ไปปฏิบัติธรรม9คืน10วันกลับมา รู้สึกเบื่อๆโลก อ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไร ทำยังไงดีครับ

เนื่องจากผมไปปฏิบัติธรรม 9 คืน 10 วัน กลับมา รู้สึกเบื่อๆมากเลยครับ จนตั้งแต่กลับมา วันที่20/11/57 กลับมาถึงบ้านก็รุสึกอ่อนเพลีย หลับตั้งแต่ เที่ยงคืนถึงบ่าย 2 มา 2 วันติด จากที่ก่อนหน้า เคยสวดมนต์ทุกวัน พอกลับสวดมนต์น้อยลงมากเลย รุ้สึกง่วง มันเกิดอะไรขึ้นครับ ควรแก้ไขยังไงดีครับ

*หมายเหตุ1. :สิ่งที่ทำระหว่างปฏิบัติธรรมในแต่ละวันนะครับ
         - ตื่นตี4กว่า อาบน้ำ แต่งตัว
          - ตี5 ทำวัตรเช้า
          - 6.00น. ใส่บาตร
          - 6.30น. ไปช่วยวัดแยกอาหาร ที่ใส่บาตร + กวาดลานวัด
          - 8.00น. ถวาย/ประเคนภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ (ในที่นี่ ก็รอพระตักอาหารเสร็จก็ขนเข้าครัวของวัดด้วย)
          - 8.30 น. กินข้าวเช้า
          - 9.00 น. ช่วยทางวัดทำความสะอาดนู่นนี่นั่น
          - 11.00 น. กินข้าวกลางวัน
          - 12.00 น. ช่วยกิจกรรมทางวัด
          - 13.00 น. ฟังธรรม
          - 15.30 น. ไปปัดกวาดเช็ดถูลานวัด
          - 17.00 น. ปัดกวาดเช็ดถูทางวัด
          - 18.00 น. อาบน้ำ
          -  19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น
          - 22.15 น. เข้านอน
หมายเหตุ2.: กิจกรรมที่ทำใน วัดในที่นี้คือ
                  1.กวาดถนนที่พระจะบิณฑบาตร ในตอนเช้า อยู่ 1 ครั้ง
                  2.ล้างห้องน้ำ(ในที่นี้ คือห้องอาบน้ำด้วย) อยู่ 1 ครั้ง
                  3.รวมเงินกับเพื่อนที่รู้จักกันตอนปฏิบัติธรรม ซื้อก็อกน้ำ เพื่อเปลี่ยนก็อกน้ำในเรือนนอนสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมใหม่ (เนื่องจากเสีย)
                  4.รวมเงินกับเพื่อนที่รู้จักกันตอนปฏิบัติธรรม ซื้อสปอนเซอร์ เพื่อถวายพระเป็นน้ำปานะ ในขณะทำวัตรเย็น
                  5.เช็ดพระพุทธรูป ประมาณ เกือบ 10 องค์
                  6.ทางวัดจะมีสหกรณ์ ก็ไปช่วยสหกรณ์จัดของ
                  7.เก็บขยะในวัด
                  8.คอยถวายน้ำปานะ ที่มาร่วมทำวัตร เป็นระยะเวลา 3 วัน

หรือที่ผมเหนื่อยมากๆ อาจจะเป็นเพราะจากกิจกรรมที่ผมทำตามที่ยกตัวอย่างข้างต้นแบบนี้ครับ แล้วตามความเข้าใจของผมบางทีการปฏิบัติธรรมคือไปแต่สวดมนต์ นั่งสมาธิอย่างเดียว แต่ผมไปปฏิบัติแบบนี้ ถือว่าชดเชยกันได้หรือป่าวครับ แล้วได้บุญจากการที่ได้ปฏิบัติธรรมในครั้งนี้หรือป่าวครับ พอๆกันหรือป่าวครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ปรับตัวไม่ทันคับ  อันนี้ผมเคยเป็น  จะเล่าประสบการณ์ผมเองนะคับ
ผมไปปฏิบัติธรรมบนเขามา 1เดือนสถานที่สัปปายะ เงียบสงบมาก  
ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย  การปฏิบัติก้าวหน้าขึ้น(จิตไม่ฟุ้งซ่าน  เข้าสู่สมาธิเร็วขึ้น)
ทีนี้พอครบ1เดือนกลับออกมา แค่ขับรถเข้าถึงชานเมืองก็อยากเลี้ยวรถกลับไปขึ้นเขา
เพราะมาเจอความวุ่นวายของสังคมเมือง  ทำให้จิตใจที่สงบมาตลอดเกิดอาการ  ร้อนรนกระสับกระส่ายคิดแต่จะกลับไปปฏิบัติธรรมบนเขา
พอกลับมาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร  ไม่อยากไปเจอใคร  อยากอยู่แต่ในบ้านแบบสงบๆ แต่ก็ไม่ค่อยสงบ  จากที่เคยสวดมนต์ภาวนาทุกวันก็เริ่มห่างๆเพราะมันไม่สงบไม่มีกะจิตกะใจจะทำ  ทีนี้ช่วงเวลาเดียวที่จิตได้พักตัวคือตอนหลับเลยทำให้นอนมากขึ้น  ไม่อยากตื่นมาเจอความวุ่นวาย  ผมเลยกลับขึ้นเขาไปอีกครั้งเพื่อให้จิตมันสงบแล้วพิจารณาว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเป็นแบบนี้   และไปขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์จนได้ข้อสรุปว่า
1.ที่จิตผมร้อนรนไม่สงบนั้นเพราะช่วงเวลาที่อยู่บนเขาจิตมันได้พักตัวตลอดไม่มีอะไรมากระทบให้วุ่นวายสิ่งรอบตัวเป็นกระแสร์เย็นตลอดเวลา  พอมาอยู่ในเมืองกระแสร์สังคมมันร้อน  จิตเลยดิ้นรนหาความสงบ  จิตมันเลยหาทางออกด้วยการนอน
2.ที่ความเพียรลดลงเพราะจิตมันดิ้นรนวุ่นวายเลยไม่อยากจะสวดมนต์ภาวนา  หรือฝืนภาวนาก็ไม่สงบก็เลยเลิก
3.ที่จิตเป็นแบบนี้เพราะอินทรีย์ยังอ่อน ไม่มีกำลังต้านทานอารมณ์ภายนอก จิตเลยไหวไปกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่มากระทบ พูดง่ายๆคือจิตมันไม่มีภูมิต้านทานมันเลยเป็นแบบนี้
   ครูบาอาจารย์ท่านเลยให้อุบายเป็นแนวทางมา
1.ภาวนาให้จิตได้พักสงบตัวให้ได้มันจะได้ไม่ดิ้นรนเวลาอยู่ในเมือง  อย่าให้จิตหลงไปกับการนอน  แรกๆมันก็ต้องฝืนต้องข่มกันไปก่อน  แต่ต้องทำให้ได้ทุกวันจิตจะเริ่มมีภูมิต้านทานสิ่งที่มากระทบขณะภาวนา
2.ตั้งสัจจาธิษฐานในการภาวนาจิตใจจะได้ตั้งมั่น  ความเพียรจะได้ไม่ถดถอย ที่ผมตั้งสัจจาธิษฐานไว้ต่อหน้าครูบาอาจารย์คือ"ทุกวันก่อนจะนอนต้องสวดมนต์ภาวนาก่อน  ถ้าวันไหนไม่ทำขอให้มีสิ่งมารบกวนจนไม่เป็นอันหลับอันนอน"

ผลหลังจากนั้นคือจิตเริ่มชินกับสิ่งที่มากระทบและไม่เก็บมาเป็นอารมณ์  และดีขึ้นตามลำดับเพราะจิตมันรู้ว่ามันจะได้พักสงบตัวมันต้องภาวนาเท่านั้นมันเลยไม่สนอารมณ์ภายนอก
ทุกวันนี้หมาแมวกัดกัน  ข้างบ้านทะเลาะกันก็ภาวนาจิตสงบได้ไม่มีปัญหา  ออกไปข้างนอกก็ดึงสติไว้กับตัวได้ตลอดไม่ไหลไปกับกระแสร์สังคมแต่บางครั้งก็มีวุานวายบ้างเวลาเจอสิ่งกระทบเยอะๆ  แต่ก็กลับมาเป็นปกติเวลาภาวนาไม่มีการเก็บมาเป็นอารมณ์  และความเพียรก็ไม่ลดเพราะมีสัจจาธิษฐานดักไว้ทำให้การปฏิบัติก้าวหน้าขึ้นได้แม้จะอยู่ในสังคมที่วุ่นวาย
ผมเคยลองไม่ภาวนาก่อนนอนอยู่3ครั้ง ครั้งแรกฝันเห็นผู้หญิงชุดขาว5คนไล่ตี  ครั้งที่2ฝันเห็นพญานาคไล่ตามหลังและมีอีก2ตนดักหน้าไว้ ครั้งที่3 ฝันเห็นผู้หญิงมาแกล้งดึงขาลงไปในน้ำ  ผมต้องสะดุ้งตื่นมาสวดมนต์ภาวนากลางดึกทั้ง3ครั้ง  ทุกวันนี้เลยเลิกลองแล้ว  เวลากลับไปหาครูบาอาจารย์ท่านก็จะตรวจดูวาระจิตแล้วให้อุบายแนวทางที่ถูกต้องมาเสมอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่