นสพ.โพสต์ทูเดย์ โดย...ธนพล บางยี่ขัน เขียนเรื่อง สินค้าแดง ผลัก 'ยิ่งลักษณ์' ซวนเซ
ตอนนึง ระบุว่า ...อย่าลืมว่าปัญหาของแพงล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ที่สั่นคลอนทุกรัฐบาลมาโดยตลอด ที่สำคัญ “เพื่อไทย” ได้ชูนโยบายเรื่องกระชากค่าครองชีพ ลดรายจ่าย เป็นจุดขายในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ทว่าหลังชนะเลือกตั้งมาปีกว่า นอกจากจะไม่สามารถทำได้อย่างที่หาเสียงแล้ว สถานการณ์กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม
ไม่แปลกที่ “ประชาธิปัตย์” จะหยิบยกประเด็นของแพงมาถล่มในช่วงนี้ พร้อมตอกย้ำด้วยดัชนีชี้วัดของแพงอย่างไข่ไก่ ที่ราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มจากสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ 2.90 บาท
...หากอ่านหมดทั้งบทความแล้วก็จะเห็นว่า การพูดของปชป.ที่เปิดทางให้ สื่ออย่างโพสต์ทูเดย์หยิบมาเขียน มีเป้าหมายเดียวกันคือ ปักธง มุ่งพิฆาต รัฐบาลฝ่ายตรงข้าม(ปชป.)เพียงอย่างเดียว ตรงนี้ไม่รู้จะเรียกว่า สื่อเลือกข้างได้หรือเปล่า แม้ข้อมูลผิดก็ยังหยิบมานำเสนอไม่ตรวจสอบ? มุ่งพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลด้านเดียวตามข้อมูลของพรรคปชป.ที่มีออกมา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า ราคาไข่ไก่เป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์หยิบโยงมาเล่นเกม พรรคปชป.ไม่เคยมองเห็นหัวประชาชนที่เป็นเกษตรกรให้ได้ลืมตาอ้าปาก หรือคนชั้นล่างจะได้รับการดูแลรายได้ที่เพิ่มขึ้น พรรคปชป.ก็ยังอดรนทนไม่ไหว ขัดขวางทุกวิถีทาง ยกสารพัดเหตุผลคัดค้าน
ซึ่ง พีรชา พัฒนวิชาญ เขียนบทความเรื่อง ไข่ไก่ไม่ใช่ ดัชนีวัดค่าครองชีพ ลงหน้า 7 มติชนรายวัน ฉบับวันนี้ทำให้ได้ความรู้อีกด้านหนึ่ง ขอคัดย่อมาให้อ่านกันว่า เหตุผลที่มองไข่ไก่แพงนั้นมาจาก
1.สภาพอากาศร้อน-แล้งหรือแปรปรวนบ่อยๆทำให้ไก่ไข่ปรับตัวไม่ทันจนหยุดออกไข่ ทำให้มีไข่ไก้ออกสู่ตลาดน้อยลง ราคาก็จะแพงขึ้น
2.เทศกาลหรือวันหยุดต่าง ๆเช่น กินเจ ปีใหม่ สงกรานต์ ปิดเทอม เปิดเทอม ฯลฯคนกินไข่น้อยลง
ราคาไข่ไก่จึงผันผวนขึ้นลงตลอดทั้งปี สมัย พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ดูจากนสพ.กรุงเทพธุรกิจ 28 มิ.ย.53 อภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ราคาไข่ไก่แพงอยู่ที่3.90 บาท/ฟองเลยรีบแก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอด เปิดเสรีนำเข้าพ่อแม่พันธุ์แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ จนนำไปสู่การล้มละลายเลิกกิจการของผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยมากกมายเพราะราคาไข่ตกต่ำเหลือ1.80บาท เกษตรกรที่ไหนจะอยู่ได้แถมยังชูแนวทาง ขายไข่ชั่งกิโลให้คนหัวเราะเยาะทั้งประเทศ โปรดหยุด นำไข่ไก่ ไปเป็นประเด็นทางการเมืองเสียทีเพราะมันไม่ใช่ดัชนีชี้วัดค่าครองชีพ.
ฉะนั้นทั้งพรรคปชป.และสื่อควรที่จะต้องเห็นใจเกษตรกรให้มากกว่าจะหยิบเรื่องปัญหาไข่ไก่แพง มาเป็นประเด็นการเมือง เพื่อตอบสนองตัณหาทางการเมืองของตัวเองมากกว่าปากท้องคนที่ด้อยโอกาสกว่าตัวเอง.
ไข่ไก่ไม่ใช่ ดัชนีวัดค่าครองชีพ !!!!
ตอนนึง ระบุว่า ...อย่าลืมว่าปัญหาของแพงล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ที่สั่นคลอนทุกรัฐบาลมาโดยตลอด ที่สำคัญ “เพื่อไทย” ได้ชูนโยบายเรื่องกระชากค่าครองชีพ ลดรายจ่าย เป็นจุดขายในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ทว่าหลังชนะเลือกตั้งมาปีกว่า นอกจากจะไม่สามารถทำได้อย่างที่หาเสียงแล้ว สถานการณ์กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม
ไม่แปลกที่ “ประชาธิปัตย์” จะหยิบยกประเด็นของแพงมาถล่มในช่วงนี้ พร้อมตอกย้ำด้วยดัชนีชี้วัดของแพงอย่างไข่ไก่ ที่ราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มจากสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ 2.90 บาท
...หากอ่านหมดทั้งบทความแล้วก็จะเห็นว่า การพูดของปชป.ที่เปิดทางให้ สื่ออย่างโพสต์ทูเดย์หยิบมาเขียน มีเป้าหมายเดียวกันคือ ปักธง มุ่งพิฆาต รัฐบาลฝ่ายตรงข้าม(ปชป.)เพียงอย่างเดียว ตรงนี้ไม่รู้จะเรียกว่า สื่อเลือกข้างได้หรือเปล่า แม้ข้อมูลผิดก็ยังหยิบมานำเสนอไม่ตรวจสอบ? มุ่งพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลด้านเดียวตามข้อมูลของพรรคปชป.ที่มีออกมา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า ราคาไข่ไก่เป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์หยิบโยงมาเล่นเกม พรรคปชป.ไม่เคยมองเห็นหัวประชาชนที่เป็นเกษตรกรให้ได้ลืมตาอ้าปาก หรือคนชั้นล่างจะได้รับการดูแลรายได้ที่เพิ่มขึ้น พรรคปชป.ก็ยังอดรนทนไม่ไหว ขัดขวางทุกวิถีทาง ยกสารพัดเหตุผลคัดค้าน
ซึ่ง พีรชา พัฒนวิชาญ เขียนบทความเรื่อง ไข่ไก่ไม่ใช่ ดัชนีวัดค่าครองชีพ ลงหน้า 7 มติชนรายวัน ฉบับวันนี้ทำให้ได้ความรู้อีกด้านหนึ่ง ขอคัดย่อมาให้อ่านกันว่า เหตุผลที่มองไข่ไก่แพงนั้นมาจาก
1.สภาพอากาศร้อน-แล้งหรือแปรปรวนบ่อยๆทำให้ไก่ไข่ปรับตัวไม่ทันจนหยุดออกไข่ ทำให้มีไข่ไก้ออกสู่ตลาดน้อยลง ราคาก็จะแพงขึ้น
2.เทศกาลหรือวันหยุดต่าง ๆเช่น กินเจ ปีใหม่ สงกรานต์ ปิดเทอม เปิดเทอม ฯลฯคนกินไข่น้อยลง
ราคาไข่ไก่จึงผันผวนขึ้นลงตลอดทั้งปี สมัย พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ดูจากนสพ.กรุงเทพธุรกิจ 28 มิ.ย.53 อภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ราคาไข่ไก่แพงอยู่ที่3.90 บาท/ฟองเลยรีบแก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอด เปิดเสรีนำเข้าพ่อแม่พันธุ์แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ จนนำไปสู่การล้มละลายเลิกกิจการของผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยมากกมายเพราะราคาไข่ตกต่ำเหลือ1.80บาท เกษตรกรที่ไหนจะอยู่ได้แถมยังชูแนวทาง ขายไข่ชั่งกิโลให้คนหัวเราะเยาะทั้งประเทศ โปรดหยุด นำไข่ไก่ ไปเป็นประเด็นทางการเมืองเสียทีเพราะมันไม่ใช่ดัชนีชี้วัดค่าครองชีพ.
ฉะนั้นทั้งพรรคปชป.และสื่อควรที่จะต้องเห็นใจเกษตรกรให้มากกว่าจะหยิบเรื่องปัญหาไข่ไก่แพง มาเป็นประเด็นการเมือง เพื่อตอบสนองตัณหาทางการเมืองของตัวเองมากกว่าปากท้องคนที่ด้อยโอกาสกว่าตัวเอง.