เกาหลีเหยียดไทย! มากับเพื่อนถูกพราก แฉส่งกลับวันละเป็นร้อย

สาวไทยเล่าประสบการณ์ไปเกาหลี กับเพื่อน 6 คน ถูก ตม. เรียกตัวมาสอบสวน อ้างมีทั้งแผนการเที่ยว และตั๋วเที่ยวกลับ แต่เจอล่ามพูดจาไม่ดี ระบุ “ถ้าจะกินปิ้งย่างกินที่ไทยเถอะค่ะ” สุดท้ายถูกส่งกลับประเทศด้วยความทรมาน แฉคนไทยถูกตีกลับไปวันละ 100 - 300 คน ทุกวัน
       
       เฟซบุ๊ก Punnabhat Sri ได้บอกเล่าประสบการณ์การเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ แล้วถูกตรวจคนเข้าเมืองส่งกลับประเทศ โดยระบุว่า เริ่มด้วยการเตรียมตัวไปเกาหลีพร้อมเพื่อนอีก 6 คน เตรียมตัวกันมา 6 เดือน เดินทางโดยจองตั๋วไป - กลับ ของสายการบินไทย ออกจากกรุงเทพฯ วันที่ 12 พ.ค. ถึงเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ลงเครื่องก็เดินมาตรงที่ตรวจคนเข้าเมืองปกติ ก็แยกช่องกับเพื่อนเพื่อความรวดเร็ว มาถึงคิวของตน ตม. ถามมาว่า มาทำอะไร ตนก็บอกว่ามาเที่ยว ก่อนจะพับหนังสือเดินทางแล้วกดปุ่มเรียกให้เจ้าหน้าที่มารับตนออกไป
       
       เมื่อเจ้าหน้าที่พามาห้องสอบสวนด้านใน จุดแรกก็จะมีเจ้าหน้าที่ซักถาม ว่า มาทำอะไร มากะใคร มากี่คน มีเงินเท่าไหร่ จุดที่สอง ตอบคำถามเสร็จก็ให้เข้าไปรอในห้อง ระหว่างเดินเข้าไป เห็นคนอื่นนั่งรอในห้อง เป็นคนไทยเหมือนกัน 5 - 6 คน แล้วก็จะมีใบให้กรอกอีก เป็นคำถามเดิมๆ เหมือนจุดที่แรก กรอกเสร็จก็นั่งรอต่อไป รอ 3 ชั่วโมงผ่านไป เริ่มมีคนเข้ามาเรื่อยๆ จาก 5 - 6 คน เป็น 20 คน และเพิ่มมาเรื่อยๆ จน 100 กว่าคน ในเวลา 5 ชั่วโมง ซึ่งในห้องคนแออัดมาก ไม่มีน้ำให้กิน ขอก็ไม่ได้ จุดที่ 3 เขาจะเรียกทีละคน ให้ไปสัมภาษณ์อีกที่โต๊ะ โดยจะมีให้คุยโทรศัพท์เพื่อนให้ล่ามที่อยู่ในสายแปล ซึ่งล่ามเป็นคนไทย จุดนี้พบว่าคนที่ไปก่อนหน้านี้ 3 - 4 คน ไม่ผ่าน
       
       พอมาถึงตน มีเอกสารหยิบขึ้นมาเรียงบนโต๊ะ เอกสารที่เตรียม คือ ตั๋วเครื่องบิน ระบุเที่ยวบินไป - กลับ, เอกสารจองโรงแรม พร้อมหลักฐานการจ่ายเงิน, ประกันภัยการเดินทาง, เส้นทางรถไฟของเกาหลี และแพลนการเที่ยวที่ทำไปในแต่ละวัน ระบุ สถานที่ เจ้าหน้าที่ถามว่า มาทำอะไร มากี่วัน มากับใคร คำถามที่สอง ไหนลองบอกว่าจะไปที่ไหนบ้าง ตนจึงก้มดูแพลนที่เตรียมไป เพราะไป 8 วัน ไปหลายที่
       
       “ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ก็มากระชากแพลนเที่ยวที่เราเปิดดูอยู่ออกไป ตอนนั้นโกรธมาก เราก็บอกล่ามว่า เฮ้ย ทำไมเอาแพลนที่เราทำมาไปล่ะ เราก็ไม่ได้จะถนัดนะว่าที่ไหนอยู่ตรงไหน ล่ามก็ตะคอกว่า คุณต้องรู้สิคะ ถ้าไม่รู้คุณจะมาทำไม เราก็บอกว่า ขอโทษนะคะ แพลนนี้เพื่อนเราทำมาให้ เรามากะเพื่อนซึ่งเพื่อนจะพาเที่ยว ตม. ถาม แล้วเพื่อนคุณอยู่ไหน เราตอบว่าเพื่อนผ่านหมดแล้ว 6 คน รอด้านนอกเอากระเป๋า ตม. ตอบไม่มี เรายืนยันว่า มี พยายามบอกล่าม ล่ามตัดบทไม่มีค่ะ เพื่อนไม่รอคุณ คุณมาคนเดียวเหรอ เราก็พยายามหาเปิดรูปให้ดู แต่นางไม่ดู”
       
       เขากล่าวว่า ตม. ถามคำถามต่อไปทำงานอะไร ก็บอกว่า เป็นช่างผมอิสระ เขาบอกขอดูรูป ซึ่งขณะนั้นไว-ไฟ เปิดไม่ได้ จึงให้ดูรูปคร่าวๆ ในงานให้ดูเท่าที่จะหาได้ ถามกลับว่าช่างผมทำไมไม่มีร้านเสริมสวย จึงบอกล่ามไปว่าทำงานอิสระ ไม่มีร้าน ตม. ถามต่อว่า ถ้าไปเทียวที่สถานที่นี้ คุณต้องเดินทางอย่างไรตนจึงบอกล่ามว่า ทุกอย่างอยู้ในแพลนที่ยึดไป เมื่อขอคืนก็ไม่ให้ ถามอีกว่า ไม่เห็นจะมีตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับ ตนยืนยันว่ามี ในแพลนก็พิมพ์ตั๋ววันกลับ ตม. ก็อ้างว่าไม่มี ตนขึ้นเสียงบอกว่ามี
       
       ล่ามถามต่อว่า เกาหลีมีอะไรดี ก็บอกมีซีรีย์ มีอาหาร มีที่เที่ยว อาหารก็อร่อยดี เช่นปิ้งย่าง ล่ามก็สวนกลับมาว่า "ถ้าจะกินปิ้งย่างกินที่ไทยเถอะค่ะ ที่ไทยก็มี" ซึ่งล่ามพูดน้ำเสียงใช้อารมณ์ทุกคำ อาจจะเหนื่อยเพราะทำงานหนักหรือเปล่าไม่ทราบได้ สรุป ตม. บอกว่า คุณไม่ผ่าน คุณต้องกลับเมืองไทย เราบอกแต่เพื่อนอยู่ข้างนอก ตม. บอกว่าไม่มี หลังจากนั้น พยายามติดต่อเพื่อนให้ได้ เพื่อนพยามยามส่งรูปให้เพื่อยืนยัน คือ ถ้ามันออกไปดู ยังไงก็เจอ แต่มันบอกไม่มี และไม่ให้เราออกจากห้อง ตอนนั้น 5 ชั่วโมงแล้ว คนน่าจะประมาณ 150 คน คนไทยเยอะมากเป็นร้อยคน ซึ่งทุกคนโดนคำถามคล้ายกัน และก็ไม่ผ่าน 100% ที่ทุกคนพูดโดยไม่ต้องถาม คือ ล่ามพูดจาได้แย่มาก
       
       เขากล่าวว่า ในห้องนั้นมากับทัวร์ เช่น ทัวร์มา 25 คน โดนกักตัว 15 คน แต่หลายบริษัททัวร์ที่ไม่ผ่าน, มากับกลุ่มเพื่อน, มากับแฟน ผู้ชายผ่านแต่ผู้หญิงไม่ผ่าน, พี่น้อง น้องผ่านแต่พี่ไม่ผ่าน หลังจากนั้น คนที่ต้องถูกส่งกลับ ตม. จะเอากระเป๋าเดินทางมาให้เลย ซึ่งในห้องไม่มีทางเดินแล้ว เพราะคนเข้ามาเรื่อยทีละ 20-30 คน หลังจากนั้น มีคนมาคุมตัวพวกเรา ทีละ 40-50 คนเดินไปอีกห้อง ระหว่างทางเดินในสนามบิน เราให้เดินเป็นแถว แถวละ 4 เรียง ทุกสายตา มองเหมือนพวกเราเป็นผู้ต้องหา จะขอแวะซื้อของกินก็ไม่ได้ และพาเดินมาถึง ให้สแกนกระเป๋า ทุกคนต้องทิ้ง ครีม น้ำหอม ทิ้งทุกอย่างที่เป็นของเหลว
       
       จากนั้นก็พามาอยู่ที่ห้องด้านล่างต่อ แยกชาย หญิง ซึ่งในห้องก็ยังมีคนที่ยังอยู่ ก่อนเข้า แจกขนมปัง 2 ชิ้น น้ำ 1 กระป๋อง เพราะผ่านไป 7 ชั่วโมงแล้วที่ไม่ได้กิน ทีนี้ ทุกคนก็คุยกัน ตนไปถามคุณป้า ป้าบอกติดมา 3 วันแล้ว ไม่ได้กินข้าว เพราะให้แต่ขนมปัง ไม่ได้อาบน้ำ ในห้องตอนนี้มี 60 คน แต่ป้าบอกว่า วันนี้น้อย ตนพยายามบอกว่าจะซื้อตั๋วกลับเลย แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะคุย แล้วให้นั่งเฉยๆ นั่งก็แล้ว นอนบนพื้นก็แล้ว 9 ชั่วโมงผ่านไป เจ้าหน้าที่มาเคาะประตู แจกแฮมเบอร์เกอร์ และโค้กกระป๋องเล็ก ถ้าไปช้าก็จะได้แค่ขนมปัง เทโค้กทิ้ง เพื่อเอาไปกดน้ำเปลาไว้กิน และก็นอนรอต่อไป จะมีเป็นรอบๆ ที่มาเรียกชื่อ ถ้าเรียกชื่อ แสดงว่าจะได้กลับ บางสายการบิน เขาจะให้เพิ่มเงิน 3,000 บาท เพื่อให้กลับเร็วขึ้น ใครที่ได้กลับก็จะมาร่ำลากัน
       
       ตนเผื่อใจแล้ววันนี้คงไม่ได้กลับ เพราะ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว จนสุดท้ายได้กลับ ไฟล์ทนี้มี 6 คน มากับเราเพราะการบินไทยเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้กลับไป 20-30 คน ก่อนออกจากห้องก็เดินไปไหว้คุณป้า ขอให้ได้กลับไวๆ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่คุมพามารอขึ้นเครื่อง โดยต้องรอให้ผู้โดยสารทั้งหมดขึ้นก่อน และจะได้นั่งหลังสุดของเครื่อง พอมาถึงไทย จะมีเจ้าหน้าที่มาพาไปที่ ตม. ไทยทำเรื่องอีกที เพื่อมารับหนังสือเดินทางคืน ที่นี่บอกว่า ส่งกลับทุกวัน วันละ 100-300 คนจากเกาหลีใต้
       
       "จากทั้งหมดที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าเกาหลีทำแบบนี้ แต่ก็ควรแยกแยะว่า ใครที่มีหลักฐานกับคนที่ไม่มีหลักฐานมันไม่เหมือนกัน เสียทั้งเงิน เวลา จิตใจ แบบนี้ให้ขอวีซ่าเข้าประเทศเถอะค่ะจะดีกว่า ไม่เกี่ยวว่ามีเงินไปเยอะหรือน้อยนะคะ เอาเงินไปเป็นแสนก็กลับ เอกสารรับรองการทำงานก็ให้กลับ ถือแบรนด์เนมทั้งตัวก็กลับ แย่มากเลย นี่ไปเที่ยวนะคะ จ่ายเงินค่ะไม่ได้ไปขโมยของ สายตาพูดจาเหยียดกันมาก"
http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9600000049271
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่