มนตรา นิทรานคร (บทนำ)

กระทู้สนทนา
บทนำ

    
รัตติกาลที่มืดมิดยามฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสายไม่มีแม้แต่สรรพเสียงใดๆแข่งกับเสียงของสายฝนได้นอกจากเสียงเครื่อปรับอากาศภายในห้องนอนที่ดังอยู่แผ่วๆ พ่นความเย็นออกมาปะทะกับอากาศหนาวเหน็บจากภายนอกบ้านเดี่ยวหรูหราไสตล์ยุโรปแทบชาญเมือง                        

มณีมาลา มณีมาลา ตื่นเถิดมณีมาลา ถึงเวลาแล้ว                             

เสียงนั้นดังกังวาลอยู่ข้างหูแต่เธอกลับรู้สึกว่าเสียงนั้นดังมาจากในที่ซึ่งไกล ไกลแสนไกล  ไกลเหลือเกิน    


เจ้าของใบหน้ารูปไข่คิ้วเรียวรับกับดวงตากลมโต จมูกสวยได้รูปรับกับริมฝีปากอวบอิ่ม ผิวขาวเนียนละเอียดอยู่ในท่าทางนอนกระสับกระส่ายด้วยอากาศที่หนาวเหน็บหรือด้วยอะไรก็ตามคนร่างเล็กกระชับผ้านวมนุ่มผืนใหญ่แต่ยังไม่สามารถคลายความหนาวเย็นไปได้

เพราะนั่นไม่ใช่ความหนาวเย็นจากสายฝนและเครื่องปรับอากาศหรอกแต่เป็นความหนาวเย็นยะเยือกชนิดจับขั้วหัวใจเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาและพบว่า        

“นี่ฉันคงฝันอีกแล้วสินะ อ่านนิยายเรื่องนี้ทีไรเก็บมาฝันได้ทุกที”                     

ร่างแบบบางของคนวงหน้าจิ้มลิ้มมองไปรอบๆตัวไม่นึกกลัวอะไรก็นี่เป็นเพียงความฝันเมื่อสายตาปรับเข้ากับความมืดได้ ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเธอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของเทวสถานขนาดมหึมาอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชาตินี้ โคปุระที่โค่นล้มอยู่บนกองหินขนาดใหญ่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปคือท้องฟ้ายามราตรีที่ดวงดาวกำลังแข่งกันเรืองแสงพริบพราวและมีต้นสะปงขึ้นกอดก่ายอยู่รายรอบยอดปราสาทมันกำลังโยกย้ายกิ่งก้านไปตามลมแรงหนาวเหน็บ                                

เบื้องหน้านั้นคือทับหลังภาพพระกฤษณะสังหารนาคที่ล่วงหล่นมาวางนอนปะปนอยู่บนกองหินเป็นลักษณะศิลปะคล้ายกับสมัยปาปวนที่เธอเคยเห็น เมื่อมองด้านข้างมุมปราสาทร้างระเบียงคดนี้มีนางอัปสราจำหลักอยู่แต่ความมืดทำให้เธอมองไม่เห็นองค์ประกอบใดนอกจากเค้าลางรูปสลักอัปสรา                

“ถึงจะฝันอยู่แต่มันก็ดูน่ากลัวนะ”                                

แต่เมื่อก้าวถอยหลังก็พบว่าเท้าเปล่าเปลือยสะดุดเข้ากับหน้าบันรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณเธอรับรู้ได้แม้จะรู้สึกค้านอยู่ในใจความมืดมิดขนาดนี้ทำไมเธอถึงรับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรแต่แล้ว ความเจ็บแปลบแล่นเข้าสู่เรือนกายก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมาสุดเสียงอย่างคนตกใจสุดขีดก็ฝันที่ไหนมันจะทำให้เจ็บได้ล่ะ        

เท่านั้นวิญญาณนั่งวิ่งเหรียญทองโอลิมปิคก็เข้าสิงทันที                        

“มณีมาลา กลับมา มณีมาลา กลับมาได้แล้ว” เสียงของใครบางคนยังดังแว่วมากับสายลม            

เสียงนั้นดังกังวาลอยู่ทางด้านหลังไล่ตามเจ้าของร่างบางซึ่งวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตก้าวกระโดดผ่านหินก้อนใหญ่ที่ล่วงหล่นมาทับทมกันเกลื่อนกลาดนานนับพันปี เสียงฝีเท้าหนักที่วิ่งตามมาไม่รู้ว่านี้ความจริงหรืออยู่ในฝันร้าย แต่มันทำให้กลัวจนแทบขาดสติ ก่อนที่เธอจะเห็นช่องทางซึ่งต้องแทรกตัวผ่านมะหวดที่หักเข้าไปพบระเบียงคดที่พังจนเหลือเคล้าลางว่าเคยเป็นระเบียงคดมาก่อน เมื่อวิ่งผ่านจุดนั้นไปจนสุดทางพิมพลอยก็พบว่าเธอมาอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิดจนมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความกลัวภายในใจจนได้ยินเสียงของหัวใจเต้นเป็นจังหวะเร็วและแรง                                                

เสียงตึกๆ ราวกับคนหลายสิบคนวิ่งตามมาอย่างกระชั้นชิดนั้นได้หยุดลงก่อนที่เธอจะรู้สึกว่าเหมือนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงเสียงก้อนหินพังถล่มลงมาร่างบางยกสองมืออุดหูหลับตานิ่งรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงวิญญาณได้แต่ส่งเสียงกรีดร้องขับไล่ความกลัวก่อนที่หนังสือนิยายเล่มหนาในมือจะล่วงหล่นดังตุบและปลุกพิมพลอยขึ้นมาจากภวังค์สู่ความเป็นจริง                                    

เจ้าของร่างบางลุกขึ้นมานั่งในเวลาเกือบจะตีห้าและถอนหายใจพร้อมปาดเหงื่อเม็ดเล็กๆที่แย่งกันผุดขึ้นที่หน้าผาก ปราสาทร้างกลางป่าหายไป ความน่าสะพรึงกลัวหมดสิ้นเหลือเพียงห้องนอนสว่างอบอุ่นน่ารักจัดตามไสตล์วิลเทจ ตามรสนิยมเจ้าของห้อง พิมพลอยยกมือทาบอกเมื่อแน่ใจว่าเมื่อครู่มันคือความฝันลมหายใจก็ถูกผ่อนออกมาเบาๆและกำลังลุกขึ้นยื่นเพื่อเดินไปเก็บวรรณกรรมเล่มหนาเรื่องดังแนวผจญภัยที่หล่นข้างเตียงขึ้นมาซึ่งก่อนหน้าหลับเธอถือมันไว้ในมืออ่านไปหลายหน้าก่อนจะเผลอหลับ แต่แล้วต้องชะงักเมื่อผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตานั้นเปื้อนเลือด และความรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าก็ทำให้ปวดแปลบจนต้องก้มไปมอง
                
“เป็นไปไม่ได้”                    
.++++++++++++++++++++


เรื่องนี้เป็นนิยายรักอิงประวัติศาสตร์ค่ะ ฝากติ ชม ด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่