วิเคราะห์บทสนทนาจากแดนไกล : ปัญหาของทักษิณคือ "การพยามที่จะควบคุมทุกอย่าง"

ผมเคยคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยท่านหนึ่ง ประกอบกับได้มาฟังคลิปสนทนานี้

สรุปได้ว่า ปัญหาของทักษิณคือ "การพยามที่จะควบคุมทุกอย่าง"

จึงถูกหลายกลุ่ม ทั้งนักธุรกิจ นายทหาร ข้าราชการ ต่อต้าน

..........................

ลองอ่านดูครับ

       ชายคนที่ 1- ...สร้างสถานการณ์ขึ้น เมื่อวานก็ทหารตายไปคน บาดเจ็บสาหัสพันเอกนะ ไอ้พันเอกนี่เป็นลูกพี่ ทส.ผม มันโดน มันเป็นหน่วยสันติสุข มันไปเป็นหน่วยจิตวิทยานะครับ ไปดูเรื่องการสร้างสันติสุขในพื้นที่ มันก็ไม่คิดว่าจะโดน โดน 6 คนเลย เมื่อวาน โดนระเบิดครับ มันเอาระเบิดฝังไปในใต้ท่อ แต่ผมว่ามันไม่มี มันทำได้นะตอนนี้ เพราะว่าในความรู้สึกของผม ผมว่าเราเป็นต่ออยู่ ฝ่ายเรายังเป็นต่ออยู่ ไอ้ฝ่ายค้านนี่ หรือฝ่ายที่ต่อต้านมันไม่มี
       
       ชายคนที่ 2 - ดูดีเชียว เท่าไหร่พี่ปีนี้
       
       ชายคนที่ 1- 76 ละครับ
       
       ชายคนที่ 2 - เออ...ดูดี ดูเป็นคนไม่แก่นะ ปกติคนอายุ 70 กว่า มันจะเริ่มดูอมโรค แต่พี่ดูดีเชียว เออดีๆ
       
       ชายคนที่ 1- พวกภาคใต้เขาบอกแหมเดิน ผมก็บอกไอ้ตู่เดินช้าๆ หน่อยสิ อายุน้อยกว่าตั้ง 20 ปี ยังกับวิ่งไป เดินรอหน่อย เวลาไปตรวจนะครับ นายกฯ ท่านบอกว่า ให้ผมไปด้วยทุกครั้ง แล้วให้รายงานทุกเรื่อง ผบ.ทบ.สั่งอะไรให้รายงานหมด
       
       ชายคนที่ 2 - นายกฯ เขาแฮปปี้กับพี่นะ คือสมมติว่า เกิดว่าพี่ต้องไปทำงานให้นายกฯ โดยที่นายกฯ เขาไม่ได้ขอร่วม เรื่องของเรื่อง อยากให้พี่มีอะไรจะพูดกับเขา โดยตรงเป็นหลัก คือถ้าพูดกับเขาเรียบร้อยแล้วอะไรแล้ว การพูดคุยต้องเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คนภายนอกรู้ก่อน แล้วเขาไม่รู้อะไรอย่างนี้ เขาจะกลัวเขาเป็นคนที่ Sensitive เรื่องนี้
       
       ชายคนที่ 1- ก็พูดกันเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว นายกฯ บอกผม ต่อไปปูรู้ก่อน แล้วค่อยบอกคนอื่น ผมก็บอกมีตั้งหลายเรื่อง ผมบอกว่าตอนนี้ผมไม่บอก ต้องขออนุญาตต้องคุยกับนายกฯ ก่อน
       
       ชายคนที่ 2 – มันเป็นเรื่องของลีดเดอร์ชิป (Leadership) เพราะเขาโดนว่า โดนพูดเยอะ
       
       ชายคนที่ 1- ไอ้ ผบ.สูงสุด ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยละครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่าเมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้
       
       ชายคนที่ 2 - (เสียงเบา) ใช่ๆ โทษที โทร.จิกใหญ่เลย คืออย่างนี้วันที่เกี่ยวกับเรื่องประเทศไทย คือผมกลัวมันจะไปโจมตีเรื่องมาเก๊าก่อนที่เราจะประกาศอะไร กลัวมันจะ พอดีมันมีขาใหญ่สำคัญลงไปหลายตังค์ช่วงนี้ ช่วยงานมาเป็นร้อยล้าน ช่วยงานที่มาเก๊า มันต้องย้ายมาที่นี้ ดีๆ ช่วยจัดการให้เลย ... ไม่มีเซอร์ไพรส์ เดี๋ยวๆ ผมให้จัดการ แต่ว่าเป็นอิทธิพรแน่นอน ...ไม่ไปฮะ ช่วงนี้เดินทาง ไม่มีเวลาเลย เดี๋ยวมาคราวหน้า ผมจะมา อาทิตย์หน้าผมจะมา ผมจะกลับวันที่ 24 และวันที่ 1 ผมคิดว่า
       
       ชายคนที่ 1- ผบ.สูงสุดก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุดมาพบกับนายกฯ ได้เรื่องนี้ด้วย
       
       ชายคนที่ 2 - มันหูเบานะ ติดฟังเรื่องแม่ บ้าอะไร บ้าบอ
       
       ชายคนที่ 1- ครับตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรต่างๆ ผมก็พูดกับมันตรงๆ
       
       ชายคนที่ 2 - มีนักเรียนนายร้อยที่ไหน ยิ้มไม่จงรักภักดี ใช่มั้ย
       
       ชายคนที่ 1– ขอบคุณครับ ... ไม่มีฮะ ปฏิญาณทุกเช้าทุกเย็น
       
       ชายคนที่ 2 - ปรากฏว่า ยิ้มยิ้มจงรักภักดีมากกว่านักเรียนนายร้อยอีก (ไม่มีหรอก) ยิ้มลิ้มอะ จงรักภักดีกว่านายร้อยอีก
       
       ชายคนที่ 1- โธ่! เดี๋ยวนี้มันเข้าไม่ได้แล้วครับ เขาเริ่มรู้มันแล้ว เขารู้หมดละๆ ผมอยากให้นายกฯ เวลาไปต่างประเทศในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาทำอย่างสมัยที่ ท่านนายกฯ ทักษิณไปนอก เอามันไปด้วยซักคน 2 คน สมัยนั้นที่ท่านเอาไป ยังทำกับข้าวให้มันกิน กลับมามันคุย โอ้ย! วันนี้นายกฯ ทำกับข้าวเลี้ยงพวกเราอร่อยจังเลย มันก็คุย มันพูดมัน Happy มัน สมัยไอ้บิ๊ก ไอ้ช้างอะไรพวกนี้นะครับ ไอ้เกาะ สมัยนั้นเอาพวก ผบ.เหล่าทัพไปด้วย ไอ้ ... พอสมัยนี้ บางทีทิ้งมันไว้ บางทีผมว่าเอาไปด้วยดีกว่า เหมือนสมัยที่ท่านเอาไป ตอนนายกฯ ไปมาเลเซียเอาไอ้ ผบ.ทบ.ไปด้วย มันก็ Happy มันบอกพี่ คอยกระซิบนายกฯ ตลอด อะไรควรอะไรไม่ควรเรื่องความมั่นคง ผมก็เดินกระซิบนายกฯ ตลอด ผมว่ามันดี แต่นายกฯ นี่ ได้ทั้งใจ ได้ทั้งความจริงใจ ได้ทั้งความเชื่อถือของ ผบ.เหล่าทัพ ตอนนี้มากเลย
       
       ชายคนที่ 2 - เขาตรงๆ เขาก็เหมือนผม นิสัยเดียวกัน มีอะไรพูดตรงๆ ความเป็นผู้หญิงมีแต่ความซอฟต์
       
       ชายคนที่ 1- ท่าน คือ เพราะความเป็นผู้หญิงมันทำให้เบาลง
       
       ชายคนที่ 2 - มัน soft ลง
       
       ชายคนที่ 1- ของท่านแรงหน่อย บางทีไม่พอใจว่าตรงๆ
       
       ชายคนที่ 2 - เรามันนักเรียนนายร้อย นิสัยมันเหมือนทหารนะ มีอะไรตรงไปตรงมา ห่วยก็ว่าเลย
       
       ชายคนที่ 1- เหมือนไอ้สมัยสุรยุทธ์มัน ที่ท่านด่าในห้องประชุมวันนั้น
       
       ชายคนที่ 2 - เออ สุรยุทธ์มันถึงแค้นนะ เออ ด่าตรงๆ
       
       ชายคนที่ 1- แล้วพี่จิ๋วเงียบเลย โอ๊ย วันนั้นนะ ท่านพูดแรง แต่มันก็ทำแรง มันทำเกินเหตุนะครับ
       
       ชายคนที่ 2 - มันทำเกินไป จู่ๆ บุกเอาทหารไปยิงพม่า แล้วมาเบิกเงินหลวง เท่ากับรัฐบาลรู้เรื่องสิวะ
       
       ชายคนที่ 1 - ขนกำลังไปเสร็จ เอากำลังกลับมาไม่ได้ แล้วมาขอเงินท่านอีกพันกว่าล้าน บ้าจริงๆ
       
       ชายคนที่ 2 - มันเกินไป
       
       ชายคนที่ 1- ตอนนั้นผมยังไปกระซิบท่านว่า ไม่ให้ เสร็จแล้วท่านบอกว่า ผมให้ไปแล้ว
       
       ชายคนที่ 2 - บิ๊กจิ๋วบอก ให้มันเถอะๆ ไม่งั้น มันไม่มีกำลังพล มันทำงานไม่ได้
       
       ชายคนที่ 1- ให้มันรู้สึกซะบ้าง
       
       ชายคนที่ 2 - ผมก็ดึงอยู่ตั้งนาน ถึงได้โกรธผมไง เรารู้ทันมั่ง แล้วพี่อ่า! มีอะไร พี่ก็ต้องรายงานให้รู้ก่อน มีอะไรก็ต้องปรึกษาผม
       
       ชายคนที่ 1- ครับ ผมสัญญาฮะ
       
       ชายคนที่ 2 - อย่าปรึกษา ปรึกษานายกฯ กับ ผบ.เหล่าทัพได้ คนภายนอกไม่ต้องเกี่ยว แล้วก็ เห็นพี่เห็นบอกจะเอา ถ้ากฎหมายโอเคแล้ว พี่จะเอาเข้าผ่านสภากลาโหมด้วยหรือ
       
       ชายคนที่ 1- ผมจะเอาเข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้นถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้เกิดเป็นความคิดอันเดียวกัน
       
       ชายคนที่ 2 - เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคงฯ ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย
       
       ชายคนที่ 1- จบเลย ครับ เอาเข้าได้ ก่อนที่จะเข้าก็ต้องหารือกับเหล่าทัพแต่ละคนก่อน เฮ้ย! ลื้ออ่านนะ มีอะไรที่จะแก้ไข มีอะไรที่จะพูด พูดกันนอกการประชุมเสียก่อน
       
       ชายคนที่ 2 - เราเสนอเป็น พ.ร.บ. ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงฯ ปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวายเสนอเป็น พ.ร.ก.
       
       ชายคนที่ 1- เพราะว่า ไอ้วาระนี้ ถ้าผมได้อยู่นะครับ ได้ทำ ผมจะไม่เอาเข้าวาระ แต่เป็นวาระที่ จรเข้าไปเลย บอกว่า ขอเสนอวาระสำคัญ
       
       ชายคนที่ 2 - ในสภากลาโหมนี่ ก็ใช้วิธีว่า เอ้ย! สภาความมั่นคง ก็ใช้วิธีเข้าไปเสร็จปุ๊บ เนี่ย หน้าตาเป็น พ.ร.บ. และก็ในสภากลาโหมก็ไม่ต้องออกข่าว แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าเพื่อความรวดเร็ว และไม่วุ่นวาย น่าจะเป็น พ.ร.ก. อะไรอย่างนี้ พูดไว้ บันทึกไว้ พอไปถึงสภาความมั่นคงปั๊บ พอเข้าไป บอกว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. หน้าตาเป็น พ.ร.บ. นะ แล้วสภาความมั่นคงก็บอกว่า ขอให้รัฐบาลเสนอออกเป็น พ.ร.ก. มันจะได้มีอะไรรองรับ
       
       ชายคนที่ 1- มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ไอ้ฝ่ายต่อต้านวันนี้นะ
       
       ชายคนที่ 2 - นิดเดียวเอง เพียงแต่ว่าสำคัญคือ ทหารไม่เอาด้วยก็จบ
       
       ชายคนที่ 1- ทหารไม่เอาด้วยจบ แต่ต้องเอาทหารก่อน ผมถึงบอกต้องเอาทหารก่อน
    
       ชายคนที่ 2 – แล้วนี่ การแต่งตั้งโยกย้ายทหารเที่ยวนี้ ก็ต้องดูว่าอย่างไร ก็ คือเราก็ไม่อยากคาน ไม่อยากคาน เพียงแต่ว่าอย่าให้เขาไปทำพวกเดียวกันเองเสียขวัญในกองทัพเท่านั้นเอง
       
       ชายคนที่ 1 - ผมว่า ผมจะคุยทั้ง ผบ.สูงสุด และ ผบ.ทบ. บอกว่า เฮ้ย คุยกับนายกฯ ก่อน คุยนอกรอบก่อน จะเอาอย่างนี้นะ ไม่เอาอย่างนี้นะ แล้วพอทุกอย่างตกลงกันได้ ค่อยประชุมสภากลาโหม แป๊บเดียวจบเลย อย่าไป อย่าไปต่างคนต่างถือกันไว้ แล้วไปประชุมกัน อย่างที่ เดี๋ยวผมก็ด่าไอ้โอ๋ ไอ้โอ๋มันทำไป แล้วไอ้พวกนั้นก็ เฮ้ยอย่างนี้ไม่ได้ เพราะมันต้องมีตัวทำให้
       
       ชายคนที่ 2 - ไอ้โอ๋นี่มันเผด็จการไปนิดนึง
       
       ชายคนที่ 1 - ครับ มันแรงไป
       
       ชายคนที่ 2 - มันถือเป็นรุ่นใกล้กัน รุ่นใกล้กันพอไปทำอะไรแรง มันยุ่ง
       
       ชายคนที่ 1 - ครับมันรุ่น 10 รุ่น 12 ต้องคุยส่วนตัวก่อน
       
       ชายคนที่ 2 - อย่างพี่เองนะ พี่มีไรต้องคุยกันก่อน ต้องให้นายกฯ เขารู้ตลอด ไม่งั้นทำไรไม่พูด นี่ทำอะไรก็ไม่พูด ไม่รู้เรื่องกันพอดี
       
       ชายคนที่ 1 - ผม ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ใจผมนี่หวังดีตลอดเลยนะครับ ใจผมนี้ทำ
       
       ชายคนที่ 2 - มันเป็นหน้าที่พี่นะ พี่เอาผมออกมา พี่ต้องเอาผมกลับ (หัวเราะ)
       
       ชายคนที่ 1 – ผมบอก ... โอ้โห! ตอนท่านพูดกับผม ผมบอก โอ้โห นี่หนูช่วยราชสีห์แล้วนะ ผมดีใจนะ ดีใจจังได้ช่วยราชสีห์สักครั้งหนึ่ง
       
       ชายคนที่ 2 - เอาออกไป ต้องเอากลับมาให้ได้
       
       ชายคนที่ 1 - ต้องเอากลับมา แหม เป็นครั้งสุดท้ายแล้วครับ ครั้งสุดท้ายในชีวิต ในประวัติ เป็นประวัติชีวิตเลย เพราะว่าหลังจากนี้ไปก็ ไม่เป็นไรต่อละ พอละ แต่ต้องทำให้ได้สักที มันเป็นความภูมิใจนะครับ ของชีวิตของคนเรา
       
       ชายคนที่ 2 - เดี๋ยวเจอผมเร็วขึ้น ก็กลับเร็วได้ เครื่องมันออกกี่ทุ่ม หรือตั้งใจจะ shopping ต่อ
       
       ชายคนที่ 1 - ผมเปลี่ยนเครื่องไม่ได้แล้วครับ พอท่านบอก 5 โมงผมก็ Confirm มาเลย
       
       ชายคนที่ 2 - เครื่องบินว่างมันไปได้ตลอด น่าจะว่าง วันนี้วันจันทร์ มีไฟลต์ทุ่มหนึ่ง
       
       ชายคนที่ 1 - ไปทุ่มนึงครับ ใช่ฮะ ใช่ฮะ ก็เรื่องทุกอย่างก็โอเค แล้วเรื่องของพม่า ผมบอกกับนายกฯ ไปแล้วนะครับบอกว่า ใช้ ผบ.สูงสุดให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเลย เพราะไอ้มินอ่องลาย ซึ่งเป็น ผบ.สูงสุดของพม่า มันเป็นมือหนึ่งของท่านประธานาธิบดีเต็งเส่งเลย แล้วเต็งเส่งให้ความเกรงใจมากที่สุด และทีนี้ไอ้ ผบ.สูงสุดเขากับ ผบ.สูงสุดไทยนี่ มันมาเป็นเคาน์เตอร์พาร์ตกัน ผลัดกันกินข้าวคนละเดือน คนละเดือน เพราะฉะนั้นถ้าจะบีบอะไรเรื่องทวาย นายกฯ เรียก ผบ.สูงสุดมาใช้ได้อีกงานหนึ่ง เป็นงานต่างประเทศ
       
       ชายคนที่ 2 - ผมก็ไปสงกรานต์กับมัน
       
       ชายคนที่ 1 - ผมไม่ทราบ ไม่้งั้นผมจะไป ไปเจอ
       
       ชายคนที่ 2 – ผมไปสงกรานต์กับไอ้เนี่ย ผบ.สูงสุดน่ะ
       
       ชายคนที่ 1 – อ๋อ! ไอ้อ่องมินลายนี่นะฮะ โอ้โฮ มันชั้นหนึ่งเลย มันบอกผมนะ เฮ้ยไอ้รัฐมนตรีกลาโหมเนี่ย มันตั้งนะ มันเป็น ผบ.สูงสุด แต่ตั้งรัฐมนตรีนะ มันบอกเลย มันบอก และรัฐมนตรีอีกหลายคนมันเป็นคนตั้ง ไอ้นี่้ต้องเอาไว้ ไอ้นี่ต้องเอาไว้นะ แหม่
       
       ชายคนที่ 2 - พวกผมทั้งนั้นแหละ มันยกที่ให้ผมแปลงนึง ใจกลางเมืองย่างกุ้ง
       
       ชายคนที่ 1 - ไอ้นี่ต้องเอาไว้นะครับ ถ้าได้ พม่านี่เสร็จเราหมดเลย ต้องเอาให้ได้ มันเจอกับผม ผมบอกว่า ต่อไปนี้ทูตพม่าพูดไทยให้เป็นนะ ทูตทหาร มันบอกต่อไปนี้ส่งทูตทหารมาเรียนก่อนแล้วค่อยมาเป็น ไอ้อองมินหล่าย และไอ้รัฐมนตรีกีฬากับโฮเต็ลอีกคนหนึ่ง ไอ้นี่ก็มหาศาลเหมือนกันนะ ผมจะเรียกให้มาพบท่าน มันสร้างทำเนียบรัฐบาลให้ประธานาธิบดี มันสร้างรัฐสภาให้ ขณะนี้มันกำลังสร้าง Sport Complex ให้ มันรวยมหาศาลเลย เจ้าของบ่อหยก
       
       ชายคนที่ 2 - เหรอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่