วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2556 เวลา 17:08:29 น.
ผู้เข้าชม : 102 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ปิดตลาดที่ 11.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.78 % มูลค่าการซื้อขาย 981.91 ล้านบาท ทั้งนี้ หลายวันที่ผ่านมามีแรงเทขายหุ้น HMPRO จำนวนมากจากกรณีมีกระแสข่าวลือว่านักลงทุน VI ชื่อดังได้เทขายหุ้น HMPRO ต่อเนื่องหลังจาก่อนหน้านี้ได้ขายหุ้น CPALL ออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ในเชิงสัญญาณทางเทคนิค RSI เข้าเขตขายมากเกินไป Modified Stochastic แกว่งตัวอยู่ในเขต 20 เป็นสัญญาณรีบาวด์ได้ในช่วงสั้นๆ จากแรงเข้าซื้อกลับเพื่อเก็งกำไร และมีโอกาสปรับตัวลงได้ตามสภาวะตลาด
ขณะที่ในเชิงพื้นฐาน ล่าสุด HMPRO ซื้อขายที่ระดับ P/E ที่ 32.16 เท่า และ P/BV ที่ 1.30 เท่า และข้อมูลจาก www.settrade.com ระบุว่าบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำนวน 4 แห่งแนะนำ “ซื้อ” HMPRO แนะนำ “ถือ” จำนวน 1 แห่ง ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 16.62 บาท หรือมีอัพไซด์จากราคาปิดประมาณ 49.73%
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด HMPRO เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ว่า บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 8 แห่ง รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ใหม่สาขาเดิมอีกประมาณ 2-3 แห่ง โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 15% ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดสาขาไปแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชุมพร และจังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุนกว่า 485 ล้านบาท และ 430 ล้านบาท และ 410 ล้านบาทตามลำดับ
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่า ประเด็นภาคการบริโภคชะลอตัวจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากลูกค้า HMPRO ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลาง-สูง ทำให้ยอดขายสาขาเดิมยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 6% และปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันยอดขาย คือ การเปิดสาขาใหม่ในปีก่อนหน้าจำนวน 8 แห่ง ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ บวกกับสาขาใหม่ที่เปิดในปีนี้อีก 10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด จะทำให้ฐานรายได้ในปี 2556 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ประกอบกับในช่วงปลายปีมีแนวโน้มที่ HMPRO จะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ และคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 1- 2 พันล้านบาท คิดเป็น EPS ที่เพิ่มขึ้น 0.12 - 0.24 บาท ซึ่งถือเป็น Upside นอกเหนือประมาณการ
บล.เกียรตินาคินระบุในบทวิเคราะห์เชิงเทคนิคในวันนี้ (25 มิ.ย.) ก่อนการดีดกลับในช่วงท้ายตลาดว่าราคาหุ้น HMPRO ปิดเป็นแนวโน้มทางขาลงแบบต่อเนื่องในระยะสั้น มีโอกาสทดสอบแนวรับได้ แนะนำขายไปก่อนแล้วรอซื้อแนวรับที่ 10 บาท และตัดขาดทุน 9.95 บาท โดยมีแนวต้านที่ 11 บาท
HMPRO เด้งปิดบวก 2.8% คาดงบQ2โต 30% ปลายปีบุ๊คกำไรพิเศษ 1-2 พันลบ.
ผู้เข้าชม : 102 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ปิดตลาดที่ 11.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.78 % มูลค่าการซื้อขาย 981.91 ล้านบาท ทั้งนี้ หลายวันที่ผ่านมามีแรงเทขายหุ้น HMPRO จำนวนมากจากกรณีมีกระแสข่าวลือว่านักลงทุน VI ชื่อดังได้เทขายหุ้น HMPRO ต่อเนื่องหลังจาก่อนหน้านี้ได้ขายหุ้น CPALL ออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ในเชิงสัญญาณทางเทคนิค RSI เข้าเขตขายมากเกินไป Modified Stochastic แกว่งตัวอยู่ในเขต 20 เป็นสัญญาณรีบาวด์ได้ในช่วงสั้นๆ จากแรงเข้าซื้อกลับเพื่อเก็งกำไร และมีโอกาสปรับตัวลงได้ตามสภาวะตลาด
ขณะที่ในเชิงพื้นฐาน ล่าสุด HMPRO ซื้อขายที่ระดับ P/E ที่ 32.16 เท่า และ P/BV ที่ 1.30 เท่า และข้อมูลจาก www.settrade.com ระบุว่าบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำนวน 4 แห่งแนะนำ “ซื้อ” HMPRO แนะนำ “ถือ” จำนวน 1 แห่ง ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 16.62 บาท หรือมีอัพไซด์จากราคาปิดประมาณ 49.73%
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด HMPRO เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ว่า บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 8 แห่ง รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ใหม่สาขาเดิมอีกประมาณ 2-3 แห่ง โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 15% ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดสาขาไปแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชุมพร และจังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุนกว่า 485 ล้านบาท และ 430 ล้านบาท และ 410 ล้านบาทตามลำดับ
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่า ประเด็นภาคการบริโภคชะลอตัวจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากลูกค้า HMPRO ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลาง-สูง ทำให้ยอดขายสาขาเดิมยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 6% และปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันยอดขาย คือ การเปิดสาขาใหม่ในปีก่อนหน้าจำนวน 8 แห่ง ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ บวกกับสาขาใหม่ที่เปิดในปีนี้อีก 10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด จะทำให้ฐานรายได้ในปี 2556 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ประกอบกับในช่วงปลายปีมีแนวโน้มที่ HMPRO จะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ และคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 1- 2 พันล้านบาท คิดเป็น EPS ที่เพิ่มขึ้น 0.12 - 0.24 บาท ซึ่งถือเป็น Upside นอกเหนือประมาณการ
บล.เกียรตินาคินระบุในบทวิเคราะห์เชิงเทคนิคในวันนี้ (25 มิ.ย.) ก่อนการดีดกลับในช่วงท้ายตลาดว่าราคาหุ้น HMPRO ปิดเป็นแนวโน้มทางขาลงแบบต่อเนื่องในระยะสั้น มีโอกาสทดสอบแนวรับได้ แนะนำขายไปก่อนแล้วรอซื้อแนวรับที่ 10 บาท และตัดขาดทุน 9.95 บาท โดยมีแนวต้านที่ 11 บาท