คุยเรื่อง QE กับคุณสนธิ

กระทู้สนทนา
เรียน ทุกท่าน
   เพื่อเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายในการลงทุน หรือถ้าคิดว่าคุณเก่งแล้วก็ไม่ป็นไร แต่ผมคิดว่าผมยังโง่อยู่มาก ฟังแล้วคิดอะไรได้หลายอย่าง อาทิตย์ที่ผ่านมาหุ้นตก ผมเองขาดทุนประมาณหลักหมื่นบาท แต่คนที่ซื้อเยอะละ ขาดทุนกันเท่าไหร่ ผมว่าหนักเอาการอยู่นะ ตอนนี้ผมไม่มีหุ้นแล้วรู้สึกไม่กังวลอะไร แล้วคนที่ถือหุ้นอยู่ละ ถ้าเขียวไม่เป็นไร ถ้าแดงแล้วเป็นไงละ นอนไม่หลับแน่ๆ  เมื่อวันศุกร์ระบบล่มยิ่งกังวลกันใหญ่ และเมื่อวันศุกร์ SET ลงมาที่ประมาณ 1354 แล้วรีบาว์ ปอบเข้าช้อนซื้อทันที 2,000 พันล้านบาท หรั่งยังขายอยู่ เม่ายังซื้อไม่มาก กองทุนก็ซื้อน้อยลง แสดงว่าปอบตอนนี้กำไรแล้วประมาณ 5-10% แน่ๆ จาก 2,000 ล้านบาท สัปดาห์หน้า ผมว่าอาจจะลากขึ้นไปไม่รู้เท่าไหร่ ปอปพร้อมที่จะทิ้งหุ้นทันที่ ถ้าหรั่งยังขายหนัก คนที่ติดดอยสูงไม่มีวันได้ออกแน่ในปีนี้ ถึงออกได้ก็ต้องตัดขาดทุนไประดับหนึ่ง ไม่มีใครจะโง่ลากไปให้หลุดหรอก คงใช้เวลานาพอสมควรนะ คิดดูหรั่งยังมีหุ้นที่จะขายอีกมาก หรั่งจะทยอยขายเรื่อยๆ ถ้าขายที่เดียวหุ้นก็ตกหนักขายได้กำไรน้อยซิ พอรีบาว์แล้วถ้าหรั่งยังขายต่อเนื่องจะเกิดอะไรขึ้นคิดดูเอาเองครับ


ฟังเทป  http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000075549

รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"  
      
      
       จินดารัตน์ - ถ้างั้นเดี๋ยวพักก่อน แล้วกลับมาเริ่มต้นกันจากเรื่องเศรษฐกิจก่อนดีกว่านะคะคุณสนธิ
      
       สนธิ - ได้ๆ เรื่องหุ้น
      
       จินดารัตน์ - พักกันสักครู่ค่ะ
      
       ช่วงที่ 2
      
       จินดารัตน์ - กลับมาอีกช่วงหนึ่ง รายการคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ เราจะเริ่มจากที่มันร้อนๆกันอยู่ตอนนี้ เห็นบอกว่าแมงเม่านี่ถูกเผาผลาญซะจนวอดวายหมดแล้ว ตลาดหุ้นนี่กู่ไม่กลับเลยนะคะคุณสนธิ ทองคำก็ไปอีก
      
       สนธิ - แอนจำได้หรือเปล่าที่ผมเคยบอกว่าหุ้นปลายๆมันจะลงแรง นี่ยังไม่ถึงปลายปีเลย มันลงแรงและมันลงจริง เมื่อวานซืนมีคนที่เคยรู้จักกันเป็นคนซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องต่างประเทศมีเงินเล็กๆน้อยๆกับเขาก็ไปเล่นหุ้น โทรมาถามผมเรื่อย พี่หุ้นตอนนี้ซื้อดีไม่ดี ถามจนผมรำคาญ ผมบอกว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า ตลาดหุ้นมันก็คือบ่อนการพนันนี่เอง ถ้าคุณจะเล่น คุณอย่ามาถามผมว่าตัวไหนดีหรือไม่ดี เพราะว่ามันมีขึ้นมีลง และคุณก็ฟังข่าวลือมาพอหุ้นตกคุณขาดทุนก็จะบอวก่า ผมดูทางเทคนิคแล้วแนวต้านมันไม่ควรจะต่ำกว่านี้นะ ผมก็เลยบอกว่า ไอ้เทคนิคนี้ใครสอนคุณ บอกอาจารย์ แล้วคุณรู้ไหมอาจารย์เอามาจากไหน ฝรั่งมันสอนมาอีกที ฉะนั้นฝรั่งมันหลอกเรามาตลอดทุกเรื่อง จู่ๆ 2 วันที่แล้วนายคนนี้โทรมา พี่ครับ เมื่อคืนนี้ผมไม่ได้ดูข่าวเมืองนอก เบอร์นานกี ประธานเฟด แบงก์ชาติของอเมริกา มันยังให้มี QE ต่อหรือเปล่า ภาษาอังกฤษเขาเรียก Quantitative Easing คือการปล่อยเงินออกมาให้ท่วมตลาด บอก ไม่รู้มันจะยกเลิกหรือเปล่า พี่ดูเปล่า ผมก็ถามว่า นี่นะ ภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้สักคำ ไอ้ ยิ้มสนใจคำว่า QE ใช่ไหม ผมก็บอกว่ารู้ไปทำไม ผมก็นึกได้ในใจนะว่ามันอจินไตย บอกผมว่าต้องการรู้ครับ เผื่อสมมุติว่าถ้ามันยังมี QE แสดงว่าหุ้นจะขึ้นต่อ แล้วฟังมาจากใคร บอกเขาพูดกันในตลาด เมื่อวานนี้ ผมก็เลยเสียเวลาเลคเชอร์มันนานพอสมควร เพื่อเห็นแก่มนุษย์ร่วมโลกและก็เห็นนแก่คนไทยคนหนึ่ง ผมบอกคุณเข้าใจคำว่า QE ไหม บอกไม่เข้าใจอ่ะ ไม่เข้าใจนะแต่ว่าถามว่า นี่คือคนไทย ผมบอกว่ QE มันเป็นมาตรการพิเศษที่ไม่มีอยู่ในตำราเศรษฐศาสตร์และตำราการเงิน QE มันเกิดขึ้นได้ยังไง คือ นโยบายธนาคารกลางของทุกประเทศเขาจะใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นตัวกำหนดนโยบายการเงิน ดอกเบี้ยสูงก็จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง ดอกเบี้ยต่ำธนาคารก็จะปล่อยกู้มากขึ้น ก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ว่าดอกเบี้ยต่ำจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นก็จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ เงินเฟ้อสำหรับท่านผู้ชมที่ไม่เข้าใจก็คือของชิ้นหนึ่งราคาบาทหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้ได้ของราคาบาทหนึ่งบาทแต่คุณภาพบาทหนึ่งสมัยก่อนแต่ราคาต้อง 2 บาท มูลค่าเงินมันน้อยลง เหมือนก๋วยเตี๋ยวจานหนึ่งแต่ก่อน 10-5 บาท แต่เดี๋ยวนี้ต้อง 40 บาท ผมก็บอกว่าฝรั่งเนี่ย พอเศรษฐกิจมันเริ่มล้มสลายมันก็เริ่มลดดอกเบี้ยมันเรื่อยๆ จนกระทั่งดอกเบี้ยของเฟด เฟดคือดอกเบี้ยธนาคารกลางอเมริกามันเหลือ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง 0.25 เปอร์เซ็นต์ มันติดเพดานข้างล่างแล้ว ติดพื้นแล้ว นโยบายดอกเบี้ยมันไม่มีลบ 1 เปอร์เซ็นต์ คือ ถ้าใครเอาเงินฝากแล้วโดยหักไม่มี มีแต่ 0 ขนาดถึง 0 แล้วมันยังไม่มีการจับจ่ายใช้สอย ธนาคารกลางอเมริกามันก็คิด QE ขึ้นมา QE คือ มันก็จะเริ่มเอาธนาคารของมันหรือว่าแบงก์ชาติของมันมาซื้อสินทรัพย์ของแบงก์ออก อย่างเช่น ซื้อพันธบัตรกลับเข้าไปในแบงก์ชาติ ซื้อตราสารหนี้กลับเข้าไปในแบงก์ชาติ ซื้อสัญญาในการเช่าซื้อบ้านกลับไปในแบงก์ชาติ ทีนี้มันซื้อมันเอาเงินที่ไหนมาซื้อ อเมริกามันพิมพ์แบงก์เอง เพราะฉะนั้นแล้ว วิธีการคือว่า ไอ้ธนาคารกลางมันใช้คอมพิวเตอร์กดเปลี่ยนเพิ่มเครดิตตัวมันเองทันทีเลย เพิ่มวงเงินของมันขึ้นเป็นล้านล้านเหรียญ 2 ล้านล้านเหรียญ มันอยู่ในคอมพิวเตอร์ มันจะเพิ่มเท่าไหร่ คือมันสามารถทำกันได้ และมันเอาเงินก้อนนี้ ซึ่งมันได้เครดิตเพิ่มเติมที่มันทำของมันเอง เอาไปซื้อตราสารหนี้เข้ามา ทีนี้พอมันซื้อตราสารหนี้ปั๊บ สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นคือว่า ดอกเบี้ยหนี้มันลดลง หมายความว่าพันธบัตรอันใหม่ที่ธนาคารจะออกมา หลังจากอันเก่ามันหมดอายุแล้ว และถูกซื้อไปแล้ว แทนที่มันจะต้องเสียค่าดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ มันจะเสียแค่ 1 เปอร์เซ็นต์มันถูกลง เท่ากับลดต้นทุนแบงก์ลงมา ทำให้แบงก์มีกำไรมากขึ้น ในขณะเดียวกันมันซื้อตราสาร อสังหาริมทรัพย์เข้ามา เดี๋ยวนี้พวกแบงก์ต่างๆ มันเริ่มซื้อบ้านกันแล้ว มันซื้อบ้านเข้าในพอร์ตมัน แล้วขายพอร์ตทั้งพอร์ตให้กับธนาคารกลาง เข้าใจยัง
       มันทำให้ราคาบ้านเริ่มสูงขึ้น แปลว่ามีเงินเข้ามาในท้องตลาดมากขึ้น มหาศาลเลย ทีนี้พอเงินเข้าในท้องตลาดมหาศาล มันเอาเงินไปทำอะไร มันเอาเงินไปซื้อทรัพย์สินโดยผ่านตลาดหุ้น นั่นคือที่มาของคิวอี ตลาดหุ้นมันเข้ามายังไง ที่อเมริกาตลาดหุ้นมันเริ่มอิ่มตัว มันมาประเทศที่ฉลาดในเรื่องความโง่ๆ อย่างเช่น ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศที่เขาเรียกว่า Imagine Market เข้ามาหมดเลย เพราะฉะนั้นเงินที่มันได้มาถูกๆ ดอกเบี้ยแทบจะไม่ต้องเสียเลย ก็เข้ามาเมืองไทย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเงินบาทแข็งเอา แข็งเอา เข้าใจยังตอนนี้ พอแข็งขึ้นมาตอนนั้น ฯพณฯ โต้ง กิตติรัตน์ ก็บอกว่า เงินบาทแข็งจังเลย บาทดอลลาร์ เงินบาทตั้ง 28 บาท คนส่งออกส่งไม่ได้ต้องลดดอกเบี้ย และปรากฏว่า ผู้ว่าฯ ประสารก็ไม่ยอมลด เพราะว่าเขาดูออกว่า นี่คือเงินคิวอีมันไหลเข้ามา มันลดดอกเบี้ยก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีทาง แบงก์ไม่ได้ปล่อยกู้อะไรมากกว่าเก่า ลดดอกเบี้ยไม่ได้ เขาเลยอยู่เฉยๆ และมาวันนี้ เงินบาทดอลลาร์กลายเป็น 31 บาทไปและ จาก 28 เป็น 31 บาท ต่างกัน 3 บาทเห็นเปล่า ภายในเวลาไม่กี่เดือน อ่อน แข็งปั๋ง กลายเป็นอ่อนยวบไปและตอนนี้
      
       สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือว่า ฝรั่งมันเข้ามาในอัตราเงินบาท ดอลลาร์ละ 28 มันซื้อหุ้น มันกำไรจากหุ้นแล้วใช่ไหม หนึ่งเด้งนะ มันส่งเงินออก กำไรอีกหนึ่งเด้ง สองเด้ง เพราะฉะนั้นฝรั่งกำไรสองเด้ง เงินพวกฝรั่งได้มาคือเงินคิวอี ตอนนี้ตลาดหุ้นที่มันตกเพราะว่า มันตกกันทั่วโลก เหตุผลเพราะว่า ฝรั่งมันมองว่า เบอร์นานกีมันบอกว่า คิวอีที่มันจะมีอยู่มันอาจจะพิจารณาตอนสิ้นปีนี้ ขอดูอีกทีนึง ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้น มันอาจจะปรับคิวอี แปลว่าอะไร แปลว่ามันกำลังบอกว่า ถ้าคิวอีดีกูจะเลิกคิวอี เท่านั้นเองตลาดหุ้นตกกระจายหมดเลย ร่วงหมดทั่วโลก พอร่วงหมดทั่วโลกเมืองไทยก็ร่วงตาม พอร่วงตามแล้วฝรั่งมันขายทำกำไรทันที ไอ้โบรกเกอร์เมืองไทยชอบพูด พูดว่าอย่างไรรู้ไหม บอกว่าที่หุ้นร่วงเพราะว่าฝรั่งส่งเงินกลับ ฝรั่งมันไม่ได้ส่งเงินกลับหรอก ฝรั่งมันขายทำกำไร คุณต้องเข้าใจก่อน ฝรั่งมันขายทิ้งเพื่อกำไร เพราะมันถึงเวลาต้องทำกำไรแล้ว เพราะว่าเมืองไทยคนโง่มันเยอะเข้าไปเล่นกับมัน และเหมือนกับอีเพื่อน อีน้องมันโทรมาหาผม ผมถามว่า รู้เรื่องคิวอี หรือไม่คิวอี และเศษเงินนี่นะ พวกอีนังแมลงเม่าทั้งหลาย รวมกับไอ้พวก ไปสู้กับไอ้พวกเงินก้อนถุงก้อนถังมันได้อย่างไร ก็คือคนโง่ที่ไปรองรับหลักจิตวิทยาของการปั่นหุ้นของพวกมัน
      
       จินดารัตน์ - เป็นเหยื่อ
      
       สนธิ - เป็นเหยื่อ ยังไม่รู้สึกอีกหรอ คือโลกนี้ไอ้กันคือเจ้ามือบ่อน ดอลลาร์คือชิปที่มันให้แลกไป และวันดีคืนดีมันบอกว่า เดี๋ยวอีกหน่อยกูจะเรียกชิปคืนนะ กูพอใจที่จะกำไร กูก็ปล่อยชิปออก และก็มีคนเล่นของกู กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง หักลบหนี้แล้วกำไร ประเทศที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการทำเช่นนี้คือ อเมริกา ทำให้ไอ้นักลงทุนอเมริกา แบงก์อเมริกาพวกวาณิชธนกิจอเมริกา มันรวยจากหุ้นทั่วโลกเลย และมันเอาเงินจากไหนไปละ มันก็หอบกลับประเทศมันไง ทำให้มูลค่าทรัพย์สินมันเพิ่มขึ้นเห็นไหม เพราะฉะนั้นแล้วเวลามันจนขึ้นมามันก็ออกมาตรการคิวอีออกมา เพื่อให้พวกมันเอาเงินถูกๆ ออกไปเล่นข้างนอก ไอ้ข้างนอกไม่รู้ก็เห็นเงินมา เงินนอกมา ดีอย่างโน้นอย่างนี้ อสังหาริมทรัพย์ก็ขึ้น อีกหน่อยอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ใครจะซื้้อคอนโดจะซื้ออะไรอย่าเพิ่งซื้อ มันจะตกไปอีก ราคาบ้าน ราคาคอนโด ราคาที่ดินจะตกไปอีกเยอะ ผมบอกแล้วบอกว่า วิธีการที่ดีที่สุดตลาดหุ้นของพวกเราอย่าไปเล่นมัน ถามไอ้พวกที่โง่ๆที่เสียเงินเสียทอง คือมีอยู่พักหนึ่งเทพ เล่นหุ้นกำไรทุกคน บางค
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่