกนั้นคงไม่สามารถวิวัฒนาการจนกลายมาเป็นคนได้ แต่เพราะมาตกที่ "ดาวโลก" ซึ่งมี ดิน น้ำ ลม ไฟ อุณหภูมิพอเหมาะ จนสามารถวิวัฒนาการตัวเองจนมาเป็นคนได้ --'
15. บังเอิ๊ญญญญญญ... บังเอิญ... ที่ "พืช" ดันเป็นสิ่งมีชีวิตที่.. กินได้ ไม่มีเลือด ตัดยอดไปก็งอกใหม่ได้ และที่สำคัญ พืช เป็นสิ่งมีชีวิตที่ ใช้คาร์บอนไดอ็อกไซด์ผลิตอาหาร(มนุษย์หายใจออก) แล้ว"ผลิตก๊าซอ็อกซิเจน" สู่อากาศ(มนุษย์หายใจเข้า) ทำให้มนุษย์มีอากาศหายใจ ถ้าโลกนี้มีแต่สัตว์ ไม่มีพืช โลกนี้ก็คงไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาเกิดขึ้น
16. บังเอิ๊ญญญญญญ... บังเอิญ...
มีอีกเยอะ มีเกิน 16 ข้อแน่ๆ แต่ตอนนี้นึกออกแค่นี้
ใครคิดออก ช่วยโพสต์เพิ่มด้วย
กว่าโลกใบนี้ จะกลายมาเป็นดาวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ มันผ่านความบังเอิญมาเป็นร้อย เป็นพัน (มีความบังเอิญระดับผิวโลกด้วยนะ เดี๋ยวนึกได้จะค่อยๆมาเติมทีหลัง)
หลายๆความบังเอิญ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป สิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญา จะไม่สามารถถือกำเนิดบนโลกมนุษย์ได้เลย!!