สืบเนื่องจากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/30400595 สำหรับ Ep.1
http://ppantip.com/topic/30404721 สำหรับ Ep.2
http://ppantip.com/topic/30407884 สำหรับ Ep.3
http://ppantip.com/topic/30412163 สำหรับ Ep.4
http://ppantip.com/topic/30436234 สำหรับ Ep.5
http://ppantip.com/topic/30513595 สำหรับ Ep.6
เพื่อทำความเข้าใจกับ ท่าน Admin และคุณตำรวจพันทิป
รบกวนซักนิดครับ ถึง Admin และผู้ที่ประสงค์แจ้งลบกระทู้ผม...
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการใช้งานเว็บบอร์ดเพิ่มขึ้นนะครับ
หากว่ากระทู้นี้ยังผิดอีก ผมรบกวนช่วยให้เหตุผล ที่ยาวซักนิด และเข้าใจง่ายหน่อยจะเป็นพระคุณมาก
ผมยังอ่อนหัดเรื่องนี้อยู่มาก และพร้อมจะน้อมรับการแก้ไข เพื่อไม่ให้ผิดกฏหรือระเบียบ Webboard นี้แต่อย่างใด
หลังจากที่ตัดสินใจได้ว่าเราต้องขยับขยายอะไรซักอย่าง....เพื่อเดินตามความฝันต่อไป
หลังจากที่ฝนเม็ดแรกของฤดูต้อนรับธุรกิจ "รถเข็น" ของเราอย่างไม่ปราณี
ในคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมา หลังจากการเปิดร้านตามเวลาปรกติ เหมือนเช่นทุกครั้ง
เราวุ่นวายกับการทำออร์เดอร์ให้ลูกค้ากลุ่มใหญ่ทีเข้ามาแวะเวียนมาชิมอาหารจากเรา เหมือนเช่นทุกครั้ง
ฝนเม็ดเท่าควาย ตกมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...เล่นเอาตั้งตัวไม่ถูก ยืนงงอยู่ซะงั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในร้านเปียกไปพร้อมๆกันทั้งหมด
ฝนตกหนักมาก ไม่มีสัญญาณอะไร ไม่มีปรอย บทจะตก ก็กดซะหนักเลย
ยืนงงกันพักนึงจริงๆครับ แล้วก็เริ่มทำตามที่เราได้เตรียมการไว้ คือเริ่มเก็บของ ย้ายเข้าด้านในคาร์แคร์
เราย้ายโต๊ะของลูกค้าเข้าด้านในคาร์แคร์ บริเวณที่เค้าใช้เช็ดรถ
แล้วรีบกุลีกุจอมาจัดการข้างของที่เหลือ ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยจริง คำนี้คงเหมาะสุด
ผมมานึกเอะใจ บรรดาร้านขายเสื้อผ้า ขายอาหารข้างถนนแบบนี้ ถ้าเข้าหน้าฝนจริงๆ เค้าจะอยู่ได้ยังไง
รายได้จากการขายลดลงแน่นอนกว่า 40-50% (จากปรกติที่ไม่ได้มากมายนัก) ยิ่งลดลงแบบนี้ เค้าจะเอาอะไรกิน....
หลายคนที่โชคดี เกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมจะให้ สามารถดำเินินธุรกิจได้โดยไม่ต้องควักเงินส่วนตัวออกตังค์
มีพ่อแม่คอยอุปการะค้ำชู ในจุดนี้ผมเชื่อว่า เค้าต้องไม่เข้าใจอารมณ์นี้เป็นแน่....ไม่มากก็น้อย
ส่วนคนที่หาเช้ากินค่ำ ผมนับถือในความอดทน และต่อสู้กับชะตาชีวิต ดิ้นรถต่อไปในขณะที่มีชีวิตอยู่
เพื่อดูแลชีวิตตัวเอง และคนรอบๆตัว.....
เรามีฐานลูกค้าพอสมควร เรามีลูกค้าที่น่ารักหลายๆท่าน แม้ฝนจะตกโคตรหนัก ก็ยังจะมากินกัน
น้องๆกลุ่มนึง ขับรถฝ่าสายฝนมา เพื่อมากินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ได้ทักทายกันบ้างก่อนกลับ
หนึ่งในนั้นบอกว่า "หนูรอวันศุกร์ เพื่อจะมากินก๋วยเตี๋ยวของพี่เลยนะ"
แหม....น้ำตาจะไหล....
จริงๆก่อนวันนี้ เราเตรียมรับมือกับฤดูฝนไว้พอสมควร แรกสุดคือการออร์เดอร์ของสดที่มีราคาแพง
อาทิตย์นี้ เราเบรคเมนู กุ้งแม่น้ำ และ ปลาแซลม่อน ออกไปก่อน เพื่อลดปริมาณต้นทุนลง
แล้วเอาเมนูรองลงมาอย่าง "ก๋วยเตี๋ยวคั่วสเต็กหมู และก๋วยเตี๋ยงคั่วสเต็กเนื้อ" เป็นพระเอกแทน
ก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างทีเหมือนเดิมนะ ถือว่าทำการแทนกันได้ดีเยี่ยมเลย....
จบการขายในอาทิตย์ที่ผ่านมา ศุกร์ เจอฝน แต่ยอดขายยังปรกติ
เสาร์ไม่เจอฝน แต่ยอดขายน้อยกว่าปรกติ , อาทิตย์ฝนกระหน่ำ ยอดขายก็ยังปรกติเหมือนเดิม
แปลกใจ....วันฝนไม่ตก ขายดีไม่เท่าวันฝนตกวะ....
ผมและเพื่อน (หลังจากนี้ผมมีทีมงาน "คั่วไก่แสนสะท้าน" แล้วนะ) เริ่มตระเวณหาที่ตั้งร้านแบบ "เป็นหลักแหล่ง" อีกครั้ง
หามันในละแวกเดิม เอาที่ใกล้บ้านซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่อยากให้ไกลจากที่ตั้งเดิม เพื่อสะดวกในการเดินทาง
ของลูกค้าเก่าหลายท่านที่เคยมาทาน และจะได้กลับมาทานอีก.....
เสนา...
วังหิน...
โชคชัยสี่...
งามวงศ์วาน...
ทุกที่ที่พอมองหาได้ เราพยายามเข้าไปติดต่อมันทั้งหมด ลามไป ดินแดง สุทธิสาร ห้วยขวาง ก็ไปมาหล่ะ
บางที่ค่ามัดจำ 4 เดือน ก่อนเข้าอยู่ เข้าไปตกแต่งกว่าจะได้ขายอีก เบ็ดเสร็จใช้เงินเป็นแสน....จะเอาตังค์ที่ไหนมาหล่ะ...
ไปดูมาบางที เห้ย...อยากได้มาก แต่เจอค่าเซ้ง 450,000 ค่าเช่าอีก 20,000 บาทต่อเดือน
โห.....ขายเท่าไหร่ค่าเช่า-ค่าเซ้งเอาไปกินหมด ขายก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวคงไม่พอหล่ะทีนี้....
ก็เหมือนเดิม...หาต่อไป ยังไม่ได้ก็หาต่อไป...
สุดท้าย...ในวันนึงที่ขับรถกลับบ้าน ผมแวะเข้ามาคุยกับพี่เจ้าของคาร์แคร์
เพื่อจะบอกเค้าว่า สิ้นเดือนนี้ ผมจะไม่ขายต่อเพราะคงเปิดให้เสียงกับหน้าฝนคงไม่ไหว
ต้องยอมถอยทัพ พับโครงการไปก่อน ใจหายแว่ปๆ อุตสาห์ไล่ตามฝันมา 2 เดือนเต็มๆ ทำงานประจำ พร้อมขายก๋วยเตี๋ยว
ไม่มีวันหยุด ไม่เคยได้พัก ไม่เคยหยุดคิดหาอะไรแปลกใหม่ เพิ่มเติมให้ร้าน "รถเข็น" ของเรามาตลอด
ถึงเวลาที่ต้องอยู่ในโลกของความจริงบ้าง ไปได้ก็ไป ถ้าไปไม่ไหว แค่หยุด....แล้วพัก เพื่อไปต่อ...
" เออ....ลูกค้าผม (คาร์แคร์) เค้าขายอยู่ที่โครงการ Like@Kaset Market เค้าว่าเวริคนะ
คุณติ๊งลองไปดูซิ ตรงข้าม ม.เกษตร เลย........"
ประโยคนึงหลังจากการได้พูดคุยกันสั้นๆ กับพี่เจ้าของคาร์แคร์ ......
หลังจบการสนทนา ผมขับรถไปเพื่อดูที่ที่โครงการ Like@Kaset Market ตามคำบอกเล่าทันที...
จริงๆโครงการนี้ผมเคยได้ยินมานานแล้ว และจริงๆ เคยเข้่ามาดูแล้วครั้งนึงด้วยซ้ำ ตั้งแต่ตอนก่อนเปิดร้านวันแรก
้ถ้าจะำได้จะอยู่ประมาณ Ep.2-3 อะไรนี่แหล่ะ ลองไล่อ่านดู ถ้าไม่มีก็ขออภัยครับ... พิมพ์เยอะ จำไม่ได้ทั้งหมด
โครงการ "Like@Kaset Market" ตั้งอยู่ถนนเส้นที่เชื่อมต่อระหว่าง ถนนพหลโยธิน กับถนนวิภาวดี
ตรงข้ามประตู 1-2 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พหลโยธิน เป็นโครงการ (ผมคิดว่า) ตั้งใจจะทำเหมือน Avenue
เหมือนอย่างที่เค้าฮิตๆกันทำช่วงนี้.....แต่ด้วยงบประมาณการสร้างที่ลงทุนน้อยกว่า แต่ก็ถือว่าอยู่ในย่านที่น่าจะทำเงินได้เลย
มีร้านค้าหลายร้าน ที่เคยมาเปิด และปิดตัวลงไป สอบถามได้ความว่าเป็นเจ้าของใหม่ เข้ามา Takeover
และำกำลังจะทำให้เป็น Food Center ในเร็ววันนี้..........
เข้าทางซิครับ......
ผม และทีมงาน เข้ามาดูพื้นที่เพื่อประเมินความเป็นไปได้ ค่าใช้จ่ายในการลงทุน และค่าเช่า ค่าจ้าง
และเงินทุนหมุนเวียนในร้าน เวลาที่จะเปิดขาย บลา บลา บลา อีกมากมายสารพัด
ตกลงเราจะขายมันทุกวัน...ไม่ได้ขายเฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ อีกแล้่วนะ
ตกลงตามนี้....
" คั่วไก่แสนสะท้าน ณ. Like@Kaset Market "
เราขยับ Scale รวดเร็วมาก จากรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว มีโต๊ะนั่งกิน 2 โต๊ะ ขาย 3 วัน
พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว 20 เมนู 12 โต๊ะ ขายทุกวันไม่มีวันหยุด ขายตั้งแต่เช้า ยันมึด
ด้วยการร่วมลงทุนของเพื่อน ซึ่งในขณะนี้ขยับตัวมาเป็น "หุ้นส่วน" เอาอีกแล้ว เพื่อน มาเป็นหุ้นส่วน "อีกแล้ว"
ภาพ "ฐานทัพลาว" วนเวียนกลับมาในหัวอีกครั้ง........
อ้างอิงถึง Ep.เก่าๆ เรื่องราวโดยสรุปของ "ร้านเหล้า ชื่อ ฐานทัพลาว" ของผม และเพื่อนหลายปีที่ผ่านมา
เป็นร้านเหล้าที่หุ้นโคตรเยอะ และทั้งหมดก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน หลังจากปิดตัวลง ผมเสียเพื่อนหลายคนจากร้านนี้....
"คั่วไก่แสนสะท้าน" กำลังจะเป็นบททดสอบของ "เพื่อน-หุ้นส่วน" อีกครั้งนึง มันจะไปรอดมั้ย หรือจะลงเอยเหมือนทุกครั้ง...
คำนึงที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในที่ประชุม..."ทะเลาะกันวันนี้ วันหน้าจะได้ไม่ทะเลา่ะกัน"
"เชื่อกูเหอะ....วันหน้าแม่มก็ทะเลาะกันอีก"
แต่เอาเถอะ มากันไกลเกินกว่าจะถอยหลังแล้ว ปัญหามีไว้ให้แก้ไข และที่สำคัญ "ท้่อมีไว้ให้ลิงถือ"
เดินหน้าอย่างเดียว ค่อยปรับ ค่อยแก้กันไป อย่างน้อยตอนนี้ เรามีแบรนด์ของเราแล้ว
ผิดถูกหมู่จ่าค่อยว่ากันไปวะ.........
ณ. ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอน Set Up รายการของทุกอย่างที่จะต้องลงในร้านครับ
ผมเตรียมงานทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างกับที่แรก คือตอนนี้ ผมมีหลายคนมาช่วยแชร์งานออกไป
เหนื่อยน้อยลงนะ....หรือเปล่า แต่ก็โอเค อย่างน้อยก็มีคนมาช่วยคิดเพิ่มขึ้น....
ของหลายๆอย่างเริ่่มทยอยเข้าร้านแล้ว เรามีกำหนดเปิดร้านวันที่ 5 มิถุนายน 2556 นี้
ตามปฏิทินจีนมันคือวันธงชัย ตามของไทยคือวันอุบาด สรุปมันวันอะไรของมันแน่ เอาเหอะ จะธงชัยอุบาดอะไรก็เอา
ตามสัญญาระบุไว้ วันนี้ก็วันนี้วะ เป็นไงเป็นกัน....
สองเดือนที่ผ่านมา คือจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้.....
ผมผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาใน 2 เดือนที่ยืนหลังเตา เห็น99%ของปัญหาทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาระหว่างทาง
อุปสรรค ปัญหา ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ความเมื่อยล้า หมดกำลังใจ ความสุข สนุก และความท้อถอย
วันนี้ ผม และทีมงาน "คั่วไก่แสนสะท้าน" กำลังจะมี Step ต่อไปให้ลุยต่อ เพื่อฝันของตัวเอง เพื่อประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
ถ้ามันจะ
ไปตรงหน้า
อย่างน้อย.... เราก็ได้ลอง และทุ่มเทกับมันให้ถึงที่สุดแล้ว....
ลุย.......!!!!!
(อ่านต่อ Ep.8 ครับ)
เอาเป็นว่า...ผมมาเล่าความฝันให้ฟังก็หล่ะกัน(ดราม่านิดๆ สำหรับคนมีเวลา) Ep.7
http://ppantip.com/topic/30400595 สำหรับ Ep.1
http://ppantip.com/topic/30404721 สำหรับ Ep.2
http://ppantip.com/topic/30407884 สำหรับ Ep.3
http://ppantip.com/topic/30412163 สำหรับ Ep.4
http://ppantip.com/topic/30436234 สำหรับ Ep.5
http://ppantip.com/topic/30513595 สำหรับ Ep.6
เพื่อทำความเข้าใจกับ ท่าน Admin และคุณตำรวจพันทิป
รบกวนซักนิดครับ ถึง Admin และผู้ที่ประสงค์แจ้งลบกระทู้ผม...
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการใช้งานเว็บบอร์ดเพิ่มขึ้นนะครับ
หากว่ากระทู้นี้ยังผิดอีก ผมรบกวนช่วยให้เหตุผล ที่ยาวซักนิด และเข้าใจง่ายหน่อยจะเป็นพระคุณมาก
ผมยังอ่อนหัดเรื่องนี้อยู่มาก และพร้อมจะน้อมรับการแก้ไข เพื่อไม่ให้ผิดกฏหรือระเบียบ Webboard นี้แต่อย่างใด
หลังจากที่ตัดสินใจได้ว่าเราต้องขยับขยายอะไรซักอย่าง....เพื่อเดินตามความฝันต่อไป
หลังจากที่ฝนเม็ดแรกของฤดูต้อนรับธุรกิจ "รถเข็น" ของเราอย่างไม่ปราณี
ในคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมา หลังจากการเปิดร้านตามเวลาปรกติ เหมือนเช่นทุกครั้ง
เราวุ่นวายกับการทำออร์เดอร์ให้ลูกค้ากลุ่มใหญ่ทีเข้ามาแวะเวียนมาชิมอาหารจากเรา เหมือนเช่นทุกครั้ง
ฝนเม็ดเท่าควาย ตกมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...เล่นเอาตั้งตัวไม่ถูก ยืนงงอยู่ซะงั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในร้านเปียกไปพร้อมๆกันทั้งหมด
ฝนตกหนักมาก ไม่มีสัญญาณอะไร ไม่มีปรอย บทจะตก ก็กดซะหนักเลย
ยืนงงกันพักนึงจริงๆครับ แล้วก็เริ่มทำตามที่เราได้เตรียมการไว้ คือเริ่มเก็บของ ย้ายเข้าด้านในคาร์แคร์
เราย้ายโต๊ะของลูกค้าเข้าด้านในคาร์แคร์ บริเวณที่เค้าใช้เช็ดรถ
แล้วรีบกุลีกุจอมาจัดการข้างของที่เหลือ ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยจริง คำนี้คงเหมาะสุด
ผมมานึกเอะใจ บรรดาร้านขายเสื้อผ้า ขายอาหารข้างถนนแบบนี้ ถ้าเข้าหน้าฝนจริงๆ เค้าจะอยู่ได้ยังไง
รายได้จากการขายลดลงแน่นอนกว่า 40-50% (จากปรกติที่ไม่ได้มากมายนัก) ยิ่งลดลงแบบนี้ เค้าจะเอาอะไรกิน....
หลายคนที่โชคดี เกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมจะให้ สามารถดำเินินธุรกิจได้โดยไม่ต้องควักเงินส่วนตัวออกตังค์
มีพ่อแม่คอยอุปการะค้ำชู ในจุดนี้ผมเชื่อว่า เค้าต้องไม่เข้าใจอารมณ์นี้เป็นแน่....ไม่มากก็น้อย
ส่วนคนที่หาเช้ากินค่ำ ผมนับถือในความอดทน และต่อสู้กับชะตาชีวิต ดิ้นรถต่อไปในขณะที่มีชีวิตอยู่
เพื่อดูแลชีวิตตัวเอง และคนรอบๆตัว.....
เรามีฐานลูกค้าพอสมควร เรามีลูกค้าที่น่ารักหลายๆท่าน แม้ฝนจะตกโคตรหนัก ก็ยังจะมากินกัน
น้องๆกลุ่มนึง ขับรถฝ่าสายฝนมา เพื่อมากินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ได้ทักทายกันบ้างก่อนกลับ
หนึ่งในนั้นบอกว่า "หนูรอวันศุกร์ เพื่อจะมากินก๋วยเตี๋ยวของพี่เลยนะ"
แหม....น้ำตาจะไหล....
จริงๆก่อนวันนี้ เราเตรียมรับมือกับฤดูฝนไว้พอสมควร แรกสุดคือการออร์เดอร์ของสดที่มีราคาแพง
อาทิตย์นี้ เราเบรคเมนู กุ้งแม่น้ำ และ ปลาแซลม่อน ออกไปก่อน เพื่อลดปริมาณต้นทุนลง
แล้วเอาเมนูรองลงมาอย่าง "ก๋วยเตี๋ยวคั่วสเต็กหมู และก๋วยเตี๋ยงคั่วสเต็กเนื้อ" เป็นพระเอกแทน
ก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างทีเหมือนเดิมนะ ถือว่าทำการแทนกันได้ดีเยี่ยมเลย....
จบการขายในอาทิตย์ที่ผ่านมา ศุกร์ เจอฝน แต่ยอดขายยังปรกติ
เสาร์ไม่เจอฝน แต่ยอดขายน้อยกว่าปรกติ , อาทิตย์ฝนกระหน่ำ ยอดขายก็ยังปรกติเหมือนเดิม
แปลกใจ....วันฝนไม่ตก ขายดีไม่เท่าวันฝนตกวะ....
ผมและเพื่อน (หลังจากนี้ผมมีทีมงาน "คั่วไก่แสนสะท้าน" แล้วนะ) เริ่มตระเวณหาที่ตั้งร้านแบบ "เป็นหลักแหล่ง" อีกครั้ง
หามันในละแวกเดิม เอาที่ใกล้บ้านซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่อยากให้ไกลจากที่ตั้งเดิม เพื่อสะดวกในการเดินทาง
ของลูกค้าเก่าหลายท่านที่เคยมาทาน และจะได้กลับมาทานอีก.....
เสนา...
วังหิน...
โชคชัยสี่...
งามวงศ์วาน...
ทุกที่ที่พอมองหาได้ เราพยายามเข้าไปติดต่อมันทั้งหมด ลามไป ดินแดง สุทธิสาร ห้วยขวาง ก็ไปมาหล่ะ
บางที่ค่ามัดจำ 4 เดือน ก่อนเข้าอยู่ เข้าไปตกแต่งกว่าจะได้ขายอีก เบ็ดเสร็จใช้เงินเป็นแสน....จะเอาตังค์ที่ไหนมาหล่ะ...
ไปดูมาบางที เห้ย...อยากได้มาก แต่เจอค่าเซ้ง 450,000 ค่าเช่าอีก 20,000 บาทต่อเดือน
โห.....ขายเท่าไหร่ค่าเช่า-ค่าเซ้งเอาไปกินหมด ขายก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวคงไม่พอหล่ะทีนี้....
ก็เหมือนเดิม...หาต่อไป ยังไม่ได้ก็หาต่อไป...
สุดท้าย...ในวันนึงที่ขับรถกลับบ้าน ผมแวะเข้ามาคุยกับพี่เจ้าของคาร์แคร์
เพื่อจะบอกเค้าว่า สิ้นเดือนนี้ ผมจะไม่ขายต่อเพราะคงเปิดให้เสียงกับหน้าฝนคงไม่ไหว
ต้องยอมถอยทัพ พับโครงการไปก่อน ใจหายแว่ปๆ อุตสาห์ไล่ตามฝันมา 2 เดือนเต็มๆ ทำงานประจำ พร้อมขายก๋วยเตี๋ยว
ไม่มีวันหยุด ไม่เคยได้พัก ไม่เคยหยุดคิดหาอะไรแปลกใหม่ เพิ่มเติมให้ร้าน "รถเข็น" ของเรามาตลอด
ถึงเวลาที่ต้องอยู่ในโลกของความจริงบ้าง ไปได้ก็ไป ถ้าไปไม่ไหว แค่หยุด....แล้วพัก เพื่อไปต่อ...
" เออ....ลูกค้าผม (คาร์แคร์) เค้าขายอยู่ที่โครงการ Like@Kaset Market เค้าว่าเวริคนะ
คุณติ๊งลองไปดูซิ ตรงข้าม ม.เกษตร เลย........"
ประโยคนึงหลังจากการได้พูดคุยกันสั้นๆ กับพี่เจ้าของคาร์แคร์ ......
หลังจบการสนทนา ผมขับรถไปเพื่อดูที่ที่โครงการ Like@Kaset Market ตามคำบอกเล่าทันที...
จริงๆโครงการนี้ผมเคยได้ยินมานานแล้ว และจริงๆ เคยเข้่ามาดูแล้วครั้งนึงด้วยซ้ำ ตั้งแต่ตอนก่อนเปิดร้านวันแรก
้ถ้าจะำได้จะอยู่ประมาณ Ep.2-3 อะไรนี่แหล่ะ ลองไล่อ่านดู ถ้าไม่มีก็ขออภัยครับ... พิมพ์เยอะ จำไม่ได้ทั้งหมด
โครงการ "Like@Kaset Market" ตั้งอยู่ถนนเส้นที่เชื่อมต่อระหว่าง ถนนพหลโยธิน กับถนนวิภาวดี
ตรงข้ามประตู 1-2 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พหลโยธิน เป็นโครงการ (ผมคิดว่า) ตั้งใจจะทำเหมือน Avenue
เหมือนอย่างที่เค้าฮิตๆกันทำช่วงนี้.....แต่ด้วยงบประมาณการสร้างที่ลงทุนน้อยกว่า แต่ก็ถือว่าอยู่ในย่านที่น่าจะทำเงินได้เลย
มีร้านค้าหลายร้าน ที่เคยมาเปิด และปิดตัวลงไป สอบถามได้ความว่าเป็นเจ้าของใหม่ เข้ามา Takeover
และำกำลังจะทำให้เป็น Food Center ในเร็ววันนี้..........
เข้าทางซิครับ......
ผม และทีมงาน เข้ามาดูพื้นที่เพื่อประเมินความเป็นไปได้ ค่าใช้จ่ายในการลงทุน และค่าเช่า ค่าจ้าง
และเงินทุนหมุนเวียนในร้าน เวลาที่จะเปิดขาย บลา บลา บลา อีกมากมายสารพัด
ตกลงเราจะขายมันทุกวัน...ไม่ได้ขายเฉพาะ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ อีกแล้่วนะ
ตกลงตามนี้....
" คั่วไก่แสนสะท้าน ณ. Like@Kaset Market "
เราขยับ Scale รวดเร็วมาก จากรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว มีโต๊ะนั่งกิน 2 โต๊ะ ขาย 3 วัน
พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว 20 เมนู 12 โต๊ะ ขายทุกวันไม่มีวันหยุด ขายตั้งแต่เช้า ยันมึด
ด้วยการร่วมลงทุนของเพื่อน ซึ่งในขณะนี้ขยับตัวมาเป็น "หุ้นส่วน" เอาอีกแล้ว เพื่อน มาเป็นหุ้นส่วน "อีกแล้ว"
ภาพ "ฐานทัพลาว" วนเวียนกลับมาในหัวอีกครั้ง........
อ้างอิงถึง Ep.เก่าๆ เรื่องราวโดยสรุปของ "ร้านเหล้า ชื่อ ฐานทัพลาว" ของผม และเพื่อนหลายปีที่ผ่านมา
เป็นร้านเหล้าที่หุ้นโคตรเยอะ และทั้งหมดก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน หลังจากปิดตัวลง ผมเสียเพื่อนหลายคนจากร้านนี้....
"คั่วไก่แสนสะท้าน" กำลังจะเป็นบททดสอบของ "เพื่อน-หุ้นส่วน" อีกครั้งนึง มันจะไปรอดมั้ย หรือจะลงเอยเหมือนทุกครั้ง...
คำนึงที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในที่ประชุม..."ทะเลาะกันวันนี้ วันหน้าจะได้ไม่ทะเลา่ะกัน"
"เชื่อกูเหอะ....วันหน้าแม่มก็ทะเลาะกันอีก"
แต่เอาเถอะ มากันไกลเกินกว่าจะถอยหลังแล้ว ปัญหามีไว้ให้แก้ไข และที่สำคัญ "ท้่อมีไว้ให้ลิงถือ"
เดินหน้าอย่างเดียว ค่อยปรับ ค่อยแก้กันไป อย่างน้อยตอนนี้ เรามีแบรนด์ของเราแล้ว
ผิดถูกหมู่จ่าค่อยว่ากันไปวะ.........
ณ. ตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอน Set Up รายการของทุกอย่างที่จะต้องลงในร้านครับ
ผมเตรียมงานทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างกับที่แรก คือตอนนี้ ผมมีหลายคนมาช่วยแชร์งานออกไป
เหนื่อยน้อยลงนะ....หรือเปล่า แต่ก็โอเค อย่างน้อยก็มีคนมาช่วยคิดเพิ่มขึ้น....
ของหลายๆอย่างเริ่่มทยอยเข้าร้านแล้ว เรามีกำหนดเปิดร้านวันที่ 5 มิถุนายน 2556 นี้
ตามปฏิทินจีนมันคือวันธงชัย ตามของไทยคือวันอุบาด สรุปมันวันอะไรของมันแน่ เอาเหอะ จะธงชัยอุบาดอะไรก็เอา
ตามสัญญาระบุไว้ วันนี้ก็วันนี้วะ เป็นไงเป็นกัน....
สองเดือนที่ผ่านมา คือจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้.....
ผมผ่านทุกสิ่งทุกอย่างมาใน 2 เดือนที่ยืนหลังเตา เห็น99%ของปัญหาทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาระหว่างทาง
อุปสรรค ปัญหา ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ความเมื่อยล้า หมดกำลังใจ ความสุข สนุก และความท้อถอย
วันนี้ ผม และทีมงาน "คั่วไก่แสนสะท้าน" กำลังจะมี Step ต่อไปให้ลุยต่อ เพื่อฝันของตัวเอง เพื่อประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
ถ้ามันจะไปตรงหน้า
อย่างน้อย.... เราก็ได้ลอง และทุ่มเทกับมันให้ถึงที่สุดแล้ว....
ลุย.......!!!!!
(อ่านต่อ Ep.8 ครับ)