เรื่อง คดี ปรส.จากข้อเท็จจริงที่ผมมี อาจไม่เหมือนกัน แต่เป็นข้อมูลที่ผมรวบรวมไว้นานแล้ว
ในฐานะประชาชนผมเองก็รอคำตอบสุดท้ายของ ป.ป.ช.อยู่เหมือนกัน  เท่าที่ผมรู้มาและมีโอกาสเห็นเมื่อครั้งไปให้ปากคำไว้ที่ ดีเอสไอ และที่ ป.ป.ช. ไม่ถึงกับเป็นรายละเอียดทั้งหมดที่เป็นความลับทางคดี ป.ป.ช.เขาคงเปิดเผยไม่ได้  มี 2 ส่วนดังต่อไปนี้
             (1)  ส่วนที่ 1.  มีผู้กล่าวโทษรายหนึ่ง  กล่าวหาว่า  มีผู้ขอจดทะเบียนกองทุนฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ ก.ล.ต. ผ่อนผันเงื่อนไขโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  และกองทุนรวมฯ ที่ไม่ชอบนั้นมาทำสัญญาขาย กับ ปรส. และมาทวงถามหนี้เอากับประชาชนที่เป็นลูกหนี้   ส่วนนี้น่าจะเริ่มนับว่าทำผิดตอนที่ยื่นขอจดทะเบียนกองทุน ฯ  ประมาณนั้น กรณี ผู้เกี่ยวข้องผิด ม.157   มีดังนี้
            -  กองทุน ฯ บางกอกแคปปิตอล         ยื่นขอจดทะเบียน        19 มิ.ย.2541          น่าจะขาดอายุความ    19  มิ.ย.2556
            -  กองทุน ฯ โกลด์บอลไทยฯ               "               "          10 ก.ย.2541              "              "         10 ก.ย.2556
            -  กองทุนฯ เอเซียรีคอฟฯ  1.               "               "           8 ม.ค.2542               "              "         8 ม.ค.2557
            -  กองทุนฯวีแคปปิตอล                       "               "          11 ม.ค.2542              "              "         11 ม.ค.2557
            -  กองทุนฯแกมม่า ฯ                           "               "          24 มี.ค.2542              "              "         24 มี.ค.2557
            -  กองทุนฯ เอเซียรีคอฟฯ 2.                 "               "          30 มี.ค.2542              "              "          30 มี.ค.2557
            -  กองทุนฯ เอเซียรีคอฟฯ 3.                 "               "          24 พ.ค.2542              "              "           24 พ.ค.2557
            -  กองทุนฯไทยรีสตรัคฯ                       "               "           27 พ.ค.2542             "              "           27 พ.ค.2557
           (2)   ส่วนที่ 2. มีผู้กล่าวโทษหลายราย  กล่าวหาว่า ปรส. ไม่แยกหนี้ดี หนี้เสีย ขายถูก ๆ  ไม่ทำสัญญขายกับ บริษัทฯที่ชนะประมูล แต่ ปรสงยอมเอื้อด้วยการทำสัญญาฯกับ ร่างทรง ผู้ชนะประมูล คือ กองทุนฯ ที่ไม่ใช่ผู้ชนะปประมูล   ไม่มีสิทธิ์ประมูล  ปรส.ทำฝ่าฝืน พ.ร.ก. ปฏิรูป ฯ พ.ศ.2540 มาตรา 30 วรรคห้า  ประมาณว่า ปรส.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157  ด้วย ผมจึงประมาณว่าน่าจะเอาวันที่ทำสัญญาขายกับ กองทุนฯ และเอื้อไม่เก็บภาษีเป็นวันทำผิดกฎหมาย น่าจะหมดอายุความ  มีดังนี้
             -  ปรส. ทำสัญญขาย กับ กองทุนโกลด์บอลไทยฯ   ไม่เก็บภาษีและไม่ทำสัญญา กับ บ.เลย์แมน ฯ  ทำส/ญ วันที่ 1 ต.ค.2541-------------------------------------------น่าจะขาดอายุความ  1 ต.ค.2556
             -  ปรส. ทำสัญญาขาย กับ กองทุนบางกออกแคปปิตอล ไม่เก็บภาษีและไม่ทำสัญญากับ บ.โกลด์แมนแซ็คที่ชนะประมูล  ทำส/ญวันที่
12 ม.ค.2542-----------------น่าจะขาดอายุความ     12 ม.ค.2557
             -  ปรส. ทำสัญญาขาบ กับ กองทุนฯวีแคปปิตอล   ไม่เก็บภาษีและไม่ทำสัญญากับ บ.วีคอลกลอม ฯ   ทำส/ญ 12 ม.ค.2542  ---------------------------------------------น่าจะขาดอายุความ    12 ม.ค.2557
             -  ปรส. ทำสัญญาขาย กับ กองทุนฯเอเซียรีคอฟฯ 1.  ไม่เก็บภาษี  ไม่ทำสัญญา กับ บมจ.เงินทุนนเกียรตนาคิน  ทำส/ญ  2 มี.ค.2542------------------------------------น่าจะขาดอายุความ  2  มี.ค. 2557
             -  ปรส. ทำสัญญาขาย กับ กองทุนฯเอเซียรีคอฟฯ 2. ไม่เก็บภาษี ไม่ทำสัญญากับ บมจ.เงินทุนเกียรตินาคิน  ทำส/ญ  27 เม.ย.2542--------------------------------------น่าจะขาดอายุความ  27 เม.ย.2557
             - ปรส. ทำสัญญาขาย กับ กองทุนฯไทยรีสตรัคฯ     ไม่เก็บภาษี ไม่ทำสัญญากับ บมจ.เงินทุนเกียรตินาคิน   ทำ ส/ญ 30 ก.ย.2542-----------------------------------------น่าจะขาดอายุความ  30 ก.ย.2557
             - ปรส. ทำสัญญาขาย กับ กองทุนแกมม่า ฯ    ไม่เก็บภาษี  ไม่ทำสัญญา กับ บ. โกลด์แมนฯ    ทำส/ญ  30 ก.ย.542--------------------------------------------------------น่าจะขาดอายุความ  30 ก.ย.2557
             - ปรส.ทำสัญญาขาย กับ กองทุนฯเอเซีนรีคอฟฯ  ไม่เก็บภาษี ไม่ทำสัญญากับ บมจ.เงินทุนนเกียรตินาคิน   ทำส/ญ  30 พ.ย.2542-----------------------------------------น่าจะขาดอายุความ  30 พ.ย.2557
                เนื่องจากเห็นว่าการทำผิดดำเนินมาถึงวันที่ ปรส. ทำสัญญาฝ่าฝืนกฎหมายกับ  กองทุนที่ไม่ชนะประมูล  จึงไม่น่าจะนับวันที่ประกาศผลประมูลเป็นวันสุดท้ายที่ทำผิด อย่างเดียว  ต้องเอาวันที่ ปรส.ทำสัญญาฝ่าฝืนกฎหมาย และไม่ทำหน้าที่ฝ่ายขายเก็บภาษีเป็นที่ทำผิดด้วย   ท่านอื่นเห็นอย่างไรแลกเปลี่ยนกันนะครับ
                และ มีบางส่วน ดีเอสไอส่งฟ้องไป และศาลตัดสินคดีเมื่อ ก.ย.2555  ศาลพิพากษาว่าผิดขายไม่โปร่งใส  แต่รอลงอาญาเท่านั้น
                ผมเห็นว่าคดีนี้  หากใกล้หมดอายุความ  หรือ ป.ป.ช.ชี้มูลว่านอกหน้าที่ ป.ป.ช. หรือ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.ไม่มีใครผิด  อะไรทำนองนั้นหากมีกรณีเช่นนั้น
                ผมวิงวอนผ่านสื่อไปยัง ดีเอสไอ   ขอให้ดีเอสไอ รื้อฟื้นคดีนี้ใหม่เลยครัีบ  เอาเฉพาะฐานความผิด , ผู้ต้องหา  และไม่ขาดอายุความ และเอาเท่าที่อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ดีเอสไอ เท่านั้นเหมือนอย่างคดีที่ศาลตัดสินเมื่อ ก.ย.2555 นั่นแหละครับ แล้วส่งพนักงานอัยการฟ้องคดีไปให้สุดปลายทางที่ศาลครับ
                เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคัม เพื่อให้สังคมได้รับรู้  ไม่มีใครติดคุกจริงๆ ไม่เป็นไร  ฟ้องผู้ต้องหาน้อยคนไม่เป็นไร  เขาไม่รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลไม่เป็นไร   เขาจะได้รู้ว่าในขบวนการของพวกเขามีแต่คนรับชอบ  ไม่มีคนรับผิด  แล้วหากชาติมีวิกฤตอีก  (ไม่อยากให้มีนะ)  จะได้ไม่มีขบวนการทุจริต หรือ ขบวนการโง่โดยสุจริต คอยซ้ำเติมชาติบ้านเมืองอีกครับ
ผมยังคิดว่าไม่ขาดอายุความทั้งหมดในเดือน มิ.ย.2556 นี้นะ เพียงแต่ที่ไม่ใช่ตัวการ หรือตัวการร่วม  จำพวกผู้สนับสนุน อาจขาดอายุความไปก่อนแล้ว
เรื่องนี้เกิดต่อเนื่องยาวนานพอสมควร ต่างกรรม ต่างวาระ  หากขาดก็ไม่ขาดอายุความพร้อมกัน  แต่ที่ชัดๆ ทำสัญญาขายไม่โปร่งใสนี่ศาลท่านตัดสินไป 1 คดีแล้ว เทื่อเดือน ก.ย.2555  หาก ป.ป.ช.ท่านไม่รีบสรุป หรือสรุปว่าไม่มีมูล  ต้องบอกคำเดียวประเทศไทยเสียใจจริง ๆ ครับ  ท่าน ป.ป.ช.สาวหาผู้กระทำผิดได้ไม่หมดก็สรุปเท่าที่ทันกำหนดอายุความนะครับ


หนึ่งคนสยาม
19 กุมภาพันธ์ เวลา 23:52 น.

http://ppantip.com/topic/30161600