นำบทความและเนื้อข่าวที่น่าสนใจครับ
1.ตรวจสอบชาวพุทธ
จาก
บทบรรณาธิการข่าวสด
ข่าวอื้อฉาวในวงการพุทธศาสนาที่ยืดยาวต่อเนื่องมากว่าสัปดาห์ กรณีการแสดงออก ที่ไม่เหมาะแก่สมณสารูปของผู้นุ่งห่มเหลืองบางราย ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์และข้อถกเถียงหลายประการขึ้นในสังคมไทย
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี
เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว แทนที่จะหมกซุกเอาไว้ใต้พรม อันจะยิ่งทำให้ปัญหาหมักหมมและเน่าเหม็นจนยากแก่การแก้ไขยิ่งขึ้นในอนาคต
สังคมไทยกลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับเรื่อง ดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และมีการเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาหรือชำระสะสางพระศาสนาไม่ให้ราคีคาวความมัวหมองเข้ามาแปดเปื้อนได้อย่างหลากหลาย
นี่ย่อมเป็นการผดุงศาสนาในทางที่ถูก ที่ควร
นอกจากการวิจารณ์ถึงการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมกับสมณสารูป รวมไปถึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้ว
ยังเปิดประเด็นการวิพากษ์ไปถึงญาติโยมทั้งหลายผู้อยู่รอบข้างพระภิกษุว่าจะต้องกลับมาตรวจสอบตนเองอย่างตรงไปตรงมาด้วยว่ามีส่วน ที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นด้วยมากน้อยเพียงใด
โดยเฉพาะการบริจาคทรัพย์สินที่เกินแก่ความจำเป็นและไม่เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญกิจของสงฆ์ให้กับพระภิกษุ
หากไม่มีการให้และไม่มีการรับในสิ่งที่ไม่เหมาะสมแต่ต้น ปัญหาหรือความอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันย่อมไม่เกิดขึ้น
ก็เป็นอีกประเด็นที่ควรรับฟังและพิจารณา
นอกจากนั้นแล้วยังมีผู้เสนอด้วยว่า หากจะตรวจสอบการแสดงออกที่ไม่เหมาะแก่สมณสารูปแล้ว ไม่ควรจำกัดอยู่แต่เฉพาะบางกลุ่มหรือบางราย หากจะต้องใช้หลักการเดียวกันนี้ในการตรวจสอบวงการพระพุทธศาสนาอย่างถ้วนทั่ว
โดยเฉพาะกับกลุ่มคณะที่มากด้วยอิทธิพลทั้งทางทรัพย์สิน และมีเครือข่ายโยงใยทางการเมือง
เพราะการที่พระพุทธเจ้าบัญญัตินามผู้บวชในพุทธศาสนาว่า "ภิกษุ" ที่แปลว่า "ผู้ขอ" ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึงหลักการของผู้สละ ผู้ลด ละ เลิกการสะสมทรัพย์สิน เพื่อให้โปร่งเบาสบาย และเอื้อต่อการปฏิบัติธรรม
บางกลุ่มบางคนที่บวชแล้วกลับเน้นการสะสม
ยังจะนับเป็นภิกษุได้หรือไม่?
อ้างอิง
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFpHa3dNVEkxTURZMU5nPT0=§ionid=TURNd01nPT0=&day=TWpBeE15MHdOaTB5TlE9PQ==
บทความและข่าวที่น่าอ่านสำหรับชาวพุทธ "ตรวจสอบชาวพุทธ" และ "หน้าที่ชาวพุทธ"
1.ตรวจสอบชาวพุทธ
จาก
บทบรรณาธิการข่าวสด
ข่าวอื้อฉาวในวงการพุทธศาสนาที่ยืดยาวต่อเนื่องมากว่าสัปดาห์ กรณีการแสดงออก ที่ไม่เหมาะแก่สมณสารูปของผู้นุ่งห่มเหลืองบางราย ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์และข้อถกเถียงหลายประการขึ้นในสังคมไทย
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี
เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว แทนที่จะหมกซุกเอาไว้ใต้พรม อันจะยิ่งทำให้ปัญหาหมักหมมและเน่าเหม็นจนยากแก่การแก้ไขยิ่งขึ้นในอนาคต
สังคมไทยกลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับเรื่อง ดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และมีการเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาหรือชำระสะสางพระศาสนาไม่ให้ราคีคาวความมัวหมองเข้ามาแปดเปื้อนได้อย่างหลากหลาย
นี่ย่อมเป็นการผดุงศาสนาในทางที่ถูก ที่ควร
นอกจากการวิจารณ์ถึงการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมกับสมณสารูป รวมไปถึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้ว
ยังเปิดประเด็นการวิพากษ์ไปถึงญาติโยมทั้งหลายผู้อยู่รอบข้างพระภิกษุว่าจะต้องกลับมาตรวจสอบตนเองอย่างตรงไปตรงมาด้วยว่ามีส่วน ที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นด้วยมากน้อยเพียงใด
โดยเฉพาะการบริจาคทรัพย์สินที่เกินแก่ความจำเป็นและไม่เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญกิจของสงฆ์ให้กับพระภิกษุ
หากไม่มีการให้และไม่มีการรับในสิ่งที่ไม่เหมาะสมแต่ต้น ปัญหาหรือความอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันย่อมไม่เกิดขึ้น
ก็เป็นอีกประเด็นที่ควรรับฟังและพิจารณา
นอกจากนั้นแล้วยังมีผู้เสนอด้วยว่า หากจะตรวจสอบการแสดงออกที่ไม่เหมาะแก่สมณสารูปแล้ว ไม่ควรจำกัดอยู่แต่เฉพาะบางกลุ่มหรือบางราย หากจะต้องใช้หลักการเดียวกันนี้ในการตรวจสอบวงการพระพุทธศาสนาอย่างถ้วนทั่ว
โดยเฉพาะกับกลุ่มคณะที่มากด้วยอิทธิพลทั้งทางทรัพย์สิน และมีเครือข่ายโยงใยทางการเมือง
เพราะการที่พระพุทธเจ้าบัญญัตินามผู้บวชในพุทธศาสนาว่า "ภิกษุ" ที่แปลว่า "ผู้ขอ" ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึงหลักการของผู้สละ ผู้ลด ละ เลิกการสะสมทรัพย์สิน เพื่อให้โปร่งเบาสบาย และเอื้อต่อการปฏิบัติธรรม
บางกลุ่มบางคนที่บวชแล้วกลับเน้นการสะสม
ยังจะนับเป็นภิกษุได้หรือไม่?
อ้างอิง
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFpHa3dNVEkxTURZMU5nPT0=§ionid=TURNd01nPT0=&day=TWpBeE15MHdOaTB5TlE9PQ==