ลิงค์ตอนที่๑
http://ppantip.com/topic/30107518
ลิงค์ตอนที่๒
http://ppantip.com/topic/30480244
ลิงค์ตอนที่๓
http://ppantip.com/topic/30542963
ลิงค์ตอนที่๔
http://ppantip.com/topic/30608461
ลิงค์ตอนที่๕
http://ppantip.com/topic/30677615
____________________________________
ตอนที่ ๖
ถนนคืนนี้ไม่ได้แน่นไปด้วยรถ ออกจะโล่งเสียด้วยซ้ำ อากาศก็ดีลมโกรกเย็นสบายและไม่เหม็นควันรถเหมาะแก่การนั่งรถกินลมชมวิวเบิกบานใจ แต่ณภัทรไม่ได้คิดเช่นนั้น อากาศดี ๆ ไม่ได้ช่วยให้คลายความอึดอัดลง รถบุโรทังมีผู้ใหญ่สามคนนั่งอัดกันแถมคนขับก็เป็นใครไม่รู้ไม่สนิทชิดเชื้อด้วย หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ก็เป็นคู่กัด ไม่รู้อยู่ ๆ เธอจะหาเรื่องชวนทะเลาะหรือเปล่า ตลอดทางไม่มีเสียงสนทนาปราศรัยใด ๆ นั่นทำให้รถที่คันเล็กอยู่แล้วดูเล็กลงไปอีก
ระยะทางจากมหาวิทยาลัยถึงบ้านของสองยายหลานนับว่าไม่ไกลกันเท่าไรนัก ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง แต่ณภัทรกลับรู้เหมือนเพิ่งนั่งรถข้ามประเทศมา รถบุโรทังถูกขับมาจอดที่โรงจอด มันกระตุก ๓-๔ ทีก่อนเครื่องยนต์จะดับสนิท ชายหนุ่มลงจากรถตามหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เบื้องหน้าของเขาเป็นบ้านทรงไทยครึ่งบนเป็นไม้ครึ่งล่างเป็นปูนทาสีขาวดูสะอาดสะอ้านทั้งหลัง ไม้ดอกนานาพันธุ์ปลูกในกระถางแขวนประดับไว้รอบตัวบ้านส่งกลิ่นหอมทำผู้มาเยือนผ่อนคลาย สนามหญ้าเล็ก ๆ หน้าบ้านก็มีโคมไฟลวดลายวิจิตรประดับตกแต่งไว้สวยงาม
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” หัวหน้าฝ่ายชวนแล้วเดินนำเข้าบ้านไป
ประตูบ้านเปิดอยู่แล้วแสดงว่าบ้านหลังนี้มีใครอื่นอาศัยอยู่อีก ข้างในบ้านสะอาดสะอ้านพื้นขัดเงาวาววับ รูปถ่ายครอบครัวในกรอบไม้ใบใหญ่ติดผนังทักทายคนดู ณภัทรนับคนในรูปได้หกคน รู้จักหัวหน้าฝ่ายอยู่คนเดียว ในรูปเธอยังไม่โดนริ้วรอยแห่งวัยทำร้ายหนักเช่นปัจจุบัน เด็กสาววัย ๓-๔ ขวบในอ้อมกอดพ่อคงเป็นน้ำเพชร ตอนเด็ก ๆ เธอดูน่ารักไม่ผิดกับสมัยนี้ ข้าง ๆ กันนั้นคงเป็นแม่ของเธอผู้มีหน้าตาละม้ายคล้ายลูกสาวในตอนนี้มาก ขนาดมีอายุแล้วยังสวยพริ้ง ณภัทรคิดว่าพอน้ำเพชรแก่ตัวไปจะยังคงสาวและสวยเหมือนแม่ของเธอ ถัดไปเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยไม่แพ้กันเพียงแต่ดูอ่อนวัยกว่า คงเป็นน้องสาวแม่หรือมีศักดิ์เป็นน้าสาวของน้ำเพชร ตรงกลางมีผู้อาวุโสสองคนนั่งเก้าอี้บุนวม คนหนึ่งคือหัวหน้าฝ่ายอีกคนคงเป็นสามีของเธอ
ถัดจากรูปถ่ายครอบครัวเป็นรูปหน้าศพในกรอบเล็ก ๆ ใบหน้าในกรอบเป็นคนเดียวกับสามีของหัวหน้าฝ่าย ใต้ภาพระบุไว้ว่ามรณะเมื่อห้าปีที่แล้ว ฉะนั้นบ้านงามหลังนี้จึงมีคนอาศัยเพียงห้าคน
“กลับมากันแล้วเหรอหิวรึยังจ๊ะ วันนี้แม่ทำผัดบล็อกโคลี่ของโปรดลูกด้วยนะ แล้วนั่นพาใครที่ไหนมาด้วยล่ะ?” แม่ของน้ำเพชรในชุดทำครัวเดินออกมาทักทายที่ห้องรับประทานอาหาร สีหน้าเธอฉงนเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าไม่คุ้น
“นายณภัทร เพื่อนที่ชมรมค่ะ เขาอยู่ช่วยงานเอกสารจนเสร็จคุณยายก็เลยชวนมารับประทานมื้อเย็นที่บ้านของเรา” น้ำเพชรแนะนำเพื่อนชายให้คุณแม่รู้จัก
ณภัทรไหว้สวัสดีคุณแม่ของน้ำเพชร สองแม่ลูกหน้าตาสะสวยคล้ายกันจริง ๆ ยิ่งมองยิ่งเหมือนกันจนน่าประหลาดใจ เมื่อตอนสาว ๆ หัวหน้าฝ่ายคงสวยไม่ผิดกับลูกและหลานสาวเพราะสืบเชื้อสายต่อกันมา
“กินข้าวกันเลยดีกว่าคงหิวกันแล้ว มาเลยนายณภัทร” หัวหน้าฝ่ายเอ่ยปากชวนพลางเดินมานั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารเป็นคนแรก
อาหารบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฉุยแตะจมูกเรียกกระเพาะให้ทำงาน ทั้งผัดบล็อกโคลี ไก่ผัดขิง แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายต่างดูน่ากินทั้งนั้น ณภัทรไม่เคยเห็นไก่ผัดขิงที่เต็มไปด้วยเนื้อไก่ชิ้นโตเต็มจานแบบนี้มาก่อนเลย เคยกินตามร้านอาหารตามสั่งที่ไก่ผัดขิงเต็มไปด้วยขิงซอยและพริกหวานหาเนื้อไก่แทบไม่เจอ แกงเขียวหวานก็น่ากินลูกชิ้นปลากรายลอยอยู่เต็มชาม ถ้าไปสั่งตามร้านข้างทางคงเจอแต่มะเขือหาลูกชิ้นปลากรายไม่เจอ หวังจะมาหาโปรตีนเข้าร่างกายกลับได้อาหารมังสวิรัติมาแทน
ทุนคนมานั่งพร้อมกันที่โต๊ะรับประทานอาหาร เจ้าบ้านทั้งสามคนมารยาทบนโต๊ะอาหารดีเหลือเกิน ตัดอาหารใส่ปากพอดีคำ ไม่ทำเสียงช้อนส้อมกระทบจานให้ได้ยินเลย ณภัทรเกร็งทำตัวไม่ถูกปกติมารยาทในเรื่องแบบนี้เขามีไม่มากนัก เมื่อจานอาหารอยู่ตรงหน้าเขาก็ตักคำใหญ่ใส่ปาก เคี้ยวหยุบหยับเสียงดังแล้วรีบกลืนลงคอ
อาหารฝีมือแม่ของน้ำเพชรอร่อยจนลืมกลับวัด รสชาติเป็นเอกลักษณ์ถูกปากอย่างยิ่ง แต่การปฏิบัติรักษามารยาทตามเจ้าบ้านตักได้แค่คำเล็ก ๆ เข้าปากนี่ทรมานไม่ทันใจเหลือเกิน ถ้ามีอาหารแบบนี้ให้กินทุกมื้อท่าจะดี คงอ้วนพีสมบูรณ์ แล้วต้องทำอย่างไรล่ะ มาเป็นเขยบ้านนี้ไหม?
นอกจากฝีมือปลายจวักจะดีแล้วแม่ของน้ำเพชรยังอัธยาศัยดีหน้าตายิ้มแย้มตลอด เธอเล่าเรื่องราวครอบครัวนี้ให้ฟังว่าแต่เดิมที่นี่อยู่กันถึงหกคน เมื่อห้าปีก่อนคุณตาของน้ำเพชรป่วยด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงและเสียชีวิตเมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ไม่นาน ช่างบังเอิญเหลือเกินที่คุณปู่ของณภัทรก็เสียชีวิตด้วยโรคร้ายชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน ต่างกันก็แต่คุณปู่ของณภัทรท่านเสียก่อนหลานคนนี้จะเกิด ไม่ทันได้เห็นหน้ากัน คุณพ่อของน้ำเพชรทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้ไปดูงานนิทรรศการที่ต่างประเทศ น้าสาวของน้ำเพชรตอนนี้แต่งงานออกเรือนไปแล้ว
ณภัทรรับประทานอาหารมื้อนี้เสียอิ่มแปล้ ไม่น่าเชื่อว่าข้าวเปล่ายังอร่อย เขาคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจติดรถหัวหน้าฝ่ายมารับสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ คราวหน้าจะมีโอกาสลาภปากได้กินอาหารอร่อย ๆ อย่างนี้อีกไหมนะ
“เราเรียนคณะอะไรเหรอจ๊ะ?” แม่ของน้ำเพชรถาม
“คณะการสื่อสาร สาขาออกแบบสื่อครับ”
“เขาเรียนพวกการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร โฆษณาอะไรอย่างนี้ใช่รึเปล่า?” หัวหน้าฝ่ายถาม เป็นครั้งแรกที่ณภัทรรับรู้ได้ถึงท่าทีผ่อนคลายของเธอ
“ใช่ครับ ผมชอบดูหนังและชอบใช้งานโปรแกรมตัดต่อในคอมพิวเตอร์จึงเลือกเรียนสาขานี้ แต่อย่างว่าค่าเทอมคณะนี้แพงไปหน่อย ครอบครัวผมก็ไม่ได้มั่งมีอะไร แถมตอนนี้ยังมีภาระปัญหาเรื่องเงินของคนอื่นให้สะสางแทน โชคดีที่ท่านให้ทุนผมได้เรียนต่อ”
“แหม... แต่ตอนนี้นายก็มีอาชีพพิเศษทำนี่ ดูท่ารายได้จะดีเสียด้วยไม่ใช่เหรอ” น้ำเพชรสัพยอก
“อืม ฉันว่าเธอมีแววไปได้ดีทางด้านนี้ ฝึกฝนฝีมือตนเองให้ชำนาญ เดี๋ยวพวกบริษัทใหญ่ ๆ เห็นความสามารถกลัวจะรุมแย่งตัวไปร่วมงาน วงการนี้รายได้ดีไม่ใช่น้อย ได้ทุนมาแล้วก็ตั้งใจเรียนเข้าล่ะอย่าทำให้พ่อแม่ของเธอผิดหวัง”
“ครับ!” ณภัทรรับคำ
“อาหารฝีมือน้าถูกปากรึเปล่าจ๊ะ?” แม่ของน้ำเพชรเอ่ยถาม
“อร่อยมากครับ ผมไม่เคยได้กินอาหารแบบนี้เลย ปกติจะกินตามร้านข้างทางแถวหน้ามอบ้างหลังมอบ้าง โชคดีมาก ๆ เลยวันนี้ที่ได้มาชิมรสชาติอาหารฝีมือคุณน้า”
“ไว้วันหลังมาอีกก็ได้จ้ะ น้ำเพชรก็ชวนณภัทรมากินข้าวบ้านเราบ้าง เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
แม่ของน้ำเพชรคงยังไม่รู้อะไร ลูกสาวของเธอกับณภัทรไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไรนัก ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งยังง่ายกว่าการถูกน้ำเพชรชวนมากินข้าวเย็นที่บ้าน
“ผมก็หวังไว้ว่าอย่างนั้น ได้ยินคุณน้าพูดอย่างนี้แล้วน้ำเพชรคงหาโอกาสชวนผมมากินข้าวเย็นที่บ้านนี้บ่อย ๆ นิสัยเธอน่ารักครับเพื่อนในชมรมต่างรักเธอกันทุกคน ผมหายสงสัยแล้วว่าเธอได้รับความสวยมาจากใครเมื่อได้มาเห็นด้วยตาวันนี้ คุณน้ายังสวยเหมือนสาวแรกรุ่นอยู่เลยครับ นี่ถ้าไม่เรียกน้ำเพชรว่าลูกผมนึกว่าคุณน้าเป็นพี่สาวของเธอเสียอีก” ณภัทรยอเอาใจแม่ของน้ำเพชรสุดฤทธิ์
น้ำเพชรทั้งเอียนทั้งเลี่ยนกับคำถ้อยคำสรรเสริญเยินยอประดิดประดอยของณภัทร นอกจากชายหนุ่มผู้นี้จะเลี้ยงน้องหมาที่น่ารักไว้ในปากแล้วเขายังเป็นผู้ชายรสสตรอว์เบอร์รี่อีกด้วย แม่ของเธอก็หลงคารมไปด้วย ยิ้มหน้าบานภูมิอกภูมิใจกับคำยกยอ
หัวหน้าฝ่ายหันไปมองนาฬิกาลูกตุ้มโบราณเรือนใหญ่ ขณะนี้เข็มสั้นจวนจะชี้เลขเก้า ดึกมากแล้วห่วงแต่ณภัทรว่าจะกลับอย่างไร คงไม่พ้นเป็นเธอต้องไปส่งเขาเพราะเป็นคนเอ่ยปากชวนมาที่นี่เอง ปกติเธอมักเข้านอนก่อนห้าทุ่ม อายุปูนนี้นอนดึกดื่นเหมือนสมัยสาว ๆ ไม่ได้ปัญหาสุขภาพจะถามหาเอา เหลือเวลาอีกไม่มากต้องรีบไปส่งเขาแล้วกลับมาจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะเข้านอน
“จวนจะยี่สิบเอ็ดนาฬิกาแล้ว เธออิ่มดีแล้วใช่ไหมฉันจะได้ไปส่ง หอพักเธออยู่แถวไหนล่ะ?” หัวหน้าฝ่ายถาม
ณภัทรหันไปมองนาฬิกาเรือนเดียวกันถึงได้รู้ว่าใกล้จะสามทุ่มแล้ว ทำไมหัวหน้าฝ่ายไม่ใช่คำที่คนปกติเขาใช้สื่อสารเรื่องเวลากัน บอกว่าสามทุ่มก็ได้หรือบอกว่าเก้าโมงก็ดี ฟ้ามืดแบบนี้เขาคงไม่เข้าใจผิดว่าเป็นเวลาเก้าโมงเช้าหรอก
“อ๋อ... ไม่เป็นไรครับ คืนนี้ท่านพักผ่อนเถอะครับวันนี้เหนื่อยเรื่องเอกสารมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวผมโทรฯให้เพื่อนมารับเองครับ” ณภัทรกล่าวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ
“เอาอย่างนั้นเหรอ ตามใจเธอแล้วกัน คราวหลังไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านดีกว่านะ ตำแหน่งของฉันไม่ได้ใหญ่โตอะไร เรียกฉันว่าคุณยายเหมือนที่น้ำเพชรเรียกแล้วกัน”
“จะดีเหรอครับ ผมเป็นใครก็ไม่รู้จะให้มาเรียกท่านอย่างสนิทสนมว่าคุณยาย”
“ดีสิเชื่อฉัน” หัวหน้าฝ่ายกล่าวเสียงเฉียบขาด
“ขอบคุณที่เมตตาผมครับคุณยาย” ณภัทรปั้นหน้ายิ้มใสซื่อหวังให้หัวหน้าฝ่ายเอ็นดู ถ้าหัวหน้าฝ่ายเอ็นดูเขาการขอทุนในภาคเรียนต่อ ๆ ไปคงไม่ยาก
น้ำเพชรไม่ชอบใจเลยที่คุณยายให้ณภัทรเรียกท่านแบบเดียวกับเธอ ตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินคุณยายบ่นกับคุณแม่ว่าเมื่อไรจะมีหลานชายให้ท่านเสียที หรือว่าคุณยายเกิดถูกชะตาหมอนี่เข้าและอยากได้มาเป็นหลานเพิ่มอีกคน ไม่นะเธอไม่อยากร่วมวงศาคณาญาติกับผู้ชายแบบณภัทร ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเธอก็ไม่มีวันญาติดีด้วย
ณภัทรโทรฯบอกให้จ้อนมารับเรียบร้อยแล้ว บ้านของน้ำเพชรหาเจอได้ไม่ยาก อธิบายไม่นานจ้อนก็ร้องอ๋อแล้วบอกจะรีบบึ่งรถมารับเพราะคิดว่าเพื่อนคงไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นนานนัก
ระหว่างรอการมาถึงของจ้อน ณภัทรเข้าไปในครัวอาสาจะช่วยล้างจานแต่แม่ของน้ำเพชรบอกว่าไม่ต้อง เขาเป็นแขกไม่จำเป็นต้องออกแรงช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น จึงเปลี่ยนใจขออนุญาตเดินชมบ้านแทน ที่ชั้นล่างมีห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำเล็ก ๆ และห้องนั่งเล่น ในส่วนของห้องนอนคงอยู่ที่ชั้นสอง คาดว่าบ้านหลังนี้สร้างมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีแต่ดูไม่เก่าเพราะบำรุงรักษาอย่างดี เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็ทันสมัยเป็นโซฟาบุกำมะหยี่สีสวยสด บางชิ้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้มีอายุเปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกเหมือนที่คนสมัยนี้นิยมเรียกว่าวินเทจ พอมาเห็นบ้านของจริงก็ลบคำปรามาสว่าเป็นรังปลวกลงไปได้ บ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังนี้น่าอยู่ทีเดียว เขาอยากสร้างบ้านแบบนี้ให้พ่อแม่ที่บ้านนอกอยู่บ้างแต่คงใช้เงินเยอะน่าดู
เดินชมรูปถ่ายครอบครัวติดผนังอยู่เพลิน ๆ ก็ตกใจที่จู่ ๆ น้ำเพชรโผล่เข้ามา ใบหน้าของเธอบึงตึงเหมือนไม่พอใจใคร
พ่อหมออลเวง ตอนที่๖
ลิงค์ตอนที่๒ http://ppantip.com/topic/30480244
ลิงค์ตอนที่๓ http://ppantip.com/topic/30542963
ลิงค์ตอนที่๔ http://ppantip.com/topic/30608461
ลิงค์ตอนที่๕ http://ppantip.com/topic/30677615
____________________________________
ตอนที่ ๖
ถนนคืนนี้ไม่ได้แน่นไปด้วยรถ ออกจะโล่งเสียด้วยซ้ำ อากาศก็ดีลมโกรกเย็นสบายและไม่เหม็นควันรถเหมาะแก่การนั่งรถกินลมชมวิวเบิกบานใจ แต่ณภัทรไม่ได้คิดเช่นนั้น อากาศดี ๆ ไม่ได้ช่วยให้คลายความอึดอัดลง รถบุโรทังมีผู้ใหญ่สามคนนั่งอัดกันแถมคนขับก็เป็นใครไม่รู้ไม่สนิทชิดเชื้อด้วย หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ก็เป็นคู่กัด ไม่รู้อยู่ ๆ เธอจะหาเรื่องชวนทะเลาะหรือเปล่า ตลอดทางไม่มีเสียงสนทนาปราศรัยใด ๆ นั่นทำให้รถที่คันเล็กอยู่แล้วดูเล็กลงไปอีก
ระยะทางจากมหาวิทยาลัยถึงบ้านของสองยายหลานนับว่าไม่ไกลกันเท่าไรนัก ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง แต่ณภัทรกลับรู้เหมือนเพิ่งนั่งรถข้ามประเทศมา รถบุโรทังถูกขับมาจอดที่โรงจอด มันกระตุก ๓-๔ ทีก่อนเครื่องยนต์จะดับสนิท ชายหนุ่มลงจากรถตามหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เบื้องหน้าของเขาเป็นบ้านทรงไทยครึ่งบนเป็นไม้ครึ่งล่างเป็นปูนทาสีขาวดูสะอาดสะอ้านทั้งหลัง ไม้ดอกนานาพันธุ์ปลูกในกระถางแขวนประดับไว้รอบตัวบ้านส่งกลิ่นหอมทำผู้มาเยือนผ่อนคลาย สนามหญ้าเล็ก ๆ หน้าบ้านก็มีโคมไฟลวดลายวิจิตรประดับตกแต่งไว้สวยงาม
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” หัวหน้าฝ่ายชวนแล้วเดินนำเข้าบ้านไป
ประตูบ้านเปิดอยู่แล้วแสดงว่าบ้านหลังนี้มีใครอื่นอาศัยอยู่อีก ข้างในบ้านสะอาดสะอ้านพื้นขัดเงาวาววับ รูปถ่ายครอบครัวในกรอบไม้ใบใหญ่ติดผนังทักทายคนดู ณภัทรนับคนในรูปได้หกคน รู้จักหัวหน้าฝ่ายอยู่คนเดียว ในรูปเธอยังไม่โดนริ้วรอยแห่งวัยทำร้ายหนักเช่นปัจจุบัน เด็กสาววัย ๓-๔ ขวบในอ้อมกอดพ่อคงเป็นน้ำเพชร ตอนเด็ก ๆ เธอดูน่ารักไม่ผิดกับสมัยนี้ ข้าง ๆ กันนั้นคงเป็นแม่ของเธอผู้มีหน้าตาละม้ายคล้ายลูกสาวในตอนนี้มาก ขนาดมีอายุแล้วยังสวยพริ้ง ณภัทรคิดว่าพอน้ำเพชรแก่ตัวไปจะยังคงสาวและสวยเหมือนแม่ของเธอ ถัดไปเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยไม่แพ้กันเพียงแต่ดูอ่อนวัยกว่า คงเป็นน้องสาวแม่หรือมีศักดิ์เป็นน้าสาวของน้ำเพชร ตรงกลางมีผู้อาวุโสสองคนนั่งเก้าอี้บุนวม คนหนึ่งคือหัวหน้าฝ่ายอีกคนคงเป็นสามีของเธอ
ถัดจากรูปถ่ายครอบครัวเป็นรูปหน้าศพในกรอบเล็ก ๆ ใบหน้าในกรอบเป็นคนเดียวกับสามีของหัวหน้าฝ่าย ใต้ภาพระบุไว้ว่ามรณะเมื่อห้าปีที่แล้ว ฉะนั้นบ้านงามหลังนี้จึงมีคนอาศัยเพียงห้าคน
“กลับมากันแล้วเหรอหิวรึยังจ๊ะ วันนี้แม่ทำผัดบล็อกโคลี่ของโปรดลูกด้วยนะ แล้วนั่นพาใครที่ไหนมาด้วยล่ะ?” แม่ของน้ำเพชรในชุดทำครัวเดินออกมาทักทายที่ห้องรับประทานอาหาร สีหน้าเธอฉงนเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าไม่คุ้น
“นายณภัทร เพื่อนที่ชมรมค่ะ เขาอยู่ช่วยงานเอกสารจนเสร็จคุณยายก็เลยชวนมารับประทานมื้อเย็นที่บ้านของเรา” น้ำเพชรแนะนำเพื่อนชายให้คุณแม่รู้จัก
ณภัทรไหว้สวัสดีคุณแม่ของน้ำเพชร สองแม่ลูกหน้าตาสะสวยคล้ายกันจริง ๆ ยิ่งมองยิ่งเหมือนกันจนน่าประหลาดใจ เมื่อตอนสาว ๆ หัวหน้าฝ่ายคงสวยไม่ผิดกับลูกและหลานสาวเพราะสืบเชื้อสายต่อกันมา
“กินข้าวกันเลยดีกว่าคงหิวกันแล้ว มาเลยนายณภัทร” หัวหน้าฝ่ายเอ่ยปากชวนพลางเดินมานั่งที่โต๊ะรับประทานอาหารเป็นคนแรก
อาหารบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฉุยแตะจมูกเรียกกระเพาะให้ทำงาน ทั้งผัดบล็อกโคลี ไก่ผัดขิง แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายต่างดูน่ากินทั้งนั้น ณภัทรไม่เคยเห็นไก่ผัดขิงที่เต็มไปด้วยเนื้อไก่ชิ้นโตเต็มจานแบบนี้มาก่อนเลย เคยกินตามร้านอาหารตามสั่งที่ไก่ผัดขิงเต็มไปด้วยขิงซอยและพริกหวานหาเนื้อไก่แทบไม่เจอ แกงเขียวหวานก็น่ากินลูกชิ้นปลากรายลอยอยู่เต็มชาม ถ้าไปสั่งตามร้านข้างทางคงเจอแต่มะเขือหาลูกชิ้นปลากรายไม่เจอ หวังจะมาหาโปรตีนเข้าร่างกายกลับได้อาหารมังสวิรัติมาแทน
ทุนคนมานั่งพร้อมกันที่โต๊ะรับประทานอาหาร เจ้าบ้านทั้งสามคนมารยาทบนโต๊ะอาหารดีเหลือเกิน ตัดอาหารใส่ปากพอดีคำ ไม่ทำเสียงช้อนส้อมกระทบจานให้ได้ยินเลย ณภัทรเกร็งทำตัวไม่ถูกปกติมารยาทในเรื่องแบบนี้เขามีไม่มากนัก เมื่อจานอาหารอยู่ตรงหน้าเขาก็ตักคำใหญ่ใส่ปาก เคี้ยวหยุบหยับเสียงดังแล้วรีบกลืนลงคอ
อาหารฝีมือแม่ของน้ำเพชรอร่อยจนลืมกลับวัด รสชาติเป็นเอกลักษณ์ถูกปากอย่างยิ่ง แต่การปฏิบัติรักษามารยาทตามเจ้าบ้านตักได้แค่คำเล็ก ๆ เข้าปากนี่ทรมานไม่ทันใจเหลือเกิน ถ้ามีอาหารแบบนี้ให้กินทุกมื้อท่าจะดี คงอ้วนพีสมบูรณ์ แล้วต้องทำอย่างไรล่ะ มาเป็นเขยบ้านนี้ไหม?
นอกจากฝีมือปลายจวักจะดีแล้วแม่ของน้ำเพชรยังอัธยาศัยดีหน้าตายิ้มแย้มตลอด เธอเล่าเรื่องราวครอบครัวนี้ให้ฟังว่าแต่เดิมที่นี่อยู่กันถึงหกคน เมื่อห้าปีก่อนคุณตาของน้ำเพชรป่วยด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงและเสียชีวิตเมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ไม่นาน ช่างบังเอิญเหลือเกินที่คุณปู่ของณภัทรก็เสียชีวิตด้วยโรคร้ายชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน ต่างกันก็แต่คุณปู่ของณภัทรท่านเสียก่อนหลานคนนี้จะเกิด ไม่ทันได้เห็นหน้ากัน คุณพ่อของน้ำเพชรทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้ไปดูงานนิทรรศการที่ต่างประเทศ น้าสาวของน้ำเพชรตอนนี้แต่งงานออกเรือนไปแล้ว
ณภัทรรับประทานอาหารมื้อนี้เสียอิ่มแปล้ ไม่น่าเชื่อว่าข้าวเปล่ายังอร่อย เขาคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจติดรถหัวหน้าฝ่ายมารับสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ คราวหน้าจะมีโอกาสลาภปากได้กินอาหารอร่อย ๆ อย่างนี้อีกไหมนะ
“เราเรียนคณะอะไรเหรอจ๊ะ?” แม่ของน้ำเพชรถาม
“คณะการสื่อสาร สาขาออกแบบสื่อครับ”
“เขาเรียนพวกการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร โฆษณาอะไรอย่างนี้ใช่รึเปล่า?” หัวหน้าฝ่ายถาม เป็นครั้งแรกที่ณภัทรรับรู้ได้ถึงท่าทีผ่อนคลายของเธอ
“ใช่ครับ ผมชอบดูหนังและชอบใช้งานโปรแกรมตัดต่อในคอมพิวเตอร์จึงเลือกเรียนสาขานี้ แต่อย่างว่าค่าเทอมคณะนี้แพงไปหน่อย ครอบครัวผมก็ไม่ได้มั่งมีอะไร แถมตอนนี้ยังมีภาระปัญหาเรื่องเงินของคนอื่นให้สะสางแทน โชคดีที่ท่านให้ทุนผมได้เรียนต่อ”
“แหม... แต่ตอนนี้นายก็มีอาชีพพิเศษทำนี่ ดูท่ารายได้จะดีเสียด้วยไม่ใช่เหรอ” น้ำเพชรสัพยอก
“อืม ฉันว่าเธอมีแววไปได้ดีทางด้านนี้ ฝึกฝนฝีมือตนเองให้ชำนาญ เดี๋ยวพวกบริษัทใหญ่ ๆ เห็นความสามารถกลัวจะรุมแย่งตัวไปร่วมงาน วงการนี้รายได้ดีไม่ใช่น้อย ได้ทุนมาแล้วก็ตั้งใจเรียนเข้าล่ะอย่าทำให้พ่อแม่ของเธอผิดหวัง”
“ครับ!” ณภัทรรับคำ
“อาหารฝีมือน้าถูกปากรึเปล่าจ๊ะ?” แม่ของน้ำเพชรเอ่ยถาม
“อร่อยมากครับ ผมไม่เคยได้กินอาหารแบบนี้เลย ปกติจะกินตามร้านข้างทางแถวหน้ามอบ้างหลังมอบ้าง โชคดีมาก ๆ เลยวันนี้ที่ได้มาชิมรสชาติอาหารฝีมือคุณน้า”
“ไว้วันหลังมาอีกก็ได้จ้ะ น้ำเพชรก็ชวนณภัทรมากินข้าวบ้านเราบ้าง เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
แม่ของน้ำเพชรคงยังไม่รู้อะไร ลูกสาวของเธอกับณภัทรไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไรนัก ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งยังง่ายกว่าการถูกน้ำเพชรชวนมากินข้าวเย็นที่บ้าน
“ผมก็หวังไว้ว่าอย่างนั้น ได้ยินคุณน้าพูดอย่างนี้แล้วน้ำเพชรคงหาโอกาสชวนผมมากินข้าวเย็นที่บ้านนี้บ่อย ๆ นิสัยเธอน่ารักครับเพื่อนในชมรมต่างรักเธอกันทุกคน ผมหายสงสัยแล้วว่าเธอได้รับความสวยมาจากใครเมื่อได้มาเห็นด้วยตาวันนี้ คุณน้ายังสวยเหมือนสาวแรกรุ่นอยู่เลยครับ นี่ถ้าไม่เรียกน้ำเพชรว่าลูกผมนึกว่าคุณน้าเป็นพี่สาวของเธอเสียอีก” ณภัทรยอเอาใจแม่ของน้ำเพชรสุดฤทธิ์
น้ำเพชรทั้งเอียนทั้งเลี่ยนกับคำถ้อยคำสรรเสริญเยินยอประดิดประดอยของณภัทร นอกจากชายหนุ่มผู้นี้จะเลี้ยงน้องหมาที่น่ารักไว้ในปากแล้วเขายังเป็นผู้ชายรสสตรอว์เบอร์รี่อีกด้วย แม่ของเธอก็หลงคารมไปด้วย ยิ้มหน้าบานภูมิอกภูมิใจกับคำยกยอ
หัวหน้าฝ่ายหันไปมองนาฬิกาลูกตุ้มโบราณเรือนใหญ่ ขณะนี้เข็มสั้นจวนจะชี้เลขเก้า ดึกมากแล้วห่วงแต่ณภัทรว่าจะกลับอย่างไร คงไม่พ้นเป็นเธอต้องไปส่งเขาเพราะเป็นคนเอ่ยปากชวนมาที่นี่เอง ปกติเธอมักเข้านอนก่อนห้าทุ่ม อายุปูนนี้นอนดึกดื่นเหมือนสมัยสาว ๆ ไม่ได้ปัญหาสุขภาพจะถามหาเอา เหลือเวลาอีกไม่มากต้องรีบไปส่งเขาแล้วกลับมาจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะเข้านอน
“จวนจะยี่สิบเอ็ดนาฬิกาแล้ว เธออิ่มดีแล้วใช่ไหมฉันจะได้ไปส่ง หอพักเธออยู่แถวไหนล่ะ?” หัวหน้าฝ่ายถาม
ณภัทรหันไปมองนาฬิกาเรือนเดียวกันถึงได้รู้ว่าใกล้จะสามทุ่มแล้ว ทำไมหัวหน้าฝ่ายไม่ใช่คำที่คนปกติเขาใช้สื่อสารเรื่องเวลากัน บอกว่าสามทุ่มก็ได้หรือบอกว่าเก้าโมงก็ดี ฟ้ามืดแบบนี้เขาคงไม่เข้าใจผิดว่าเป็นเวลาเก้าโมงเช้าหรอก
“อ๋อ... ไม่เป็นไรครับ คืนนี้ท่านพักผ่อนเถอะครับวันนี้เหนื่อยเรื่องเอกสารมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวผมโทรฯให้เพื่อนมารับเองครับ” ณภัทรกล่าวปฏิเสธไปอย่างสุภาพ
“เอาอย่างนั้นเหรอ ตามใจเธอแล้วกัน คราวหลังไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านดีกว่านะ ตำแหน่งของฉันไม่ได้ใหญ่โตอะไร เรียกฉันว่าคุณยายเหมือนที่น้ำเพชรเรียกแล้วกัน”
“จะดีเหรอครับ ผมเป็นใครก็ไม่รู้จะให้มาเรียกท่านอย่างสนิทสนมว่าคุณยาย”
“ดีสิเชื่อฉัน” หัวหน้าฝ่ายกล่าวเสียงเฉียบขาด
“ขอบคุณที่เมตตาผมครับคุณยาย” ณภัทรปั้นหน้ายิ้มใสซื่อหวังให้หัวหน้าฝ่ายเอ็นดู ถ้าหัวหน้าฝ่ายเอ็นดูเขาการขอทุนในภาคเรียนต่อ ๆ ไปคงไม่ยาก
น้ำเพชรไม่ชอบใจเลยที่คุณยายให้ณภัทรเรียกท่านแบบเดียวกับเธอ ตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินคุณยายบ่นกับคุณแม่ว่าเมื่อไรจะมีหลานชายให้ท่านเสียที หรือว่าคุณยายเกิดถูกชะตาหมอนี่เข้าและอยากได้มาเป็นหลานเพิ่มอีกคน ไม่นะเธอไม่อยากร่วมวงศาคณาญาติกับผู้ชายแบบณภัทร ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเธอก็ไม่มีวันญาติดีด้วย
ณภัทรโทรฯบอกให้จ้อนมารับเรียบร้อยแล้ว บ้านของน้ำเพชรหาเจอได้ไม่ยาก อธิบายไม่นานจ้อนก็ร้องอ๋อแล้วบอกจะรีบบึ่งรถมารับเพราะคิดว่าเพื่อนคงไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้นนานนัก
ระหว่างรอการมาถึงของจ้อน ณภัทรเข้าไปในครัวอาสาจะช่วยล้างจานแต่แม่ของน้ำเพชรบอกว่าไม่ต้อง เขาเป็นแขกไม่จำเป็นต้องออกแรงช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น จึงเปลี่ยนใจขออนุญาตเดินชมบ้านแทน ที่ชั้นล่างมีห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำเล็ก ๆ และห้องนั่งเล่น ในส่วนของห้องนอนคงอยู่ที่ชั้นสอง คาดว่าบ้านหลังนี้สร้างมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีแต่ดูไม่เก่าเพราะบำรุงรักษาอย่างดี เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็ทันสมัยเป็นโซฟาบุกำมะหยี่สีสวยสด บางชิ้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้มีอายุเปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกเหมือนที่คนสมัยนี้นิยมเรียกว่าวินเทจ พอมาเห็นบ้านของจริงก็ลบคำปรามาสว่าเป็นรังปลวกลงไปได้ บ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้หลังนี้น่าอยู่ทีเดียว เขาอยากสร้างบ้านแบบนี้ให้พ่อแม่ที่บ้านนอกอยู่บ้างแต่คงใช้เงินเยอะน่าดู
เดินชมรูปถ่ายครอบครัวติดผนังอยู่เพลิน ๆ ก็ตกใจที่จู่ ๆ น้ำเพชรโผล่เข้ามา ใบหน้าของเธอบึงตึงเหมือนไม่พอใจใคร