ดิฉันเป็นเทคนิคการแพทย์ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สังกัด กทม
เป็นลูกจ้างรายวัน ต่อสัญญาทุก 4 เดือน ได้เงินค่าจ้างเป็นรายเดือนตอนสิ้นเดือน โดยเงินค่าจ้างทางสำนักชันสูตรเป็นผู้จ่ายให้
ผ่านศูนย์ ติดปัญหาตกเบิกบ้าง ออกช้าบ้างมาตลอด โดยรับกับฝ่ายการเงินศูนย์ซึ่งเป็นข้าราชการมานาน
บางครั้งไปรับเงินเดินก็ชอบกล่าวหาว่าดิฉันรับเงินไปแล้ว ทั้งที่ดิฉันยังไม่ได้ และไม่มีหลักฐานการรับเงิน
และบางครั้งก็บอกให้รอรับจนเย็นค่ำ ทั้งที่ดิฉันเลิกงาน 3 โมงเย็น ตอนรับก็แทบจะต้องคลานเข่าไปรับ
ทั้งที่มันเป็นเงินค่าแรงที่ดิฉันควรจะได้รับ พอดิฉันร้องเรียน ก็รับปากว่าจะออกตรงเวลา แต่ ถึงเวลาก็ช้าอีก
ดิฉันไม่มีสิทธิบ่นใดๆ เพราะข้าราชการท่านนั้นมักจะพูดว่า เรื่องมากก็ไม่ต้องเอาก็ได้นะเงินน่ะ
ทั้งที่ไม่ใช่เงินของเค้า แต่เป็นเงินของดิฉัน
แต่ดิฉันก็อดทนทำมาได้ปีกว่าๆ เพราะรักในงาน และเลื่อมใสในหัวหน้างาน
จนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2556 เวลา 14.20 น. ผอ ศูนย์
ได้เรียกดิฉันซึ่งเป็น นักเทคนิคการแพทย์ ลูกจ้างรายวัน และ เจ้าหน้าที่ช่วยงาน ลูกจ้างรายวัน ไปพบ
และแจ้งว่า ทางศูนย์ ส่งเอกสารต่อสัญญาให้ทางสำนักชันสูตรไม่ทัน จากที่ควรจะต่อสัญญา ในวันที่ 1 พฤษภาคม
และเริ่มทำงานวันที่ 2 พฤษภาคม แต่เกิดข้อผิดพลาด ทำให้การเซ็นต์อนุมัติการต่อสัญญาล่าช้า ไปเป็นวันที่ 9 พฤษภาคม
ทำให้ขาดรายได้ไป 5 วัน โดยที่ดิฉันและผู้ช่วย ได้มาทำงานตามปกติ และแจ้งให้ดิฉันและผู้ช่วย ทราบว่าจะไม่ได้รับค่าจ้างในวันเวลาดังกล่าว และขอให้ดิฉันและผู้ช่วย หยุดงานโดยไม่สมัครใจ ทั้งที่ดิฉันและผู้ช่วย ได้ส่งเอกสารให้ฝ่ายธุรการศูนย์ ตามเวลาที่กำหนดครบถ้วน แต่เป็นความผิดพลาดในการทำงานของฝ่ายธุรการ โดยฝ่ายธุรการได้ทราบเรื่องนี้มาระยะเวลาหนึ่ง
แต่ไม่มีการชี้แจงใดๆ ให้ดิฉันและทางผู้ช่วยทราบ รวมไปถึง ทาง ผอ ศ.ทราบ ผอ.ศูนย์บอกว่าเพิ่ง ทราบเรื่องเมื่อ 27 พค 2556
จากทาง ศุนย์ อื่น และแจ้งให้ดิฉันทราบ กระทันหัน เท่ากับว่าดิฉันและผู้ช่วยจะได้รับเงินในสิ้นเดือน พ.ค.นี้น้อยกว่าความเป็นจริง สำหรับดิฉันรายได้ลดลงกว่า 4000 บาท จาก 16000 บาท ซึ่งมีผลกระทบกับภาระค่าใช้จ่ายอย่างมาก
โดยทางศูนย์ ไม่มีมาตรการใดๆที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขความผิดพลาดของฝ่ายธุรการ แต่กลับบีบบังคับให้ดิฉันและผู้ช่วย
หยุดงานแทน โดยให้ทะยอยหยุดในเดือนอื่นๆ แต่จะหักเงินดิฉันสิ้นเดือนนี้รวดเดียว 4000 บาท
ไม่มีการขอโทษ และการแสดงความเห็นใจ หรือการแสดงทีท่ารู้สึกผิด จากข้าราชการฝ่ายธุรการและการเงินเลย มีแต่จะหัวเราะเยาะเย้ย
เหน็บแนม ว่า รู้ตัวรึยัง ว่าทำงานจะไม่ได้เงิน
ดิฉันเสียใจมากจึง ปรึกษากับหัวหน้างาน หัวหน้างานจึงแนะนำให้โทรไปปรึกษากับทางผ.อ.สำนักชันสูตร
ดิฉันได้โทรศัพท์ไปสอบถามทางสำนักชันสูตรเพื่อปรึกษาและสอบถามข้อเท็จจริงตามคำแนะนำของหัวหน้า
โดยเลขาของ ผ.อ.สำนักชันสูตรเป็นคนรับโทรศัพท์ และตำหนิดิฉันว่า
ดิฉันเป็นแค่ลูกจ้างรายวัน ไม่มีสิทธิ์โทรเข้าหาผ.อ.โดยตรง ไม่สมควร และไม่ควรอาจเอื้อมถึงขนาดนั้น
ดิฉันได้แต่ขอโทษ และขอร้องให้ใครก็ตามที่ทราบเรื่องช่วยบอกความจริง
เลขาจึงบอกมาด้วยความโมโหๆแบบปัดๆว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของทางสำนักชันสูตร และเป็นความผิดพลาดของทางศูนย์
โดยทางเลขาบอกว่า ทางฝ่ายธุรการศูนย์ ส่งเอกสารล่าช้าเอง และแนะนำให้ดิฉันไปร้องเรียนหน่วยงานอื่น
ดิฉันอับจนหนทาง จึงโทรแจ้ง 1555 โดน คุณ อรทัยเป็นผู้รับเรื่อง และคุณอรทัยบอกแค่ว่า ให้ทำใจ ยังไงน้องก็โชคดีที่เค้าจ้างงานต่อ อย่าไปร้องเรียนเลย ให้ไปสอบถามคนส่งเอกสารเอาเอง ว่าทำไมทำงานแบบนี้ คุณอรทัยบอกว่าน้องควรจะดีใจนะคะ ที่ทุกวันนี้ยังมีงานทำ จะเรียกร้องอะไรอีกคะ ปรึกษาหัวหน้าเอานะคะ ทางนี้คงช่วยอะไรไม่ได้
ได้ยินถึงกับจุกค่ะ จะร้องเรียนไปทางไหนได้ เพราะผู้เกี่ยวข้องมีแต่ข้าราชการระดับสูง
จนในที่สุด ใบเซ็นต์เงินเดือนก็ออกมา ทางฝ่ายธุรการก็จัดการขีดฆ่าวันทำงานดิฉันออกไป หักไปดื้อๆ 5 วัน ทั้งที่ดิฉันมาทำงาน
ดิฉันจะร้องเรียนทางไหนได้บ้างคะ ทางสำนักชันสูตรก็ไม่รับเรื่อง ทางกทม ก็ไม่รับเรื่อง กระทรวงแรงงานจะรับเรื่องหรือไม่คะ
เงินจำนวณแค่นี้ อาจจะไม่มากมายอะไร แต่มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับดิฉันและผู้ช่วยเลย คนตั้งใจทำงานมาทำงานทุกวัน
มันหมดกำลังใจนะคะ
อย่างน้อย แค่คำชี้แจงที่มีเหตุผล หรือคำขอโทษซักคำ มันมากเกินไปหรือคะ ที่ข้าราชการจะใช้พูดกับลูกจ้างหาเช้ากินค่ำ2คน
พวกเราอาจเอื้อมเกินไปหรือคะ
เป็นลูกจ้างกทมหัวเดียวกระเทียมลีบ ข้าราชการทำผิด ร้องเรียนไม่ได้
เป็นลูกจ้างรายวัน ต่อสัญญาทุก 4 เดือน ได้เงินค่าจ้างเป็นรายเดือนตอนสิ้นเดือน โดยเงินค่าจ้างทางสำนักชันสูตรเป็นผู้จ่ายให้
ผ่านศูนย์ ติดปัญหาตกเบิกบ้าง ออกช้าบ้างมาตลอด โดยรับกับฝ่ายการเงินศูนย์ซึ่งเป็นข้าราชการมานาน
บางครั้งไปรับเงินเดินก็ชอบกล่าวหาว่าดิฉันรับเงินไปแล้ว ทั้งที่ดิฉันยังไม่ได้ และไม่มีหลักฐานการรับเงิน
และบางครั้งก็บอกให้รอรับจนเย็นค่ำ ทั้งที่ดิฉันเลิกงาน 3 โมงเย็น ตอนรับก็แทบจะต้องคลานเข่าไปรับ
ทั้งที่มันเป็นเงินค่าแรงที่ดิฉันควรจะได้รับ พอดิฉันร้องเรียน ก็รับปากว่าจะออกตรงเวลา แต่ ถึงเวลาก็ช้าอีก
ดิฉันไม่มีสิทธิบ่นใดๆ เพราะข้าราชการท่านนั้นมักจะพูดว่า เรื่องมากก็ไม่ต้องเอาก็ได้นะเงินน่ะ
ทั้งที่ไม่ใช่เงินของเค้า แต่เป็นเงินของดิฉัน
แต่ดิฉันก็อดทนทำมาได้ปีกว่าๆ เพราะรักในงาน และเลื่อมใสในหัวหน้างาน
จนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2556 เวลา 14.20 น. ผอ ศูนย์
ได้เรียกดิฉันซึ่งเป็น นักเทคนิคการแพทย์ ลูกจ้างรายวัน และ เจ้าหน้าที่ช่วยงาน ลูกจ้างรายวัน ไปพบ
และแจ้งว่า ทางศูนย์ ส่งเอกสารต่อสัญญาให้ทางสำนักชันสูตรไม่ทัน จากที่ควรจะต่อสัญญา ในวันที่ 1 พฤษภาคม
และเริ่มทำงานวันที่ 2 พฤษภาคม แต่เกิดข้อผิดพลาด ทำให้การเซ็นต์อนุมัติการต่อสัญญาล่าช้า ไปเป็นวันที่ 9 พฤษภาคม
ทำให้ขาดรายได้ไป 5 วัน โดยที่ดิฉันและผู้ช่วย ได้มาทำงานตามปกติ และแจ้งให้ดิฉันและผู้ช่วย ทราบว่าจะไม่ได้รับค่าจ้างในวันเวลาดังกล่าว และขอให้ดิฉันและผู้ช่วย หยุดงานโดยไม่สมัครใจ ทั้งที่ดิฉันและผู้ช่วย ได้ส่งเอกสารให้ฝ่ายธุรการศูนย์ ตามเวลาที่กำหนดครบถ้วน แต่เป็นความผิดพลาดในการทำงานของฝ่ายธุรการ โดยฝ่ายธุรการได้ทราบเรื่องนี้มาระยะเวลาหนึ่ง
แต่ไม่มีการชี้แจงใดๆ ให้ดิฉันและทางผู้ช่วยทราบ รวมไปถึง ทาง ผอ ศ.ทราบ ผอ.ศูนย์บอกว่าเพิ่ง ทราบเรื่องเมื่อ 27 พค 2556
จากทาง ศุนย์ อื่น และแจ้งให้ดิฉันทราบ กระทันหัน เท่ากับว่าดิฉันและผู้ช่วยจะได้รับเงินในสิ้นเดือน พ.ค.นี้น้อยกว่าความเป็นจริง สำหรับดิฉันรายได้ลดลงกว่า 4000 บาท จาก 16000 บาท ซึ่งมีผลกระทบกับภาระค่าใช้จ่ายอย่างมาก
โดยทางศูนย์ ไม่มีมาตรการใดๆที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขความผิดพลาดของฝ่ายธุรการ แต่กลับบีบบังคับให้ดิฉันและผู้ช่วย
หยุดงานแทน โดยให้ทะยอยหยุดในเดือนอื่นๆ แต่จะหักเงินดิฉันสิ้นเดือนนี้รวดเดียว 4000 บาท
ไม่มีการขอโทษ และการแสดงความเห็นใจ หรือการแสดงทีท่ารู้สึกผิด จากข้าราชการฝ่ายธุรการและการเงินเลย มีแต่จะหัวเราะเยาะเย้ย
เหน็บแนม ว่า รู้ตัวรึยัง ว่าทำงานจะไม่ได้เงิน
ดิฉันเสียใจมากจึง ปรึกษากับหัวหน้างาน หัวหน้างานจึงแนะนำให้โทรไปปรึกษากับทางผ.อ.สำนักชันสูตร
ดิฉันได้โทรศัพท์ไปสอบถามทางสำนักชันสูตรเพื่อปรึกษาและสอบถามข้อเท็จจริงตามคำแนะนำของหัวหน้า
โดยเลขาของ ผ.อ.สำนักชันสูตรเป็นคนรับโทรศัพท์ และตำหนิดิฉันว่า
ดิฉันเป็นแค่ลูกจ้างรายวัน ไม่มีสิทธิ์โทรเข้าหาผ.อ.โดยตรง ไม่สมควร และไม่ควรอาจเอื้อมถึงขนาดนั้น
ดิฉันได้แต่ขอโทษ และขอร้องให้ใครก็ตามที่ทราบเรื่องช่วยบอกความจริง
เลขาจึงบอกมาด้วยความโมโหๆแบบปัดๆว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของทางสำนักชันสูตร และเป็นความผิดพลาดของทางศูนย์
โดยทางเลขาบอกว่า ทางฝ่ายธุรการศูนย์ ส่งเอกสารล่าช้าเอง และแนะนำให้ดิฉันไปร้องเรียนหน่วยงานอื่น
ดิฉันอับจนหนทาง จึงโทรแจ้ง 1555 โดน คุณ อรทัยเป็นผู้รับเรื่อง และคุณอรทัยบอกแค่ว่า ให้ทำใจ ยังไงน้องก็โชคดีที่เค้าจ้างงานต่อ อย่าไปร้องเรียนเลย ให้ไปสอบถามคนส่งเอกสารเอาเอง ว่าทำไมทำงานแบบนี้ คุณอรทัยบอกว่าน้องควรจะดีใจนะคะ ที่ทุกวันนี้ยังมีงานทำ จะเรียกร้องอะไรอีกคะ ปรึกษาหัวหน้าเอานะคะ ทางนี้คงช่วยอะไรไม่ได้
ได้ยินถึงกับจุกค่ะ จะร้องเรียนไปทางไหนได้ เพราะผู้เกี่ยวข้องมีแต่ข้าราชการระดับสูง
จนในที่สุด ใบเซ็นต์เงินเดือนก็ออกมา ทางฝ่ายธุรการก็จัดการขีดฆ่าวันทำงานดิฉันออกไป หักไปดื้อๆ 5 วัน ทั้งที่ดิฉันมาทำงาน
ดิฉันจะร้องเรียนทางไหนได้บ้างคะ ทางสำนักชันสูตรก็ไม่รับเรื่อง ทางกทม ก็ไม่รับเรื่อง กระทรวงแรงงานจะรับเรื่องหรือไม่คะ
เงินจำนวณแค่นี้ อาจจะไม่มากมายอะไร แต่มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับดิฉันและผู้ช่วยเลย คนตั้งใจทำงานมาทำงานทุกวัน
มันหมดกำลังใจนะคะ
อย่างน้อย แค่คำชี้แจงที่มีเหตุผล หรือคำขอโทษซักคำ มันมากเกินไปหรือคะ ที่ข้าราชการจะใช้พูดกับลูกจ้างหาเช้ากินค่ำ2คน
พวกเราอาจเอื้อมเกินไปหรือคะ