+++ How to รับมือ ตม.เกาหลี “สำหรับนักท่องเที่ยว” +++

ช่วงนี้เห็นกระทู้บ่นๆ กันเรื่องไม่ผ่าน ตม.เกาหลีกันเยอะมว้าก แต่ทางเราก็ต้องเข้าใจฝั่งบ้านเขาด้วยว่าคนไทยบางคนไปทำเรื่องงามหน้ากันเยอะ = = ถึงขนาดที่เขาต้องขึ้นป้ายตักเตือนกันเลยทีเดียว แต่เอาจริงๆ ถ้าเราบริสุทธิ์ใจที่จะเข้าไปเที่ยวซะอย่าง มันก็มีวิธีที่จะทำให้ ตม.เชื่อใจและให้เราผ่านเข้าประเทศได้สบายอยู่แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าเราควรรับมือกับ ตม.ยังไงบ้าง



1. เสื้อผ้าหน้าผม
First impression เป็นสิ่งแรกที่คนจะมองใช่มะ ดังนั้นจัดการตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า คือใส่เสื้อผ้าปกติที่ไม่เวอร์วังอลังการ แต่ให้ดูสุภาพเรียบร้อย อาจจะเป็นเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่จัดหนักจัดเต็มแบบเสื้อคลุมเฟอร์งี้ ที่ครอบหูงี้ อยู่สนามบินนะเธอ ไม่ได้อยู่ขั้วโลกเหนือ! ใส่เวอร์มากก็เด่นมาก ทีนี้จะโดน ตม.จับพิรุธละ ถ้าโดนถามอะไรก็ให้ยิ้มแย้มไว้เสมอๆ นะ อย่าไปทำหน้าบึ้งหรือหงุดหงิดใส่ แล้วก็อย่าหลุกหลิก ลนลาน ไม่งั้นโดนพาเข้าห้องเย็นล่ะก็ เสียเวลาแล้วจะพาลหงุดหงิด เที่ยวไม่สนุกเอาน้า

ตัวอย่างการแต่งกาย


รูปจาก http://sistacafe.com/summaries/13851?page=2



รูปจาก https://goo.gl/6c2V0U

2. พ็อกเก็ตมันนี่
    ควรเตรียมแลกเงินสดไว้ให้พอดีกับจำนวนวันที่เราจะอยู่ในเกาหลี คำนวณไว้คร่าวๆ เลยว่าจะใช้ช็อปปิ้งเท่าไหร่ จ่ายค่าอาหารแต่ละวันเท่าไหร่ ถ้าพกมาน้อยเกินไปอาจโดนมองว่ามาแอบหางานทำใช่มั้ย ทางที่ดีลองจัดแผนการใช้เงินเผื่อไว้ด้วย ถ้าโดนเรียกถามจะได้อธิบายได้ บัตรเครดิตก็สำคัญนะ เตรียมไว้ให้พร้อมจะได้ใช้ยืนยันว่าฉันมีตังค์นะเธอ หรือจะกันเหนียวพกสำเนาบุ๊กแบงค์มาด้วยก็ได้ ยืนยันไปเลยว่าไม่ได้มีเจตนาแอบเข้ามาทำงานแน่นอน!
    ยกตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ สำหรับไปเที่ยวเกาหลีต่อคน
-    ค่าอาหารมื้อหลัก มื้อละ 200-500 บาท (ไม่รวมอาหารกินเล่นข้างทาง, มินิมาร์ต, เครื่องดื่มจำพวกชา, กาแฟ)
-    ค่าเดินทาง (รถไฟใต้ดิน, รถบัส) วันละ 150-200 บาท (ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและระยะทาง)
-    ค่าที่พัก มีตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักหมื่น (ในกรณีที่มีการชำระล่วงหน้าแล้ว ให้เตรียมเอกสารยืนยันการจองมาเป็นหลักฐานด้วย)
-    ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น วัด, วัง, สวนสนุก ตั้งแต่ 90 – 1,500 บาท แล้วแต่สถานที่
-    ค่าช้อปปิ้ง แล้วแต่ศรัทธา
สมมติว่า ไป 5 วัน ก็ควรจะมีเงินวอนติดตัวไปซัก 320,000-400,00 วอน (10,000-12,000บาท) เป็นอย่างน้อย

3. เอกสารสร้างความน่าเชื่อถือ
    เตรียมเอกสารต่างๆ ที่”อาจ”ต้องใช้ยืนยันสถานะตัวตนของเรา ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน, เอกสารรับรองการทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษพร้อมประทับตราบริษัทไปเล้ย) ที่ ยืนยันว่าเรามีรายได้ มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ตั๋วเครื่องบินขากลับ แสดงให้เห็นถึงกำหนดการเดินทางที่แน่ชัด ว่าฉันกลับไทยแน่ ไม่ต้องห่วง!, รวมไปถึงแพลนการเดินทางในแต่ละวัน แผนที่ต่างๆ เช่น แผนที่รถไฟใต้ดิน แผนที่ของจังหวัดที่เราจะไป แม้แต่โบรชัวร์สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลี ยัดไปให้หมด ให้เขารู้ว่า ฉันเห็นสถานที่ว่าสวยฉันถึงมาเที่ยวนะ ฉันมาเพื่อเที่ยวจริงจริ๊งงงง
    ที่สำคัญอีกอย่างคือใบจองที่พักและที่ตั้งของที่พัก และในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ อย่าลืมนำใบเปลี่ยนชื่อที่เป็นภาษาอังกฤษหรือพาสปอร์ตเล่มเก่ามานั่งยัน นอนยันด้วย เพราะถ้าเค้าดูข้อมูลแล้วชื่อเราไม่ตรงกับครั้งที่แล้ว บอกเลยว่างานนี้คุยกันอีกยาวแน่ๆ

4. เตรียมตอบคำถาม
    ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องตอบคำถามของ ตม. แน่นอนว่าเราควรศึกษาพวกคำถามที่เขาถามบ่อยๆ แล้วก็หัดพูดไว้ เวลาตอบคำถามก็ตอบแบบมั่นใจ อย่าอ้ำอึ้ง สบตาให้ ตม.แบบสวยๆ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เท่านี้ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงล้าว
    มาดูตัวอย่างคำถามที่ ตม. มักจะถามบ่อยๆ พร้อมคำตอบแบบง่ายๆ กันดีกว่า
Q : What is the purpose of your visit? (คุณมาที่นี่ทำไม)
A : For travel (มาเที่ยว) // Visit relatives (มาเยี่ยมญาติ) // For business (มาทำงาน)

Q : How long will you stay? (คุณจะพักอยู่กี่วัน)
A : 5 days (5 วัน) // 2 weeks ( 2 สัปดาห์) บอกไปตามตรงนะ

Q : Are you travelling alone or with someone?
A : Alone (คนเดียว) // With my family (มากับครอบครัว) // With a tour (มากับทัวร์)

Q : Where will you visit? (จะไปเที่ยวไหนบ้าง)
A : ก็บอกชื่อสถานที่ตามแพลนของเราไป

Q : Where will you stay during the trip? (คุณจะพักอยู่ที่ไหน)
A : บอกชื่อโรงแรมที่เราจะพักพร้อมยื่นใบจองห้องพักไปด้วย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- การกรอกใบตม. ต้องกรอกให้ถูกต้อง! ชัดเจน! และอ่านง่าย! หาก ตม. เค้าเคลียร์ก็จะได้ไม่ต้องถามเราอีก
ยกตัวอย่างการกรอกใบ ตม.ที่ถูกต้อง


รูปภาพจาก https://goo.gl/RTMSUy

แอบกระซิบ ตรงช่องอาชีพ มีเพื่อนบางคนใส่ไม่ถูก = = เลยจะมายกตัวอย่างคร่าวๆ แล้วกัน เช่น นักเรียน/นักศึกษา (Student) , เจ้าของธุรกิจ (Business Owner) , พนักงานขาย (Salesperson) , ข้าราชการ (Government Officer) ถ้าเกษียณแล้วใส่ (Retiree) ถ้าเป็นไปได้ ห้ามใส่ “ว่างงาน / Unemployed” เด็ดขาด เพราะจะโดนเพ่งเล็งแน่ๆ เช่น เอาเงินที่ไหนมาเที่ยว แล้วก็มีสิทธิ์ที่จะโดนส่งตัวกลับสูง

การเตรียมแผนการเดินทาง - โดยปกติถ้าไปกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน จะมีเพียงไม่กี่คนในกลุ่มที่จะคอยวางแผนการเดินทางทั้งหมด ดังนั้นคนอื่นๆ ก็จะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้ว่าจะไปไหน เมื่อไหร่ ทำอะไรบ้าง ตั้งใจแค่ว่ามาเดินตามเพื่อนๆสบายๆ แต่นั่นแหละคือปัญหา เพราะถ้าคุณไม่ได้ทำแผนการเดินทางเอง แล้วยังไม่เคยพูดคุย หรืออ่านแผนที่เตรียมไว้ อาจจะทำให้ไม่สามารถตอบคำถาม ตม. ได้ อย่าลืมนะว่า คำถามหลักๆ ที่เค้าจะถามเราคือ คุณพักที่ไหน และคุณจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ถ้าแค่ 2 ข้อนี้คุณตอบไม่ได้ ก็จบกัน เก็บกระเป๋ากลับบ้านได้เลย
-    พกกล้องไว้กับตัว ก็ดูเป็นนักท่องเที่ยวดีนะ ทำไว้ก็ไม่เสียหาย โชว์ไปเลยว่าเราตั้งใจมาเที่ยวแบบฮิปสเตอร์
-    โชว์ความเป็นติ่งเข้าไว้ ..เอาง่ายๆเลย พวกติ่งทั้งหลายส่วนใหญ่มีใบเบิกทาง เวลาโดนถามว่ามาทำอะไร ก็บอกเลยว่าไปติ่ง ถ้าตม.ยังสงสัยก็เอาโทรศัพท์ หรือของอะไรก็ได้ที่แสดงความเป็นติ่งให้มากที่สุด   

แถมท้ายว่า เมื่อต้นเดือน พ.ย. จขกท.ไปเที่ยวเกาหลีเป็นคณะ 20 กว่าคน บางคนพาสปอร์ตขาวด้วยซ้ำ ก็ยังผ่าน ตม.มาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ทีนี้ก็เตรียมพร้อมรับมือ ตม.เกาหลีในตำนาน ? ได้แล้ว สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วนำ 4 วิธีนี้ไปใช้ดู ทีนี้ก็เข้าเกาหลีได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล เชิดหน้า ยิ้มสู้ เตรียมตัวให้ดี มีแพลนเที่ยวจริงๆ ไม่ใช่พวกต่างด้าวแอบเข้าเมืองที่ทำนักท่องเที่ยวจริงๆ เดือดร้อน เท่านี้ก็ผ่าน ตม.ฉลุยแล้ว! สุดท้ายและท้ายสุด ข้อมูลในกระทู้นี้เป็นเพียงคำแนะนำจากประสบการณ์และการบอกรับ ไม่การันตีผลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับวิจารณญาณจาก ตม. เกาหลีเท่านั้น นะจ๊ะ ขอให้ทุกคนโชคดี!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่