มีความสนใจในการตั้งกระทู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามของ ท่าน สมาชิกหมายเลข 853277

เมื่อคืนนี้ผม ทำงานพอมีเวลาว่างผมนั่งอ่านกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับ มุสลิม,มุสลิมผู้ก่อการร้าย,มุสลิมหัวรุนแรง,มุสลิมผู้ยึดติดกับความ เชื่อถือตามประเพณีอรับมุสลิมโดยไม่ใช้เหตุผล,ซุนนีย์มุสลิม และ ศาสนาอิสลาม, ผู้ที่ตั้งกระทู้ และให้ความสนใจต่อ สังคมมุสลิมดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ได้แก่ สมาชิกหมายเลข 853277 ผู้ซึ่งมีความสนใจและความรู้ ศาสนาอิสลามทางสายมุสลิมนิกายซุนนีย์ ได้ดีพอสมควร ผมจึงอยากแนะนำให้คุณ สมาชิกหมายเลข 853277 ศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้ สังคมมุสลิมล้าหลังอย่างที่เห็นในปัจจุนนี้จากลิ้งค์ ข้างล่างนี้ เพื่อว่า จะเป็นประโยชน์ในการตั้งกระทู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจได้อย่างดีขึ้น ว่าทำไมมุสลิมส่วนมากจึง สนทนาในแบบที่คุณเห็นอย่างในที่นี้

    จากการสนทนาระหว่าง ซุนนีย์มุสลิมในห้องนี้ ซึ่งเป็นสมาชิกประจำ กับ สมาชิกพุทธศาสนิกบางท่าน, มีทั้งเรื่องการเมือง และ สงคราม,เหตุร้ายแรงต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่ผู้ศรัทธาของศาสนาทั้งสองมีส่วน เกี่ยวข้อง

     การสนทนาทีแรกทั้งสองฝ่ายก็พยายามใช้เหตุผลพอสมควร แต่แล้วก็ลงเอยด้วยการ ดึงเอาศาสนาที่เป็นของสูง ของผู้ศรัทธาทั้งสองศาสนา ตั้งแต่พระศาสดา,หลักการศาสนา, หลักการปฏิบัติของผู้ศรัทธาที่ไม่ใช่หลักการและคำสอนของศาสนา มาล้อเลียนเสียดสีกัน

   ทางฝ่ายซุนนีย์มุสลิมไม่ยอมรับความจริงและความผิดพลาดที่มุสลิมที่ปฏิบัติออกนอกหลักการของศาสนาอิสลามซึ่งมีอยู่จริงในสังคมมุสลิม ที่เห็นได้ชัด ในทุกๆมุมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคม อรับมุสลิมในภาคตะวันออกกลาง, ไม่ว่าซุนนีย์มุสลิมในที่นี้จะยอมรับมุสลิมที่เลวนั้นว่า เขาว่าเป็น มุสลิมหรือไม่, แต่ซุนนีย์มุสลิมในที่นี้ จะต้อง ยอมรับความจริงที่ว่า บุคลที่กระทำเลวนั้น ทำในนามของศาสนาอิสลามจริง

     ซึ่งทางฝ่ายพุทธสมาชิกคู่กรณี ยอมรับว่า การกระทำเลวนั้นเกิดจากพุทธศาสนิกชนที่เลวซึ่งการกระทำไม่ได้ทำในนามของศาสนาพุทธ, โดยที่ผู้ทีกระทำความเลวชั่วช้านั้นไม่ได้สวดมนต์ภาวนาก่อนกระทำความชั่วนั้น

  ทางฝ่ายพุทธสมาชิก พยายามที่จะใช้เหตุผลซักถาม แต่ทางฝ่ายซุนนีย์มุสลิมพยายามที่จะใช้ประวัติศาสตร์, ขนบธรรมเนียมประเพณีอรับมาอธิบายตอบโต้ทางทฤษฏีและทางภาควิชาการ โดยที่ไม่ใช้การประยุกต์ใช้หลักการจากวิชาการนั้นมาอธิบาย จึงทำให้ทางฝ่ายพุทธสมาชิก ไม่มีทางเข้าใจได้ เนื่องจากเขาไม่ได้ศรัทธาต่อ อัลกุรอาน และ ฮาดีษ ตามที่ซุนนีย์มุสลิมถือปฏิบัติ เรื่องทั้งหมดก็ไม่อาจจะลงเอยกันด้วยสันติภาพได้

    อะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ มุสลิมไม่สามารถที่จะอธิบายด้วยเหตุผลที่เรียกว่า “ตรรกะมารองรับคำอธิบายเหล่านั้นได้” คำตอบอยู่ที่คำอธิบายของนักวิชาการที่จะกล่าวต่อไป

   ในปัจจุบันนักวิชาการทางศาสนาอิสลามจากทุกๆนิกาย,รวมทั้งมุสลิมนิกายซุนนีย์ซึ่งเป็น นิกายที่ใหญ่ที่สุดของศาสนาอิสลาม และนักวิชาการทางฝ่ายมุสลิมผู้ที่ไม่เชื่อในการแบ่งแยกนิกาย, ต่างก็ลงความเห็นพ้องกันว่า สังคมมุสลิม กำลังถอยหลังเข้าคลอง,ล้าหลังประเทศต่างๆหลายๆประเทศ และไม่มีแสนยานุภาพทั้งทาง การเศรษฐกิจ และทางการทหาร

Dr Farrukh Saleem นักเขียน ชาว ปากีสตาน ผู้ซึ่งเป็น  Executive Director of the Centre for Research and Security Studies ของประเทศปากีสตาน ไ้ด้อธิบาย และให้ ตัวอย่าง เหตุผล และ สถิติต่างๆเกี่ยวกับ สังคมมุสลิมในปัจจุบัน ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ สังคมมุสลิม เสื่อมโทรมลง, จาก

http://www.partitionofindia.com/_disk1/000007ba.htm

อ่าน คำอธิบาย ของ Dr. Ibrahim B. Syed, “Why Muslims are backward?” จาก
http://www.irfi.org/articles/articles_1_50/why_muslims_are_backward.htm

คำอธิบายของ Dr Farrukh Saleem หนักไปทาง สถิติ และการเปรียบเทียบ และ อิทธิพลของคริสเตียนในประเทศตะวันตก ที่อยู่เหนือ การเมือง ในภาคตะวันออกกลาง

Dr. Zakir Naik  ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ในสังคมซุนนีย์มุสลิม ในห้องนี้ ได้กล่าวเตือนใจมุสลิม ถึงความเจริญรุ่งเรืองของสังคมมุสลิมในประวัติศาสตร์ และกล่าวโทษประเทศตะวันตกพอสมควร และสรุปลงด้วย การตำหนิสังคมมุสลิมว่า มุสลิมล้าหลังทางวิทยาศาสตร์ เนื่องมาจากการที่ละเลย และ ห่างเหินทางศาสนา ไม่ศึกษาอัลกุรอานให้เข้าใจด้วยเหตุผล(นาฑีที่ 05:12) ในทุกๆบัญญัติที่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของมุสลิมที่พระเจ้าทรงแนะนำ, ซึ่งเป็นความจริงที่มีเหตุผล

http://www.youtube.com/watch?v=Sa-CoYyWQ0c

  ในทัศนะของผม การไม่มีความเข้าใจกฏบัญญัติของอัลลออ์ตะอาลา(อัลกุรอาน)มุสลิมจะไม่สามารถที่จะก้าวหน้าไปสู่ความเจริญได้, การขาดคุณธรรมและความยุติธรรม เป็นเป็นต้นกำเนิดของการทุจริตและคดโกงในสังคมและเป็นหนทางไปสู่ความล้าหลังในทุกๆทาง ดังนั้นการที่สังคมมุสลิมจะเจริญรุ่งเรืองได้นั้นจะต้องกลับไปสู่แหล่งวิชาเบื้องตนซึ่งเป็นรากฐานของสังคมมุสลิมและเป็นหลักการที่มั่นคงของศาสนาอิสลามนั้นก็คือ “คัมภีร์อัลกุรอาน” โดยการศึกษา ให้เข้าใจ,ประยุกต์(ไม่ใช่การดัดแปลงหรือต่อเติม) เอาวิทยปัญญา จากเนื้อหาของอัลกุรอานมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน

   สิ่งที่สำคัญที่มุสลิมควรทำคือ มุสลิมจะต้องไม่เอาประเพณีมาอธิบายอัลกุรอาน ทั้งนี้พระเจ้าประทานอัลกุรอานมาเพื่อพัฒนาปรับปรุงประเพณีที่ล้าหลังให้มีคุณค่าที่ดีกว่าทางคุณธรรม,จริยาธรรม และพัฒนาไปสู่ความเจริญก้าวหน้าเพื่อความสดวกสบายในการใช้ชีวิตร่วมกันของมนุษยชาติอย่างสันติ,  เมื่อมุสลิมเอาประเพณีอรับมาอธิบายอัลกุรอาน ก็เท่ากับเอาความล้าหลังและการกระทำที่ป่าเถื่อนของประเพณีมาปิดบังวิทยปัญญา ในอัลกุรอาน และเปลี่ยนความหมายของอัลกุรอานให้กลับไปสู่ความล้าหลัง ดังนั้นมุสลิมจึงตกอยู่ในสภาวะเช่นในปัจจุบันนี้ เนื่องจาก ขาดความศรัทธาที่แท้จริงตอพระเจ้า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่