ถอดรหัส...คลิปฉาว เปิดโปงแผนยึดกองทัพ กินรวบประเทศ (ฉบับเต็ม)
นับว่าอาการเข้าขั้นโคม่าทีเดียวสำหรับรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ 'นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' เพราะพิษของคลิปฉาวที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนถือเป็น 'หลักฐาน' ชั้นดีที่เปลือยตัวตนของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อย่างล้อนจ้อนว่า
เขาแต่งตั้ง "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้ามาปฏิบัติภารกิจ 'พาทักษิณกลับบ้าน' โดยอาศัยช่องทางของสภากลาโหม ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม
ขณะเดียวกันก็มีแผนชั่วที่คิดจะฮุบอำนาจกองทัพ โดยเข้ามาล้วงลูกแต่งตั้งบิ๊กทหาร เพื่อเอาคนของตัวเองมคุมบังเหียนเพื่อรวบอำนาจให้เบ็ดเสร็จ และใช้นายทหารที่ตนแต่งตั้งไปกดดันให้องคมนตรีบางท่านยอมเป็นพวก
อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงสันดานพ่อค้าที่จ้องสานสัมพันธ์ กับผู้มีอำนาจเพื่อล็อบบี้เอาโครงการแม้กระทั่งในต่างประเทศ และที่ร้ายที่สุดคือความคิดอันต่ำทราม ที่หวังจะใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อเข้ามาแสวงหาประโยชน์ และฟอกตัวให้คนหลงเชื่อว่าเขาจงรักภักดี
วรรคตอนใดบ้างที่ชี้ให้เห็นถึงแผนชั่วเหล่านี้ นักวิชาการซึ่งติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด และมีมุมมองที่แหลมคมเท่าทันต่อบริบทต่างๆ ทางการเมือง อย่าง 'ผศ.ดร พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต' รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จะมาถอดรหัส
ให้เห็นถึงเนื้อแท้และเป้าหมายของ 'ทักษิณ' นักโทษหนีคดีคอร์รัปชั่น จากบทสนทนาของคนเสียงคล้าย ทักษิณ (ชายคนที่ 2) และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ (ชายคนที่ 1) ซึ่งเมื่อฟังจากเสียงรอบข้างที่ปรากฎในคลิปแล้วเชื่อว่าเป็นการพบปะกัน ณ สนามบิน แห่งหนึ่งในต่างประเทศ
จากบทสนทนาตอนที่ 1 ช่วงแรก จะเห็นชัดว่าทักษิณไม่ได้สนใจทหารใน 3 จว.ชายแดนใต้ ที่บาดเจ็บล้มตายจากการทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองเลย
ตอนที่ 1
ชายคนที่ 1 - ...สร้างสถานการณ์ขึ้น เมื่อวาน ก็ทหารตายไปคน บาดเจ็บสาหัสพันเอกนะ ไอ้พันเอก นี่เป็นลูกพี่ ทส.ผม มันโดน มันเป็นหน่วยสันติสุข มันไปเป็นหน่วยจิตวิทยานะครับ ไปดูเรื่องการสร้างสันติสุขในพื้นที่ มันก็ไม่คิดว่าจะโดน โดน 6 คนเลย เมื่อวาน โดนระเบิดครับ
ชายคนที่ 2 ดูดีเชียว เท่าไหร่พี่ปีนี้
ชายคนที่ 1 - 76 ละครับ
ชายคนที่ 2 - เออ...ดูดี ดูเป็นคนไม่แก่นะ …..
พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดถึงเหตุทหารหน่วยสันติสุข ซึ่งโดนระเบิด เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 11.40 น.ที่บริเวณหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งนายทหารยศพันเอกที่บาดเจ็บซึ่ง พล.อ.ยุทธศักดิ์เรียกว่า 'ไอ้พันเอก' ก็คือ 'พ.อ.พรเทพ กลัมพสุต' รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข
จะเห็นว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ จิกเรียกนายทหารที่เสียสละเหล่านี้ว่า 'ไอ้' ทุกคำ แปลว่าเขาไม่ได้ให้เกียรติ และไม่เห็นว่าชีวิตของเพื่อนร่วมกองทัพนั้นมีค่าอะไร ขณะที่ทักษิณนั้นเห็นชัดว่าเขาไม่ได้สนใจหรือเป็นห่วงเป็นใยนายทหารบาดเจ็บล้มตายจากการสู้รบเลย ทักษิณกลับหันไปถามเรื่องอายุของยุทธศักดิ์โดยที่ไม่ได้ถามเรื่องทหารบาดเจ็บสักคำ
แล้วจะสังเกตว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ลงท้ายว่า “ครับ” กับทักษิณทุกคำ ขณะที่ทักษิณจะพูดว่า “เออ..” ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ว่า ทักษิณเป็น 'เจ้านาย' และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ 'ลูกน้อง'
สิ่งที่ทักษิณเน้นมากคือประเด็นที่ต้องการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ รายงานทุกเรื่องให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ รู้ เพราะจะเห็นว่าทักษิณย้ำเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ขณะที่ตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เองก็สื่อให้ยุทธศักดิ์รับรู้มาหลายหนแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมานายกฯ ยิ่งลักษณ์มีปัญหาว่าไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายการเมืองที่ดูแลด้านความมั่นคง
คนเหล่านี้จึงไม่เห็นนายกฯ ยิ่งลักษณ์อยู่ในสายตา รายงานไปก็อาจจะไม่รู้เรื่อง ทำให้นายกฯ มีปัญหาเวลาที่ถูกสื่อซักถามจึงตอบไม่ได้ หรือว่าในสมัยที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็น รมว.กลาโหม เคยทำอะไรโดยไม่รายงานยิ่งลักษณ์
ชายคนที่ 1- เวลาไปตรวจนะครับ นายกฯ ท่านบอกว่า ให้ผมไปด้วยทุกครั้ง แล้วให้รายงานทุกเรื่อง ผบ.ทบ.สั่งอะไรให้รายงานหมด
ชายคนที่ 2 - นายกฯ เขาแฮปปี้กับพี่นะ คือสมมติว่า เกิดว่าพี่ต้องไปทำงานให้นายกฯ โดยที่นายกฯ เขาไม่ได้ขอร่วม เรื่องของเรื่อง อยากให้พี่มีอะไรจะพูดกับเขา โดยตรงเป็นหลัก คือถ้าพูดกับเขาเรียบร้อยแล้วอะไรแล้ว การพูดคุยต้องเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คนภายนอกรู้ก่อน แล้วเขาไม่รู้อะไรอย่างนี้ เขาจะกลัวเขาเป็นคนที่ Sensitive เรื่องนี้
ชายคนที่ 1- ก็พูดกันเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว นายกฯ บอกผม ต่อไปปูรู้ก่อน แล้วค่อยบอกคนอื่น
ชายคนที่ 2 - มันเป็นเรื่องของลีดเดอร์ชิป (Leadership) เพราะเขาโดนว่า โดนพูดเยอะ
หรืออีกช่วงหนึ่งที่ปรากฏในตอนที่ 2 ของคลิป ซึ่งมีการพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร
ชายคนที่ 2 - อย่างพี่เองนะ พี่มีไรต้องคุยกันก่อน ต้องให้นายกฯ เขารู้ตลอด ไม่งั้นทำไรไม่พูด นี่ทำอะไรก็ไม่พูด ไม่รู้เรื่องกันพอดี
ชายคนที่ 1 - ผม ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ใจผมนี่หวังดีตลอดเลยนะครับ ใจผมนี้ทำ
จากคลิปนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าขณะนี้ทั้ง 'พล.อ.ประยุธ์ จันทร์โอชา' ผู้บัญชาการทหารทหารบก และ 'พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร' ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยินยอมพร้อมใจที่จะยืนข้างยิ่งลักษ์และพรรคเพื่อไทย
ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจที่เห็น พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่คำรามทุกครั้งที่มีประเด็นร้อนเรื่องการจาบจ้วงสถาบัน โดยไม่ทำอะไร ขณะเดียวกันข้างฝ่ายทักษิณและ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็มองบิ๊กทหารเป็นลูกไล่ และไม่ได้รู้สึกว่าสองคนนี้มีศักดิ์ศรีอะไร
ชายคนที่ 1- ไอ้ ผบ.สูงสุด ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยละครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่าเมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้
ชายคนที่ 2 - (คุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งถึงเรื่องการช่วยเหลือให้บางคนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันสามารถรับงานในมาก็ได้)
ชายคนที่ 1- ผบ.สูงสุดก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุดมาพบกับนายกฯ ได้เรื่องนี้ด้วย
ชายคนที่ 2 - มันหูเบานะ ติดฟังเรื่องแม่ บ้าอะไร บ้าบอ
ชายคนที่ 1 - ครับตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรต่างๆ ผมก็พูดกับมันตรงๆ
ชายคนที่ 2 - มีนักเรียนนายร้อยที่ไหน
ไม่จงรักภักดี ใช่มั้ย
ชายคนที่ 1 - ขอบคุณครับ ... ไม่มีฮะ ปฏิญาณทุกเช้าทุกเย็น
ชายคนที่ 2 - ปรากฏว่า
จงรักภักดีมากกว่านักเรียนนายร้อยอีก (ไม่มีหรอก)
ลิ้มอะ จงรักภักดีกว่านายร้อยอีก
จากนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ แนะนำทักษิณให้บอกนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถึงวิธีป้องกันการปฏิวัติ โดยทุกครั้งที่นายกฯ ไปต่างประเทศก็ให้พา ผบ.ทบ. และ ผบ.สส. ไปด้วย เหมือนครั้งที่ทักษิณเป็นนายกฯและหนีบ 'พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา' ผบ.ทบ.ในขณะนั้นไปด้วย
ชายคนที่ 1 - ผมอยากให้นายกฯ เวลาไปต่างประเทศในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาทำอย่างสมัยที่ ท่านนายกฯ ทักษิณไปนอก เอามันไปด้วยซักคน 2 คน สมัยนั้นที่ท่านเอาไป ยังทำกับข้าวให้มันกิน กลับมามันคุย โอ้ย! วันนี้นายกฯ ทำกับข้าวเลี้ยงพวกเราอร่อยจังเลย มันก็คุย มันพูดมัน Happy
มัน สมัยไอ้บิ๊ก ไอ้ช้างอะไรพวกนี้นะครับ ไอ้เถาะ (หมายถึง พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ) สมัยนั้นเอาพวก ผบ.เหล่าทัพไปด้วย ไอ้ ... พอสมัยนี้ บางทีทิ้งมันไว้ บางทีผมว่าเอาไปด้วยดีกว่า เหมือนสมัยที่ท่านเอาไป ตอนนายกฯ ไปมาเลเซียเอาไอ้ ผบ.ทบ.(หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ )ไปด้วย มันก็ Happy
มันบอกพี่ คอยกระซิบนายกฯ ตลอด อะไรควรอะไรไม่ควรเรื่องความมั่นคง ผมก็เดินกระซิบนายกฯ ตลอด ผมว่ามันดี แต่นายกฯ นี่ ได้ทั้งใจ ได้ทั้งความจริงใจ ได้ทั้งความเชื่อถือของ ผบ.เหล่าทัพ ตอนนี้มากเลย
จากนั้นทักษิณก็ท้าวความถึงกรณีที่เขาเชื่อว่าทำให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เกิดความอาฆาตแค้นในตัวเขา โดยเมื่อครั้งที่ พล.อ.สุรยุทธ ยังเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และทักษิณ เป็นนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถูกทักษิณตำหนิอย่างรุนแรง
กรณีที่อนุญาตให้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ในขณะนั้น นำกำลังทหารไปยิงถล่มทหารพม่า เพราะมีการข่าวยืนยันว่าทหารพม่าชุดนี้กำลังให้การคุ้มกันชนกลุ่มน้อยที่ขนยาเสพติด
ชายคนที่ 2 - เรามันนักเรียนนายร้อย นิสัยมันเหมือนทหารนะ มีอะไรตรงไปตรงมา ห่วยก็ว่าเลย
ชายคนที่ 1 - เหมือนไอ้สมัยสุรยุทธ์มัน ที่ท่านด่าในห้องประชุมวันนั้น
ชายคนที่ 2 - เออ สุรยุทธ์มันถึงแค้นนะ เออ ด่าตรงๆ
ชายคนที่ 1 - แล้วพี่จิ๋วเงียบเลย โอ๊ย วันนั้นนะ ท่านพูดแรง แต่มันก็ทำแรง มันทำเกินเหตุนะครับ
ชายคนที่ 2 - มันทำเกินไป จู่ๆ บุกเอาทหารไปยิงพม่า แล้วมาเบิกเงินหลวง เท่ากับรัฐบาลรู้เรื่องสิวะ
ชายคนที่ 1 - ขนกำลังไปเสร็จ เอากำลังกลับมาไม่ได้ แล้วมาขอเงินท่านอีกพันกว่าล้าน บ้าจริงๆ
ชายคนที่ 2 - มันเกินไป
ชายคนที่ 1 - ตอนนั้นผมยังไปกระซิบท่านว่า ไม่ให้ เสร็จแล้วท่านบอกว่า ผมให้ไปแล้ว
ชายคนที่ 2 - บิ๊กจิ๋วบอก ให้มันเถอะๆ ไม่งั้น มันไม่มีกำลังพล มันทำงานไม่ได้
ชายคนที่ 1 - ให้มันรู้สึกซะบ้าง
ชายคนที่ 2- ผมก็ดึงอยู่ตั้งนาน ถึงได้โกรธผมไง เรารู้ทันมั่ง
ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือบทสนทนาต่อจากนี้ ที่ทำให้เห็นถึงแผนการร้ายของ ทักษิณ ที่จะใช้สภากลาโหมเป็นเครืองมือในการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้ตนเอง โดยแนะให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ล็อบบี้กองทัพ ให้แอบเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภากลาโหม
ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมผ่านสภาเพราะนอกจากจะถูกอภิปรายจากฝ่ายค้านแล้ว ยังต้องเจอกับแรงต้านมหาศาลจากภาคประชาชน โดยให้แต่งหน้าตากฎหมายเป็น พ.ร.บ. เข้าไปก่อนเพื่อให้กองทัพไม่ระแวงแคลงใจ
แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น พ.ร.ก. เพื่อลัดขั้นตอน ในภายหลัง ซึ่งการงุบงิบออกกฎหมายผ่านช่องทางสภากลาโหมนี้ ทั้งฝ่ายการเมือง สื่อ รวมทั้งประชาชน ไม่มีทางล่วงรู้ จนกว่ากฎหมายจะออกมาบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว
และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น แม้จะมีมวลชนออกมาประท้วงต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณ แต่เมื่อฝ่ายกองทัพซึ่งตัวเองคุมได้หมดแล้วไม่เอาด้วย ไม่เอากำลังออกมาปฏิวัติรัฐประหาร ฝ่ายต่อต้านก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องรีบยึดอำนาจกองทัพให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียก่อน
ชายคนที่ 2 - อย่าปรึกษา ปรึกษานายกฯ กับ ผบ.เหล่าทัพได้ คนภายนอกไม่ต้องเกี่ยว แล้วก็ เห็นพี่เห็นบอกจะเอา ถ้ากฎหมายโอเคแล้ว พี่จะเอาเข้าผ่านสภากลาโหมด้วยหรือ
ชายคนที่ 1- ผมจะเอาเข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้นถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้เกิดเป็นความคิดอันเดียวกัน
ชายคนที่ 2 - เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคงฯ ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย
ชายคนที่ 1 - จบเลย ครับ เอาเข้าได้ ก่อนที่จะเข้าก็ต้องหารือกับเหล่าทัพแต่ละคนก่อน เฮ้ย! ลื้ออ่านนะ มีอะไรที่จะแก้ไข มีอะไรที่จะพูด พูดกันนอกการประชุมเสียก่อน
ชายคนที่ 2 - เราเสนอเป็น พ.ร.บ. ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงฯ ปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวายเสนอเป็น พ.ร.ก.
ชายคนที่ 1- เพราะว่า ไอ้วาระนี้ ถ้าผมได้อยู่นะครับ ได้ทำ ผมจะไม่เอาเข้าวาระ แต่เป็นวาระที่ จรเข้าไปเลย บอกว่า ขอเสนอวาระสำคัญ
ชายคนที่ 2 - ในสภากลาโหมนี่ ก็ใช้วิธีว่า เอ้ย สภาความมั่นคง ก็ใช้วิธีเข้าไปเสร็จปุ๊บ เนี่ย หน้าตาเป็น พ.ร.บ. และก็ในสภากลาโหมก็ไม่ต้องออกข่าว แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าเพื่อความรวดเร็ว และไม่วุ่นวาย น่าจะเป็น พ.ร.ก. อะไรอย่างนี้ พูดไว้ บันทึกไว้
พอไปถึงสภาความมั่นคงปั๊บ พอเข้าไป บอกว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. หน้าตาเป็น พ.ร.บ. นะ แล้วสภาความมั่นคงก็บอกว่า ขอให้รัฐบาลเสนอออกเป็น พ.ร.ก. มันจะได้มีอะไรรองรับ
ชายคนที่ 1 - มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ไอ้ฝ่ายต่อต้านวันนี้นะ
ชายคนที่ 2 - นิดเดียวเอง เพียงแต่ว่าสำคัญคือ ทหารไม่เอาด้วยก็จบ
ชายคนที่ 1 - ทหารไม่เอาด้วยจบ แต่ต้องเอาทหาร
อ่านต่อV
V
V
สวัสดีคร๊าบบบบบ..บ..ท่าน(อดีต)นายกคร๊าบบบ..บ / เออๆ...
นับว่าอาการเข้าขั้นโคม่าทีเดียวสำหรับรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ 'นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' เพราะพิษของคลิปฉาวที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนถือเป็น 'หลักฐาน' ชั้นดีที่เปลือยตัวตนของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อย่างล้อนจ้อนว่า
เขาแต่งตั้ง "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้ามาปฏิบัติภารกิจ 'พาทักษิณกลับบ้าน' โดยอาศัยช่องทางของสภากลาโหม ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม
ขณะเดียวกันก็มีแผนชั่วที่คิดจะฮุบอำนาจกองทัพ โดยเข้ามาล้วงลูกแต่งตั้งบิ๊กทหาร เพื่อเอาคนของตัวเองมคุมบังเหียนเพื่อรวบอำนาจให้เบ็ดเสร็จ และใช้นายทหารที่ตนแต่งตั้งไปกดดันให้องคมนตรีบางท่านยอมเป็นพวก
อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงสันดานพ่อค้าที่จ้องสานสัมพันธ์ กับผู้มีอำนาจเพื่อล็อบบี้เอาโครงการแม้กระทั่งในต่างประเทศ และที่ร้ายที่สุดคือความคิดอันต่ำทราม ที่หวังจะใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อเข้ามาแสวงหาประโยชน์ และฟอกตัวให้คนหลงเชื่อว่าเขาจงรักภักดี
วรรคตอนใดบ้างที่ชี้ให้เห็นถึงแผนชั่วเหล่านี้ นักวิชาการซึ่งติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด และมีมุมมองที่แหลมคมเท่าทันต่อบริบทต่างๆ ทางการเมือง อย่าง 'ผศ.ดร พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต' รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จะมาถอดรหัส
ให้เห็นถึงเนื้อแท้และเป้าหมายของ 'ทักษิณ' นักโทษหนีคดีคอร์รัปชั่น จากบทสนทนาของคนเสียงคล้าย ทักษิณ (ชายคนที่ 2) และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ (ชายคนที่ 1) ซึ่งเมื่อฟังจากเสียงรอบข้างที่ปรากฎในคลิปแล้วเชื่อว่าเป็นการพบปะกัน ณ สนามบิน แห่งหนึ่งในต่างประเทศ
จากบทสนทนาตอนที่ 1 ช่วงแรก จะเห็นชัดว่าทักษิณไม่ได้สนใจทหารใน 3 จว.ชายแดนใต้ ที่บาดเจ็บล้มตายจากการทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองเลย
ตอนที่ 1
ชายคนที่ 1 - ...สร้างสถานการณ์ขึ้น เมื่อวาน ก็ทหารตายไปคน บาดเจ็บสาหัสพันเอกนะ ไอ้พันเอก นี่เป็นลูกพี่ ทส.ผม มันโดน มันเป็นหน่วยสันติสุข มันไปเป็นหน่วยจิตวิทยานะครับ ไปดูเรื่องการสร้างสันติสุขในพื้นที่ มันก็ไม่คิดว่าจะโดน โดน 6 คนเลย เมื่อวาน โดนระเบิดครับ
ชายคนที่ 2 ดูดีเชียว เท่าไหร่พี่ปีนี้
ชายคนที่ 1 - 76 ละครับ
ชายคนที่ 2 - เออ...ดูดี ดูเป็นคนไม่แก่นะ …..
พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดถึงเหตุทหารหน่วยสันติสุข ซึ่งโดนระเบิด เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 11.40 น.ที่บริเวณหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งนายทหารยศพันเอกที่บาดเจ็บซึ่ง พล.อ.ยุทธศักดิ์เรียกว่า 'ไอ้พันเอก' ก็คือ 'พ.อ.พรเทพ กลัมพสุต' รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข
จะเห็นว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ จิกเรียกนายทหารที่เสียสละเหล่านี้ว่า 'ไอ้' ทุกคำ แปลว่าเขาไม่ได้ให้เกียรติ และไม่เห็นว่าชีวิตของเพื่อนร่วมกองทัพนั้นมีค่าอะไร ขณะที่ทักษิณนั้นเห็นชัดว่าเขาไม่ได้สนใจหรือเป็นห่วงเป็นใยนายทหารบาดเจ็บล้มตายจากการสู้รบเลย ทักษิณกลับหันไปถามเรื่องอายุของยุทธศักดิ์โดยที่ไม่ได้ถามเรื่องทหารบาดเจ็บสักคำ
แล้วจะสังเกตว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ลงท้ายว่า “ครับ” กับทักษิณทุกคำ ขณะที่ทักษิณจะพูดว่า “เออ..” ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ว่า ทักษิณเป็น 'เจ้านาย' และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ 'ลูกน้อง'
สิ่งที่ทักษิณเน้นมากคือประเด็นที่ต้องการให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ รายงานทุกเรื่องให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ รู้ เพราะจะเห็นว่าทักษิณย้ำเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ขณะที่ตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เองก็สื่อให้ยุทธศักดิ์รับรู้มาหลายหนแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมานายกฯ ยิ่งลักษณ์มีปัญหาว่าไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายการเมืองที่ดูแลด้านความมั่นคง
คนเหล่านี้จึงไม่เห็นนายกฯ ยิ่งลักษณ์อยู่ในสายตา รายงานไปก็อาจจะไม่รู้เรื่อง ทำให้นายกฯ มีปัญหาเวลาที่ถูกสื่อซักถามจึงตอบไม่ได้ หรือว่าในสมัยที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็น รมว.กลาโหม เคยทำอะไรโดยไม่รายงานยิ่งลักษณ์
ชายคนที่ 1- เวลาไปตรวจนะครับ นายกฯ ท่านบอกว่า ให้ผมไปด้วยทุกครั้ง แล้วให้รายงานทุกเรื่อง ผบ.ทบ.สั่งอะไรให้รายงานหมด
ชายคนที่ 2 - นายกฯ เขาแฮปปี้กับพี่นะ คือสมมติว่า เกิดว่าพี่ต้องไปทำงานให้นายกฯ โดยที่นายกฯ เขาไม่ได้ขอร่วม เรื่องของเรื่อง อยากให้พี่มีอะไรจะพูดกับเขา โดยตรงเป็นหลัก คือถ้าพูดกับเขาเรียบร้อยแล้วอะไรแล้ว การพูดคุยต้องเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คนภายนอกรู้ก่อน แล้วเขาไม่รู้อะไรอย่างนี้ เขาจะกลัวเขาเป็นคนที่ Sensitive เรื่องนี้
ชายคนที่ 1- ก็พูดกันเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว นายกฯ บอกผม ต่อไปปูรู้ก่อน แล้วค่อยบอกคนอื่น
ชายคนที่ 2 - มันเป็นเรื่องของลีดเดอร์ชิป (Leadership) เพราะเขาโดนว่า โดนพูดเยอะ
หรืออีกช่วงหนึ่งที่ปรากฏในตอนที่ 2 ของคลิป ซึ่งมีการพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร
ชายคนที่ 2 - อย่างพี่เองนะ พี่มีไรต้องคุยกันก่อน ต้องให้นายกฯ เขารู้ตลอด ไม่งั้นทำไรไม่พูด นี่ทำอะไรก็ไม่พูด ไม่รู้เรื่องกันพอดี
ชายคนที่ 1 - ผม ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ใจผมนี่หวังดีตลอดเลยนะครับ ใจผมนี้ทำ
จากคลิปนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าขณะนี้ทั้ง 'พล.อ.ประยุธ์ จันทร์โอชา' ผู้บัญชาการทหารทหารบก และ 'พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร' ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยินยอมพร้อมใจที่จะยืนข้างยิ่งลักษ์และพรรคเพื่อไทย
ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจที่เห็น พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่คำรามทุกครั้งที่มีประเด็นร้อนเรื่องการจาบจ้วงสถาบัน โดยไม่ทำอะไร ขณะเดียวกันข้างฝ่ายทักษิณและ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็มองบิ๊กทหารเป็นลูกไล่ และไม่ได้รู้สึกว่าสองคนนี้มีศักดิ์ศรีอะไร
ชายคนที่ 1- ไอ้ ผบ.สูงสุด ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยละครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่าเมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้
ชายคนที่ 2 - (คุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่งถึงเรื่องการช่วยเหลือให้บางคนที่มีผลประโยชน์ร่วมกันสามารถรับงานในมาก็ได้)
ชายคนที่ 1- ผบ.สูงสุดก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ผมสนับสนุนหมดทุกเรื่อง ผมก็ชื่นใจ พา ผบ.สูงสุดมาพบกับนายกฯ ได้เรื่องนี้ด้วย
ชายคนที่ 2 - มันหูเบานะ ติดฟังเรื่องแม่ บ้าอะไร บ้าบอ
ชายคนที่ 1 - ครับตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจอะไรต่างๆ ผมก็พูดกับมันตรงๆ
ชายคนที่ 2 - มีนักเรียนนายร้อยที่ไหน ไม่จงรักภักดี ใช่มั้ย
ชายคนที่ 1 - ขอบคุณครับ ... ไม่มีฮะ ปฏิญาณทุกเช้าทุกเย็น
ชายคนที่ 2 - ปรากฏว่า จงรักภักดีมากกว่านักเรียนนายร้อยอีก (ไม่มีหรอก) ลิ้มอะ จงรักภักดีกว่านายร้อยอีก
จากนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ แนะนำทักษิณให้บอกนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถึงวิธีป้องกันการปฏิวัติ โดยทุกครั้งที่นายกฯ ไปต่างประเทศก็ให้พา ผบ.ทบ. และ ผบ.สส. ไปด้วย เหมือนครั้งที่ทักษิณเป็นนายกฯและหนีบ 'พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา' ผบ.ทบ.ในขณะนั้นไปด้วย
ชายคนที่ 1 - ผมอยากให้นายกฯ เวลาไปต่างประเทศในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาทำอย่างสมัยที่ ท่านนายกฯ ทักษิณไปนอก เอามันไปด้วยซักคน 2 คน สมัยนั้นที่ท่านเอาไป ยังทำกับข้าวให้มันกิน กลับมามันคุย โอ้ย! วันนี้นายกฯ ทำกับข้าวเลี้ยงพวกเราอร่อยจังเลย มันก็คุย มันพูดมัน Happy
มัน สมัยไอ้บิ๊ก ไอ้ช้างอะไรพวกนี้นะครับ ไอ้เถาะ (หมายถึง พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ) สมัยนั้นเอาพวก ผบ.เหล่าทัพไปด้วย ไอ้ ... พอสมัยนี้ บางทีทิ้งมันไว้ บางทีผมว่าเอาไปด้วยดีกว่า เหมือนสมัยที่ท่านเอาไป ตอนนายกฯ ไปมาเลเซียเอาไอ้ ผบ.ทบ.(หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ )ไปด้วย มันก็ Happy
มันบอกพี่ คอยกระซิบนายกฯ ตลอด อะไรควรอะไรไม่ควรเรื่องความมั่นคง ผมก็เดินกระซิบนายกฯ ตลอด ผมว่ามันดี แต่นายกฯ นี่ ได้ทั้งใจ ได้ทั้งความจริงใจ ได้ทั้งความเชื่อถือของ ผบ.เหล่าทัพ ตอนนี้มากเลย
จากนั้นทักษิณก็ท้าวความถึงกรณีที่เขาเชื่อว่าทำให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เกิดความอาฆาตแค้นในตัวเขา โดยเมื่อครั้งที่ พล.อ.สุรยุทธ ยังเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และทักษิณ เป็นนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ได้ถูกทักษิณตำหนิอย่างรุนแรง
กรณีที่อนุญาตให้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ในขณะนั้น นำกำลังทหารไปยิงถล่มทหารพม่า เพราะมีการข่าวยืนยันว่าทหารพม่าชุดนี้กำลังให้การคุ้มกันชนกลุ่มน้อยที่ขนยาเสพติด
ชายคนที่ 2 - เรามันนักเรียนนายร้อย นิสัยมันเหมือนทหารนะ มีอะไรตรงไปตรงมา ห่วยก็ว่าเลย
ชายคนที่ 1 - เหมือนไอ้สมัยสุรยุทธ์มัน ที่ท่านด่าในห้องประชุมวันนั้น
ชายคนที่ 2 - เออ สุรยุทธ์มันถึงแค้นนะ เออ ด่าตรงๆ
ชายคนที่ 1 - แล้วพี่จิ๋วเงียบเลย โอ๊ย วันนั้นนะ ท่านพูดแรง แต่มันก็ทำแรง มันทำเกินเหตุนะครับ
ชายคนที่ 2 - มันทำเกินไป จู่ๆ บุกเอาทหารไปยิงพม่า แล้วมาเบิกเงินหลวง เท่ากับรัฐบาลรู้เรื่องสิวะ
ชายคนที่ 1 - ขนกำลังไปเสร็จ เอากำลังกลับมาไม่ได้ แล้วมาขอเงินท่านอีกพันกว่าล้าน บ้าจริงๆ
ชายคนที่ 2 - มันเกินไป
ชายคนที่ 1 - ตอนนั้นผมยังไปกระซิบท่านว่า ไม่ให้ เสร็จแล้วท่านบอกว่า ผมให้ไปแล้ว
ชายคนที่ 2 - บิ๊กจิ๋วบอก ให้มันเถอะๆ ไม่งั้น มันไม่มีกำลังพล มันทำงานไม่ได้
ชายคนที่ 1 - ให้มันรู้สึกซะบ้าง
ชายคนที่ 2- ผมก็ดึงอยู่ตั้งนาน ถึงได้โกรธผมไง เรารู้ทันมั่ง
ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือบทสนทนาต่อจากนี้ ที่ทำให้เห็นถึงแผนการร้ายของ ทักษิณ ที่จะใช้สภากลาโหมเป็นเครืองมือในการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้ตนเอง โดยแนะให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ล็อบบี้กองทัพ ให้แอบเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภากลาโหม
ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมผ่านสภาเพราะนอกจากจะถูกอภิปรายจากฝ่ายค้านแล้ว ยังต้องเจอกับแรงต้านมหาศาลจากภาคประชาชน โดยให้แต่งหน้าตากฎหมายเป็น พ.ร.บ. เข้าไปก่อนเพื่อให้กองทัพไม่ระแวงแคลงใจ
แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น พ.ร.ก. เพื่อลัดขั้นตอน ในภายหลัง ซึ่งการงุบงิบออกกฎหมายผ่านช่องทางสภากลาโหมนี้ ทั้งฝ่ายการเมือง สื่อ รวมทั้งประชาชน ไม่มีทางล่วงรู้ จนกว่ากฎหมายจะออกมาบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว
และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น แม้จะมีมวลชนออกมาประท้วงต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณ แต่เมื่อฝ่ายกองทัพซึ่งตัวเองคุมได้หมดแล้วไม่เอาด้วย ไม่เอากำลังออกมาปฏิวัติรัฐประหาร ฝ่ายต่อต้านก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องรีบยึดอำนาจกองทัพให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียก่อน
ชายคนที่ 2 - อย่าปรึกษา ปรึกษานายกฯ กับ ผบ.เหล่าทัพได้ คนภายนอกไม่ต้องเกี่ยว แล้วก็ เห็นพี่เห็นบอกจะเอา ถ้ากฎหมายโอเคแล้ว พี่จะเอาเข้าผ่านสภากลาโหมด้วยหรือ
ชายคนที่ 1- ผมจะเอาเข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้นถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้เกิดเป็นความคิดอันเดียวกัน
ชายคนที่ 2 - เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคงฯ ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย
ชายคนที่ 1 - จบเลย ครับ เอาเข้าได้ ก่อนที่จะเข้าก็ต้องหารือกับเหล่าทัพแต่ละคนก่อน เฮ้ย! ลื้ออ่านนะ มีอะไรที่จะแก้ไข มีอะไรที่จะพูด พูดกันนอกการประชุมเสียก่อน
ชายคนที่ 2 - เราเสนอเป็น พ.ร.บ. ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงฯ ปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวายเสนอเป็น พ.ร.ก.
ชายคนที่ 1- เพราะว่า ไอ้วาระนี้ ถ้าผมได้อยู่นะครับ ได้ทำ ผมจะไม่เอาเข้าวาระ แต่เป็นวาระที่ จรเข้าไปเลย บอกว่า ขอเสนอวาระสำคัญ
ชายคนที่ 2 - ในสภากลาโหมนี่ ก็ใช้วิธีว่า เอ้ย สภาความมั่นคง ก็ใช้วิธีเข้าไปเสร็จปุ๊บ เนี่ย หน้าตาเป็น พ.ร.บ. และก็ในสภากลาโหมก็ไม่ต้องออกข่าว แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าเพื่อความรวดเร็ว และไม่วุ่นวาย น่าจะเป็น พ.ร.ก. อะไรอย่างนี้ พูดไว้ บันทึกไว้
พอไปถึงสภาความมั่นคงปั๊บ พอเข้าไป บอกว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. หน้าตาเป็น พ.ร.บ. นะ แล้วสภาความมั่นคงก็บอกว่า ขอให้รัฐบาลเสนอออกเป็น พ.ร.ก. มันจะได้มีอะไรรองรับ
ชายคนที่ 1 - มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ไอ้ฝ่ายต่อต้านวันนี้นะ
ชายคนที่ 2 - นิดเดียวเอง เพียงแต่ว่าสำคัญคือ ทหารไม่เอาด้วยก็จบ
ชายคนที่ 1 - ทหารไม่เอาด้วยจบ แต่ต้องเอาทหาร
อ่านต่อV
V
V