แค่อาเจียน แต่กลับนอนไอซียู

เรื่องจริงที่เกือบจะเอาชีวิตน้องสาวอายุแค่ 15 ปี ของดิฉันไปตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 6 ก.ค.56  สาเหตุเกิดจากอาการอาเจียน และมีไข้ แม่และน้องสาวของดิฉันอยู่ตจว.  อาการแบบนี้เลยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะอาหารเป็นพิษ เลยไม่ได้ไปหาหมอ  แต่เห็นน้องมีไข้ตัวร้อน แม่เลยให้กินยาซาร่าไป 1 เม็ด แต่น้องกลับอาเจียนอีกรอบและเกิดทรุดไประหว่างจะเข้าห้องน้ำ เมื่อเวลาตี 3 แม่เห็นน้องอาการไม่ดีเลยพาไปหาหมอที่โรงบาลรัฐบาลแห่งหนึ่งในสัตหีบ  ***แต่ระหว่างรอหมอเวรมาตรวจ ระหว่างที่ปล่อยให้น้องนั่งรอก็มีไข้สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่หมอก็ยังไม่เรียกตรวจซะที จนเกือบชม. น้องมีอาการชักเกร็งขึ้นมาเท่านั้นแหละ แม่เลยตะโกนเรียกหมอมา พยาบาลเลยพาตัวไปนอนตัวก่อนจะไล่ให้แม่ดิฉันออกไปรอข้างนอก(คำถามคือทำไมถึงไม่อยู่ด้วย) **พยาบาลออกมาให้แม่ดิฉันไปรับยาแก้ปวด และแก้อาเจียนมาให้ เพื่อฉีดให้น้อง แม่รีบทำตามอย่างเร่งด่วน และวินาทีที่เกือบจะคร่าชีวิตน้องของดิฉันคือหลังจากฉีดยาเข้าเส้นทันที น้องเกิดช็อต **และได้มีการปั๊มหัวใจช่วยขึ้นมา 4 ครั้ง ก่อนส่งเข้าห้องไอซียู และ***หมอก็เรียกพ่อกับแม่ให้ทำใจว่าโอกาสรอดมีแค่ 40% เพราะน้องเป็นโรคหัวใจรั่ว หมอได้บอกอาการที่ร้ายแรงมากทั้งเรื่องลำไส้อาจต้องตัด เพราะเลือดไม่เลี้ยง ตับวาย ไตวาย น้ำท่วมปอด  สมองอาจไม่เหมือนเดิม  สารพัดโรคมาก  ได้ยินแบบนี้ทุกคนร้องไห้เป็นสายเลือดทันที  เพราะน้องยังเด็กไม่คิดว่าจะไปเร็ว หลังจากเข้าห้องไอซียู การรักษาก็เริ่มขึ้น มีทั้งต่อสายหัวใจ ต่อท่อปัสสาวะ ใส่เครื่องช่วยหายใจ และชีพจรก็เต้นช้าลง วันอาทิตย์พอดิฉันรู้เรื่องก็รีบพุ่งไปหาน้องที่รพ.ทันที เห็นน้องครั้งแรกบ่อน้ำตาแตกแบบหยุดไม่ได้  ฉันบอกให้น้องสู้ เข้มแข็ง อดทน  แต่ที่บอกน้องไปก็เหมือนบอกตัวเอง  เพราะต้องคอยปลอบใจแม่ด้วย  ช่วงเวลาบ่ายวันอาทิตย์ทุกคนเริ่มยิ้มออก เพราะน้องสามารถรับรู้และตอบสนองกับสิ่งที่คนพูดได้ และเขียนหนังสือบอกว่าหิวน้ำ นั้นหมายความว่าอาการไม่ร้ายแรงแล้ว  แต่แล้วคืนวันจันทร์ทุกคนร้องไห้เป็นสายเลือดอีก  เพราะการสอดท่อปัสสาวะเข้าไป  ทำให้เส้นเลือดแดงอุดตัน(ไม่แน่ใจเรียกถูกป่าว) หมอเจ้าของไข้รีบเรียกพ่อแม่มาคุยทันทีว่า อาจจะต้องตัดขา (เฮ้ยย..ไม่นะ มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอวะ)  แต่ทุกคนไม่ยินยอม  ยังไงก็ไม่ยอมให้ตัดขาน้องฉันแน่ๆ  และเมื่อหมอศัลยมาตรวจดูอาการ จับเอ็กซ์เรย์  ซึ่งหมอที่บอกว่าต้องตัดขายังไม่ได้ทำเลย กลับบอกว่ามีอีกวิธีคือฉีดยาละลายลิ่มเลือด  แต่อาจเสี่ยง ณ ตอนนั้นอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องตัดขาทุกคนในบ้านยอมหมด(คำถามหมอเจ้าของไข้ทำไมถึงด่วนสรุปว่าต้องตัดขาวะ)  วันอังคารหมอประจำแต่โรคเข้ามาดูอาการทั้งหัวใจ ตับ ไต ไส้  ปอด และขา อันดับแรกหัวใจน้องปกติ สมองปกติ  ส่วนตับและไตวายฉับพลัน เพราะน็อคไปก็รักษาจนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ (สงสัยคือทำไมวันแรกหมอถึงบอกว่าน้องเป็นหัวใจรั่ว) แต่ที่น่าห่วงคือขาตั้งแต่หัวเข่าลงไปยังแข็งบวมขยับไม่ได้ ไม่มีความรู้สึก คือเรื่องการรักษาเราก็ไม่รู้ว่าสเต็ปต่อไปของการรักษาคืออะไรยังไง เราก็รอดูอาการตามที่หมอบอก ด้วยความเป็นห่วงน้องเลยอยากย้ายน้องมารักษาในกรุงเทพ  ที่รพ.รามา  แต่รีเฟอร์ไม่ได้  เพราะไม่มีเตียง  เหตุที่อยากย้ายมารักษาที่รพ.นี้ เพราะน้องเบิกได้หมด   สุดท้ายน้องเราก็ต้องรักษาที่รพ.เดิม  ส่วนเราก็ได้แต่ภาวนาให้น้องอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และกลับมาเดินได้ปกติ  แต่ที่ไม่เข้าใจคืออาการตอนแรกที่หมอบอกมาทำไมมันร้ายร้างขนาดนั้น ใครรู้ช่วยบอกทีคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่