แรงกระเพื่อม "ข้าวปนเปื้อน" วิกฤตเชื่อมั่นผู้บริโภค
(ที่มา:มติชนรายวัน 12 ก.ค.2556)
กระแสการโพสต์ข้อความส่งต่อกันบนสังคมออนไลน์ ตั้งข้อสังเกตในประเด็นข้าวบรรจุถุงที่จำหน่าย
ในท้องตลาดมีสารพิษตกค้าง รวมถึงกรณีนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการ "คนค้นคน" และ
ผู้บริหารบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กซึ่งมีเนื้อหาลักษณะเดียวกัน แม้ยัง
ไม่มีผลพิสูจน์เป็นที่แน่ชัด แต่ก็ได้ก่อให้เกิดการตื่นตระหนกแก่ผู้บริโภค และส่ง
ผลกระทบต่อตลาดข้าวของไทยแง่ความเชื่อถือด้านความปลอดภัยจากคู่ค้า จากนี้เป็นความเห็นจากฝ่าย
ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ
กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด
ผู้ผลิตรายการ "คนค้นคน"
ข้อความที่ได้โพสต์ไป มีการโพสต์ส่งต่อกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์กมาระยะหนึ่งแล้ว ผมเพียงก๊อบปี้และ
โพสต์ตามเท่านั้น และทำไปโดยเจตนาบริสุทธิ์ ด้วยกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงอยาก
ให้รู้เท่าทันข้อมูล แต่ไม่ได้คิดให้เชื่อ เพราะผมเองก็เห็นว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบ
การข้าวสารที่ถูกอ้างถึง พร้อมกันนั้นก็อยากสื่อสารถึงผู้ประกอบการดังกล่าวว่ากำลังมีข่าวในลักษณะนี้
อย่างไรก็ดี การโพสต์ดังกล่าวผมทำผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งระหว่างแก้ไขคำผิด นิ้วเกิดไปโดนปุ่มโพสต์
แล้วข้อความก็ถูกส่งไป ทั้งๆ ที่ยังเขียนข้อความไม่หมด ซึ่งรวมถึงเรื่องเจตนาในการโพสต์ ทำให้รู้สึก
ไม่สบายใจ แม้จะรีบลบข้อความอย่างเร็วที่สุดแล้ว แต่ปรากฏว่ามีคนนำสิ่งที่โพสต์ไปขยายผล ทั้งตัดทอน
และต่อเติมความเห็น เป็นผลให้เจตนารมณ์ของผมถูกเบี่ยงเบน โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ขอ
ยืนยันว่าเรื่องนี้ผมไม่มีเจตนาเกี่ยวกับการเมืองหรือดิสเครดิตผู้ประกอบการใดเลย
ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วผมก็เป็นเหยื่อของสิ่งที่ผมกระทำเอง ความตั้งใจโดยบริสุทธิ์ใจของผมมาจากวิธีคิด
แบบพุทธศาสนา ว่าไม่ว่าใครก็ตามต่างเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเราไม่ควรเบียดเบียนกัน ผมไม่
ต้องการให้เกิดการเบียดเบียนครั้งใหญ่เกิดขึ้น แต่ก็คิดว่าผมต้องรับผิดชอบในความไม่รู้ ในการลุกลาม
บานปลายขนาดนี้ ผมมีความไม่สบายใจอย่างยิ่ง หลังจากนี้จะไปขอพบกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและ
เกิดความเสียหาย เพื่อชี้แจงให้เข้าใจถึงเจตนา
สิ่งที่ผมเตรียมได้มากที่สุดคือเตรียมใจตัวเอง ให้เข้าใจกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทำได้เท่านั้น หากมีโอกาส
ได้คุยกันเชื่อว่าผู้ประกอบการเหล่านั้นน่าจะเข้าใจเจตนาของผม
ถึงตอนนี้ผมพร้อมมากกว่าขอโทษอีก ผมมีความบริสุทธิ์ใจ ผมเองทำงานในวงการสื่อมานาน รู้ว่าสิ่ง
ไหนควรระวัง ไม่ควรระวัง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นอุบัติเหตุจริงๆ
ดํารง จิระสุทัศน์
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
แม้ขณะนี้ยังต้องรอผลการพิสูจน์สารตกค้างในข้าวจากโรงสีที่เป็นข่าวทั้ง 3 แห่งในภาคอีสาน โดยคาดว่า
จะได้ผลสรุปในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ แต่ยืนยันว่าข้าวของไทยไม่มีสารตกค้างแน่นอน ขอใช้ตำแหน่ง
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นประกัน ส่วนการนำเข้าสารเบื่อหนู จัดอยู่ในสารหนู (arsenic) เป็นสารต้องห้าม
ที่กรมวิชาการเกษตรห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาด หรือกรณีสารที่เป็นอันตราย กรมวิชาการเกษตรจะบังคับให้
ใส่กลิ่นฉุนลงไปในสารด้วย หากพบการรั่วไหลจะได้ตรวจสอบได้
ขอฝากเตือนไปยังผู้แชร์ข้อมูลในสังคมออนไลน์ว่า เรื่องข้าวเป็นเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ เพราะข้าวถือ
เป็นสินค้าที่ส่งออกหลักของประเทศ ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของ
ข้าวมายาวนาน โดยเฉพาะข้าวในภาคอีสานและข้าวหอมมะลิที่ตลาดโลกมีความต้องการมากที่สุด ทำให้
ขายได้ราคาดีกว่าข้าวชนิดอื่นๆ
การที่มีกระแสข่าวและการแชร์ข้อมูลผิดๆ ทำให้ผู้บริโภคข้าวเกิดความเข้าใจผิดและตื่นตระหนก หากเป็น
ผู้บริโภคข้าวในประเทศหน่วยงานต่างๆ ก็จะช่วยชี้แจงข้อมูลและทำความเข้าใจได้ในเวลารวดเร็ว แต่หาก
ประเทศคู่ค้าข้าวรับข้อมูลและไม่มั่นใจในคุณภาพของข้าวไทย การส่งออกและเศรษฐกิจของประเทศจะเป็น
ปัญหา กว่าจะกอบกู้หรือสร้างความเชื่อมั่นคืนมาก็คงใช้เวลานาน
เพราะก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าประเทศสหรัฐอเมริกาสกัดข้าวไทย ก็ทำให้ประเทศได้รับผลกระทบไปครั้งหนึ่งแล้ว
จึงขอวิงวอนให้เห็นใจชาวนา และขอให้มั่นใจว่าหน่วยงานของภาครัฐมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าว
อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
และขอให้ความมั่นใจว่าสารที่ใช้ในการรมข้าวเพื่อกำจัดแมลงและมอด ในประเทศไทยจะใช้สาร 2 ชนิดคือ
เมทิลโบรไมด์ใช้การระเหยตัวในอากาศของก๊าซ จะต่อท่อสู่กองข้าวสารโดยกองข้าวสารจะต้องห่อหุ้มด้วย
พลาสติกบางไม่เป็นตาข่าย และจะระเหยออกจากข้าวทันทีที่เปิดพลาสติกออก และสารฟอสฟีนใช้การระเหย
จากด้านบนสู่ด้านล่าง ภายหลังจากการรมจะใช้ระยะเวลาการถ่ายเทก๊าซ 12 ชั่วโมง
สินค้าที่ผ่านการรมแล้ว กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับผู้ควบคุมการรมยา เก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบปริมาณ
สารตกค้าง ซึ่งจะต้องไม่มีหรือมีก็ต้องน้อยกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
(โคเดกซ์) กำหนด คือ เมทิลโบรไมด์อนุญาตให้ตกค้างได้ 5 มิลลิกรัมต่อหนึ่งกิโลกรัม (พีพีเอ็ม) ฟอสฟีน
อนุญาตให้ตกค้างได้ 0.1 พีพีเอ็ม ซึ่งต่ำกว่าปริมาณที่คนสูดดมแล้วเสียชีวิตมาก สารทั้งสองชนิดหากยัง
ปนเปื้อนอยู่ในข้าวจริงๆ เพียงแค่ 0.5 พีพีเอ็ม ก็จะเป็นระดับที่คนสามารถรับกลิ่นได้ แค่การเปิดปากถุงข้าว
ก็จะได้กลิ่นของสารแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสารทั้งสองชนิดถูกควบคุมตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ดังนั้น ผู้ที่ครอบครอง
และใช้สารรมจะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด เช่นต้องเป็นผู้ที่นำมารมแมลง
ในโรงเก็บเท่านั้น ต้องมีใบอนุญาตการรมจากกรมวิชาการเกษตร และต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการรม
ได้รับใบประกาศเป็นผู้ควบคุมการใช้รับจ้างรมยากำจัดแมลงศัตรูผลิตผลเกษตร ซึ่งใบประกาศมีอายุการใช้
งาน 5 ปี เมื่อครบกำหนดต้องมาเข้ารับการอบรมใหม่
สุเมธ เหล่าโมราพร
ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ซีพี
ผู้ผลิตข้าวถุงตราฉัตร
กรณี นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการบริษัททีวีบูรพา และพิธีกรรายการคนค้นคน โพสต์ข้อความ
ลงในเฟซบุ๊กได้พาดพิงถึงข้าวตราฉัตรว่า ข้าวตราฉัตรไม่ปลอดภัยและมีอันตรายต่อผู้บริโภค จนมีผู้แชร์ข้อ
ความดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียเป็นวงกว้าง ได้สร้างความเสียหายต่อข้าวตราฉัตรและภาพลักษณ์ของข้าวไทย
จึงได้ติดต่อกลับไปยังนายสุทธิพงษ์ทั้งแบบจดหมายปิดผนึก และติดต่อโดยตรง แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือ
ชี้แจงใดๆ ฝ่ายกฎหมายของซีพีจึงได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 2 ข้อหา คือ การหมิ่นประมาท และการ
กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สำหรับคนที่แชร์ต่อไปนั้นต้องมองที่เจตนา จะยังไม่ดำเนินการใดต่อ
ผู้ที่แชร์ข้อมูล
ยืนยันว่าไม่ได้มีอคติต่อนายสุทธิพงษ์แต่อย่างใด และไม่มีเรื่องของการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่ที่ต้องแจ้งความ
ก็เพื่อเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ของข้าวไทย
ข่าวข้าวไทยไม่มีคุณภาพและไม่มีความปลอดภัยนั้น ทำให้คู่ค้าต่างประเทศหลายรายโทร.ถามในเรื่องนี้
มันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในข้าวไทยของชาวต่างชาติ เราจำเป็นต้องเรียกความเชื่อมั่นในคุณภาพ
และมาตรฐานของข้าวไทยกลับมา ข่าวนี้ทำลายศักดิ์ศรีของข้าวตราฉัตรและข้าวไทย จึงต้องเรียกร้องความ
เป็นธรรม หากผู้ใดมีข้อสงสัยสามารถมาตรวจสอบหรือเยี่ยมชมโรงงานที่นครหลวงได้ เพราะเปิดรับตลอดเวลา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373628024&grpid=&catid=02&subcatid=0202
น่าจะเป็นทางออก...ที่ดีที่สุด สำหรับ "เช็ค" ในการทำรายการ พิเศษ เจาะเรื่อง "ข้าวปนเปื้อน"
สำหรับ ข้าวทุก แบรนด์ ที่ "เช็ค" นำมาอ้างอิง โรงงานพร้อ แล้ว "เช็ค" ล่ะ พร้อมไหม ?
ว่าแต่ จะกล้าไหม ที่จะทำรายการเรื่องนี้ แค่ตามไปขอโทษ ทุกๆ บริษัทไม่น่าจะเพียงพอนะ
เวลาโพสต์ ออกโซเชียลมีเดียร์ ตอนไปขอโทษ ปิดประตู คุยบกัย วุ๊ย ....น่า....ราาาาาก
"กบนอกกะลา"...."ข้าวปนเปื้อน มีจริงไหม ? " ทีวีบูรพา จะกล้าหรือเปล่า..สกู๊ปเรื่องนี้ ? อ้อ แบรนด
(ที่มา:มติชนรายวัน 12 ก.ค.2556)
กระแสการโพสต์ข้อความส่งต่อกันบนสังคมออนไลน์ ตั้งข้อสังเกตในประเด็นข้าวบรรจุถุงที่จำหน่าย
ในท้องตลาดมีสารพิษตกค้าง รวมถึงกรณีนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการ "คนค้นคน" และ
ผู้บริหารบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กซึ่งมีเนื้อหาลักษณะเดียวกัน แม้ยัง
ไม่มีผลพิสูจน์เป็นที่แน่ชัด แต่ก็ได้ก่อให้เกิดการตื่นตระหนกแก่ผู้บริโภค และส่ง
ผลกระทบต่อตลาดข้าวของไทยแง่ความเชื่อถือด้านความปลอดภัยจากคู่ค้า จากนี้เป็นความเห็นจากฝ่าย
ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ
กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด
ผู้ผลิตรายการ "คนค้นคน"
ข้อความที่ได้โพสต์ไป มีการโพสต์ส่งต่อกันทางโซเชียลเน็ตเวิร์กมาระยะหนึ่งแล้ว ผมเพียงก๊อบปี้และ
โพสต์ตามเท่านั้น และทำไปโดยเจตนาบริสุทธิ์ ด้วยกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงอยาก
ให้รู้เท่าทันข้อมูล แต่ไม่ได้คิดให้เชื่อ เพราะผมเองก็เห็นว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบ
การข้าวสารที่ถูกอ้างถึง พร้อมกันนั้นก็อยากสื่อสารถึงผู้ประกอบการดังกล่าวว่ากำลังมีข่าวในลักษณะนี้
อย่างไรก็ดี การโพสต์ดังกล่าวผมทำผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งระหว่างแก้ไขคำผิด นิ้วเกิดไปโดนปุ่มโพสต์
แล้วข้อความก็ถูกส่งไป ทั้งๆ ที่ยังเขียนข้อความไม่หมด ซึ่งรวมถึงเรื่องเจตนาในการโพสต์ ทำให้รู้สึก
ไม่สบายใจ แม้จะรีบลบข้อความอย่างเร็วที่สุดแล้ว แต่ปรากฏว่ามีคนนำสิ่งที่โพสต์ไปขยายผล ทั้งตัดทอน
และต่อเติมความเห็น เป็นผลให้เจตนารมณ์ของผมถูกเบี่ยงเบน โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ขอ
ยืนยันว่าเรื่องนี้ผมไม่มีเจตนาเกี่ยวกับการเมืองหรือดิสเครดิตผู้ประกอบการใดเลย
ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วผมก็เป็นเหยื่อของสิ่งที่ผมกระทำเอง ความตั้งใจโดยบริสุทธิ์ใจของผมมาจากวิธีคิด
แบบพุทธศาสนา ว่าไม่ว่าใครก็ตามต่างเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเราไม่ควรเบียดเบียนกัน ผมไม่
ต้องการให้เกิดการเบียดเบียนครั้งใหญ่เกิดขึ้น แต่ก็คิดว่าผมต้องรับผิดชอบในความไม่รู้ ในการลุกลาม
บานปลายขนาดนี้ ผมมีความไม่สบายใจอย่างยิ่ง หลังจากนี้จะไปขอพบกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและ
เกิดความเสียหาย เพื่อชี้แจงให้เข้าใจถึงเจตนา
สิ่งที่ผมเตรียมได้มากที่สุดคือเตรียมใจตัวเอง ให้เข้าใจกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทำได้เท่านั้น หากมีโอกาส
ได้คุยกันเชื่อว่าผู้ประกอบการเหล่านั้นน่าจะเข้าใจเจตนาของผม
ถึงตอนนี้ผมพร้อมมากกว่าขอโทษอีก ผมมีความบริสุทธิ์ใจ ผมเองทำงานในวงการสื่อมานาน รู้ว่าสิ่ง
ไหนควรระวัง ไม่ควรระวัง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นอุบัติเหตุจริงๆ
ดํารง จิระสุทัศน์
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
แม้ขณะนี้ยังต้องรอผลการพิสูจน์สารตกค้างในข้าวจากโรงสีที่เป็นข่าวทั้ง 3 แห่งในภาคอีสาน โดยคาดว่า
จะได้ผลสรุปในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ แต่ยืนยันว่าข้าวของไทยไม่มีสารตกค้างแน่นอน ขอใช้ตำแหน่ง
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นประกัน ส่วนการนำเข้าสารเบื่อหนู จัดอยู่ในสารหนู (arsenic) เป็นสารต้องห้าม
ที่กรมวิชาการเกษตรห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาด หรือกรณีสารที่เป็นอันตราย กรมวิชาการเกษตรจะบังคับให้
ใส่กลิ่นฉุนลงไปในสารด้วย หากพบการรั่วไหลจะได้ตรวจสอบได้
ขอฝากเตือนไปยังผู้แชร์ข้อมูลในสังคมออนไลน์ว่า เรื่องข้าวเป็นเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ เพราะข้าวถือ
เป็นสินค้าที่ส่งออกหลักของประเทศ ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของ
ข้าวมายาวนาน โดยเฉพาะข้าวในภาคอีสานและข้าวหอมมะลิที่ตลาดโลกมีความต้องการมากที่สุด ทำให้
ขายได้ราคาดีกว่าข้าวชนิดอื่นๆ
การที่มีกระแสข่าวและการแชร์ข้อมูลผิดๆ ทำให้ผู้บริโภคข้าวเกิดความเข้าใจผิดและตื่นตระหนก หากเป็น
ผู้บริโภคข้าวในประเทศหน่วยงานต่างๆ ก็จะช่วยชี้แจงข้อมูลและทำความเข้าใจได้ในเวลารวดเร็ว แต่หาก
ประเทศคู่ค้าข้าวรับข้อมูลและไม่มั่นใจในคุณภาพของข้าวไทย การส่งออกและเศรษฐกิจของประเทศจะเป็น
ปัญหา กว่าจะกอบกู้หรือสร้างความเชื่อมั่นคืนมาก็คงใช้เวลานาน
เพราะก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าประเทศสหรัฐอเมริกาสกัดข้าวไทย ก็ทำให้ประเทศได้รับผลกระทบไปครั้งหนึ่งแล้ว
จึงขอวิงวอนให้เห็นใจชาวนา และขอให้มั่นใจว่าหน่วยงานของภาครัฐมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าว
อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
และขอให้ความมั่นใจว่าสารที่ใช้ในการรมข้าวเพื่อกำจัดแมลงและมอด ในประเทศไทยจะใช้สาร 2 ชนิดคือ
เมทิลโบรไมด์ใช้การระเหยตัวในอากาศของก๊าซ จะต่อท่อสู่กองข้าวสารโดยกองข้าวสารจะต้องห่อหุ้มด้วย
พลาสติกบางไม่เป็นตาข่าย และจะระเหยออกจากข้าวทันทีที่เปิดพลาสติกออก และสารฟอสฟีนใช้การระเหย
จากด้านบนสู่ด้านล่าง ภายหลังจากการรมจะใช้ระยะเวลาการถ่ายเทก๊าซ 12 ชั่วโมง
สินค้าที่ผ่านการรมแล้ว กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับผู้ควบคุมการรมยา เก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบปริมาณ
สารตกค้าง ซึ่งจะต้องไม่มีหรือมีก็ต้องน้อยกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
(โคเดกซ์) กำหนด คือ เมทิลโบรไมด์อนุญาตให้ตกค้างได้ 5 มิลลิกรัมต่อหนึ่งกิโลกรัม (พีพีเอ็ม) ฟอสฟีน
อนุญาตให้ตกค้างได้ 0.1 พีพีเอ็ม ซึ่งต่ำกว่าปริมาณที่คนสูดดมแล้วเสียชีวิตมาก สารทั้งสองชนิดหากยัง
ปนเปื้อนอยู่ในข้าวจริงๆ เพียงแค่ 0.5 พีพีเอ็ม ก็จะเป็นระดับที่คนสามารถรับกลิ่นได้ แค่การเปิดปากถุงข้าว
ก็จะได้กลิ่นของสารแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสารทั้งสองชนิดถูกควบคุมตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ดังนั้น ผู้ที่ครอบครอง
และใช้สารรมจะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด เช่นต้องเป็นผู้ที่นำมารมแมลง
ในโรงเก็บเท่านั้น ต้องมีใบอนุญาตการรมจากกรมวิชาการเกษตร และต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการรม
ได้รับใบประกาศเป็นผู้ควบคุมการใช้รับจ้างรมยากำจัดแมลงศัตรูผลิตผลเกษตร ซึ่งใบประกาศมีอายุการใช้
งาน 5 ปี เมื่อครบกำหนดต้องมาเข้ารับการอบรมใหม่
สุเมธ เหล่าโมราพร
ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ซีพี
ผู้ผลิตข้าวถุงตราฉัตร
กรณี นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการบริษัททีวีบูรพา และพิธีกรรายการคนค้นคน โพสต์ข้อความ
ลงในเฟซบุ๊กได้พาดพิงถึงข้าวตราฉัตรว่า ข้าวตราฉัตรไม่ปลอดภัยและมีอันตรายต่อผู้บริโภค จนมีผู้แชร์ข้อ
ความดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียเป็นวงกว้าง ได้สร้างความเสียหายต่อข้าวตราฉัตรและภาพลักษณ์ของข้าวไทย
จึงได้ติดต่อกลับไปยังนายสุทธิพงษ์ทั้งแบบจดหมายปิดผนึก และติดต่อโดยตรง แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือ
ชี้แจงใดๆ ฝ่ายกฎหมายของซีพีจึงได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 2 ข้อหา คือ การหมิ่นประมาท และการ
กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สำหรับคนที่แชร์ต่อไปนั้นต้องมองที่เจตนา จะยังไม่ดำเนินการใดต่อ
ผู้ที่แชร์ข้อมูล
ยืนยันว่าไม่ได้มีอคติต่อนายสุทธิพงษ์แต่อย่างใด และไม่มีเรื่องของการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่ที่ต้องแจ้งความ
ก็เพื่อเป็นการปกป้องภาพลักษณ์ของข้าวไทย
ข่าวข้าวไทยไม่มีคุณภาพและไม่มีความปลอดภัยนั้น ทำให้คู่ค้าต่างประเทศหลายรายโทร.ถามในเรื่องนี้
มันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในข้าวไทยของชาวต่างชาติ เราจำเป็นต้องเรียกความเชื่อมั่นในคุณภาพ
และมาตรฐานของข้าวไทยกลับมา ข่าวนี้ทำลายศักดิ์ศรีของข้าวตราฉัตรและข้าวไทย จึงต้องเรียกร้องความ
เป็นธรรม หากผู้ใดมีข้อสงสัยสามารถมาตรวจสอบหรือเยี่ยมชมโรงงานที่นครหลวงได้ เพราะเปิดรับตลอดเวลา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373628024&grpid=&catid=02&subcatid=0202
น่าจะเป็นทางออก...ที่ดีที่สุด สำหรับ "เช็ค" ในการทำรายการ พิเศษ เจาะเรื่อง "ข้าวปนเปื้อน"
สำหรับ ข้าวทุก แบรนด์ ที่ "เช็ค" นำมาอ้างอิง โรงงานพร้อ แล้ว "เช็ค" ล่ะ พร้อมไหม ?
ว่าแต่ จะกล้าไหม ที่จะทำรายการเรื่องนี้ แค่ตามไปขอโทษ ทุกๆ บริษัทไม่น่าจะเพียงพอนะ
เวลาโพสต์ ออกโซเชียลมีเดียร์ ตอนไปขอโทษ ปิดประตู คุยบกัย วุ๊ย ....น่า....ราาาาาก