เป็นครั้งแรกเลยครับที่เขียนเรื่องราวลงใน pantip อยากจะแชร์ประสพการณ์  ในการเดินทางคนเดียวในประเทศพม่า 10 วัน มันไม่ใช่เป็นการเดินทางครั้งแรกของผม แต่มันเป็นประเทศท้ายๆสุดที่ผมคิดจะไปอาจจะเป็นเพราะ เรื่องราวที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับ พม่าในทางลบ และ แล้ววันนั้นก็มาถึง ออกเดินทางด้วยสายการบินเมียร์มาร์แอร์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึง กรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงของพม่า โดยมีคนจากที่พักมารอรับ โดยการจองผ่านทางอีเมล์ เป็นที่ๆคนไทยไปพักเยอะและบอกต่อๆกกัน ในเรื่องของบริการที่ดีและห้องพักราคาถูก มันเป็นบ้านที่มาแบ่งเป็นห้องๆ ใช้ได้ครับสะอาด พร้อมอาหารเช้า ราคาอยู่ที่ประมาณ 15 US ต่อคืน มาร์เธอร์แลนอินทร์ 2 ครับ เมื่อเข้าพักเรียบร้อยแล้ว ไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมอยู่ที่ย่างกุ้ง 1 คืน ก่อนจะออกเดินทางไปที่ เมือง มัฑเลย์ ในวันรุ่งขึ้น โดยการจองตั๋วรถโดยสารผ่านทางที่พัก ราคาอยู่ที่ประมาณ 5000 จ๊าต ( ประมาณสี่ร้อยกว่าบาท ) หลังจากจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินสำรวจเเมืองหหลวงซักหน่อยโดยการ ถามทางเข้าไปเรื่อยๆ จากที่พักเดินเท้ามาถึง สุเรย์พยา ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงเดินเล่นไปเรื่อยๆดูผู้คนเพลินดีครับ เดินดูตึกเก่าๆสไตร์โคลโลเนียน รูปนี้ก็เป็นตึกเก่าครับ เป็นของรัฐบาล อยู่ใกล้ๆ กับ สุเรย์พยา ครับใจกลางเมืองเลย ตึกเก่าอีกแห่งนึงครับ เดินจากสุเรย์ มาทางรึมแม่น้ำ สุเรย์พยา ย่านสุเรย์ ครับ และแล้ว ความประทับใจก็เกิดขึ้นที่ ย่านสุเรย์พยา ในระหว่างที่เดินเล่นและถ่ายรูปอยู่เพลินๆ ก็ได้มีเด็กหมุ่มคนนึงเดินเข้ามาหา แล้ว ถามเราว่ามาจากประเทศลาวหรือ กัมพูชา 555 ด้วยหน้าตาที่ออกไปทางนั้น เปล่าเป็นคนไทย ตอนแรกก็คิดว่า มันจะมาไม้ไหนว่ะ ไกด์ผีหรือเปล่า จะขอเงินหรือเปล่า คิดไปต่างๆนาๆ ทำใจเย็นคุยไปเรื่อยๆ ได้ความว่า เป็น นักศึกษา ชือว่า คานร์ ถามเราว่าจะไปเทียวที่ไหนต่อ บอกว่าอยากจะไปที่วัด เตาตาจี ( พระตาหวาน ) ที่อยู่ในอย่างกุ้ง หาอะไรกินก่อน แล้ว จะกลับที่ พัก เค้าจะอาสาพาไป และ บอกว่าเค้าพักอยู่ที่วัดนั้นในระหว่างที่มาเรียน เอางัยดีไปหรือไม่ไปใจคิด และ แล้วก็เอาว่ะ เป็นงัยเป็นกัน ไม่มีอะไรจะเสีย แต่ว่าไปหาอะไรกินกันก่อนนะ หิวมาก และแล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ได้รับน้ำจากคนพม่า หลัง จากเที่ยววัดเสร็จ ก็ ได้พานั่งรถเมล์กลับมาที่พัก ให้เงินก็ไม่รับ มันเลยเป็นความประทับใจแและมิตรภาพดีที่เกิดขึ้นกับเรา เราจึงบอกไปว่าวันนี้เป็นวันแรกที่มาถึง แล้ว จะไปมัณฑล์ กับ พุกาม ในวันรุ่งขึ้นแล้วจะกลับมาอยู่ที่ย่างกุ้งต่ออีก 3 วัน เราจึงนัดเจอกันอีกที่ ที่ผมพักและคานร์ก็ได้สอนการนั่งรถเมล์ในพม่า สบายกระเป๋าเลยเรา มื้อแรกในย่างกุ้ง เดินทางไปวัดเด้วยรถเมล์ ถึงแล้วครับ วัดเตาตาจี สวยสมคำบอกเล่าจริงๆ ก่อนกลับที่พัก ก็ได้เดินถนนข้ามมาอีกฟากนึงเพื่อมาดูพระพทุธรูปหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในย่างกุ้งอีกแห่งหนึ่งครับ เสร็จจงกกลับที่พัก ผมมีร้านกาแฟจะแนะนำเป็นร้านที่อยู่ข้างกับที่พัก ผมไปนั่งทุกเช้าที่อยู่ในย่างกุ้ง เหมือนกับร้านต่างหวัดในบ้านเรา ที่ร้านนี้ ผมว่า ปาท่องโก๋ อร่อยที่สุดในย่างกุ้งร้านอื่นจะเหนี่ยวๆ แต่ร้านนี้กรอบมาก คนในร้านก็เป็นมิตรมากเมื่อรู้ว่าเป็นคนไทย... วันที่สอง ของการเดินทางยังอยู่ในย่างกุ้งครับ แต่วันนี้ฉายเดียวครับ มีเวลาก่อนที่จะไปที่สถานีขนส่งกกว่ารถจะออกก็ 5 โมงเย็น เลยเดินไปที่ริมแม่น้ำ ย่างกุ้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด โบตาทาว์ เป็นที่เก็บพระบรมสารีริกาธาตุ และ เทพทันใจที่คนไทยนิยมไปขอพร รวมทั้งผมด้วย เดินเท้าจากที่พักประมาณ 5 นาทีครับก็ถึง องค์เทพทันใจ ที่ โบตาทาว์ ครับ ในย่างกุ้งจะมีสองที่นะครับ คือ ที่นี่และที่ สุเรย์พยาในเมื่อเวลายังมีเหลืออีกมาก ก่อนที่จะเดินทางไปสถานีขนส่ง เลยไปเดินเล่นต่อที่ริมแม่น้ำย่างกุ้ง ที่อยู่ติดกกับวัด โบตาทาว์ จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาเลยรีบกลับที่พักไปอาบน้ำเตรียมตัวดีกว่า เดี๋ยวไว้มาต่อทีหลังนะครับ ตอนที่เดินทางไปมัณฑเลย์