พ่อหมออลเวง ตอนที่๖

กระทู้สนทนา
ลิงค์ตอนที่๑ http://ppantip.com/topic/30107518
ลิงค์ตอนที่๒ http://ppantip.com/topic/30480244
ลิงค์ตอนที่๓ http://ppantip.com/topic/30542963
ลิงค์ตอนที่๔ http://ppantip.com/topic/30608461
ลิงค์ตอนที่๕ http://ppantip.com/topic/30677615
____________________________________

ตอนที่ ๖


ถนนคืนนี้ไม่ได้แน่นไปด้วยรถ   ออกจะโล่งเสียด้วยซ้ำ   อากาศก็ดีลมโกรกเย็นสบายและไม่เหม็นควันรถเหมาะแก่การนั่งรถกินลมชมวิวเบิกบานใจ   แต่ณภัทรไม่ได้คิดเช่นนั้น   อากาศดี ๆ ไม่ได้ช่วยให้คลายความอึดอัดลง   รถบุโรทังมีผู้ใหญ่สามคนนั่งอัดกันแถมคนขับก็เป็นใครไม่รู้ไม่สนิทชิดเชื้อด้วย   หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ก็เป็นคู่กัด   ไม่รู้อยู่ ๆ เธอจะหาเรื่องชวนทะเลาะหรือเปล่า   ตลอดทางไม่มีเสียงสนทนาปราศรัยใด ๆ นั่นทำให้รถที่คันเล็กอยู่แล้วดูเล็กลงไปอีก

ระยะทางจากมหาวิทยาลัยถึงบ้านของสองยายหลานนับว่าไม่ไกลกันเท่าไรนัก   ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง   แต่ณภัทรกลับรู้เหมือนเพิ่งนั่งรถข้ามประเทศมา   รถบุโรทังถูกขับมาจอดที่โรงจอด   มันกระตุก ๓-๔ ทีก่อนเครื่องยนต์จะดับสนิท   ชายหนุ่มลงจากรถตามหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน   เบื้องหน้าของเขาเป็นบ้านทรงไทยครึ่งบนเป็นไม้ครึ่งล่างเป็นปูนทาสีขาวดูสะอาดสะอ้านทั้งหลัง   ไม้ดอกนานาพันธุ์ปลูกในกระถางแขวนประดับไว้รอบตัวบ้านส่งกลิ่นหอมทำผู้มาเยือนผ่อนคลาย   สนามหญ้าเล็ก ๆ หน้าบ้านก็มีโคมไฟลวดลายวิจิตรประดับตกแต่งไว้สวยงาม
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” หัวหน้าฝ่ายชวนแล้วเดินนำเข้าบ้านไป

ประตูบ้านเปิดอยู่แล้วแสดงว่าบ้านหลังนี้มีใครอื่นอาศัยอยู่อีก   ข้างในบ้านสะอาดสะอ้านพื้นขัดเงาวาววับ   รูปถ่ายครอบครัวในกรอบไม้ใบใหญ่ติดผนังทักทายคนดู   ณภัทรนับคนในรูปได้หกคน   รู้จักหัวหน้าฝ่ายอยู่คนเดียว   ในรูปเธอยังไม่โดนริ้วรอยแห่งวัยทำร้ายหนักเช่นปัจจุบัน   เด็กสาววัย ๓-๔ ขวบในอ้อมกอดพ่อคงเป็นน้ำเพชร   ตอนเด็ก ๆ เธอดูน่ารักไม่ผิดกับสมัยนี้   ข้าง ๆ กันนั้นคงเป็นแม่ของเธอผู้มีหน้าตาละม้ายคล้ายลูกสาวในตอนนี้มาก   ขนาดมีอายุแล้วยังสวยพริ้ง   ณภัทรคิดว่าพอน้ำเพชรแก่ตัวไปจะยังคงสาวและสวยเหมือนแม่ของเธอ   ถัดไปเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยไม่แพ้กันเพียงแต่ดูอ่อนวัยกว่า   คงเป็นน้องสาวแม่หรือมีศักดิ์เป็นน้าสาวของน้ำเพชร   ตรงกลางมีผู้อาวุโสสองคนนั่งเก้าอี้บุนวม   คนหนึ่งคือหัวหน้าฝ่ายอีกคนคงเป็นสามีของเธอ

ถัดจากรูปถ่ายครอบครัวเป็นรูปหน้าศพในกรอบเล็ก ๆ   ใบหน้าในกรอบเป็นคนเดียวกับสามีของหัวหน้าฝ่าย   ใต้ภาพระบุไว้ว่ามรณะเมื่อห้าปีที่แล้ว   ฉะนั้นบ้านงามหลังนี้จึงมีคนอาศัยเพียงห้าคน

“กลับมากันแล้วเหรอหิวรึยังจ๊ะ   วันนี้แม่ทำผัดบล็อกโคลี่ของโปรดลูกด้วยนะ   แล้วนั่นพาใครที่ไหนมาด้วยล่ะ?” แม่ของน้ำเพชรในชุดทำครัวเดินออกมาทักทายที่ห้องรับประทานอาหาร   สีหน้าเธอฉงนเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าไม่คุ้น

“นายณภัทร   เพื่อนที่ชมรมค่ะ   เขาอยู่ช่วยงานเอกสารจนเสร็จคุณยายก็เลยชวนมารับประทานมื้อเย็นที่บ้านของเรา” น้ำเพชรแนะนำเพื่อนชายให้คุณแม่รู้จัก

ณภัทรไหว้สวัสดีคุณแม่ของน้ำเพชร   สองแม่ลูกหน้าตาสะสวยคล้ายกันจริง ๆ ยิ่งมองยิ่งเหมือนกันจนน่าประหลาดใจ   เมื่อตอนสาว ๆ หัวหน้าฝ่ายคงสวยไม่ผิดกับลูกและหลานสาวเพราะสืบเชื้อสายต่อกันมา

“กินข้าวกันเลยดีกว่าคงหิวกันแล้ว   มาเลยนายณภัทร” หัวหน้าฝ่ายเอ่ยปากชวนพลางเดินมานั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารเป็นคนแรก

อาหารบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฉุยแตะจมูกเรียกกระเพาะให้ทำงาน   ทั้งผัดบล็อกโคลี   ไก่ผัดขิง   แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายต่างดูน่ากินทั้งนั้น   ณภัทรไม่เคยเห็นไก่ผัดขิงที่เต็มไปด้วยเนื้อไก่ชิ้นโตเต็มจานแบบนี้มาก่อนเลย   เคยกินตามร้านอาหารตามสั่งที่ไก่ผัดขิงเต็มไปด้วยขิงซอยและพริกหวานหาเนื้อไก่แทบไม่เจอ   แกงเขียวหวานก็น่ากินลูกชิ้นปลากรายลอยอยู่เต็มชาม   ถ้าไปสั่งตามร้านข้างทางคงเจอแต่มะเขือหาลูกชิ้นปลากรายไม่เจอ   หวังจะมาหาโปรตีนเข้าร่างกายกลับได้อาหารมังสวิรัติมาแทน

ทุนคนมานั่งพร้อมกันที่โต๊ะรับประทานอาหาร   เจ้าบ้านทั้งสามคนมารยาทบนโต๊ะอาหารดีเหลือเกิน   ตัดอาหารใส่ปากพอดีคำ   ไม่ทำเสียงช้อนส้อมกระทบจานให้ได้ยินเลย   ณภัทรเกร็งทำตัวไม่ถูกปกติมารยาทในเรื่องแบบนี้เขามีไม่มากนัก   เมื่อจานอาหารอยู่ตรงหน้าเขาก็ตักคำใหญ่ใส่ปาก   เคี้ยวหยุบหยับเสียงดังแล้วรีบกลืนลงคอ

อาหารฝีมือแม่ของน้ำเพชรอร่อยจนลืมกลับวัด   รสชาติเป็นเอกลักษณ์ถูกปากอย่างยิ่ง   แต่การปฏิบัติรักษามารยาทตามเจ้าบ้านตักได้แค่คำเล็ก ๆ เข้าปากนี่ทรมานไม่ทันใจเหลือเกิน   ถ้ามีอาหารแบบนี้ให้กินทุกมื้อท่าจะดี   คงอ้วนพีสมบูรณ์   แล้วต้องทำอย่างไรล่ะ   มาเป็นเขยบ้านนี้ไหม?

นอกจากฝีมือปลายจวักจะดีแล้วแม่ของน้ำเพชรยังอัธยาศัยดีหน้าตายิ้มแย้มตลอด   เธอเล่าเรื่องราวครอบครัวนี้ให้ฟังว่าแต่เดิมที่นี่อยู่กันถึงหกคน   เมื่อห้าปีก่อนคุณตาของน้ำเพชรป่วยด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงและเสียชีวิตเมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ไม่นาน   ช่างบังเอิญเหลือเกินที่คุณปู่ของณภัทรก็เสียชีวิตด้วยโรคร้ายชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน   ต่างกันก็แต่คุณปู่ของณภัทรท่านเสียก่อนหลานคนนี้จะเกิด   ไม่ทันได้เห็นหน้ากัน   คุณพ่อของน้ำเพชรทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้ไปดูงานนิทรรศการที่ต่างประเทศ   น้าสาวของน้ำเพชรตอนนี้แต่งงานออกเรือนไปแล้ว

ณภัทรรับประทานอาหารมื้อนี้เสียอิ่มแปล้   ไม่น่าเชื่อว่าข้าวเปล่ายังอร่อย   เขาคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจติดรถหัวหน้าฝ่ายมารับสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้   คราวหน้าจะมีโอกาสลาภปากได้กินอาหารอร่อย ๆ อย่างนี้อีกไหมนะ

“เราเรียนคณะอะไรเหรอจ๊ะ?” แม่ของน้ำเพชรถาม

“คณะการสื่อสาร   สาขาออกแบบสื่อครับ”

“เขาเรียนพวกการถ่ายทำภาพยนตร์   ละคร   โฆษณาอะไรอย่างนี้ใช่รึเปล่า?” หัวหน้าฝ่ายถาม   เป็นครั้งแรกที่ณภัทรรับรู้ได้ถึงท่าทีผ่อนคลายของเธอ

“ใช่ครับ   ผมชอบดูหนังและชอบใช้งานโปรแกรมตัดต่อในคอมพิวเตอร์จึงเลือกเรียนสาขานี้   แต่อย่างว่าค่าเทอมคณะนี้แพงไปหน่อย   ครอบครัวผมก็ไม่ได้มั่งมีอะไร   แถมตอนนี้ยังมีภาระปัญหาเรื่องเงินของคนอื่นให้สะสางแทน   โชคดีที่ท่านให้ทุนผมได้เรียนต่อ”

“แหม... แต่ตอนนี้นายก็มีอาชีพพิเศษทำนี่   ดูท่ารายได้จะดีเสียด้วยไม่ใช่เหรอ” น้ำเพชรสัพยอก

“อืม   ฉันว่าเธอมีแววไปได้ดีทางด้านนี้   ฝึกฝนฝีมือตนเองให้ชำนาญ   เดี๋ยวพวกบริษัทใหญ่ ๆ เห็นความสามารถกลัวจะรุมแย่งตัวไปร่วมงาน   วงการนี้รายได้ดีไม่ใช่น้อย   ได้ทุนมาแล้วก็ตั้งใจเรียนเข้าล่ะอย่าทำให้พ่อแม่ของเธอผิดหวัง”

“ครับ!” ณภัทรรับคำ

“อาหารฝีมือน้าถูกปากรึเปล่าจ๊ะ?” แม่ของน้ำเพชรเอ่ยถาม

“อร่อยมากครับ   ผมไม่เคยได้กินอาหารแบบนี้เลย   ปกติจะกินตามร้านข้างทางแถวหน้ามอบ้างหลังมอบ้าง   โชคดีมาก ๆ เลยวันนี้ที่ได้มาชิมรสชาติอาหารฝีมือคุณน้า”

“ไว้วันหลังมาอีกก็ได้จ้ะ   น้ำเพชรก็ชวนณภัทรมากินข้าวบ้านเราบ้าง   เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
แม่ของน้ำเพชรคงยังไม่รู้อะไร   ลูกสาวของเธอกับณภัทรไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไรนัก   ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งยังง่ายกว่าการถูกน้ำเพชรชวนมากินข้าวเย็นที่บ้าน

“ผมก็หวังไว้ว่าอย่างนั้น   ได้ยินคุณน้าพูดอย่างนี้แล้วน้ำเพชรคงหาโอกาสชวนผมมากินข้าวเย็นที่บ้านนี้บ่อย ๆ   นิสัยเธอน่ารักครับเพื่อนในชมรมต่างรักเธอกันทุกคน   ผมหายสงสัยแล้วว่าเธอได้รับความสวยมาจากใครเมื่อได้มาเห็นด้วยตาวันนี้   คุณน้ายังสวยเหมือนสาวแรกรุ่นอยู่เลยครับ   นี่ถ้าไม่เรียกน้ำเพชรว่าลูกผมนึกว่าคุณน้าเป็นพี่สาวของเธอเสียอีก” ณภัทรยอเอาใจแม่ของน้ำเพชรสุดฤทธิ์

น้ำเพชรทั้งเอียนทั้งเลี่ยนกับคำถ้อยคำสรรเสริญเยินยอประดิดประดอยของณภัทร   นอกจากชายหนุ่มผู้นี้จะเลี้ยงน้องหมาที่น่ารักไว้ในปากแล้วเขายังเป็นผู้ชายรสสตรอว์เบอร์รี่อีกด้วย   แม่ของเธอก็หลงคารมไปด้วย   ยิ้มหน้าบานภูมิอกภูมิใจกับคำยกยอ

หัวหน้าฝ่ายหันไปมองนาฬิกาลูกตุ้มโบราณเรือนใหญ่   ขณะนี้เข็มสั้นจวนจะชี้เลขเก้า   ดึกมากแล้วห่วงแต่ณภัทรว่าจะกลับอย่างไร   คงไม่พ้นเป็นเธอต้องไปส่งเขาเพราะเป็นคนเอ่ยปากชวนมาที่นี่เอง   ปกติเธอมักเข้านอนก่อนห้าทุ่ม   อายุปูนนี้นอนดึกดื่นเหมือนสมัยสาว ๆ ไม่ได้ปัญหาสุขภาพจะถามหาเอา   เหลือเวลาอีกไม่มากต้องรีบไปส่งเขาแล้วกลับมาจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะเข้านอน

“จวนจะยี่สิบเอ็ดนาฬิกาแล้ว   เธออิ่มดีแล้วใช่ไหมฉันจะได้ไปส่ง   หอพักเธออยู่แถวไหนล่ะ?” หัวหน้าฝ่ายถาม

ณภัทรหันไปมองนาฬิกาเรือนเดียวกันถึงได้รู้ว่าใกล้จะสามทุ่มแล้ว   ทำไมหัวหน้าฝ่ายไม่ใช่คำที่คนปกติเขาใช้สื่อสารเรื่องเวลากัน   บอกว่าสามทุ่มก็ได้หรือบอกว่าเก้าโมงก็ดี   ฟ้ามืดแบบนี้เขาคงไม่เข้าใจผิดว่าเป็นเวลาเก้าโมงเช้าหรอก

“อ๋อ... ไม่เป็นไรครับ   คืนนี้ท่านพักผ่อนเถอะครับวันนี้เหนื่อยเรื่องเอกสารมาทั้งวันแล้ว   เดี๋ยวผมโทรฯให้เพื่อนมารับเองครับ” ณภัทรกล่าวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ

“เอาอย่างนั้นเหรอ   ตามใจเธอแล้วกัน   คราวหลังไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านดีกว่านะ   ตำแหน่งของฉันไม่ได้ใหญ่โตอะไร   เรียกฉันว่าคุณยายเหมือนที่น้ำเพชรเรียกแล้วกัน”

“จะดีเหรอครับ   ผมเป็นใครก็ไม่รู้จะให้มาเรียกท่านอย่างสนิทสนมว่าคุณยาย”

“ดีสิเชื่อฉัน” หัวหน้าฝ่ายกล่าวเสียงเฉียบขาด

“ขอบคุณที่เมตตาผมครับคุณยาย” ณภัทรปั้นหน้ายิ้มใสซื่อหวังให้หัวหน้าฝ่ายเอ็นดู   ถ้าหัวหน้าฝ่ายเอ็นดูเขาการขอทุนในภาคเรียนต่อ ๆ ไปคงไม่ยาก

น้ำเพชรไม่ชอบใจเลยที่คุณยายให้ณภัทรเรียกท่านแบบเดียวกับเธอ   ตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินคุณยายบ่นกับคุณแม่ว่าเมื่อไรจะมีหลานชายให้ท่านเสียที   หรือว่าคุณยายเกิดถูกชะตาหมอนี่เข้าและอยากได้มาเป็นหลานเพิ่มอีกคน   ไม่นะเธอไม่อยากร่วมวงศาคณาญาติกับผู้ชายแบบณภัทร   ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเธอก็ไม่มีวันญาติดีด้วย

ณภัทรโทรฯบอกให้จ้อนมารับเรียบร้อยแล้ว   บ้านของน้ำเพชรหาเจอได้ไม่ยาก   อธิบายไม่นานจ้อนก็ร้องอ๋อแล้วบอกจะรีบบึ่งรถมารับเพราะคิดว่าเพื่อนคงไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นนานนัก

ระหว่างรอการมาถึงของจ้อน   ณภัทรเข้าไปในครัวอาสาจะช่วยล้างจานแต่แม่ของน้ำเพชรบอกว่าไม่ต้อง   เขาเป็นแขกไม่จำเป็นต้องออกแรงช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น   จึงเปลี่ยนใจขออนุญาตเดินชมบ้านแทน   ที่ชั้นล่างมีห้องครัว   ห้องรับประทานอาหาร   ห้องน้ำเล็ก ๆ และห้องนั่งเล่น   ในส่วนของห้องนอนคงอยู่ที่ชั้นสอง   คาดว่าบ้านหลังนี้สร้างมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีแต่ดูไม่เก่าเพราะบำรุงรักษาอย่างดี   เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็ทันสมัยเป็นโซฟาบุกำมะหยี่สีสวยสด   บางชิ้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้มีอายุเปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกเหมือนที่คนสมัยนี้นิยมเรียกว่าวินเทจ   พอมาเห็นบ้านของจริงก็ลบคำปรามาสว่าเป็นรังปลวกลงไปได้   บ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังนี้น่าอยู่ทีเดียว   เขาอยากสร้างบ้านแบบนี้ให้พ่อแม่ที่บ้านนอกอยู่บ้างแต่คงใช้เงินเยอะน่าดู

เดินชมรูปถ่ายครอบครัวติดผนังอยู่เพลิน ๆ ก็ตกใจที่จู่ ๆ น้ำเพชรโผล่เข้ามา   ใบหน้าของเธอบึงตึงเหมือนไม่พอใจใคร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่