[แชร์ประสบการณ์] เมื่อคุณพ่อ...ป่วยเป็นมะเร็ง

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ...พี่ป้าน้าอาชาวสวนลุมทุกๆ คน นะคะ  กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อแชร์ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งของที่บ้านนะคะ เผื่อไว้เป็นแนวทางสำหรับใครหลายๆ คน บางเรื่องอาจจะเป็นวิธีที่ยังไม่เป็นที่นิยมนัก  อย่าได้กล่าวหาว่าโฆษณาชวนเชื่ออะไรเลยนะคะ เขียนขึ้นด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ (อย่าเพิ่งโจมตีน้าาา เห็นช่วงนี้มีกระทู้เครียดๆ เรื่องดีท็อกซ์อยู่ >"<)

เริ่มแรกขอเกริ่นถึงที่มาที่ไป...ก่อน  ดอกไม้

              ย้อนไปช่วงเดือนตุลาปีที่แล้ว คุณย่าเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากลื่นล้มในห้องน้ำ(ระวังกันด้วยนะคะ ผู้สูงอายุมักเป็นกัน) แล้วได้นอนโรงพยาบาล พร้อมกับตรวจพบมะเร็งปากมดลูกที่กลับมาเป็นอีกครั้ง คุณพ่อของบิ๊วก็เลยเดินทางจากสุรินทร์ไปลพบุรีอยู่บ่อยๆ ช่วงนั้นถือว่าพักผ่อนน้อยมากๆๆ เลยค่ะ  ...บิ๊วเจอพ่อแต่ละครั้งก็รู้สึกนะคะว่าพ่อโทรมไปมาก ตอนนั้นน้ำหนักตัวของพ่อเริ่มลดลง ...พ่อเริ่มผอม เริ่มซูบ เริ่มหลงๆ ลืมๆ แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ(เอาเข้าจริงๆ พอมองย้อนกลับไป คุณพ่อชอบหลงลืมไปว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร มานานแล้ว 2-3 ปี แต่บิ๊วกลับคิดว่าพ่อแค่ไม่มีสติ เท่านั้น ไม่ได้เอะใจอะไร )

            จนเข้าเดือนพฤษจิกายน แม่สังเกตว่าพ่อเริ่มมีอาการจำทางกลับบ้านไ่ม่ได้ บางทีขับรถไปลพบุรีก็ต้องพักบ่อยๆ เริ่มพูดประโยคยาวๆ ไม่ได้ เขียนหนังสือก็เขียนไม่ออก... จึงได้พาพ่อไปตรวจที่โรงพยาบาล  คุณหมอสัณนิฐาน(เขียนถูกไหมหนอ...?) ว่า น่าจะเป็นมะเร็งแน่ๆ จึงได้จัดเต็ม ทำการ x-ray , MRI ,CT  จนไปเจอเข้าที่สมอง พบ 3 ก้อน มีก้อนนึงพบที่ซีรีบลัม [แม่เคยให้อ่านชาร์ตให้น่ะค่ะ]   คุณหมอก็สงสัยค่ะ...ว่า เออ! ส่วนใหญ่สมองนี่มักจะมาจากที่อื่นนะ พาพันสงสัย ก็เลยหากันไปหลายที จนไปเจอที่ปอด หมอกับแม่จึงปรึกษากันว่า จะส่งตัวพ่อให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬา(เผอิญมีหมอที่รพ.สุรินทร์ไปเรียนต่อที่นั่นพอดี)  

               ช่วงเดือนนั้นนะ โทรหาแม่ทีไร แม่ก็ชอบพูดย้ำๆ เสมอว่า ลูกกลับบ้านวันไหน มาบ้านบ่อยๆ นะ ช่วงนี้พ่อไม่ค่อยสบาย อาการไม่ค่อยจะดี .. เราฟัง เราก็รู้สึกแปลกๆ แต่ยังไม่คิดอะไร สงสัยพ่อทำงานหนักเลยป่วยมั้ง ... ก็โทรไปหาพ่อบ้าง ถามว่าเป็นไงบ้าง ตอนนั้นเสียงพ่อแหบๆ เราก็ชักใจไม่ดีล่ะ T^T ... หลอกถามอาการพ่อจากแม่ ถามไปถามมา เลยถามแม่ไปตรงๆ ว่า พ่อเป็นมะเร็งใช่มั้ย ? จบค่ะ! พอถามอย่างนี้ แม่ร้องไห้เลย แม่คงแบกภาระมา แบกความรู้สึกนี้คนเดียวมานานสองเดือนเต็มๆ แม่ก็เล่าให้ฟังว่า ลูกรู้มั้ย ตอนที่ออกมาจากห้องตรวจน่ะ พ่อหน้าซีดๆ เหมือนจะรู้นะว่าตัวเองเป็นอะไร แต่อยากได้ยินจากปากแม่ แม่ก็ตอบพ่อไปว่า แม่จะไม่ปิดบังอะไรพ่อนะ พ่อเป็นมะเร็ง ... มันเริ่มจากที่ปอด แล้วลามไปที่สมองแล้ว แม่กับหมอปรึกษากันว่าจะพาพ่อไปรักษาที่จุฬา พ่อก็ตอบกลับไปว่า อืม พ่อกะไว้แล้วล่ะ พ่อไม่ขออะไรมาก ขอแค่ได้อยู่จนลูกเรียนจบ  ...

                    พอไปถึงจุฬา ก็ได้ทำการตรวจอีกครั้ง แล้วก็วางแผนการรักษา และแม่ก็ได้ถาม เหมือนคำถามที่คนทั่วไปมักตั้งคำถามคือ "จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ? " ....คุณหมอก็บอกว่า " อย่างเก่ง 6 เดือน"  (คุญหมอคุยดีกว่านี้นะคะ อันนี้เป็นการสรุปรวบยอดเฉยๆ )

                   แรกๆ เราไม่รู้จะปลอบแม่ยังไง ได้แต่รับฟัง ..เพราะคิดว่า แม่เองคงต้องการที่ระบายมากที่สุด เพราะแม่จะไปแสดงความอ่อนแอให้พ่อเห็นก็ไม่ได้  ....เราได้บอกกับแม่กับพ่อไปว่า อย่าให้หมอมาเป็นคนตัดสินเลยว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ทุกอย่างมันขึ้นกับจิตใจเรา ถ้าเราสู้ เราก็ชนะมันได้นะ ....  ไม่รู้เหมือนกันนะว่าตอนนั้นท่านทั้งสองจะเห็นด้วยกับคำพูดนี้ไหม

                    ไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนเรามั้ยนะ ช่วงนั้นน่ะ ไม่อยากกลับบ้านมากๆ กลัว...กลัวว่ากลับไปแล้วจะไปร้องไห้ต่อหน้าพ่อกับแม่ กลัวว่าถ้าเราร้องไห้ พ่อจะยิ่งคิดมาก แต่สุดท้ายเราก็กลับ... ยังจำภาพแรกที่เห็นพ่อได้เลย  เศร้า

                     พ่อเรานี่ผมร่วงหมดเลย ตัวผอมๆแห้งๆ หน้าซีดๆ เราเห็น เราก็ใจหายสิ น้ำตาจะไหล ...ใจหายมาก ทำไมพ่อเราเป็นถึงขนาดนี้ รีบเข้าไปกอดพ่อเลย ไม่เจอกันแค่สองอาทิตย์ แต่กลับรู้สึกว่า จากกันมานานแสนนาน...  แต่เราไม่ร้องไห้ให้พ่อเห็นหรอกนะ เพราะเราเชื่อว่าเราคือกำลังใจของพ่อกับแม่ เราจึงทำเป็นเข้มแข็งไว้ บิ๊วก็บอกพ่อไปว่า ไม่เป็นไรนะพ่อ เราสู้ด้วยกัน เดี๋ยวพ่อก็หาย

ใช้ธรรมะเข้าช่วย

     [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การดูแลตัวเองที่คุณพ่อใช้ค่ะ นวม
         [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เดี๋ยวมาต่อเรื่องอาหารเหลว+น้ำสมุนไพร+ดีท็อกซ์นะคะ ข้อความเต็มแล้วว  ประหลาดใจ
            
คำอธิบายแท็กค่ะ
โภชนาการ: เพราะมีเรื่องอาหารเหลวสำหรับผู้ป่วยที่เบื่ออาหาร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่