[CR] ย่างกุ้ง Yangon Myanmar

เดินทางจากสนามบินดอนเมืองกรุงเทพถึงสนามบินย่างกุ้งประมาณ 17:00 น. (เวลาเมืองไทยเร็วกว่าพม่า 30 นาที)มีรถเท็กซี่มารอรับเพราะได้ติดต่อจองไว้ล่วงหน้าชื่อ Mr Aung Ko ซึ้งพอพูดคุยสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลยไม่ต้องใช้ไกด์ก็ประหยัดไปอีกจากนั้นก็ไปไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง SHWEDAGON PAGODAผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมมักนิยมเดินตามเข็มนาฬิกาวนรอบพระเจดีย์ เริ่มต้นที่ศาลทางทิศตะวันออกซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระกกุสันธพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระองค์แรกในภัทรกัปนี้ ถัดไปเป็นศาลทางทิศใต้ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระโกนาคมนพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สองในภัทรกัปนี้ ถัดไปศาลทางทิศตะวันตกเป็นศาลของพระกัสสปพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สามในภัทรกัปนี้ สุดท้ายศาลทางทิศเหนือเป็นศาลของพระโคตมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
เช้าวันทีสองในย่างกุ้งพม่ารถเท็กซี่มารับตอนเช้าเดินไปทางไหว้เจดีย์โบตาทาวน์ (Botataung Paya)ภายเจดีย์มีพระเกศาธาตุ (สารีริกธาตุ)ที่อันเชิญมาจากอินเดียเพื่อนำไปบรรจุไว้ที่ มหาเจดีย์ชเวดากอง และทรงบรรจุเส้นพระเกศาธาตุไว้ 1 เส้น ในเจดีย์นี้
ต่อจากนั้นก็ไปไหว้เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี ซึ่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านข้างของเจดีย์โบตะตาวนั้นเอง ซึ่งชาวพม่ามีความเชื่อกันว่าไม่ว่าจะสร้างเจดีย์ใดๆ ที่ไหนก็ตาม จักต้องมีเทพคอยคุ้มครองดูแลเจดีย์ และแน่นอน เทพทันใจนี้ เป็นเทพที่คุ้มครองเจดีย์โบตะตาว นั้นเอง ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ สมกับคำ เทพทันใจ นั่นเองตรงข้ามกับเทพทันใจก็ร้านค้าปล่อยเช่าวัตถุมงคลเทพทันใจโดยพ่อค้าทีนี้หลายคนพูดไทยได้แบบคนพม่าเคยมาทำงานที่ไทยแถมทีนี้รับเงินไทยด้วย
หลังจากนั้นเดินทางไปต่อจุดศุนย์กลางเมืองย่างกุ้ง  เป็นเมืองหลวงของเขตย่างกุ้ง ย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงของพม่าจนถึงปี พ.ศ. 2549 เมื่อรัฐบาลทหารย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองเนปยีดอในภาคกลางของประเทศพม่า ย่างกุ้งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมีประชากรกว่า 7 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญที่สุดของพม่า
ต่อจากนั้นก็ไปไหว้เจดีย์สุเหล่เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีทองอร่าม (Sule Pagoda) ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าคำว่าสุเหร่แปลว่าขนาดกลางๆเป็นองค์เจดีย์ขนาดกลางรองมาจากเจดีย์ชเวดากอง
จากนั้นก็ไปไหว้พระพุทธไสยาสน์ (Chaukhtatgyi Paya) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระนอนตาหวาน เพราะมีพระเนตรงดงาม ที่ทำจากแก้วซึ่งสั่งผลิตพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งบริเวณปลายพระบาท มีรูปอัฏจตุรสตกมงคล 108 ประการ พระพุทธไสยาสน์องค์นี้มีความยาว 70 เมตร เป็นหนึ่งในพระนอนใหญ่ที่สุดของพม่า
ขอเบรคเรื่องไหว้พระมาหาของกินอาหารเที่ยงกันก่อนร้านนี้เป็นร้านอาหารพม่า เห็นมีนักท่องเที่ยวชาวไทยไปทานกันเยอะพอสมควรรสชาติพอใช้ได้
ทานข้าวเสร็จกลับทีพักโรงแรมอาบน้ำแต่งตัวเอากระเป๋าเพื่อเดินทางไปมัณฑะเลย์แต่ระหว่างทางขอแวะไหว้ยาวๆไป
วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี (Buddha Tooth Relic Pagada)วัดนี้พม่าใช้สถาปัตยกรรมโบราณพุกาม โดยรวมเอาสถาปัตยกรรมของพม่าในยุคต่างๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน องค์เจดีย์เป็นทรงปราสาทแปดเหลี่ยม ปลายยอดเจดีย์ประดับด้วยทองคำแท้ภายในองค์เจดีย์ประดับตกแต่งอย่างวิจิตร กลางโถงเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครั้งอัญเชิญมาจากประเทศจีน เป็นองค์เดียวกับที่เคยอัญเชิญมาที่พุทธมณฑล
ระหว่างเดินไหว้เจอสาวพม่าเลยขอถ่ายรุปด้วย
ต่อจากนั้นวันนี้ปิดท้ายไหว้พระด้วยวัดวัดพระหินขาวหรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเรียกกันว่าพระหินอ่อน"Lawka Chantha Abaya Labamuni Buddha Image"
หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังสถานีขนส่งเพื่อรอรถไปมัณฑะเลย์แต่ระหว่างรอรถขอชืมอาหารพื้นเมืองพม่าสักหน่อยเขาเอาหัวหมูเครืองในไปต้มให้สุกเสร็จแล้วก็มาหั่นเสียบไม้เป็นชิ้นๆราคาก็มี2.50บาทและ5บาท การกินก็เอาไม้ไปลวกในน้ำซุปแล้วมาชิมน้ำจิ้ม
เสร็จก็ไปขึ้นรถทัวร์ของบริษัทJJ Express ซึ้งบริการดีและรถใหม่มีอุปกรณ์ครบครันบนรถใครไปพม่าแนะนำให้ใช้บริการเลยครับ
รถออกสามทุ่มครึ่งถึงมัณฑะเลย์ประมาณตีห้าครึ่งเจอกันใหม่ทีมัณฑะเลย์
ชื่อสินค้า:   การท่องเที่ยวพม่า Travel in Myanmar
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่