หลายๆคนคงได้ยินได้รู้เรื่องที่ว่ามีขบวนการจับเด็กมาเป็นขอทาน
บ้างก็ตัดอวัยวะ หรือให้ขายพวกดอกไม้ กระดาษทิชชู่ เพื่อมาหลอกเอาเงินกับคนใจบุญ
ซึ่งยิ่งมีคนบริจาคมาก ก็เหมือนเป็นปัจจัยทำให้ธุกิจมืดของแกงค์ขอทานระบาดมากขึ้น
เงินที่ได้มาแต่ละวันก็เข้ากระเป๋าคนชั่วเกือบหมด เด็กและคนแก่ที่ขอแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเงินนั้นเลย
หนำซ้ำยังถูกทารุณกรรมอีก
ทำให้เกิดการรณรงค์ขึ้นมาว่าอย่าไปให้เงินกับขอทานโดยเฉพาะขอทานจำพวกเด็ก
เพราะจะเป็นการสนับสนุนการจับเด็กมาเป็นขอทานทางอ้อมนั่นเอง
ถ้าคิดจะช่วยเด็กจริงๆควรติดต่อหน่วยงานทางรัฐที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ เช่นสังคมสงเคราะห์มากกว่า
แต่ทังนี้ทั้งนั้นก็ยังมีคนจำพวกนึงบอกว่าชั้นบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ขั้นอยากบริจาค
เลยอยากถามว่าคนพวกนี้ถือว่าเห็นแก่ตัวมั้ยครับ
เพราะว่าตัวเองสนแต่แค่ว่าจะได้บุญไม่ได้บุญเท่านั้นเอง กลัวจะตกนรกจนต้องหมั่นทำบุญเยอะๆ
โดยที่ไม่สนว่าการทำบุญของตัวเองจะส่งผลร้ายต่อผู้อื่นต่อสังคมขนาดไหน
ไม่สนว่าเงินของตัวเองจะถูกเอาไปใช้ในแง่ไหนจริงมั้ย
ขอเทียบเคียงกับอีกสองกรณีคือ
การถวายให้เงินกับพระ โดยอาศัยแค่ว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่สนว่าจะเอาเงินไปทำอะไรทั้งนั้น
ทั้งๆที่เราก็เห็นจากข่าวหรือกับตาตัวเอง ว่ามีพระนอกรีตเดินห้างกินบุฟเฟ่ห์ ซื้อไอโฟน ซื้อหนังโป๊เต็มไปหมด
เงินที่พวกนั้นใช้ก็มาจากการถวายของญาติโยมนั่นแหล่ะ
อีกกรณีคือตามเรื่องเล่าของพระเวศสันดร ที่ให้ลูกตัวเองกับชูชกเพียงเพราะว่าต้องการได้ชื่อว่าเป็นผู้บริจาคทาน
ต้องการได้ชื่อว่าเป็นผู้สละกิเลสด้านความหวงแหนในทรัพย์สมบัติทั้งปวง ต้องการสั่งสมบุญบารมี
โดยที่ไม่สนว่าลูกที่ให้เขาไปจะต้องลำบากขนาดไหน จะต้องโดนกดขี่ขนาดไหน
ผู้บริจาคทานจากสามกรณีที่ผมยกมานี่ เป็นผู้เห็นแก่ตัวมั้ยครับ เป็นผู้เห็นแค่บุญที่ตัวเองจะได้หรือเปล่าครับ
ถ้าอยากได้บุญมีตั้งหลายวิธีให้เลือกใช้ทำไมไม่ใช้วิธีอื่น หรือเพราะวิธีนี้มันสะดวกสบายต่อตัวเอง
การบริจาคทานแบบนี้ได้บุญจริงเหรอครับ
ขอทานเมืองไทย ความเห็นแก่ตัวของผู้บริจาคทาน การถวายเงินแก่พระและพระเวสสันดร
บ้างก็ตัดอวัยวะ หรือให้ขายพวกดอกไม้ กระดาษทิชชู่ เพื่อมาหลอกเอาเงินกับคนใจบุญ
ซึ่งยิ่งมีคนบริจาคมาก ก็เหมือนเป็นปัจจัยทำให้ธุกิจมืดของแกงค์ขอทานระบาดมากขึ้น
เงินที่ได้มาแต่ละวันก็เข้ากระเป๋าคนชั่วเกือบหมด เด็กและคนแก่ที่ขอแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเงินนั้นเลย
หนำซ้ำยังถูกทารุณกรรมอีก
ทำให้เกิดการรณรงค์ขึ้นมาว่าอย่าไปให้เงินกับขอทานโดยเฉพาะขอทานจำพวกเด็ก
เพราะจะเป็นการสนับสนุนการจับเด็กมาเป็นขอทานทางอ้อมนั่นเอง
ถ้าคิดจะช่วยเด็กจริงๆควรติดต่อหน่วยงานทางรัฐที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ เช่นสังคมสงเคราะห์มากกว่า
แต่ทังนี้ทั้งนั้นก็ยังมีคนจำพวกนึงบอกว่าชั้นบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ขั้นอยากบริจาค
เลยอยากถามว่าคนพวกนี้ถือว่าเห็นแก่ตัวมั้ยครับ
เพราะว่าตัวเองสนแต่แค่ว่าจะได้บุญไม่ได้บุญเท่านั้นเอง กลัวจะตกนรกจนต้องหมั่นทำบุญเยอะๆ
โดยที่ไม่สนว่าการทำบุญของตัวเองจะส่งผลร้ายต่อผู้อื่นต่อสังคมขนาดไหน
ไม่สนว่าเงินของตัวเองจะถูกเอาไปใช้ในแง่ไหนจริงมั้ย
ขอเทียบเคียงกับอีกสองกรณีคือ
การถวายให้เงินกับพระ โดยอาศัยแค่ว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่สนว่าจะเอาเงินไปทำอะไรทั้งนั้น
ทั้งๆที่เราก็เห็นจากข่าวหรือกับตาตัวเอง ว่ามีพระนอกรีตเดินห้างกินบุฟเฟ่ห์ ซื้อไอโฟน ซื้อหนังโป๊เต็มไปหมด
เงินที่พวกนั้นใช้ก็มาจากการถวายของญาติโยมนั่นแหล่ะ
อีกกรณีคือตามเรื่องเล่าของพระเวศสันดร ที่ให้ลูกตัวเองกับชูชกเพียงเพราะว่าต้องการได้ชื่อว่าเป็นผู้บริจาคทาน
ต้องการได้ชื่อว่าเป็นผู้สละกิเลสด้านความหวงแหนในทรัพย์สมบัติทั้งปวง ต้องการสั่งสมบุญบารมี
โดยที่ไม่สนว่าลูกที่ให้เขาไปจะต้องลำบากขนาดไหน จะต้องโดนกดขี่ขนาดไหน
ผู้บริจาคทานจากสามกรณีที่ผมยกมานี่ เป็นผู้เห็นแก่ตัวมั้ยครับ เป็นผู้เห็นแค่บุญที่ตัวเองจะได้หรือเปล่าครับ
ถ้าอยากได้บุญมีตั้งหลายวิธีให้เลือกใช้ทำไมไม่ใช้วิธีอื่น หรือเพราะวิธีนี้มันสะดวกสบายต่อตัวเอง
การบริจาคทานแบบนี้ได้บุญจริงเหรอครับ