ถูก ตม.เกาหลี ส่งตัวกลับโดยไม่มีเหตุผล

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ดิฉันขออนุญาตนำประสบการณ์ ที่ถูกตม.เกาหลี ส่งตัวกลับมา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร มาแบ่งปันค่ะ
เมื่อเดือน พค. ที่ผ่านมา ดิฉันเดินทางเพื่อจะไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้ หาข้อมูลการท่องเที่ยวอยู่เป็นเดือนๆ ในที่สุดก็ได้เวลาเดินทาง ทริปนี้ดิฉันเดินทางด้วยชั้น Business Class สายการบิน คาเธ่ร์ เปซิฟิค แวะเที่ยวฮ่อง 1 วัน และเดินทางต่อไปยังเกาหลี เมื่อถึงสนามบินอินชอน ดิฉันก็เตรียมตัว(ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดี ภาษาเกาหลี พูดและฟังได้นิดหน่อย) เตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อผ่านด่านตม. เหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เมื่อถึงคิวดิฉัน ก็เดินเข้าไปและทักทายเจ้าหน้าที่ ตามปกติ ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็ยิ้มแย้มดี ทักทายกลับมา เมื่อดิฉันยื่นพาสปอร์ตให้เธอ เธอก็ถามดิฉันทันทีว่า "Thai People..? Just Alone..?" ดิฉันตอบ "Yes" แล้วเธอก็ให้สแกนนิ้ว และถ่ายรูป แล้วก็หยิบ Boarding Pass ของดิฉันที่แนบกับพาสปอร์ตไป แล้วถามดิฉันว่า " This is your?" ดิฉันก็ตอบว่า "Yes" แล้วเธอก็เชิญดิฉันไปห้องสอบสวนทันที พอเข้าไปให้ห้องสอบสวน เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนึง เธอขอดูพาสปอร์ต และ ให้กรอกเอกสาร เป็นข้อมูลส่วนตัว จุดประสงค์ที่มาเกาหลี อะไรประมาณนี้  สักครู่ก็มีเจ้าหน้าที่เอากระเป๋าเดินทางดิฉันมาให้ พอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเห็นกระเป๋าเดินทางดิฉัน ก็มาขอค้น ค้นทุกซอก ทุกมุม เสร็จแล้วก็มาค้นกระเป๋าสะพาย ค้นกระเป๋าสตางค์ ดูรูปในกล้องถ่ายรูป(ซึ่งมีรูปที่ไปเที่ยวสิงคโปร์ และฮ่องกงอยู่ด้วย) ดูมือถือ(iPhone5)  ดิฉันจึงเอาเอกสารที่เตรียมมาให้เธอดู
1. E-ticket ไป-กลับ ชั้น Business Class สายการบิน Cathay Pacific
2. ใบยืนยันการจองที่พัก จาก Agoda พร้อมหลักฐานการชำระเงิน
3. แผนการท่องเที่ยวของแต่ละวัน และแผนที่ ทั้งเป็นกระดาษที่พิมพ์มา และบันทึกไว้ในมือถือ
4.    หนังสือรับรองการทำงาน และบัตรพนักงานบริษัท
5.    สำเนาบัญชีออมทรัพย์ ยอดเงินคงเหลือ 300,036 บาท
6.    เอกสารประจำตัว บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์, สำเนาทะเบียนสมรส
7.    บัตร Credit Card 1 ใบ, บัตร Debit Card 2 ใบ
8.    เงินสด 1,000 USD และเงินไทย 3,000 บาท

   แล้วเธอก็สอบสวนดิฉันเป็นภาษาไทย(พูดไทยเก่งมากกก) โดยถามดิฉันว่า "ทำงานที่ไหน เบอร์โทรอะไร เว็ปไซต์บริษัทอะไร"
ดิฉันก็ตอบไปตามความจริง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดก็ระบุไว้ในเอกสารแล้ว
ต่อมาเธอก็ถามว่า " วางแผนจะไปเที่ยวไหนบ้าง" ดิฉันก็บอกเธอว่า "ดิฉันมีแผนว่าจะไปเที่ยว เกาะนามิ พระราชวังเคียงบกกุง ตึก N Seoul Tower บลาๆๆๆ"
สักพักนึง เธอก็คีย์ข้อมูลอะไรไม่ทราบในคอมพิวเตอร์ของเธอ แล้วก็บอกดิฉันว่า " ขอโทษนะคะ เว็ปไซต์บริษัทที่คุณบอกมา ไม่มีข้อมูลเลย เบอร์โทรก็ติดต่อไปไม่ได้ และสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณบอกมาก็ไม่มีในเกาหลี "  ดิฉันก็ "อ้าว ไม่มีได้ไงคะ เดี๋ยวดิฉันจะเปิดให้ดูก็ได้คะ" พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะเปิดเว็ปไซต์บริษัทให้เธอดู แต่... เธอกลับมาแย่งโทรศัพท์ดิฉันไป แล้วบอกว่า "ฉันบอกว่าไม่มีก็คือไม่มี... เราไม่เชื่อใจคุณ เราจะส่งคุณกลับบ้านวันนี้" ดิฉันเลยถามว่า "ทำไมคะ" เธอก็บอก "เราไม่เชื่อใจคุณ" แล้วก็ให้ดิฉันเซ็นต์เอกสารปฏิเสธการเข้าเมือง
ระหว่างนั้น ก็มีเจ้าหน้าชายคนนึงเดินมาหยิบเอกสารของดิฉันดู แล้วก็คุยกันเป็นภาษาเกาหลี ประมาณว่า "เธอมาคนเดียวใช่ไหม เธอก็เตรียมเอกสารมาพร้อม โอ๊ะ เธอไป สิงคโปร์ ฮ่องกงมาแล้วด้วยนิน่า แล้วทำไม.." ประมาณนี้... แต่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงก็พูด ประมาณว่า "เราจะส่งเธอกลับแล้ว..." แล้วเธอก็พาดิฉันไปอีกห้องนึง มีคนไทยอยู่ประมาณ 20-30 คน ระหว่างนั้นดิฉันก็เลยโทรติอต่อ สถานทูตไทยในเกาหลี ขอร้องให้เจ้าหน้าที่สถานทูต ช่วยเจรจา และเจ้าหน้าที่ตม. บอกกับ เจ้าหน้าที่สถานทูตว่า ดิฉันจะมาทำงานที่เกาหลี แต่ไม่มี VISA และทางเจ้าหน้าที่ตม.ก็รีบพาตัวดิฉันไปส่งอีกห้องเหมือนเป็นห้องกักตัว รอขึ้นเครื่อง ดิฉันพยายามขอร้องให้เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ประสานงานให้ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตม.ปฏิเสธ โดยบอกว่า "ไม่มีเวลาแล้ว คุณต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว"  
   สุดท้าย ตม.เกาหลี ก็ส่งตัวดิฉันกลับได้สำเร็จ ขณะอยู่บนเครื่อง ดิฉันคิดตลอดเวลาว่า ทำอะไรผิด เจ้าหน้าที่ตม.คิดได้ไง ว่าดิฉันจะมาทำงาน ถ้าดิฉันจะมาทำงาน ทำไมต้องยอมจ่ายเงินแพงๆ ซื้อตั๋วชั้น Business Class มา นั่งชั้นประหยัดมาก็ได้ อีกทั้งยังมีหนังสือรับรองการทำงาน, บัตรพนักงานจากที่ทำงาน,บัตรเครดิต และบัญชีเงินฝากอีก ยังไม่สามารถรับรองได้เลยเหรอ??
   เมื่อกลับมาถึงไทย วันรุ่งขึ้นดิฉันเดินทางไปยังสถานทูตเกาหลีในไทย เพื่อขอคำชี้แจ้งในเรื่องนี้ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลี ซึ่งเป็นคนไทย ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใดๆ แม้กระทั่งคำปรึกษา บอกแต่เพียงให้ดิฉันไปติดต่อ ตม.เกาหลีเอาเอง  
   ดิฉันผิดหวังอย่างที่สุด กับสถานทูตเกาหลี เพราะหวังว่าจะเป็นที่พึ่งเราได้ เพราะถ้าดิฉันสามารถ เจรจรากับเจ้าหน้าที่ตม.เกาหลีได้รู้เรื่อง (ไม่มีเหตุผล การสื่อสารไม่รู้เรื่อง ตม.อะไร ไม่ใช้ภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ) ก็คงไม่มาขอความช่วยเหลือจากสถานทูตเกาหลีหรอก
   วันต่อมา ดิฉันได้ไปปรึกษา องค์การส่งเสริมท่องเที่ยวเกาหลี (เอสพานาด) เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ทำเป็นจดหมายร้องเรียนไปถึงท่านทูตฯเกาหลีโดยตรงเลย ดิฉันก็ได้เขียนหนังสือร้องเรียนไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์เศษ แล้วยังไม่ได้การตอบรับใดๆเลย
   ดิฉันสูญเสียเงินค่าใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวครั้งนี้ไปกว่า 50,000 บาท แต่ไม่ได้เที่ยวเลย เสียดายเงินไม่เท่าไหร่นะคะ เสียใจ เสียความรู้สึกมากกว่า ตอนนี้ดิฉันได้ส่ง E-mail ไปร้องเรียน การท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีแล้ว และเตรียมที่จะเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดี เกาหลี และ BCC News ดิฉันอยากให้กรณีของดิฉันเป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อร้องเรียนการทำงานที่ไม่มีมาตราฐานอย่างที่สุดของเจ้าหน้าที่ตม.เกาหลี ค่ะ
   ยังไงอยากให้เพื่อนๆช่วยกันแชร์ เพื่อเป็นอุธาหรณ์ไว้ สำหรับคนที่อยากไปจะไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรก ให้ทราบว่าถึงคุณจะเดินทางเข้าออกมาหลายประเทศแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเข้าประเทศเกาหลีง่ายได้นะคะ หรือไม่คุณก็ต้องยอมเสี่ยงจ่ายเงิน หลายๆหมื่นบาทซื้อตั๋วเครื่องบิน เดินทางไป เพื่อลุ้นว่า ตม.ที่ไร้มาตราฐานส่งตัวคุณกลับประเทศไหม... เสียเงิน เสียสุขภาพจิตป่าวๆค่ะ

______________________________________________________________________

ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจนะคะ
จากวันนั้นถึงวันนี้ดิฉันก็ไม่ได้มองประเทศเกาหลีในแง่ลบ แต่อย่างใด ยังอยากไปเที่ยวเกาหลีอยู่ค่ะ
แต่ที่อยากแชร์ก็คือการทำงานที่ไม่มีมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ตม.เกาหลี  และอยากขอคำชี้แจ้งในกรณีนี้ และขอความเป็นธรรมให้กับนักท่องเที่ยว ที่ถือพาสปอร์ตไทย ที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวจริงๆ เท่านั้นเองค่ะ

##################################
การแต่งตัววันนั้นค่ะ ถ่ายที่ The Cabin - Cathay Pacific Lounge สนามบินฮ่องกง ระหว่างรอขึ้นเครื่องค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่