updated: 30 ส.ค. 2553 เวลา 14:00:11 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การเร่งระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา "แบบเงียบ ๆ อย่างลับ ๆ" ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตันของกระทรวงพาณิชย์ ในนามคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ววงการค้าข้าว ท่ามกลางกระแสข่าว "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" ถึงกระสอบละ 100-200 บาทเพื่อแลกกับการอนุมัติ ?
การระบายข้าวแบบไม่เปิดประมูลเป็นการทั่วไป แต่คณะทำงานใช้วิธีเรียกบริษัทผู้ส่งออกข้าวบางรายเข้ามาเสนอราคาแล้วรวบรัดให้ทำสัญญาซื้อขายข้าวในลักษณะนี้ ได้ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยตามมามากมาย
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า ผู้เสนอราคาถูกเรียกร้องให้จ่าย "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" ถึงกระสอบละ 100-200 บาทเพื่อแลกกับการอนุมัติขายข้าวในราคาที่ "ต่ำกว่า" ราคาตลาด
ข้าวที่ถูกขายออกไปครั้งนี้ประกอบไปด้วยข้าวหอมปทุมธานีนาปี 2551/52 นาปรังปี 2552 อนุมัติให้ความเห็นชอบขายไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2553 จากคลังสินค้าจำนวน 7 คลัง, ข้าวเหนียวขาว 10% นาปี 2551/52 นาปรังปี 2552 อนุมัติให้ความเห็นชอบขายไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2553 จากคลังสินค้าจำนวน 1 คลัง และข้าวขาว 5% นาปรังปี 2551 นาปี 2551/52 นาปรังปี 2552 อนุมัติให้ความเห็นชอบขายไปเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง จากคลังสินค้าจำนวน 18 คลัง
มีรายงานข่าวจากวงการค้าข้าวเข้ามาว่า บริษัทผู้ส่งออกข้าว ที่ถูกเรียกเข้าไปให้เสนอราคาซื้อข้าวทั้ง 3 ชนิดข้างต้นประกอบไปด้วยบริษัทนครหลวงค้าข้าว, บริษัทเอเซีย โกลเด้นไรซ์ และบริษัทข้าวไชยพร เสนอราคารับซื้อข้าวหอมปทุมธานีตันละ 17,000 บาท ข้าวเหนียวตันละ 20,000 บาท และข้าวขาว 5% ตันละ 12,000 บาท ซึ่งทั้ง 3 ราคานี้เป็นราคาที่ผ่านการ "ต่อรอง" จากคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร ที่มีนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นประธานแล้ว ในขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่ 20,000 บาท 30,000 บาท และ 13,500 บาทตามลำดับ
นั่นหมายความว่า คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร เสนอให้ขายข้าวสารให้กับผู้ส่งออกทั้ง 3 รายในราคาที่ "ต่ำกว่า" ราคาตลาดมาก ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้เสียหายจากการขายข้าวแบบไม่มีการประมูลครั้งนี้
หลังจากที่ข่าวการขายข้าวแบบเงียบ ๆ อย่างลับ ๆ แพร่เข้าสู่วงการค้าข้าว แน่นอนว่า ผู้ส่งออกข้าวรายที่เหลือที่ไม่ได้ถูก "รับเชิญ" เข้าไปเสนอราคารับซื้อข้าวได้พร้อมใจกันออกโรง "โวยวาย" การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ทันที ภายใต้ข้อกล่าวหาที่ว่า การไม่เปิดประมูลเป็นการทั่วไปเท่ากับ "ไม่โปร่งใส" และส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล เพราะการตกลงราคาซื้อขายถูก "จำกัด" อยู่แค่คณะทำงานเพียงไม่กี่คน กับตัวบริษัทผู้เสนอราคารับซื้อและมีแนวโน้มว่า หากราคาซื้อขายข้าวออกมาต่ำกว่าราคาตลาดแบบนี้ ทุกคนในวงการค้าข้าวทราบดีว่า "ส่วนต่าง" ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็คือ "ต้นทุน" ผู้ส่งออกที่ต้องจ่ายเป็น "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" ให้กับใครบางคนที่นั่งคุมเกมอยู่ข้างหลัง
คำถามถึง "ไตรรงค์" ใครรับผิดชอบขายข้าวแบบลับ ๆ "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" กระสอบละ 100-200 บาทจริงหรือ ?
updated: 30 ส.ค. 2553 เวลา 14:00:11 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
การเร่งระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา "แบบเงียบ ๆ อย่างลับ ๆ" ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตันของกระทรวงพาณิชย์ ในนามคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ววงการค้าข้าว ท่ามกลางกระแสข่าว "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" ถึงกระสอบละ 100-200 บาทเพื่อแลกกับการอนุมัติ ?
การระบายข้าวแบบไม่เปิดประมูลเป็นการทั่วไป แต่คณะทำงานใช้วิธีเรียกบริษัทผู้ส่งออกข้าวบางรายเข้ามาเสนอราคาแล้วรวบรัดให้ทำสัญญาซื้อขายข้าวในลักษณะนี้ ได้ส่งผลให้เกิดข้อสงสัยตามมามากมาย
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า ผู้เสนอราคาถูกเรียกร้องให้จ่าย "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" ถึงกระสอบละ 100-200 บาทเพื่อแลกกับการอนุมัติขายข้าวในราคาที่ "ต่ำกว่า" ราคาตลาด
ข้าวที่ถูกขายออกไปครั้งนี้ประกอบไปด้วยข้าวหอมปทุมธานีนาปี 2551/52 นาปรังปี 2552 อนุมัติให้ความเห็นชอบขายไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2553 จากคลังสินค้าจำนวน 7 คลัง, ข้าวเหนียวขาว 10% นาปี 2551/52 นาปรังปี 2552 อนุมัติให้ความเห็นชอบขายไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2553 จากคลังสินค้าจำนวน 1 คลัง และข้าวขาว 5% นาปรังปี 2551 นาปี 2551/52 นาปรังปี 2552 อนุมัติให้ความเห็นชอบขายไปเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง จากคลังสินค้าจำนวน 18 คลัง
มีรายงานข่าวจากวงการค้าข้าวเข้ามาว่า บริษัทผู้ส่งออกข้าว ที่ถูกเรียกเข้าไปให้เสนอราคาซื้อข้าวทั้ง 3 ชนิดข้างต้นประกอบไปด้วยบริษัทนครหลวงค้าข้าว, บริษัทเอเซีย โกลเด้นไรซ์ และบริษัทข้าวไชยพร เสนอราคารับซื้อข้าวหอมปทุมธานีตันละ 17,000 บาท ข้าวเหนียวตันละ 20,000 บาท และข้าวขาว 5% ตันละ 12,000 บาท ซึ่งทั้ง 3 ราคานี้เป็นราคาที่ผ่านการ "ต่อรอง" จากคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร ที่มีนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นประธานแล้ว ในขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่ 20,000 บาท 30,000 บาท และ 13,500 บาทตามลำดับ
นั่นหมายความว่า คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร เสนอให้ขายข้าวสารให้กับผู้ส่งออกทั้ง 3 รายในราคาที่ "ต่ำกว่า" ราคาตลาดมาก ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้เสียหายจากการขายข้าวแบบไม่มีการประมูลครั้งนี้
หลังจากที่ข่าวการขายข้าวแบบเงียบ ๆ อย่างลับ ๆ แพร่เข้าสู่วงการค้าข้าว แน่นอนว่า ผู้ส่งออกข้าวรายที่เหลือที่ไม่ได้ถูก "รับเชิญ" เข้าไปเสนอราคารับซื้อข้าวได้พร้อมใจกันออกโรง "โวยวาย" การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ทันที ภายใต้ข้อกล่าวหาที่ว่า การไม่เปิดประมูลเป็นการทั่วไปเท่ากับ "ไม่โปร่งใส" และส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล เพราะการตกลงราคาซื้อขายถูก "จำกัด" อยู่แค่คณะทำงานเพียงไม่กี่คน กับตัวบริษัทผู้เสนอราคารับซื้อและมีแนวโน้มว่า หากราคาซื้อขายข้าวออกมาต่ำกว่าราคาตลาดแบบนี้ ทุกคนในวงการค้าข้าวทราบดีว่า "ส่วนต่าง" ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็คือ "ต้นทุน" ผู้ส่งออกที่ต้องจ่ายเป็น "ค่าใช้จ่ายพิเศษ" ให้กับใครบางคนที่นั่งคุมเกมอยู่ข้างหลัง