สวัสดีค่ะ
คือคุณตาของเรา อายุเยอะแล้วค่ะ ใกล้ๆ 90 ปี ค่ะ
ท่านเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองค่ะ เริ่มแรกคือท่านปวดบริเวนต้นคอ
และเจ็บเวลาขยับแขนค่ะ ก็ได้เข้าไปตรวจที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งค่ะ
ใช้เวลาประมาน 2 เดือน เจาะ ตรวจชิ้นเนื้อ และระบุว่าเป็นมะเร็งค่ะ
ตอนนั้น ตาเราไม่สามารถใช้แขนข้างนั้นได้แล้วค่ะ และปวดต้นคอมากค่ะ
ตรงนี่ครอบครัวเราไม่พอใจที่ดำเนินการล่าช้ามากค่ะ ไม่ทราบเป็นความเร็วปกติของ รพ.รัฐหรือเปล่าคะ
หลังจากทราบ คุณหมอก็ได้ชี้แจงว่า คุณตาเราอายุมากแล้ว
ทำการรักษาด้วยการให้คีโม แต่ปริมานยาจะน้อยกว่า ทั้งนี้คุณตาเราก็เป็นโรคคนแก่หลายโรคด้วยค่ะ
หลังจากให้คีโมท่านก็กลับมาอยู่บ้านค่ะ อยู่มาวันนึงมีอาการหอบ เหนื่อย เป็นไข้
จึงได้นำส่งโรงพยาบาลด่วน คุณหมอแจ้งว่าความดันต่ำมาก เข้าไอซียูค่ะ ที่บ้านเรากังวลมากค่ะ
เนื่องจากวันนั้นท่านยังพูดคุยปกติ และบอกว่าสบายดีค่ะ ถ้าญาติที่เป็นพยาบาลไม่มาเยี่ยมก็คงไม่ทราบเลยค่ะ
หลังจากได้รับการรักษาท่านก็ดีขึ้นค่ะ ย้ายมาอยู่ห้องรวมค่ะ
ท่านอยู่ต่อไปประมานอาทิตย์หนึ่ง คุณหมอก็ให้ฉายรังสีค่ะ
ยังฉายไม่ครบดี ก็บอกให้กลับบ้านค่ะ เพราะว่าที่โรงพยาบาลมีเชื้อมา ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
คุณตาเราก็ได้รับยาฆ่าเชื้อตลอดค่ะ โดยให้เข้ามารับการฉายแสงทุกวันค่ะ
ทางบ้านเราเป็นกังวลมาก เพราะคุณตายังดูอาการไม่ค่อยดี เจ็บปวดตามร่างกายมากขนาดนอนเตียงลม
จึงขอให้อยู่ก่อน แต่คุณหมอก็บอกให้กลับทุกวัน บางครั้งก็พูดจาไม่ดีค่ะ ทางบ้านเราเลยขอให้อยู่จนฉายแสงเสร็จ
คุณตาเราก่อนมาโรงพยาบาลเดินได้ แต่ตอนนี้เดินไม่ได้ หากต้องไปกลับทุกวันกลัวว่าท่านจะเหนื่อย
บ้านเราก็อยู่ไกลจากโรงพยาบาลด้วยค่ะ ก็ต้องคุยกันหลายครั้ง เพราะทุกครั้งที่คุณหมอมาตรวจจะไม่ใช่คนเดิมเลย
พอหลายๆครั้ง ทางบ้านเราก็เข้าใจไปว่าโดนไล่ค่ะ เพราะบางครั้งก็ขู่เลยค่ะ เราเองก็เข้าใจว่าเตียงโรงพยาบาล
มีจำกัดต้องหมุนเวียนให้ผู้ป่วยท่านอื่นที่มีความจำเป็น สุดท้ายก็อยู่จนฉายแสงเสร็จค่ะ
หลังจากกลับมาอยู่บ้าน คุณตาก็ปวดตามร่างกายมาก แขนยังใช้ไม่ได้ เดินแบบประคองได้ แต่เข้าห้องน้ำไม่สะดวก
มีนัดให้คีโมอีกค่ะ ที่บ้านเรากลัวจะเป็นแบบครั้งก่อน จึงคุยกันว่าจะพาไปโรงพยาบาลเอกชน จนถึงเวลาให้คีโม
หรือจริงๆ การที่คุณหมอให้กลับบ้านนั้นแสดงสามารถดูแลเองที่บ้านได้แม้ไม่มีพยาบาลคะ
และหากจะดูแลเอง ควรจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ตรวจวัดอะไรบ้างคะ เพื่อจะได้ทราบความผิดปกติของท่านค่ะ
การที่หมอแจ้งว่าผู้ป่วยมะเร็งสามารถกลับบ้านได้แล้ว เชื่อถือได้ไหมคะ
คือคุณตาของเรา อายุเยอะแล้วค่ะ ใกล้ๆ 90 ปี ค่ะ
ท่านเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองค่ะ เริ่มแรกคือท่านปวดบริเวนต้นคอ
และเจ็บเวลาขยับแขนค่ะ ก็ได้เข้าไปตรวจที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งค่ะ
ใช้เวลาประมาน 2 เดือน เจาะ ตรวจชิ้นเนื้อ และระบุว่าเป็นมะเร็งค่ะ
ตอนนั้น ตาเราไม่สามารถใช้แขนข้างนั้นได้แล้วค่ะ และปวดต้นคอมากค่ะ
ตรงนี่ครอบครัวเราไม่พอใจที่ดำเนินการล่าช้ามากค่ะ ไม่ทราบเป็นความเร็วปกติของ รพ.รัฐหรือเปล่าคะ
หลังจากทราบ คุณหมอก็ได้ชี้แจงว่า คุณตาเราอายุมากแล้ว
ทำการรักษาด้วยการให้คีโม แต่ปริมานยาจะน้อยกว่า ทั้งนี้คุณตาเราก็เป็นโรคคนแก่หลายโรคด้วยค่ะ
หลังจากให้คีโมท่านก็กลับมาอยู่บ้านค่ะ อยู่มาวันนึงมีอาการหอบ เหนื่อย เป็นไข้
จึงได้นำส่งโรงพยาบาลด่วน คุณหมอแจ้งว่าความดันต่ำมาก เข้าไอซียูค่ะ ที่บ้านเรากังวลมากค่ะ
เนื่องจากวันนั้นท่านยังพูดคุยปกติ และบอกว่าสบายดีค่ะ ถ้าญาติที่เป็นพยาบาลไม่มาเยี่ยมก็คงไม่ทราบเลยค่ะ
หลังจากได้รับการรักษาท่านก็ดีขึ้นค่ะ ย้ายมาอยู่ห้องรวมค่ะ
ท่านอยู่ต่อไปประมานอาทิตย์หนึ่ง คุณหมอก็ให้ฉายรังสีค่ะ
ยังฉายไม่ครบดี ก็บอกให้กลับบ้านค่ะ เพราะว่าที่โรงพยาบาลมีเชื้อมา ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
คุณตาเราก็ได้รับยาฆ่าเชื้อตลอดค่ะ โดยให้เข้ามารับการฉายแสงทุกวันค่ะ
ทางบ้านเราเป็นกังวลมาก เพราะคุณตายังดูอาการไม่ค่อยดี เจ็บปวดตามร่างกายมากขนาดนอนเตียงลม
จึงขอให้อยู่ก่อน แต่คุณหมอก็บอกให้กลับทุกวัน บางครั้งก็พูดจาไม่ดีค่ะ ทางบ้านเราเลยขอให้อยู่จนฉายแสงเสร็จ
คุณตาเราก่อนมาโรงพยาบาลเดินได้ แต่ตอนนี้เดินไม่ได้ หากต้องไปกลับทุกวันกลัวว่าท่านจะเหนื่อย
บ้านเราก็อยู่ไกลจากโรงพยาบาลด้วยค่ะ ก็ต้องคุยกันหลายครั้ง เพราะทุกครั้งที่คุณหมอมาตรวจจะไม่ใช่คนเดิมเลย
พอหลายๆครั้ง ทางบ้านเราก็เข้าใจไปว่าโดนไล่ค่ะ เพราะบางครั้งก็ขู่เลยค่ะ เราเองก็เข้าใจว่าเตียงโรงพยาบาล
มีจำกัดต้องหมุนเวียนให้ผู้ป่วยท่านอื่นที่มีความจำเป็น สุดท้ายก็อยู่จนฉายแสงเสร็จค่ะ
หลังจากกลับมาอยู่บ้าน คุณตาก็ปวดตามร่างกายมาก แขนยังใช้ไม่ได้ เดินแบบประคองได้ แต่เข้าห้องน้ำไม่สะดวก
มีนัดให้คีโมอีกค่ะ ที่บ้านเรากลัวจะเป็นแบบครั้งก่อน จึงคุยกันว่าจะพาไปโรงพยาบาลเอกชน จนถึงเวลาให้คีโม
หรือจริงๆ การที่คุณหมอให้กลับบ้านนั้นแสดงสามารถดูแลเองที่บ้านได้แม้ไม่มีพยาบาลคะ
และหากจะดูแลเอง ควรจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ตรวจวัดอะไรบ้างคะ เพื่อจะได้ทราบความผิดปกติของท่านค่ะ