ก่อนอื่นเราเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง แต่อยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
เพื่อนๆที่นี่เคยเข้าวัดการบ้างไหม แบบว่าไม่ใช่เข้าวัดเพื่อขอหวย หรือขอพรอะไร แต่หมายถึงเข้าวัดด้วยความตั้งใจจะไปทำบุญ ฟังธรรม เมื่อเจอคำถามนี้ หลายคนคงหัวเราะ และย้อนกลับไปว่า คนเข้าวัดนะหรือ มีแต่คนแก่ๆทั้งนั้นแหละ รอให้แก่แล้วค่อยเข้าละกัน
บางคนมีความทุกข์ถึงค่อยคิดถึงวัด และเข้าไปกราบพระเพื่อความสบายใจ เรา...เป็นคนๆหนึ่งที่เหมือนกับใครหลายๆคน ที่ไม่คิดที่จะเข้าหาวัดเลย จะมีใส่บาตร ฟังธรรมบ้างก็ตามเทศกาล จะให้ตั้งใจไปทำอย่าได้หวัง และยิ่งไปปฏิบัติธรรมไม่เคยมีเลยในสมอง...
ชีวิตของเราดูเรียบๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้น่าตื่นเต้น เช้าตื่นขึ้นมารีบเร่งไปทำงาน เย็นก็กลับบ้านดูหนัง ทำตัวไร้สาระไปวันๆ นอนดึกตื่นสาย ทำตัวเหมือนมีความสุข แต่ความจริงเป็นความสุขที่ไม่แท้จริง
จนเรามีโอกาสได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง และเล่าเรื่องราวในชีวิตของเราให้เขาฟัง เขาแนะนำให้เราปฏิรูปตัวเองเสียใหม่ ลองใช้ธรรมะเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเสียบ้าง
ฟังดูยากนะ สำหรับคนไม่เคยทำอย่างจริงๆจังๆ เขาแนะนำให้เราเริ่มต้นทำอะไรที่ง่ายๆก่อน โดยตื่นเช้ากว่าเดิมใส่บาตรก่อนทำงาน เราก็ลองทำตามที่เขาแนะนำ แรกๆมันอาจจะเคอะเขินและไม่ชิน อยู่ใกล้หลวงพี่เรากลัวร้อน เพราะไม่ค่อยอยู่ใกล้พระ 555 แต่ก็พยายามทนความร้อนใส่บาตรทุกวันจนเป็นกิจวัตร จนเดี๋ยวนี้ไม่ร้อนแล้ว และถามว่าวันไหนไม่ได้ใส่บาตรก็เหมือนขาดอะไรบ้างอย่าง
การตื่นขึ้นมาใส่บาตร อย่างน้อยก็สอนให้เรารู้จักวางแผนในชีวิตมากขึ้น รับผิดชอบตัวเองมากขึ้น รู้จักบังคับตัวเองมากขึ้น และรู้จักการแบ่งปันมากขึ้น
นอกจากใส่บาตรทุกวัน เราก็เริ่มเข้าหาธรรมะมากขึ้น สวดชินบัญชรทุกคืน คืนละ 3 จบมั่ง 5 จบมั่ง แล้วแต่เวลาอำนวย แรกๆสวดแสนยากลำบาก ตะกุกตะกักเพราะบทสวดไม่ใช่ภาษาที่เราใช่ ต้องใช้สมาธิในการสวดอย่างหนัก แต่ไม่มีสักครั้งที่จะละเลย
เพราะการสวดสอนให้เรามีสติ และฝึกความอดทนได้ดี ถามว่าทุกวันนี้เราสวดคล่องปรื๋อแล้ว
เมื่อสัปดาห์ก่อน ( 13-14 ก.ค.) เราเริ่มเข้าหาวัดมากขึ้น....ด้วยการเข้าไปปฏิบัติธรรมบวชชีพราหมณ์ครั้งแรกในชีวิต และเราก็ไปเพียงคนเดียว หาเพื่อนทางธรรมกันในวัด
เราเริ่มเดินทางไปวัดพิชัยญาติการามวรวิหาร แถวคลองสานแต่เช้ามืด โดยเพื่อนคนเดิมอาสาพาไปส่ง ไปถึงวัดประมาณหกโมงเช้าเพื่อลงทะเบียน แต่กว่าจะทำวัตรเช้าจริงๆ ก็ประมาณ 7.45 น. แต่เราถือว่าไม่เสียหาย ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ ^^
ภาพบรรยากาศภายในวัดพิชัยญาติการาม
(ขออภัยภาพน้อยเพราะไม่มีเวลาถ่าย)
การไปปฏิบัติธรรมไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถามว่าสบายไหม หากหมายถึงความสบายกายคงไม่สามารถเทียบเท่ากับการอยู่บ้านดูทีวีเป็นแน่ แต่เป็นความสบายใจเสียมากกว่า และทำให้เราเรียนรู้อะไรได้อีกเยอะ
การนั่งวิปัสสนา เดินจงกรมครั้งแรก แสนจะเมื่อยสำหรับคนไม่เคยทำ ดุกดิกตลอด ปวดเมื่อยร่างกาย และสัปหงก ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะเบื่อ ด้วยนิสัยเราเป็นคนไม่ค่อยมีสมาธิ นิ่งแล้วเบื่อและก็จะง่วง แต่เราเชื่อว่าหากเราทำอย่างสม่ำเสมอคงจะช่วยให้เรานิ่งมากขึ้น
ทุกวันนี้ เราหันเข้าหาธรรมะ และเริ่มสนใจหลักคำสอนมากขึ้น แม้จะเพิ่งเรียนรู้เพียงไม่นาน แต่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยไม่รู้ตัว จนมีคนใกล้ชิดเข้ามาทักจึงทำให้เรารู้ว่าเราเปลี่ยนไปจริงๆ และเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น....
ศาสนาเป็นสิ่งดี แต่แปลกที่คนไม่ค่อยสนใจ อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเราบริหารเวลายังไงเท่านั้นเอง การเข้าหาธรรมะไม่ได้ใช้เวลา แต่ใช้ใจว่าเราเปิดรับมากแค่ไหน อยากให้เพื่อนๆลองดู...และอาจจะทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ก็ได้ เชื่อเราเหอะ
ประสบการณ์ไปถือศีลครั้งแรกของคนห่างวัด...
เพื่อนๆที่นี่เคยเข้าวัดการบ้างไหม แบบว่าไม่ใช่เข้าวัดเพื่อขอหวย หรือขอพรอะไร แต่หมายถึงเข้าวัดด้วยความตั้งใจจะไปทำบุญ ฟังธรรม เมื่อเจอคำถามนี้ หลายคนคงหัวเราะ และย้อนกลับไปว่า คนเข้าวัดนะหรือ มีแต่คนแก่ๆทั้งนั้นแหละ รอให้แก่แล้วค่อยเข้าละกัน
บางคนมีความทุกข์ถึงค่อยคิดถึงวัด และเข้าไปกราบพระเพื่อความสบายใจ เรา...เป็นคนๆหนึ่งที่เหมือนกับใครหลายๆคน ที่ไม่คิดที่จะเข้าหาวัดเลย จะมีใส่บาตร ฟังธรรมบ้างก็ตามเทศกาล จะให้ตั้งใจไปทำอย่าได้หวัง และยิ่งไปปฏิบัติธรรมไม่เคยมีเลยในสมอง...
ชีวิตของเราดูเรียบๆ ไม่มีเรื่องอะไรให้น่าตื่นเต้น เช้าตื่นขึ้นมารีบเร่งไปทำงาน เย็นก็กลับบ้านดูหนัง ทำตัวไร้สาระไปวันๆ นอนดึกตื่นสาย ทำตัวเหมือนมีความสุข แต่ความจริงเป็นความสุขที่ไม่แท้จริง
จนเรามีโอกาสได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่ง และเล่าเรื่องราวในชีวิตของเราให้เขาฟัง เขาแนะนำให้เราปฏิรูปตัวเองเสียใหม่ ลองใช้ธรรมะเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเสียบ้าง
ฟังดูยากนะ สำหรับคนไม่เคยทำอย่างจริงๆจังๆ เขาแนะนำให้เราเริ่มต้นทำอะไรที่ง่ายๆก่อน โดยตื่นเช้ากว่าเดิมใส่บาตรก่อนทำงาน เราก็ลองทำตามที่เขาแนะนำ แรกๆมันอาจจะเคอะเขินและไม่ชิน อยู่ใกล้หลวงพี่เรากลัวร้อน เพราะไม่ค่อยอยู่ใกล้พระ 555 แต่ก็พยายามทนความร้อนใส่บาตรทุกวันจนเป็นกิจวัตร จนเดี๋ยวนี้ไม่ร้อนแล้ว และถามว่าวันไหนไม่ได้ใส่บาตรก็เหมือนขาดอะไรบ้างอย่าง
การตื่นขึ้นมาใส่บาตร อย่างน้อยก็สอนให้เรารู้จักวางแผนในชีวิตมากขึ้น รับผิดชอบตัวเองมากขึ้น รู้จักบังคับตัวเองมากขึ้น และรู้จักการแบ่งปันมากขึ้น
นอกจากใส่บาตรทุกวัน เราก็เริ่มเข้าหาธรรมะมากขึ้น สวดชินบัญชรทุกคืน คืนละ 3 จบมั่ง 5 จบมั่ง แล้วแต่เวลาอำนวย แรกๆสวดแสนยากลำบาก ตะกุกตะกักเพราะบทสวดไม่ใช่ภาษาที่เราใช่ ต้องใช้สมาธิในการสวดอย่างหนัก แต่ไม่มีสักครั้งที่จะละเลย เพราะการสวดสอนให้เรามีสติ และฝึกความอดทนได้ดี ถามว่าทุกวันนี้เราสวดคล่องปรื๋อแล้ว
เมื่อสัปดาห์ก่อน ( 13-14 ก.ค.) เราเริ่มเข้าหาวัดมากขึ้น....ด้วยการเข้าไปปฏิบัติธรรมบวชชีพราหมณ์ครั้งแรกในชีวิต และเราก็ไปเพียงคนเดียว หาเพื่อนทางธรรมกันในวัด
เราเริ่มเดินทางไปวัดพิชัยญาติการามวรวิหาร แถวคลองสานแต่เช้ามืด โดยเพื่อนคนเดิมอาสาพาไปส่ง ไปถึงวัดประมาณหกโมงเช้าเพื่อลงทะเบียน แต่กว่าจะทำวัตรเช้าจริงๆ ก็ประมาณ 7.45 น. แต่เราถือว่าไม่เสียหาย ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ ^^
ภาพบรรยากาศภายในวัดพิชัยญาติการาม
(ขออภัยภาพน้อยเพราะไม่มีเวลาถ่าย)
การไปปฏิบัติธรรมไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถามว่าสบายไหม หากหมายถึงความสบายกายคงไม่สามารถเทียบเท่ากับการอยู่บ้านดูทีวีเป็นแน่ แต่เป็นความสบายใจเสียมากกว่า และทำให้เราเรียนรู้อะไรได้อีกเยอะ
การนั่งวิปัสสนา เดินจงกรมครั้งแรก แสนจะเมื่อยสำหรับคนไม่เคยทำ ดุกดิกตลอด ปวดเมื่อยร่างกาย และสัปหงก ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะเบื่อ ด้วยนิสัยเราเป็นคนไม่ค่อยมีสมาธิ นิ่งแล้วเบื่อและก็จะง่วง แต่เราเชื่อว่าหากเราทำอย่างสม่ำเสมอคงจะช่วยให้เรานิ่งมากขึ้น
ทุกวันนี้ เราหันเข้าหาธรรมะ และเริ่มสนใจหลักคำสอนมากขึ้น แม้จะเพิ่งเรียนรู้เพียงไม่นาน แต่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยไม่รู้ตัว จนมีคนใกล้ชิดเข้ามาทักจึงทำให้เรารู้ว่าเราเปลี่ยนไปจริงๆ และเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น....
ศาสนาเป็นสิ่งดี แต่แปลกที่คนไม่ค่อยสนใจ อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเราบริหารเวลายังไงเท่านั้นเอง การเข้าหาธรรมะไม่ได้ใช้เวลา แต่ใช้ใจว่าเราเปิดรับมากแค่ไหน อยากให้เพื่อนๆลองดู...และอาจจะทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ก็ได้ เชื่อเราเหอะ