ดิฉันได้เช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยในราคา 7000 บ/ด โดยวันที่เข้ามาดูบ้านผู้เช่ารายเก่ายังไม่ย้ายออกจึงดูได้เฉพาะภายนอก เจ้าของจึงพาไปดู
บ้านของเค้าเองเพื่อให้เราเห็นด้านในโดยอ้างว่าเป็นแปลนเดียวกัน หลังจากนั้นดิฉันก็ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะเช่า โดยเงื่อนไขคือจ่ายค่าเช่าล่วง
หน้าสองเดือนและค่าประกันอีก 7000 บ เย็นวันเดียวกันผู้ให้เช่าได้โทรสอบถาวว่าจะตัดสินใจเช่าหรือไม่ เพราะถ้าไม่จะได้ให้สิทธิแก่คนอื่น
ดิฉันก็ได้แจ้งไปว่าต้องการเช่าแต่ดิฉันยังไม่มีเงินครบตามจำนวน21000บาท ผู้ให้เช่าจึงบอกว่าสามารถผ่อนจ่ายได้โดยวันที่ทำสัญญาได้จ่าย
เงิน 7000 บ. เพื่อเป็นค่าประกัน และวันที่เข้าอยู่จะชำระค่าเช่า โดยในสัญญาหลักๆคือผู้ให้เช่าสัญญาว่าจะทำการซ่อมแซมทรัพย์สินตามหน้าที่
ผู้ให้เช่า เว้นแต่การซ่อมแซมเล็กน้อยเพื่อสงวนรักษาทรัพย์สินตามหน้าที่ผู้เช่า และทั้งกล่าวนอกเหนือสัญญาว่าภายในเดือนแรกจะทำการ
ซ่อมแซมให้ทุกอย่าง
หลังจากเข้าอาศัยในวันที่ 1 พ.ค. 56 ดิฉันได้จ่ายเงิน 7000บ.เพื่อเป็นค่าเช่าเดือนแรก และได้บอกปากเปล่าต่อผู้ให้เช่าว่าสิ้นเดือน พ.ค. ดิฉัน
จะจ่ายเงิน14000บ. เป็นค่าเช่าเดือน มิ.ย. และค่าเช่าล่วงหน้าส่วนที่เหลือ หลังจากเข้าอยู่อาศัยดิฉันได้แจ้งผู้ให้เช่ามาทำการซ่อมแซมเพราะ
1. เครืองปรับอากาศเสีย 2.ชักโครกกดไม่ลง 3.อ่างล้างจานตันโดยที่ตันก่อนที่ดิฉันจะเข้าพัก แต่เจ้าของบ้านได้อ้างว่าได้คืนเงินประกันให้ผู้
เช่ารายเก่าแล้ว และไม่ได้มาดำเนินการซ่อมแซมแต่อย่างใด
หลังจากนั้นบ้านโดนตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากไม่ได้ชำระเงินมาสองเดือน แต่ผู้ให้เช่าได้อ้างว่าไม่ได้ตรวจสอบทั้งยังต้องการให้ดิฉันออกเงินค่า
ไฟฟ้าก่อนโดยที่จะไปตามเก็บเงินจากผู้เช่ารายเก่ามาคืนให้ดิฉัน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดการหมางใจกัน แต่หลังจากนั้นผู้ให้เช่าก็ยอมจ่ายค่าไฟฟ้า
ทั้งสองเดือน แต่เรื่องนี้ทำให้ดิฉันเสียหายเนื่องจากถูกตัดกระแสไฟฟ้าเป็นเวลาแปดชั่วโมงก่อนที่ผู้ให้เช่าจะชำระค่ากระแสไฟ
เมื่อจะครบกำหนดหนึ่งเดือนดิฉันได้แจ้งต่อผู้ให้เช่ามาทำการซ่อมแซมตามรายการที่ได้แจ้งไป แต่ได้รับการปฏิเสธโดยได้แจ้งว่าความเสียหาย
เกิดหลังจากที่เข้าพักอาศัยแล้วและได้อ้างสัญญาว่า ในวันที่ทำสัญญาผู้เช่าได้ตรวจทรัพย์สินแล้ว เห็นว่ามีสภาพดีและเป็นปกติดีทุกประการ ทั้ง
ที่จริงไม่ได้เห็นสภาพภายในแต่อย่างใด
ดิฉันจึงบอกว่าหากเป็นเช่นนี้ดิฉันคงจะต้องย้ายออกเพราะหากให้ซ้อมเองดิฉันจะเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ผู้ให้เช่าจึงได้มีใบแจ้งหนี้ว่าดิฉันค้างค่า
ประกันบ้าน 7000บ. และค่าไฟฟ้า1100บ. แต่เมื่อท้วงติงไปว่าค้างแค่ค่าเช่าเดือนที่สอง ผู้ให้เช่าบอกว่าที่ดิฉันจ่ายไปเป็นค่าเช่าสองเดือนก่อน
เข้าอยู่ แต่ในสัญญาก็ระบุชัดเจนว่าผู้ให้เช่าได้รับเงินค่าประกันในวันที่ทำสัญญาแล้ว ทั้งนี้ได้ข่มขู่ว่าหากไม่ชำระจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ไม่ทราบว่ากรณีนี้ดิฉันจะต้องทำอย่างไร เพราะดิฉันไม่อยากชำระส่วนที่เหลือรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับตัวเองเกินไปที่จะต้องจ่ายในเมื่อผู้ให้เช่าไม่ดำเนินการซ่อมแซม
ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ แท็กห้องชานเรือนเผื่อพ่อแม่ท่านใดจะแนะนำได้
กรณีนี้ถือว่าเราผิดสัญญาเช่าบ้านหรือไม่
บ้านของเค้าเองเพื่อให้เราเห็นด้านในโดยอ้างว่าเป็นแปลนเดียวกัน หลังจากนั้นดิฉันก็ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะเช่า โดยเงื่อนไขคือจ่ายค่าเช่าล่วง
หน้าสองเดือนและค่าประกันอีก 7000 บ เย็นวันเดียวกันผู้ให้เช่าได้โทรสอบถาวว่าจะตัดสินใจเช่าหรือไม่ เพราะถ้าไม่จะได้ให้สิทธิแก่คนอื่น
ดิฉันก็ได้แจ้งไปว่าต้องการเช่าแต่ดิฉันยังไม่มีเงินครบตามจำนวน21000บาท ผู้ให้เช่าจึงบอกว่าสามารถผ่อนจ่ายได้โดยวันที่ทำสัญญาได้จ่าย
เงิน 7000 บ. เพื่อเป็นค่าประกัน และวันที่เข้าอยู่จะชำระค่าเช่า โดยในสัญญาหลักๆคือผู้ให้เช่าสัญญาว่าจะทำการซ่อมแซมทรัพย์สินตามหน้าที่
ผู้ให้เช่า เว้นแต่การซ่อมแซมเล็กน้อยเพื่อสงวนรักษาทรัพย์สินตามหน้าที่ผู้เช่า และทั้งกล่าวนอกเหนือสัญญาว่าภายในเดือนแรกจะทำการ
ซ่อมแซมให้ทุกอย่าง
หลังจากเข้าอาศัยในวันที่ 1 พ.ค. 56 ดิฉันได้จ่ายเงิน 7000บ.เพื่อเป็นค่าเช่าเดือนแรก และได้บอกปากเปล่าต่อผู้ให้เช่าว่าสิ้นเดือน พ.ค. ดิฉัน
จะจ่ายเงิน14000บ. เป็นค่าเช่าเดือน มิ.ย. และค่าเช่าล่วงหน้าส่วนที่เหลือ หลังจากเข้าอยู่อาศัยดิฉันได้แจ้งผู้ให้เช่ามาทำการซ่อมแซมเพราะ
1. เครืองปรับอากาศเสีย 2.ชักโครกกดไม่ลง 3.อ่างล้างจานตันโดยที่ตันก่อนที่ดิฉันจะเข้าพัก แต่เจ้าของบ้านได้อ้างว่าได้คืนเงินประกันให้ผู้
เช่ารายเก่าแล้ว และไม่ได้มาดำเนินการซ่อมแซมแต่อย่างใด
หลังจากนั้นบ้านโดนตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากไม่ได้ชำระเงินมาสองเดือน แต่ผู้ให้เช่าได้อ้างว่าไม่ได้ตรวจสอบทั้งยังต้องการให้ดิฉันออกเงินค่า
ไฟฟ้าก่อนโดยที่จะไปตามเก็บเงินจากผู้เช่ารายเก่ามาคืนให้ดิฉัน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดการหมางใจกัน แต่หลังจากนั้นผู้ให้เช่าก็ยอมจ่ายค่าไฟฟ้า
ทั้งสองเดือน แต่เรื่องนี้ทำให้ดิฉันเสียหายเนื่องจากถูกตัดกระแสไฟฟ้าเป็นเวลาแปดชั่วโมงก่อนที่ผู้ให้เช่าจะชำระค่ากระแสไฟ
เมื่อจะครบกำหนดหนึ่งเดือนดิฉันได้แจ้งต่อผู้ให้เช่ามาทำการซ่อมแซมตามรายการที่ได้แจ้งไป แต่ได้รับการปฏิเสธโดยได้แจ้งว่าความเสียหาย
เกิดหลังจากที่เข้าพักอาศัยแล้วและได้อ้างสัญญาว่า ในวันที่ทำสัญญาผู้เช่าได้ตรวจทรัพย์สินแล้ว เห็นว่ามีสภาพดีและเป็นปกติดีทุกประการ ทั้ง
ที่จริงไม่ได้เห็นสภาพภายในแต่อย่างใด
ดิฉันจึงบอกว่าหากเป็นเช่นนี้ดิฉันคงจะต้องย้ายออกเพราะหากให้ซ้อมเองดิฉันจะเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ผู้ให้เช่าจึงได้มีใบแจ้งหนี้ว่าดิฉันค้างค่า
ประกันบ้าน 7000บ. และค่าไฟฟ้า1100บ. แต่เมื่อท้วงติงไปว่าค้างแค่ค่าเช่าเดือนที่สอง ผู้ให้เช่าบอกว่าที่ดิฉันจ่ายไปเป็นค่าเช่าสองเดือนก่อน
เข้าอยู่ แต่ในสัญญาก็ระบุชัดเจนว่าผู้ให้เช่าได้รับเงินค่าประกันในวันที่ทำสัญญาแล้ว ทั้งนี้ได้ข่มขู่ว่าหากไม่ชำระจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ไม่ทราบว่ากรณีนี้ดิฉันจะต้องทำอย่างไร เพราะดิฉันไม่อยากชำระส่วนที่เหลือรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับตัวเองเกินไปที่จะต้องจ่ายในเมื่อผู้ให้เช่าไม่ดำเนินการซ่อมแซม
ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ แท็กห้องชานเรือนเผื่อพ่อแม่ท่านใดจะแนะนำได้