ความเข้าใจที่ผิดเรื่องพระพุทธเจ้าไม่ทรงพยากรณ์สัตว์ตายแล้วเกิดไม่เกิด...

มักมีบางพวกบางกลุ่ม อ้างคำกล่าวของพระพุทธองค์บางส่วนบางประโยค จาก โปฏฐปาทสูตร
เพื่อชี้นำผู้อ่านให้เข้าใจคล้อยตามอุจเฉททิฏฐิของตนว่า
พระพุทธเจ้าไม่ตอบเรียกว่า อัพยากฤตปัญหา เช่น สัตว์ตายแล้วเกิดหรือไม่ โลกเที่ยงหรือไม่...
โดยชี้นำให้เห็นว่าพระองค์จะไม่มีวันตอบคำถามเหล่านี้

บางท่านที่ได้อ่านได้ฟังก็คล้อยตามเผลอๆอาจตีความไปว่าเวียนว่ายตายเกิดไม่มีจริงบ้าง
ในพระสูตรอื่นๆที่กล่าวถึงเรื่องเวียนว่ายตายเกิดนั้น พระองค์ทรงเอออวยหรือสวมรอยไปกับความเชื่อของพราหมณ์บ้าง
บ้างก็คิดว่า พระไตรปิฏกคงถูกสอดใส้แก้ไขแล้วเผาต้นฉบับบาลีเดิมทิ้งเสียบ้าง

แต่ในความจริงแล้ว หาเป็นเช่นนั้นไม่ !!
พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์เกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดของสมมติว่าสัตว์ มากมายนับไม่ถ้วนในพระไตรปิฏก
ยกตัวอย่างเช่น

พระองค์ได้ทรงพยากรณ์พระเทวทัตว่าตายแล้วต้องตกนรกชั่วกัลป์


พระองค์ได้ทรงพยากรณ์เรื่องโกรักขัตติยะอาเจลกว่าจะตายภายใน 7 วันแล้วไปเกิดเป็นอสูร


นอกจากนี้ยังทรงพยากรณ์ที่ไปของสมมติว่าสัตว์ทั้งหลายว่าทำกรรมอะไรแล้วจะไปเกิดที่ไหน



คำถามคือ แล้วทำไมพระองค์ตรัสไว้ในโปฏฐปาทสูตรล่ะว่า จะทรงไม่ตอบอัพยากฤตปัญหาต่างๆ
มาดูข้อความเต็มๆแบบไม่ถูกบิดเบือนกันครับ


เห็นแล้วใช่ไหมครับ ที่พระองค์ทรงไม่ตอบเพราะว่าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
และแถมจะไปเสริมสร้างความเป็นมิจฉาทิฏฐิของผู้ถามต่างหาก พระองค์จึงไม่ทรงพยากรณ์


แล้วถ้าก่อให้เกิดประโยชน์ เป็นไปเพื่อพ้นทุกข์ล่ะ พระองค์จะตอบไหม



พระองค์ตอบครับ






นอกเหนือจากที่ผมยกมาด้านบนแล้ว
พระองค์พยากรณ์ว่าท่านพระอริยะต่างๆเหล่านี้เมื่อตายแล้วไปเกิดที่ไหน


ทำไมล่ะ
ก็เพราะคำตอบจากการพยากรณ์นั้นมีประโยชน์ ถูกเวลา เป็นไปเพื่อพ้นทุกข์ต่างหาก

หรือเพื่อยังศรัทธาให้แน่นแฟ้นของเหล่ากุลบุตรธิดาทั้งหลาย


หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจถึง"ทริค" ของบางพวกบางกลุ่มที่พยายามบิดเบือนพระสัทธรรมให้คนอ่านเข้าใจผิด

ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสนั้นย่อมสมบูรณ์แล้วด้วยอรรถและพยัญชนะและไม่มีวันขัดกันเอง

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่