ประพนธ์นอนหลับสบายอยู่บนเตียงนอนนุ่มอย่างไม่รู้เดือนรู้ตะวัน เพราะฤทธิ์เหล้าเมื่อคืนทำให้เขาปวดหัวและลืมตาตื่นขึ้นอย่างอ่อนเพลีย
“นม นม เอายาแก้ปวดหัวให้หน่อย ผมปวดหัว นม นม”
ประพนธ์ร้องเรียกหาแม่นมใจดีของเขา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นนั่งงัวเงีย ก่อนจะต้องสะดุ้งโหยงและมองไปทั่วห้องอย่างตกอกตกใจ
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ชายหนุ่มพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะต้องยกมือกุมขมับอย่างเจ็บปวดหัวใจ ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำลงไป นอกจากจะไม่ทำให้ทุกอย่าง
ดีขึ้นแล้ว มันยังทำให้เรื่องราวทุกอย่างวุ่นวายไปหมด
“เฮ่ย”
ชายหนุ่มเหวี่ยงกางเกงในผู้หญิงที่ติดอยู่ในแขนเขาออก ก่อนจะรีบร้อนแต่งตัวและเดินหน้าตาตื่นลงบันไดมาเจอทุกคนทานข้าวกลางวันด้วยกันอยู่ในห้องอาหาร ยกเว้นภคพรที่หายไป
“อ้าว พนธ์หลับสบายดีหรือเปล่า มาทานข้าวด้วยกันสิลูก”
เพียงพรกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ผมไม่หิว ภคพรอยู่ไหนครับ”
ชายหนุ่มร้องหาภรรยาของเขา
“เห็นบอกว่าจะพาคุณประไพรไปตรวจสุขภาพประจำปี แล้วก็รีบร้อนออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว มีอะไรกันหรือเปล่า”
เพียงพรถามด้วยความห่วงใย
“ไม่มีหรอกครับ ผมลาล่ะ”
ประพนธ์รีบร้อนออกจากบ้านอีกคนท่ามกลางความห่วงใยของทุกคนที่ช่วยกันลุ้นให้เรื่องราวของพวกเขาจบลงซักที
ภคพรพาแม่สามีมาตรวจสุขภาพประจำปีตามที่นัดกันเอาไว้ แต่ท่าทางเศร้าๆของเธอทำให้ประไพรเป็นห่วง
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก มีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้นะ ไม่ว่าจะยังไงแม่ก็เคารพการตัดสินใจของหนู คนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนใช้เวลาไม่
กี่วันก็สามารถเข้าใจอะไรได้ บางคนเป็นเดือน บางคนเป็นปี ไม่ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหน แม่เชื่อว่าหนูจะต้องเข้าใจและทำในสิ่งที่หนูคิดว่ามันดีที่สุด
แม่เชื่อเพราะว่าแม่ก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาแล้ว”
ประไพรกุมมือภคพรไว้แน่นอย่างเอ็นดู ภคพรน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจในทุกๆสิ่งที่เธอเคยทำไม่ดีกับประไพร
“หนูขอโทษค่ะ ในทุกๆสิ่งที่หนูทำไม่ดีกับคุณ หนูนี่มันแย่จริงๆ”
ภคพรร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าประไพรที่ตอนนี้ก็รับภคพรเข้ามาเต็มหัวใจ
“แม่รักหนูนะ และอยากเห็นหนูมีความสุข ไหนบอกแม่มาซิว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องอะไรที่มันทำให้หญิงสาวที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าอย่างหนูร้องไห้
เสียใจได้ขนาดนี้ เรื่องอะไรที่ทำให้จิตใจของหนูหวั่นไหวได้ขนาดนี้”
ประไพรยิ้มหวานให้ลูกสะใภ้อย่างเอ็นดู
“เขาข่มขืนหนู ฮือ.........”
ภคพรร้องไห้โฮ ประไพรเบิกตากว้างตกใจ
“ตายแล้ว ใคร ใครเอ่อ....”
ประไพรใจหายวาบมือสั่นเทาด้วยความตกใจ
“นายประพนธ์ นายประพนธ์เขาข่มขืนหนู ฮือ........”
ภคพรโผลกอดประไพรแน่นอย่างต้องการที่พึ่ง เมื่อได้ยินชื่อลูกชายตัวแสบประไพรถึงกับยิ้มออกมาได้อย่างโล่งอก
ภคพรกลับมาที่บ้านของประพนธ์อีกครั้งอย่างไม่มีทางเลือก แต่การจะต้องพบหน้าเขาเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับเธอ ภคพรจึงเลือกที่จะ
ตัวติดอยู่กับประไพรตลอดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอกันของเธอและประพนธ์
“หนูกลัวอะไรลูก แต่งงานกันแล้วคู่ไหนๆเขาก็มีเรื่องแบบนี้กันทั้งนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องอายหรอกลูก”
ประไพรยิ้มกว้าง ยืนหั่นหมูเพื่อเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัวกับลูกสะใภ้คนสวย
“หนูไม่มีทางพบหน้าเขาอีกแน่ หนูไม่เต็มใจ หนูถูกทำร้าย”
ภคพรกล่าวเสียงเข้ม ยังคงโกรธและเสียใจ
“ที่บอกว่าจะไม่พบอีก คุณหมายถึงผมหรือเปล่า”
ประพนธ์เดินเข้ามาในครัวด้วยใบหน้าเศร้าๆ
“นี่คุณ ออกไปเลยนะ”
ภคพรกล่าวหวาดๆ เดินไปหลบอยู่หลังประไพรเพราะความเขิน
“ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ มาคุยกันหน่อยสิ”
ประพนธ์กล่าวเสียงเข้ม
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ ไปให้พ้น ไป”
ภคพรเอ่ยปากไล่ ตัวเองยังคงหลบอยู่หลังประไพรที่เอาแต่ยืนมองค้อนลูกชายไม่วางสายตา
“แม่ส่งเมียผมมาหน่อยสิ ผมมีเรื่องจะคุยกับเขา”
ประพนธ์อ้อนวอน ภคพรร้อนรนเกาะหลังประไพรแน่นหนา
“หนูไม่ไปนะ ไม่ไป”
ภคพรร้องเสียงหลง
“ใครเมียแก ไหนบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ไง แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน”
ประไพรตีหน้าขรึมใส่ลูกชาย
“แม่อ่ะ บอกให้ส่งก็ส่งมาเถอะน่า”
ประพนธ์ยังคงเซ้าซี้
“หนูไม่ไป”
ภคพรเกาะประไพรแน่นหนาไม่ยอมห่าง
“มานี่ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
ประพนธ์ถลาเข้ามาหาภคพรฉุดแขนเธอ หญิงสาวสะบัดหนี ประพนธ์ถูกผู้เป็นแม่ตีมือเสียงดัง
“แกทำอะไรของแก นี่ต่อหน้าต่อตาแม่นะ จะทำอะไร”
ประไพรโวยวาย จับมือลูกสะใภ้คนสวยไว้แน่นหนา
“ผมไม่บ้าทำอะไรเขาตรงนี้หรอกน่า ผมแค่อยากจะคุยให้มันรู้เรื่อง”
ประพนธ์พยายามอธิบาย
“คุยอะไร แกจะคุยอะไร แกเคยมีเรื่องจะคุยกับหนูเนย์ด้วยหรอ”
ประไพรมองค้อนลูกชายอีกครั้ง
“จะให้ผมพูดมั้ยว่าเรื่องอะไร จะต้องให้พูดหรือเปล่า”
ประพนธ์ขู่เข็น
“พูดมาสิ แกจะพูดเรื่องอะไร พูดมาต่อหน้าแม่นี่แหละ”
ประไพรกล่าวเสียงแหลม
“ดี เรื่องที่ผม....”
ประพนธ์พูดโพล่งออกมาเสียงดัง ภคพรรีบร้อนร้องห้ามเสียงหลง
“อย่าพูดนะ ห้ามพูด”
ภคพรโวยวาย ยังคงยืนหลบหน้าเขา
“ถ้าไม่อยากให้ผมพูด ก็มาคุยกันดีๆ เรื่องนี้มันชักจะไม่ตลกแล้ว เราต้องคุยกัน”
ประพนธ์ร้องเรียกหญิงสาวจริงจัง ภคพรยังคงลังเลและอายในสิ่งที่ประพนธ์ทำกับเธอ
“ไปคุยกับพี่เขาเถอะลูก มีอะไรก็พูดก็คุยกันให้รู้เรื่อง หนูเป็นผู้หญิงที่เก่งจะตายไป เรื่องแค่นี้อย่ามาทำให้เสียความมั่นใจ ลูกชายแม่คนนี้อยากทำอะไร
ก็ทำได้เลย แม่อนุญาต”
ประไพรให้ท้าย ภคพรถึงยอมเดินออกมาเผชิญหน้ากับประพนธ์แบบเขินๆ แค่เขามองจ้องมาที่เธอก็ทำให้หน้าเธอแดงแจ๋ไปถึงไหนต่อไหน
ภคพรนั่งหันหน้าหนีประพนธ์อยู่บนโซฟาในห้องนอนของพวกเขา ท่าทางแปลกๆของเธอทำให้ประพนธ์ยิ่งประหลาดใจ ผู้หญิงร้ายกาจอย่างภคพรกลับมีท่าทีอ่อนไหวและเหนียมอายเมื่อเขามีอะไรกับเธอ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าใจ
“นี่คุณ จะคุยกันโดยไม่มองหน้าผมแบบนี้ มันไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรอ”
ประพนธ์เริ่มบทสนทนาก่อน
“มีอะไรคุณก็รีบๆพูดมาเถอะ แต่ห้ามพูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้เด็ดขาด ฉันไม่อยากฟัง”
ภคพรกล่าวเสียงเข้ม
“ก็เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แหละที่ทำให้ผมต้องมีเรื่องพูดกับคุณ ผม....”
ประพนธ์นั่งก้มหน้านิ่ง พูดอะไรไม่ออก เขาจะบอกกับภคพรว่ายังไงดีกับเรื่องราวต่างๆที่มันเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ
“ผมทำไม”
ภคพรหันขวับมาหาประพนธ์ มองจ้องเขาตาเขม็งอย่างพอจะรู้คำตอบ
“ผม...”
ประพนธ์ยังคงพูดอะไรไม่ออก
“ฉันไม่คิดอะไรมากหรอก ไหนๆเราก็แต่งงานกันแล้ว เรื่องแค่นี้ ฉันไม่เป็นไร”
ภคพรกล่าวขึ้นด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส ทีท่าของประพนธ์ทำให้เธอเสียใจ
“ผมอยากขอโทษคุณ”
ประพนธ์กล่าวเสียงเศร้า แววตาของเขาดูสับสนวุ่นวาย
“เรื่องอะไร”
ภคพรมองจ้องประพนธ์ไม่วางสายตาอย่างเลือดเย็น รับรู้ได้ทันทีว่าประพนธ์ไม่ได้ยินดีกับเรื่องนี้เลย
“เรื่องที่ผมทำกับคุณเมื่อคืนนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมคิดว่า คิดว่า....”
ประพนธ์ลังเลอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แปลกไป เขาเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับภคพรกันแน่
“คิดว่าฉันเป็นเมียเก่าของคุณ เลิกพูดเรื่องนี้ซะที ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นอะไร”
ภคพรกล่าวเสียงเรียบ ด้วยหัวใจที่แสนด้านชา ดวงตากลมโตมีน้ำตาคลอเพราะคำพูดทำร้ายจิตใจของประพนธ์
“ผมจะไม่ทำแบบนี้กับคุณอีก คุณยกโทษให้ผมด้วย”
ประพนธ์ก้มหน้าพูดอย่างกระวนกระวายใจ
“หยุดพูดเรื่องนี้ซะที ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
ภคพรตะวาดใส่ประพนธ์เสียงดัง เกลียดชังในสิ่งที่เขาทำกับเธอ
“ผมอยากขอร้องคุณ ให้ยอมฟังเรื่องที่ผมจะพูด เราควรจะ ควรจะ....”
ประพนธ์นั่งกระวนกระวายใจ สิ่งที่เขาจะพูดมันโหดร้ายเกินไปสำหรับผู้หญิงที่เขาเพิ่งทำเลวๆกับเธอ
“อย่าบอกนะว่าคุณจะบอกให้เราหย่ากันหลังจากที่เพิ่งทำเลวๆกับฉันแบบนั้น ถ้าคุณกล้าพูดมันออกมาจริงๆ คุณมันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไปเอาผ้าถุงแม่คุณมาได้เลย…เลวจริงๆ”
ภคพรลุกขึ้นยืนด่ากราดใส่เขา น้ำตาเอ่อไหลอย่างสุดกลั้น เดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะมาหยุดร้องไห้โฮอยู่ข้างบันไดด้วยความเสียใจ ไม่ว่าเธอกับประพนธ์จะมีความสัมพันธ์กันในลักษณะใด แต่ทุกเรื่องที่เขาทำมันมีแต่ทำให้เธอเสียใจ
เพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ประพนธ์ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องหย่าออกไป ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงภคพรและกลัวในสิ่งที่
กันย์กำลังจะทำกับครอบครัวของเธอ
“นี่คุณจะไปไหน”
ประพนธ์หันมาถามภคพรที่หอบหมอนหอบผ้าห่มไว้ในอก ในขณะที่เขานอนสบายอยู่บนเตียงในห้องนอน
“ฉันจะไปนอนกับแม่ของคุณ ขยะแขยงคนบางคน”
ภคพรกล่าวเสียงแข็ง กลับมาเย็นชากับประพนธ์อีกครั้ง
“เป็นบ้าอะไรของคุณอีก ผมไม่ให้ไป”
ประพนธ์ลุกพรวดขึ้นมาหาภคพร ดึงหมอนและผ้าห่มของเธอเหวี่ยงกลับไปบนที่นอน
“นี่คุณ จะนอนก็นอนไปสิ จะมายุ่งกับฉันทำไม”
ภคพรผลักอกประพนธ์ เอื้อมมือหยิบหมอนและผ้าห่มของเธออีกครั้ง แต่ก็ถูกประพนธ์ดึงออกอีกอยู่ดี
“นี่คุณ....”
ภคพรมองจ้องประพนธ์ตาขวาง
“นอนที่นี่ ผมไม่ให้ไป ผมแรงเยอะแค่ไหนคุณก็รู้ดีนี่ ขนาดเมาๆคุณยังสู้ผมไม่ได้เลย แล้วตอนนี้ผมไม่ได้เมา คุณคิดว่าจะยังไง”
ประพนธ์ขู่หญิงสาวด้วยรอยยิ้มกวนประสาท ที่ภคพรเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไอ้ทุเรศ ลามก”
ภคพรผลักชายหนุ่มล้มคว่ำลงบนเตียงนอน ก่อนจะนอนลงตรงที่เธออย่างไม่อาจขัดขืน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบหมอนข้างมาวางไว้ตรงกลางเพื่อป้องกันตัว
“คิดว่ามันจะช่วยอะไรคุณได้หรอ”
ประพนธ์ขู่หญิงสาวอีกครั้ง ยืนมองจ้องเธออย่างอารมณ์ดี
“หุบปาก ฉันจะนอน”
ภคพรยกมือขึ้นปิดหูอย่างหงุดหงิด ประพนธ์เองก็นอนลงข้างๆเธอด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้มาก่อนระหว่างเขากับเธอ
ภคพรตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อลงไปช่วยประไพรทำอาหารเช้าในครัวเพื่อเตรียมตัวใส่บาตร ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่เธอทำอยู่แทบทุกวัน
แต่ทว่าวันนี้มีอะไรที่พิเศษเกิดขึ้นก็คือประพนธ์ตื่นขึ้นมาลงมือทำอาหารเช้ากับเธอด้วย
“คุณมาทำบ้าอะไรที่นี่”
ภคพรมองจ้องประพนธ์เขม็ง
“มาในครัว มาขี้มั้งคุณ”
ประพนธ์ตอบกวนประสาท
“กวนประสาท”
ภคพรต่อว่าประพนธ์อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเดินไปช่วยแม่ของเขาหั่นหมูอย่างช่ำชอง
“ลมอะไรพัดแกมาถึงในครัวได้ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเข้าครัว”
ประไพรถามลูกชายอมยิ้ม
“ลมอะไรล่ะแม่ ผมก็แค่อยากทำตัวเป็นคนดีกับเขาบ้าง ก็เท่านั้น”
ประพนธ์อมยิ้ม
“อ้อหรอ แม่ก็นึกว่าอยากเห็นหน้าใครบางคนในห้องนี้”ประไพรแซวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ประพนธ์รีบร้อนปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับหน้าของภคพรที่
แดงขึ้นอย่างผิดสังเกต
“หน้าใครที่ไหนล่ะแม่ ไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้นแหละ/โอ๊ย”
เสียงร้องของภคพรดังขึ้นพร้อมกับหยดเลือดที่ไหลรินเป็นทางยาว ประพนธ์วิ่งถลาเข้าไปหาภรรยาคนสวย ฉุดมือเธอขึ้นอย่างร้อนรน ก่อนจะฉุดรากเธอ
เดินตรงไปที่ก๊อกน้ำเพื่อล้างแผล โดยมีสายตาของประไพรมองดูอยู่ด้วยความรู้สึกแปลกๆเช่นกัน
“นี่คุณ ฉันเจ็บนะ”
ภคพรโวยวาย แต่ประพนธ์ไม่มีที่ท่าสนใจเธอซักนิด เขากำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการทำความสะอาดแผลที่เขาเองก็ไม่ได้เป็นคนทำ
“.......”
ภคพรมองจ้องหน้าประพนธ์ด้วยความไม่เข้าใจ ในสิ่งดีๆที่เขาทำให้เธอ
“คุณทำแบบนี้ทำไม”
หญิงสาวถามออกไปตรงๆอย่างไม่เก็บซ่อนความรู้สึก
“ถ้าไม่ล้างแผล มือคุณก็เป็นบาดทะยักสิ”
ชายหนุ่มหันหน้ามาดุเธอก่อนจะหันไปวุ่นวายกับการดูแลมือเธอต่อไป
ต่อด้านล่างนะจ๊ะ
ไร้หัวใจ ตอนที่ 25
ประพนธ์นอนหลับสบายอยู่บนเตียงนอนนุ่มอย่างไม่รู้เดือนรู้ตะวัน เพราะฤทธิ์เหล้าเมื่อคืนทำให้เขาปวดหัวและลืมตาตื่นขึ้นอย่างอ่อนเพลีย
“นม นม เอายาแก้ปวดหัวให้หน่อย ผมปวดหัว นม นม”
ประพนธ์ร้องเรียกหาแม่นมใจดีของเขา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นนั่งงัวเงีย ก่อนจะต้องสะดุ้งโหยงและมองไปทั่วห้องอย่างตกอกตกใจ
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ชายหนุ่มพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะต้องยกมือกุมขมับอย่างเจ็บปวดหัวใจ ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำลงไป นอกจากจะไม่ทำให้ทุกอย่าง
ดีขึ้นแล้ว มันยังทำให้เรื่องราวทุกอย่างวุ่นวายไปหมด
“เฮ่ย”
ชายหนุ่มเหวี่ยงกางเกงในผู้หญิงที่ติดอยู่ในแขนเขาออก ก่อนจะรีบร้อนแต่งตัวและเดินหน้าตาตื่นลงบันไดมาเจอทุกคนทานข้าวกลางวันด้วยกันอยู่ในห้องอาหาร ยกเว้นภคพรที่หายไป
“อ้าว พนธ์หลับสบายดีหรือเปล่า มาทานข้าวด้วยกันสิลูก”
เพียงพรกล่าวอย่างอ่อนโยน
“ผมไม่หิว ภคพรอยู่ไหนครับ”
ชายหนุ่มร้องหาภรรยาของเขา
“เห็นบอกว่าจะพาคุณประไพรไปตรวจสุขภาพประจำปี แล้วก็รีบร้อนออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว มีอะไรกันหรือเปล่า”
เพียงพรถามด้วยความห่วงใย
“ไม่มีหรอกครับ ผมลาล่ะ”
ประพนธ์รีบร้อนออกจากบ้านอีกคนท่ามกลางความห่วงใยของทุกคนที่ช่วยกันลุ้นให้เรื่องราวของพวกเขาจบลงซักที
ภคพรพาแม่สามีมาตรวจสุขภาพประจำปีตามที่นัดกันเอาไว้ แต่ท่าทางเศร้าๆของเธอทำให้ประไพรเป็นห่วง
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก มีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้นะ ไม่ว่าจะยังไงแม่ก็เคารพการตัดสินใจของหนู คนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนใช้เวลาไม่
กี่วันก็สามารถเข้าใจอะไรได้ บางคนเป็นเดือน บางคนเป็นปี ไม่ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหน แม่เชื่อว่าหนูจะต้องเข้าใจและทำในสิ่งที่หนูคิดว่ามันดีที่สุด
แม่เชื่อเพราะว่าแม่ก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาแล้ว”
ประไพรกุมมือภคพรไว้แน่นอย่างเอ็นดู ภคพรน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจในทุกๆสิ่งที่เธอเคยทำไม่ดีกับประไพร
“หนูขอโทษค่ะ ในทุกๆสิ่งที่หนูทำไม่ดีกับคุณ หนูนี่มันแย่จริงๆ”
ภคพรร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าประไพรที่ตอนนี้ก็รับภคพรเข้ามาเต็มหัวใจ
“แม่รักหนูนะ และอยากเห็นหนูมีความสุข ไหนบอกแม่มาซิว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องอะไรที่มันทำให้หญิงสาวที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้าอย่างหนูร้องไห้
เสียใจได้ขนาดนี้ เรื่องอะไรที่ทำให้จิตใจของหนูหวั่นไหวได้ขนาดนี้”
ประไพรยิ้มหวานให้ลูกสะใภ้อย่างเอ็นดู
“เขาข่มขืนหนู ฮือ.........”
ภคพรร้องไห้โฮ ประไพรเบิกตากว้างตกใจ
“ตายแล้ว ใคร ใครเอ่อ....”
ประไพรใจหายวาบมือสั่นเทาด้วยความตกใจ
“นายประพนธ์ นายประพนธ์เขาข่มขืนหนู ฮือ........”
ภคพรโผลกอดประไพรแน่นอย่างต้องการที่พึ่ง เมื่อได้ยินชื่อลูกชายตัวแสบประไพรถึงกับยิ้มออกมาได้อย่างโล่งอก
ภคพรกลับมาที่บ้านของประพนธ์อีกครั้งอย่างไม่มีทางเลือก แต่การจะต้องพบหน้าเขาเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับเธอ ภคพรจึงเลือกที่จะ
ตัวติดอยู่กับประไพรตลอดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอกันของเธอและประพนธ์
“หนูกลัวอะไรลูก แต่งงานกันแล้วคู่ไหนๆเขาก็มีเรื่องแบบนี้กันทั้งนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องอายหรอกลูก”
ประไพรยิ้มกว้าง ยืนหั่นหมูเพื่อเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัวกับลูกสะใภ้คนสวย
“หนูไม่มีทางพบหน้าเขาอีกแน่ หนูไม่เต็มใจ หนูถูกทำร้าย”
ภคพรกล่าวเสียงเข้ม ยังคงโกรธและเสียใจ
“ที่บอกว่าจะไม่พบอีก คุณหมายถึงผมหรือเปล่า”
ประพนธ์เดินเข้ามาในครัวด้วยใบหน้าเศร้าๆ
“นี่คุณ ออกไปเลยนะ”
ภคพรกล่าวหวาดๆ เดินไปหลบอยู่หลังประไพรเพราะความเขิน
“ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ มาคุยกันหน่อยสิ”
ประพนธ์กล่าวเสียงเข้ม
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ ไปให้พ้น ไป”
ภคพรเอ่ยปากไล่ ตัวเองยังคงหลบอยู่หลังประไพรที่เอาแต่ยืนมองค้อนลูกชายไม่วางสายตา
“แม่ส่งเมียผมมาหน่อยสิ ผมมีเรื่องจะคุยกับเขา”
ประพนธ์อ้อนวอน ภคพรร้อนรนเกาะหลังประไพรแน่นหนา
“หนูไม่ไปนะ ไม่ไป”
ภคพรร้องเสียงหลง
“ใครเมียแก ไหนบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ไง แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน”
ประไพรตีหน้าขรึมใส่ลูกชาย
“แม่อ่ะ บอกให้ส่งก็ส่งมาเถอะน่า”
ประพนธ์ยังคงเซ้าซี้
“หนูไม่ไป”
ภคพรเกาะประไพรแน่นหนาไม่ยอมห่าง
“มานี่ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
ประพนธ์ถลาเข้ามาหาภคพรฉุดแขนเธอ หญิงสาวสะบัดหนี ประพนธ์ถูกผู้เป็นแม่ตีมือเสียงดัง
“แกทำอะไรของแก นี่ต่อหน้าต่อตาแม่นะ จะทำอะไร”
ประไพรโวยวาย จับมือลูกสะใภ้คนสวยไว้แน่นหนา
“ผมไม่บ้าทำอะไรเขาตรงนี้หรอกน่า ผมแค่อยากจะคุยให้มันรู้เรื่อง”
ประพนธ์พยายามอธิบาย
“คุยอะไร แกจะคุยอะไร แกเคยมีเรื่องจะคุยกับหนูเนย์ด้วยหรอ”
ประไพรมองค้อนลูกชายอีกครั้ง
“จะให้ผมพูดมั้ยว่าเรื่องอะไร จะต้องให้พูดหรือเปล่า”
ประพนธ์ขู่เข็น
“พูดมาสิ แกจะพูดเรื่องอะไร พูดมาต่อหน้าแม่นี่แหละ”
ประไพรกล่าวเสียงแหลม
“ดี เรื่องที่ผม....”
ประพนธ์พูดโพล่งออกมาเสียงดัง ภคพรรีบร้อนร้องห้ามเสียงหลง
“อย่าพูดนะ ห้ามพูด”
ภคพรโวยวาย ยังคงยืนหลบหน้าเขา
“ถ้าไม่อยากให้ผมพูด ก็มาคุยกันดีๆ เรื่องนี้มันชักจะไม่ตลกแล้ว เราต้องคุยกัน”
ประพนธ์ร้องเรียกหญิงสาวจริงจัง ภคพรยังคงลังเลและอายในสิ่งที่ประพนธ์ทำกับเธอ
“ไปคุยกับพี่เขาเถอะลูก มีอะไรก็พูดก็คุยกันให้รู้เรื่อง หนูเป็นผู้หญิงที่เก่งจะตายไป เรื่องแค่นี้อย่ามาทำให้เสียความมั่นใจ ลูกชายแม่คนนี้อยากทำอะไร
ก็ทำได้เลย แม่อนุญาต”
ประไพรให้ท้าย ภคพรถึงยอมเดินออกมาเผชิญหน้ากับประพนธ์แบบเขินๆ แค่เขามองจ้องมาที่เธอก็ทำให้หน้าเธอแดงแจ๋ไปถึงไหนต่อไหน
ภคพรนั่งหันหน้าหนีประพนธ์อยู่บนโซฟาในห้องนอนของพวกเขา ท่าทางแปลกๆของเธอทำให้ประพนธ์ยิ่งประหลาดใจ ผู้หญิงร้ายกาจอย่างภคพรกลับมีท่าทีอ่อนไหวและเหนียมอายเมื่อเขามีอะไรกับเธอ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าใจ
“นี่คุณ จะคุยกันโดยไม่มองหน้าผมแบบนี้ มันไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรอ”
ประพนธ์เริ่มบทสนทนาก่อน
“มีอะไรคุณก็รีบๆพูดมาเถอะ แต่ห้ามพูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้เด็ดขาด ฉันไม่อยากฟัง”
ภคพรกล่าวเสียงเข้ม
“ก็เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แหละที่ทำให้ผมต้องมีเรื่องพูดกับคุณ ผม....”
ประพนธ์นั่งก้มหน้านิ่ง พูดอะไรไม่ออก เขาจะบอกกับภคพรว่ายังไงดีกับเรื่องราวต่างๆที่มันเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ
“ผมทำไม”
ภคพรหันขวับมาหาประพนธ์ มองจ้องเขาตาเขม็งอย่างพอจะรู้คำตอบ
“ผม...”
ประพนธ์ยังคงพูดอะไรไม่ออก
“ฉันไม่คิดอะไรมากหรอก ไหนๆเราก็แต่งงานกันแล้ว เรื่องแค่นี้ ฉันไม่เป็นไร”
ภคพรกล่าวขึ้นด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส ทีท่าของประพนธ์ทำให้เธอเสียใจ
“ผมอยากขอโทษคุณ”
ประพนธ์กล่าวเสียงเศร้า แววตาของเขาดูสับสนวุ่นวาย
“เรื่องอะไร”
ภคพรมองจ้องประพนธ์ไม่วางสายตาอย่างเลือดเย็น รับรู้ได้ทันทีว่าประพนธ์ไม่ได้ยินดีกับเรื่องนี้เลย
“เรื่องที่ผมทำกับคุณเมื่อคืนนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมคิดว่า คิดว่า....”
ประพนธ์ลังเลอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แปลกไป เขาเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับภคพรกันแน่
“คิดว่าฉันเป็นเมียเก่าของคุณ เลิกพูดเรื่องนี้ซะที ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นอะไร”
ภคพรกล่าวเสียงเรียบ ด้วยหัวใจที่แสนด้านชา ดวงตากลมโตมีน้ำตาคลอเพราะคำพูดทำร้ายจิตใจของประพนธ์
“ผมจะไม่ทำแบบนี้กับคุณอีก คุณยกโทษให้ผมด้วย”
ประพนธ์ก้มหน้าพูดอย่างกระวนกระวายใจ
“หยุดพูดเรื่องนี้ซะที ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
ภคพรตะวาดใส่ประพนธ์เสียงดัง เกลียดชังในสิ่งที่เขาทำกับเธอ
“ผมอยากขอร้องคุณ ให้ยอมฟังเรื่องที่ผมจะพูด เราควรจะ ควรจะ....”
ประพนธ์นั่งกระวนกระวายใจ สิ่งที่เขาจะพูดมันโหดร้ายเกินไปสำหรับผู้หญิงที่เขาเพิ่งทำเลวๆกับเธอ
“อย่าบอกนะว่าคุณจะบอกให้เราหย่ากันหลังจากที่เพิ่งทำเลวๆกับฉันแบบนั้น ถ้าคุณกล้าพูดมันออกมาจริงๆ คุณมันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไปเอาผ้าถุงแม่คุณมาได้เลย…เลวจริงๆ”
ภคพรลุกขึ้นยืนด่ากราดใส่เขา น้ำตาเอ่อไหลอย่างสุดกลั้น เดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะมาหยุดร้องไห้โฮอยู่ข้างบันไดด้วยความเสียใจ ไม่ว่าเธอกับประพนธ์จะมีความสัมพันธ์กันในลักษณะใด แต่ทุกเรื่องที่เขาทำมันมีแต่ทำให้เธอเสียใจ
เพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้ประพนธ์ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องหย่าออกไป ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงภคพรและกลัวในสิ่งที่
กันย์กำลังจะทำกับครอบครัวของเธอ
“นี่คุณจะไปไหน”
ประพนธ์หันมาถามภคพรที่หอบหมอนหอบผ้าห่มไว้ในอก ในขณะที่เขานอนสบายอยู่บนเตียงในห้องนอน
“ฉันจะไปนอนกับแม่ของคุณ ขยะแขยงคนบางคน”
ภคพรกล่าวเสียงแข็ง กลับมาเย็นชากับประพนธ์อีกครั้ง
“เป็นบ้าอะไรของคุณอีก ผมไม่ให้ไป”
ประพนธ์ลุกพรวดขึ้นมาหาภคพร ดึงหมอนและผ้าห่มของเธอเหวี่ยงกลับไปบนที่นอน
“นี่คุณ จะนอนก็นอนไปสิ จะมายุ่งกับฉันทำไม”
ภคพรผลักอกประพนธ์ เอื้อมมือหยิบหมอนและผ้าห่มของเธออีกครั้ง แต่ก็ถูกประพนธ์ดึงออกอีกอยู่ดี
“นี่คุณ....”
ภคพรมองจ้องประพนธ์ตาขวาง
“นอนที่นี่ ผมไม่ให้ไป ผมแรงเยอะแค่ไหนคุณก็รู้ดีนี่ ขนาดเมาๆคุณยังสู้ผมไม่ได้เลย แล้วตอนนี้ผมไม่ได้เมา คุณคิดว่าจะยังไง”
ประพนธ์ขู่หญิงสาวด้วยรอยยิ้มกวนประสาท ที่ภคพรเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไอ้ทุเรศ ลามก”
ภคพรผลักชายหนุ่มล้มคว่ำลงบนเตียงนอน ก่อนจะนอนลงตรงที่เธออย่างไม่อาจขัดขืน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบหมอนข้างมาวางไว้ตรงกลางเพื่อป้องกันตัว
“คิดว่ามันจะช่วยอะไรคุณได้หรอ”
ประพนธ์ขู่หญิงสาวอีกครั้ง ยืนมองจ้องเธออย่างอารมณ์ดี
“หุบปาก ฉันจะนอน”
ภคพรยกมือขึ้นปิดหูอย่างหงุดหงิด ประพนธ์เองก็นอนลงข้างๆเธอด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้มาก่อนระหว่างเขากับเธอ
ภคพรตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อลงไปช่วยประไพรทำอาหารเช้าในครัวเพื่อเตรียมตัวใส่บาตร ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่เธอทำอยู่แทบทุกวัน
แต่ทว่าวันนี้มีอะไรที่พิเศษเกิดขึ้นก็คือประพนธ์ตื่นขึ้นมาลงมือทำอาหารเช้ากับเธอด้วย
“คุณมาทำบ้าอะไรที่นี่”
ภคพรมองจ้องประพนธ์เขม็ง
“มาในครัว มาขี้มั้งคุณ”
ประพนธ์ตอบกวนประสาท
“กวนประสาท”
ภคพรต่อว่าประพนธ์อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเดินไปช่วยแม่ของเขาหั่นหมูอย่างช่ำชอง
“ลมอะไรพัดแกมาถึงในครัวได้ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเข้าครัว”
ประไพรถามลูกชายอมยิ้ม
“ลมอะไรล่ะแม่ ผมก็แค่อยากทำตัวเป็นคนดีกับเขาบ้าง ก็เท่านั้น”
ประพนธ์อมยิ้ม
“อ้อหรอ แม่ก็นึกว่าอยากเห็นหน้าใครบางคนในห้องนี้”ประไพรแซวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ประพนธ์รีบร้อนปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับหน้าของภคพรที่
แดงขึ้นอย่างผิดสังเกต
“หน้าใครที่ไหนล่ะแม่ ไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้นแหละ/โอ๊ย”
เสียงร้องของภคพรดังขึ้นพร้อมกับหยดเลือดที่ไหลรินเป็นทางยาว ประพนธ์วิ่งถลาเข้าไปหาภรรยาคนสวย ฉุดมือเธอขึ้นอย่างร้อนรน ก่อนจะฉุดรากเธอ
เดินตรงไปที่ก๊อกน้ำเพื่อล้างแผล โดยมีสายตาของประไพรมองดูอยู่ด้วยความรู้สึกแปลกๆเช่นกัน
“นี่คุณ ฉันเจ็บนะ”
ภคพรโวยวาย แต่ประพนธ์ไม่มีที่ท่าสนใจเธอซักนิด เขากำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการทำความสะอาดแผลที่เขาเองก็ไม่ได้เป็นคนทำ
“.......”
ภคพรมองจ้องหน้าประพนธ์ด้วยความไม่เข้าใจ ในสิ่งดีๆที่เขาทำให้เธอ
“คุณทำแบบนี้ทำไม”
หญิงสาวถามออกไปตรงๆอย่างไม่เก็บซ่อนความรู้สึก
“ถ้าไม่ล้างแผล มือคุณก็เป็นบาดทะยักสิ”
ชายหนุ่มหันหน้ามาดุเธอก่อนจะหันไปวุ่นวายกับการดูแลมือเธอต่อไป
ต่อด้านล่างนะจ๊ะ