ขอพื้นที่ระบายเรื่องลูกอกตัญญูค่ะ

เราเคยตั้งกระทู้บ่นเรื่องแม่แฟนเก่ามาหลายกระทู้ด้วยความรู้สึกอึดอัดแล้วค่ะ แต่ว่าวันนี้เราอยากจะตั้งกระทู้ระบายถึงบรรดาคนที่เป็นลูกๆ ของเขาค่ะ

สืบเนื่องจากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/30686457  ที่เราพาแม่แฟนเก่าไปโรงพยาบาล และขอประวัติมาเพื่อส่งไปรักษาต่อพิษณุโลกบ้านของลูกสาว ใจหนึ่งเราก็คิดว่าดีแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเราอีกต่อไป ยังไงการอยู่ใกล้ลูกใกล้หลานย่อมจะดีกว่า

เขาโทรบอกเราว่านัดให้ลูกเขยมารับวันที่ 8 หรือ 9 ก.ค.นี่แหละค่ะ พอถึงวันนัด คุณแม่เธอก็โทรมาหาเราตั้งแต่ 8 โมง บอกว่าลูกเขยไม่โทรมามั่ง  ลูกเขยไม่รับสายบ้าง จนสายๆ โทรมาบอกเราว่าลูกเขยจะไปธุระที่เพชรบุรีก่อน จะแวะมารับวันศุกร์ (12 ก.ค.) ช่วงนี้แกโทรหาเราทุกวัน จนไม่ต้องทำงานทำการมันละ

พอถึงวันศุกร์ก็เหมือนเดิมโทรหาเราตั้งแต่ 8 โมงเช้า บ่นว่าลูกเขยไม่รับสาย เราก็บอกไปว่าเขาอาจจะติดธุระ เดี๋ยวเขาก็โทรกลับมาเองแหละ นี่มันเพิ่งจะ 8 โมงเอง จากนั้นตอนสายๆๆ ก็โทรกลับมาหาเราอีก บอกว่าลูกเขยเพิ่งจะโทรกลับมา ตอนนี้อยู่พิษณุโลกแล้วเพิ่งกลับถึงบ้าน พอดีกลับอีกทางเลยไม่ได้แวะมารับ  เราฟังแล้วก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ

พอตอนบ่ายๆ โทรกลับมาหาเราอีก โทรมันทั้งวัน จนเราไม่ต้องทำงานทำการ เล่าให้เราฟังว่า ลูกเขยบอกว่าลูกสาวจะจัดการเรื่องนี้เอง ให้แม่โทรไปคุยกับลูกสาว เราก็บอกว่าที่ลูกเขยเค้าพูดมันก็ถูก แม่กับเค้าเป็นแม่ลูกกันน่าจะคุยกันโดยตรงมากกว่าคุยผ่านลูกเขยซึ่งเป็นคนกลาง ลูกเขยมันก็เป็นคนนอกเหมือนกับเรานี่แหละ คุณแม่เขาก็บอกว่า ไม่มีเบอร์ลูกสาว  เราก็ร้องเลย  “อ้าว ก็ที่เคยจดเอาไว้ให้ในสมุดเล่มเล็กๆ นั่นไง ไปเปิดดูสิ”

สักพักน่าจะสัก 10 นาที ก็โทรกลับมาหาเราอีก บอกว่าลูกสาวไม่ยอมรับสาย เราก็เริ่มโมโหแล้ว จะอะไรกับเรานักหนาอ่ะ ลูกเขยไม่รับก็โทรมา ลูกสาวไม่รับสายก็โทรมา เราจะเสกให้พวกเขารับได้หรือไง เราก็เลยขอเบอร์ลูกสาวกับลูกเขยของเขามา

เราโทรเข้าเบอร์ลูกสาวของเขา....ไม่รับสายค่ะ ก็เลยโทรเข้าเบอร์ลูกเขย ได้คุยกับลูกเขยของเขา ซึ่งเราพอสรุปใจความจากที่พี่เขาเล่าให้เราฟังได้ว่า ตัวเขาโดนเมียด่าที่เข้ามายุ่งเรื่องของแม่ลูก เพราะทุกครั้งเวลามีอะไรคุณแม่จะโทรหาลูกเขย ไม่เคยโทรหาลูกสาว ลูกเขยก็จะจัดการให้หมดเลย บ่อยครั้งเข้าลูกสาวก็เริ่มไม่พอใจอาจจะด้วยสาเหตุว่าแม่มองไม่เห็นหัวตัวเอง หรือไม่ก็สามีทำข้ามหน้าข้ามตา ครั้งนี้ลูกเขยก็เลยไม่กล้ามารับเพราะกลัวเมียด่า ได้แต่บอกแม่ยายว่าลูกสาวจะจัดการเอง

เราก็เลยพยายามอย่างมากให้แกโทรไปหาลูกสาว งัดสารพัดเหตุผลมาบอกว่านับวันแกก็จะยิ่งแก่ลงๆ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ก็ลืมๆ มันซะบ้าง ตอนนี้ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ถ้าอีกหน่อยแม่แก่ลงไปมากกว่านี้จะทำยังไง ถึงยังไงมีลูกหลานอยู่ใกล้ตัวก็ยังดีกว่า เราพูดจนแกยอมลดทิฐิยอมบอกว่าจะโทรไปคุยลูกสาว

พอเช้าวันถัดมาก็เหมือนเดิม โทรมาบ่นว่าลูกสาวไม่รับสาย ลูกเขยไม่รับสาย เราก็บอกว่าลองเว้นช่วงแล้วให้โทรไปใหม่ เราก็ไม่รู้ว่าแกโทรไปจริงหรือเปล่า แต่สรุปว่าแกบอกว่าไม่ว่าจะโทรกี่ครั้ง เบอร์บ้าน หรือเบอร์มือถือ ยังไงลูกสาวก็ไม่รับสาย

เราก็นึกในใจว่า เฮ้ย..นี่มันแม่ลูกประเภทไหน อีลูกนี่มันคิดว่ามันออกจากกระบอกไม้ไผ่เหรอ แม่อายุ 70 แล้ว กำลังป่วยจะตายวันตายพรุ่งแล้ว มันก็ไม่คิดจะดูแลแม่เลยใช่มั้ย เรารู้ว่าแม่เขาก็ไม่ใช่ดีเด่อะไร แต่ด้วยหน้าที่ความเป็นลูกทำอย่างนี้เกินไปมั้ย

ลูกชายก็ไม่ต่างกัน ตอนนี้อายุน่าจะปาไป 50 กว่าแล้ว เป็นนายทหารยศพันตรี-พันโท ทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิก็ไม่ใช่น้อย น่าจะมีความคิดที่ดีกว่านี้ ไม่เคยคิดจะเลี้ยงดูแม่ในวัยชราบ้างเลยเหรอ  นรกจะกินกบาลมันทั้งคู่

หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจ และแนะนำให้เราตัดๆ แกไปให้พ้นชีวิต เพราะเลิกกับลูกชายแล้วก็ถือว่าเป็นคนอื่นไปแล้ว เรารู้เหตุผลข้อนี้ดีค่ะ ใช่ว่าเราจะไม่อยากตีตัวออกห่าง เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่เอากระดูกมาแขวนคอ เรารู้ซึ้งคำนี้ดีกว่าใคร แต่พอตกอยู่ใสสถานะนี้ เราว่าใครๆ ก็ทิ้งคนแก่คนหนึ่งไม่ลงหรอกค่ะ ยกเว้นใจดำเป็นอีกาเหมือนอีพวกลูกๆ ทั้งสอง เรารู้สึกว่า ถ้าไม่มีเราแกอาจจะตายไปแล้วก็ได้

เมื่อวานเราก็พาแกไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ พาไปกินอาหารญี่ปุ่นที่ฟูจิ ระหว่างกินแกก็มีน้ำตาคลอเป็นช่วงๆ แต่เราก็สังเกตเห็นได้ว่าอย่างน้อยแกก็ยังได้ยิ้มแย้มบ้าง

ขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านและให้พื้นที่เราได้ระบายนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่