สมาคมแช่เยือกแข็งรุกหารือพาณิชย์ ร้อง คชก.-รัฐบาลบรรเทาผลกระทบกุ้งติดโรค EMS ผลผลิตหาย 30-40% ฉุดส่งออกทรุด ห่วงไตรมาส 2 โคม่า
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือร่วมกับสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ว่าสมาคมฯ ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือกรณีกุ้งติดโรค EMS จนเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตลดลงจนกระทบต่อการส่งออก เพราะไม่มีสินค้าส่งมอบตามคำสั่งซื้อ และจะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของไทยในที่สุด
โดยสมาคมได้เสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1.ขอให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเกษตกรที่ได้รับความเสียหาย 2.รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับการลงทุนเลี้ยงกุ้งรอบใหม่ 3.ประสานหน่วยงานต่างๆ ในการผ่อนปรนการอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ บรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการถูกปรับเพราะผิดนัดส่งมอบลูกค้า หลังจากที่หลายโรงงานไม่มีกุ้งเข้าโรงงานจนต้องผิดนัดส่งสินค้า
“ต้องรอผลการหารือที่กรมประมงได้คุยกับเกษตรกรก่อนว่าจะเป็นอย่างไร จากนั้นอาจต้องมาคุยกันอีกรอบก่อนกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมข้อเรียกร้องของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งฯ เพื่อเสนอให้รัฐบาลนำไปพิจารณาและดำเนินการแก้ไขต่อไป เพราะสถานการณ์ขณะนี้คาดว่าจะทำให้การส่งออกไตรมาส 2 ในส่วนสินค้ากุ้งลดลงอย่างแน่นอน เพราะผลผลิตหายไป 30-40% ขณะที่การส่งออกไตรมาส 1 ถือว่าดี เพราะมีสต็อกเก่าเมื่อปีก่อน ทำให้มูลค่าส่งออกลดลงไป 15.4%“ นายบุญทรงกล่าว
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมส่งออกกุ้งประสบปัญหาหนักหลายด้าน โดยเฉพาะโรค EMS ที่ทำให้ผลผลิตหายไป 40% ประกอบกับปัญหาเงินบาทแข็งค่า รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานและค่าแรงงานสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนเพิ่มแล้ว 50% ขณะที่ปริมาณส่งออกลดลง ทำให้ไตรมาสแรกส่งออกลดลง 20-30% หรือเสียหายแล้ว 2-3 หมื่นล้านบาท หากยังไม่มีการแก้ปัญหาโรค EMS หมดลง และค่าบาทแข็งเกิน 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกไตรมาส 2 ปีนี้ จะยิ่งน่าเป็นห่วง ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกทั้งปีลดลงกว่าครึ่ง จากเฉลี่ยแต่ละปีส่งออกปริมาณ 5 แสนตัน มูลค่า 8 หมื่นล้านบาท.
ทิศทางที่ดีของ TUF และ CFRESH
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือร่วมกับสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ว่าสมาคมฯ ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือกรณีกุ้งติดโรค EMS จนเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตลดลงจนกระทบต่อการส่งออก เพราะไม่มีสินค้าส่งมอบตามคำสั่งซื้อ และจะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของไทยในที่สุด
โดยสมาคมได้เสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ 1.ขอให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเกษตกรที่ได้รับความเสียหาย 2.รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับการลงทุนเลี้ยงกุ้งรอบใหม่ 3.ประสานหน่วยงานต่างๆ ในการผ่อนปรนการอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ บรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการถูกปรับเพราะผิดนัดส่งมอบลูกค้า หลังจากที่หลายโรงงานไม่มีกุ้งเข้าโรงงานจนต้องผิดนัดส่งสินค้า
“ต้องรอผลการหารือที่กรมประมงได้คุยกับเกษตรกรก่อนว่าจะเป็นอย่างไร จากนั้นอาจต้องมาคุยกันอีกรอบก่อนกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมข้อเรียกร้องของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งฯ เพื่อเสนอให้รัฐบาลนำไปพิจารณาและดำเนินการแก้ไขต่อไป เพราะสถานการณ์ขณะนี้คาดว่าจะทำให้การส่งออกไตรมาส 2 ในส่วนสินค้ากุ้งลดลงอย่างแน่นอน เพราะผลผลิตหายไป 30-40% ขณะที่การส่งออกไตรมาส 1 ถือว่าดี เพราะมีสต็อกเก่าเมื่อปีก่อน ทำให้มูลค่าส่งออกลดลงไป 15.4%“ นายบุญทรงกล่าว
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมส่งออกกุ้งประสบปัญหาหนักหลายด้าน โดยเฉพาะโรค EMS ที่ทำให้ผลผลิตหายไป 40% ประกอบกับปัญหาเงินบาทแข็งค่า รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานและค่าแรงงานสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนเพิ่มแล้ว 50% ขณะที่ปริมาณส่งออกลดลง ทำให้ไตรมาสแรกส่งออกลดลง 20-30% หรือเสียหายแล้ว 2-3 หมื่นล้านบาท หากยังไม่มีการแก้ปัญหาโรค EMS หมดลง และค่าบาทแข็งเกิน 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกไตรมาส 2 ปีนี้ จะยิ่งน่าเป็นห่วง ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกทั้งปีลดลงกว่าครึ่ง จากเฉลี่ยแต่ละปีส่งออกปริมาณ 5 แสนตัน มูลค่า 8 หมื่นล้านบาท.