คงต้องขอโทษอย่างยิ่ง เพราะไม่รู้จะใช้คำจำกัดความกับคนกลุ่มนี้อย่างไรดี
จะว่า ไม่มีสมอง พวกนี้ก็อุตส่าห์เรียนมาจนจบ
จะว่า ไม่มีความคิด พวกนี้ก็ยังอุตส่าห์ไปคิดเรื่องหน้ากากมาได้
จะว่า มีหัวไว้กั้นหู ใส่หมวกหรือวางคอ พวกนี้ก็อุตส่าห์เล่นอินเตอร์เน็ตเป็น
เพียงแต่ปัญญาชนกลุ่มนี้ วันๆรับข่าวสารผ่านทางโซลเน็ตเวิร์ค อย่างเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์อะไรเหล่านี้ ดังนั้นโซลเน็ตเวิร์คจึงเปรียบได้ดั่ง กะลาใบใหญ่ที่ครอบงำความคิดของคนเหล่านี้ไปหมด จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นได้แค่ ปัญญาชนในกะลา เท่านั้นเองครับ
เรามาดูตรรกะบวมๆของพวกนี้กันดูสักตั้งนะครับ
“กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ขอล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย”
ระบอบทักษิณคืออะไร ผมแน่ใจว่าจะมีคนตอบให้เป็นเรื่องเป็นราวคงจะลำบาก นอกจากทักษิณโกง ทักษิณทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน ทักษิณขายชาติ ทักษิณหนีคดี หลักๆคงหนีไม่พ้นเรื่องเหล่านี้ เพราะนี่เป็นข้อมูลที่เขาป้อนมาให้นี่นา แต่ไม่เคยเหลียวดูโลกกว้างกับใครเลย ผมไม่อยากจะใช้คำว่า สมเพช แต่ก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาแทนให้มันดูเบากว่านี้ได้ครับ
เคยรู้บ้างไหม ระบอบทักษิณที่รังเกียจกันมากมายนั้น หลายชาตินำไปใช้เป็นแบบอย่าง
เคยรู้บ้างไหม คุณทักษิณทำประโยชน์มากมาย เอาแค่สนามบินสุวรรณภูมิกับ 30 บาทรักษาทุกโรค คนก็ไม่มีวันลืมแล้วน่ะครับ
เคยรู้บ้างไหม นักโทษหนีคดีที่พวกคุณไม่เอากันน่ะ หลายต่อหลายประเทศเชิญไปแสดงวิสัยทัศน์กันเป็นประจำ
เคยรู้บ้างไหม มีหลายต่อหลายประเทศที่ต้องการความรู้ความสามารถของคุณทักษิณมากกว่าพวกคุณเสียอีก
ข้อสำคัญ เคยรู้บ้างไหม ระบอบที่พวกคุณกำลังขับไล่อยู่นั้น มาตามระบอบประชาธิปไตย มาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ แล้วพวกคุณจะถือสิทธิอะไรมาขับไล่ เพียงเพราะพวกคุณคิดว่ามันไม่ดีเหอ
สำหรับเรื่องสวมหน้ากากขาวกาย ฟอว์กส์ ที่พยายามจะสร้างกระแสต่อต้านรัฐบาลนั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะดี แนวคิดดูเหมือนจะสร้างสรรค์ แต่เนื้อแท้แล้วมันกลับเป็นการแสดงกลับด้านที่ปัญญาอ่อนสุดๆเลยครับ
กาย ฟอว์กส์ ถ้าเป็นประวัติศาสตร์ นั่นคือความพยายามต่อต้านการปกครองโดยกษัตริย์
กายฟอว์กส์ ถ้าเป็นหนังวีรบุรุษต่อต้านเผด็จการ
ดังนั้นการแสดงออกของคนกลุ่มนี้ จึงเป็นการแสดงออกที่ขัดกับเจตนารมณ์ของหน้ากากอย่างแท้จริง เป็นการใช้หน้ากากที่ผิดวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
หน้ากากขาวของเขาต้องการยึดอำนาจเผด็จการมาให้กับประชาชน
ส่วนหน้ากากขาวของเรากลับต้องการแย่งอำนาจของประชาชนไปให้กับเผด็จการ
แล้วยังอุตส่าห์ไปใช้หน้ากากแบบเดียวกัน กากไม่กากก็ลองตรองดูนะครับ
ข้อสำคัญคือคิดได้แต่สถานการณ์เฉพาะหน้า โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา วันนี้จึงขออนุญาตเปิดกะโหลกเหล่าปัญญาชนทั้งหลายสักวันนะครับ
ถ้าพวกคุณขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสำเร็จ แล้วไงต่อครับ
ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พวกคุณก็แพ้อีก แล้วไงต่อ
หรือจะใช้องค์กรอิสระจัดการเพื่อจะได้กลุ่มงูเกลุ่มใหม่คงลำบาก แล้วไงต่อ
หรือจะให้ทหารยึดอำนาจ กองทัพก็ไม่เล่นด้วย แล้วไงต่อ
อ้าว สมมติสถานการณ์เลวร้าย จนเป็นเงื่อนไขให้กองทัพออกมายึดอำนาจ แล้วไงต่อ
ขับไล่คุณยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศสำเร็จ แล้วจะชนะหรือครับ
เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้เปรียบ แล้วจะชนะหรือครับ
ตัดสิทธิ์นักการเมืองของอีกพรรคจนหมด แล้วจะชนะหรือครับ
ใช้ความเผด็จการบีบให้พรรคร่วมต่างๆเข้าร่วมรัฐบาลอีกฝ่าย แล้วจะชนะหรือครับ
หนทางเหล่านี้ล้วนแต่ลองมาแล้วในหลายปีที่ผ่านมา สำเร็จหรือไม่ ประเทศดีขึ้นหรือไม่ ต่อให้ปัญญามืดทึบกว่านี้ก็คงจะรู้คำตอบได้เป็นอย่างดีใช่ไหมครับ
เมื่อหนทางเดิมไม่มีทางชนะ คราวนี้จะให้เผด็จการทำไงต่อ
ยึดอำนาจไว้กับตัวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะล้มระบอบทักษิณจนหมดอย่างที่ต้องการอย่างนั้นหรือ
จะรอให้เกิดอีก 73 จังหวัดเหมือนกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกอำนาจรัฐใช้กำปั้นเหล็ก กดขี่ข่มเหงจนต้องออกมาต่อสู้ด้วยวิธีก่อความไม่สงบอย่างนั้นหรือ นี่เป็นหนทางที่ปัญญาชนอย่างพวกคุณอยากเห็นอย่างนั้นหรือ
ซึ่งไม่จำเป็นต้องคาดหวังว่าจะสามารถสยบความต้องการของประชาชนได้หรอกครับ ขนาดใช้สารพัดอาวุธ จนมีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บเกือบสองพัน ติดคุกอีกหลายร้อยคน แล้วผลเป็นอย่างไร เพียงไม่กี่เดือนกลับมีคนเพิ่มขึ้น ต่อให้ใส่ร้ายเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง กลับมาประชาชนเลือกเข้าสภามากยิ่งขึ้น เรื่องเหล่านี้ไม่ซึมซับเข้าสมองบ้างเลยหรือครับ
หรือจะให้เผด็จการใช้ความเด็ดขาดแบบสงครามล้างเผ่าพันธุ์แบบกัมพูชา จนคนไทยตายเป็นล้าน
หรือจะให้เผด็จการมอำนาจไปสักหลายสิบปีแบบพม่า แต่สุดท้ายก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนอยู่ดี แล้วคิดหรือว่าระบอบทักษิณจะไม่กลับมาอีก
หรือจะให้เกิดสงครามกลางเมืองอย่างลิเบีย โดยมีต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันให้ไทยฆ่าไทยกันเอง จึงจะสะใจปัญญาชนอย่างพวกท่านอย่างนั้นหรือ
เห็นหรือยังครับ สิ่งที่ปัญญาชนอย่างพวกท่านกำลังพยายามอยู่นั้น ไม่ใช่หนทางที่จะนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้หรอกครับ ไม่ใช่พวกท่านคิดไม่เป็นนะครับ เพียงแต่คิดไกลไม่ได้ต่างหากครับ
เพราะสิ่งที่พวกท่านคิดได้ ปัญหาอยู่แค่ที่ระบอบทักษิณ
เพราะสิ่งที่พวกท่านคิดได้ ปัญหาอยู่แค่คนชื่อทักษิณ
และเพราะสิ่งที่พวกท่านคิดได้ ปัญหาอยู่แค่คนชื่อยิ่งลักษณ์
โดยไม่เคยยอมรับรู้เลยว่า ปัญหาที่แท้จริงก็คือ พวกท่านไม่สามารถเอาชนะความต้องการของคนส่วนใหญ่ต่างหากเล่า รู้ไว้เสียด้วย
ต่อให้พวกท่านจะเปลี่ยนสีสักกี่สี
ต่อให้พวกท่านจะเพิ่มกลุ่มจัดตั้งอีกกี่กลุ่ม
ต่อให้พวกท่านจะสร้างกระแสในโซลเน็ตเวิร์คอีกมากมายแค่ไหน
หรือต่อให้ท่านสรรหาหน้ากากอีกร้อยพันหน้ากาก ก็คงไม่สามารถชนะพลังของประชาชนได้หรอกนะ ขอบอก
ดังนั้นแทนที่พวกท่านจะรวมพลังกดดันรัฐบาลหรือหาทางต่อต้านรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่เสียเปล่า ทำไมจึงไม่คิดรวมพลังแล้วไปกดดันให้พรรคที่ตัวเองชื่นชอบ เปลี่ยนทัศนะคติเสียใหม่ล่ะครับ
ไปบอกให้ทางพรรคได้ทราบว่า
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นคือ พรรคที่สามารถทำให้ความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นคือ พรรคที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างประชาชน
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นคือ พรรคที่จะนำประชาธิปไตยมาสู่มือประชาชน
ไม่ใช่พรรคที่สามารถชนะด้วยคารมในสภา
ไม่ใช่พรรคที่สามารถชนะด้วยกฎหมาย
และก็ไม่ใช่พรรคที่หวังได้อำนาจด้วยกันอิงเผด็จการ
สรุปก็คือ แค่ปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง แล้วปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย แค่อดใจรออีกสองปี ถ้ารัฐบาลไม่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่พึงพอใจได้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกท่านก็อาจสามารถเอาชนะใจคนส่วนใหญ่ได้บ้าง โดยประเทศชาติไม่ต้องบอบช้ำ
และถ้าพวกท่านสามารถบริหารประเทศได้ดีตามที่พวกท่านคาดหวังได้
ถึงตอนนั้น ก็จะไม่มีระบอบทักษิณให้ใครโหยหา
ถึงตอนนั้น ก็จะไม่มีทักษิณให้ใครคำนึง
ถึงตอนนั้น ก็จะไม่มียิ่งลักษณ์ให้ใครชื่นชม
เห็นไหมครับ การแก้ปัญหาตามวิถีทางประชาธิปไตยมันจะสวยงามอย่างนี้ะ หัดแง้มกะลาออกมามองโลกภายนอกบ้างเถิดครับ พวกท่านเหล่าปัญญาชนทั้งหลาย แล้วจะรู้ว่า อำนาจของประชาชนมันหอมหวนกว่าอำนาจจากเผด็จการแค่ไหน จากนั้นค่อยปลดแอกออกจากบ่า แล้วพวกท่านก็จะกลายเป็นปัญญาชนอย่างสมบูรณ์ครับ
********ปัญญาชนในกะลา********
จะว่า ไม่มีสมอง พวกนี้ก็อุตส่าห์เรียนมาจนจบ
จะว่า ไม่มีความคิด พวกนี้ก็ยังอุตส่าห์ไปคิดเรื่องหน้ากากมาได้
จะว่า มีหัวไว้กั้นหู ใส่หมวกหรือวางคอ พวกนี้ก็อุตส่าห์เล่นอินเตอร์เน็ตเป็น
เพียงแต่ปัญญาชนกลุ่มนี้ วันๆรับข่าวสารผ่านทางโซลเน็ตเวิร์ค อย่างเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์อะไรเหล่านี้ ดังนั้นโซลเน็ตเวิร์คจึงเปรียบได้ดั่ง กะลาใบใหญ่ที่ครอบงำความคิดของคนเหล่านี้ไปหมด จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นได้แค่ ปัญญาชนในกะลา เท่านั้นเองครับ
เรามาดูตรรกะบวมๆของพวกนี้กันดูสักตั้งนะครับ
“กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ขอล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย”
ระบอบทักษิณคืออะไร ผมแน่ใจว่าจะมีคนตอบให้เป็นเรื่องเป็นราวคงจะลำบาก นอกจากทักษิณโกง ทักษิณทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน ทักษิณขายชาติ ทักษิณหนีคดี หลักๆคงหนีไม่พ้นเรื่องเหล่านี้ เพราะนี่เป็นข้อมูลที่เขาป้อนมาให้นี่นา แต่ไม่เคยเหลียวดูโลกกว้างกับใครเลย ผมไม่อยากจะใช้คำว่า สมเพช แต่ก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาแทนให้มันดูเบากว่านี้ได้ครับ
เคยรู้บ้างไหม ระบอบทักษิณที่รังเกียจกันมากมายนั้น หลายชาตินำไปใช้เป็นแบบอย่าง
เคยรู้บ้างไหม คุณทักษิณทำประโยชน์มากมาย เอาแค่สนามบินสุวรรณภูมิกับ 30 บาทรักษาทุกโรค คนก็ไม่มีวันลืมแล้วน่ะครับ
เคยรู้บ้างไหม นักโทษหนีคดีที่พวกคุณไม่เอากันน่ะ หลายต่อหลายประเทศเชิญไปแสดงวิสัยทัศน์กันเป็นประจำ
เคยรู้บ้างไหม มีหลายต่อหลายประเทศที่ต้องการความรู้ความสามารถของคุณทักษิณมากกว่าพวกคุณเสียอีก
ข้อสำคัญ เคยรู้บ้างไหม ระบอบที่พวกคุณกำลังขับไล่อยู่นั้น มาตามระบอบประชาธิปไตย มาจากความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ แล้วพวกคุณจะถือสิทธิอะไรมาขับไล่ เพียงเพราะพวกคุณคิดว่ามันไม่ดีเหอ
สำหรับเรื่องสวมหน้ากากขาวกาย ฟอว์กส์ ที่พยายามจะสร้างกระแสต่อต้านรัฐบาลนั้น ยิ่งเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะดี แนวคิดดูเหมือนจะสร้างสรรค์ แต่เนื้อแท้แล้วมันกลับเป็นการแสดงกลับด้านที่ปัญญาอ่อนสุดๆเลยครับ
กาย ฟอว์กส์ ถ้าเป็นประวัติศาสตร์ นั่นคือความพยายามต่อต้านการปกครองโดยกษัตริย์
กายฟอว์กส์ ถ้าเป็นหนังวีรบุรุษต่อต้านเผด็จการ
ดังนั้นการแสดงออกของคนกลุ่มนี้ จึงเป็นการแสดงออกที่ขัดกับเจตนารมณ์ของหน้ากากอย่างแท้จริง เป็นการใช้หน้ากากที่ผิดวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
หน้ากากขาวของเขาต้องการยึดอำนาจเผด็จการมาให้กับประชาชน
ส่วนหน้ากากขาวของเรากลับต้องการแย่งอำนาจของประชาชนไปให้กับเผด็จการ
แล้วยังอุตส่าห์ไปใช้หน้ากากแบบเดียวกัน กากไม่กากก็ลองตรองดูนะครับ
ข้อสำคัญคือคิดได้แต่สถานการณ์เฉพาะหน้า โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา วันนี้จึงขออนุญาตเปิดกะโหลกเหล่าปัญญาชนทั้งหลายสักวันนะครับ
ถ้าพวกคุณขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสำเร็จ แล้วไงต่อครับ
ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พวกคุณก็แพ้อีก แล้วไงต่อ
หรือจะใช้องค์กรอิสระจัดการเพื่อจะได้กลุ่มงูเกลุ่มใหม่คงลำบาก แล้วไงต่อ
หรือจะให้ทหารยึดอำนาจ กองทัพก็ไม่เล่นด้วย แล้วไงต่อ
อ้าว สมมติสถานการณ์เลวร้าย จนเป็นเงื่อนไขให้กองทัพออกมายึดอำนาจ แล้วไงต่อ
ขับไล่คุณยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศสำเร็จ แล้วจะชนะหรือครับ
เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้เปรียบ แล้วจะชนะหรือครับ
ตัดสิทธิ์นักการเมืองของอีกพรรคจนหมด แล้วจะชนะหรือครับ
ใช้ความเผด็จการบีบให้พรรคร่วมต่างๆเข้าร่วมรัฐบาลอีกฝ่าย แล้วจะชนะหรือครับ
หนทางเหล่านี้ล้วนแต่ลองมาแล้วในหลายปีที่ผ่านมา สำเร็จหรือไม่ ประเทศดีขึ้นหรือไม่ ต่อให้ปัญญามืดทึบกว่านี้ก็คงจะรู้คำตอบได้เป็นอย่างดีใช่ไหมครับ
เมื่อหนทางเดิมไม่มีทางชนะ คราวนี้จะให้เผด็จการทำไงต่อ
ยึดอำนาจไว้กับตัวไปเรื่อยๆ จนกว่าจะล้มระบอบทักษิณจนหมดอย่างที่ต้องการอย่างนั้นหรือ
จะรอให้เกิดอีก 73 จังหวัดเหมือนกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกอำนาจรัฐใช้กำปั้นเหล็ก กดขี่ข่มเหงจนต้องออกมาต่อสู้ด้วยวิธีก่อความไม่สงบอย่างนั้นหรือ นี่เป็นหนทางที่ปัญญาชนอย่างพวกคุณอยากเห็นอย่างนั้นหรือ
ซึ่งไม่จำเป็นต้องคาดหวังว่าจะสามารถสยบความต้องการของประชาชนได้หรอกครับ ขนาดใช้สารพัดอาวุธ จนมีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บเกือบสองพัน ติดคุกอีกหลายร้อยคน แล้วผลเป็นอย่างไร เพียงไม่กี่เดือนกลับมีคนเพิ่มขึ้น ต่อให้ใส่ร้ายเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง กลับมาประชาชนเลือกเข้าสภามากยิ่งขึ้น เรื่องเหล่านี้ไม่ซึมซับเข้าสมองบ้างเลยหรือครับ
หรือจะให้เผด็จการใช้ความเด็ดขาดแบบสงครามล้างเผ่าพันธุ์แบบกัมพูชา จนคนไทยตายเป็นล้าน
หรือจะให้เผด็จการมอำนาจไปสักหลายสิบปีแบบพม่า แต่สุดท้ายก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนอยู่ดี แล้วคิดหรือว่าระบอบทักษิณจะไม่กลับมาอีก
หรือจะให้เกิดสงครามกลางเมืองอย่างลิเบีย โดยมีต่างประเทศเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันให้ไทยฆ่าไทยกันเอง จึงจะสะใจปัญญาชนอย่างพวกท่านอย่างนั้นหรือ
เห็นหรือยังครับ สิ่งที่ปัญญาชนอย่างพวกท่านกำลังพยายามอยู่นั้น ไม่ใช่หนทางที่จะนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้หรอกครับ ไม่ใช่พวกท่านคิดไม่เป็นนะครับ เพียงแต่คิดไกลไม่ได้ต่างหากครับ
เพราะสิ่งที่พวกท่านคิดได้ ปัญหาอยู่แค่ที่ระบอบทักษิณ
เพราะสิ่งที่พวกท่านคิดได้ ปัญหาอยู่แค่คนชื่อทักษิณ
และเพราะสิ่งที่พวกท่านคิดได้ ปัญหาอยู่แค่คนชื่อยิ่งลักษณ์
โดยไม่เคยยอมรับรู้เลยว่า ปัญหาที่แท้จริงก็คือ พวกท่านไม่สามารถเอาชนะความต้องการของคนส่วนใหญ่ต่างหากเล่า รู้ไว้เสียด้วย
ต่อให้พวกท่านจะเปลี่ยนสีสักกี่สี
ต่อให้พวกท่านจะเพิ่มกลุ่มจัดตั้งอีกกี่กลุ่ม
ต่อให้พวกท่านจะสร้างกระแสในโซลเน็ตเวิร์คอีกมากมายแค่ไหน
หรือต่อให้ท่านสรรหาหน้ากากอีกร้อยพันหน้ากาก ก็คงไม่สามารถชนะพลังของประชาชนได้หรอกนะ ขอบอก
ดังนั้นแทนที่พวกท่านจะรวมพลังกดดันรัฐบาลหรือหาทางต่อต้านรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่เสียเปล่า ทำไมจึงไม่คิดรวมพลังแล้วไปกดดันให้พรรคที่ตัวเองชื่นชอบ เปลี่ยนทัศนะคติเสียใหม่ล่ะครับ
ไปบอกให้ทางพรรคได้ทราบว่า
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นคือ พรรคที่สามารถทำให้ความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นคือ พรรคที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างประชาชน
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นคือ พรรคที่จะนำประชาธิปไตยมาสู่มือประชาชน
ไม่ใช่พรรคที่สามารถชนะด้วยคารมในสภา
ไม่ใช่พรรคที่สามารถชนะด้วยกฎหมาย
และก็ไม่ใช่พรรคที่หวังได้อำนาจด้วยกันอิงเผด็จการ
สรุปก็คือ แค่ปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง แล้วปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย แค่อดใจรออีกสองปี ถ้ารัฐบาลไม่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่พึงพอใจได้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกท่านก็อาจสามารถเอาชนะใจคนส่วนใหญ่ได้บ้าง โดยประเทศชาติไม่ต้องบอบช้ำ
และถ้าพวกท่านสามารถบริหารประเทศได้ดีตามที่พวกท่านคาดหวังได้
ถึงตอนนั้น ก็จะไม่มีระบอบทักษิณให้ใครโหยหา
ถึงตอนนั้น ก็จะไม่มีทักษิณให้ใครคำนึง
ถึงตอนนั้น ก็จะไม่มียิ่งลักษณ์ให้ใครชื่นชม
เห็นไหมครับ การแก้ปัญหาตามวิถีทางประชาธิปไตยมันจะสวยงามอย่างนี้ะ หัดแง้มกะลาออกมามองโลกภายนอกบ้างเถิดครับ พวกท่านเหล่าปัญญาชนทั้งหลาย แล้วจะรู้ว่า อำนาจของประชาชนมันหอมหวนกว่าอำนาจจากเผด็จการแค่ไหน จากนั้นค่อยปลดแอกออกจากบ่า แล้วพวกท่านก็จะกลายเป็นปัญญาชนอย่างสมบูรณ์ครับ