ว่าจะไม่เขียนแล้ว เพราะเป็นการเอาตัวเองมาแฉ แต่เกือบ 10 วันที่ผ่านมานี่ เรามานั่งทุกข์กับสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไปบางอย่าง
ไม่รู้จะไปบอกใคร เรื่องคือเมื่อ 2 เดือนก่อนนี้ พี่เราให้ไปรับช่วงต่อร้านกาแฟ ที่พี่เค้าลงทุนให้คนอื่นทำ
รู้สึกเค้าทำไปได้ 8-9 เดือนแล้วไปไม่รอดก็เลยจะเซ้งร้าน พี่เราเลยให้เราลองทำดู
ตอนแรกเราปฏิเสธ เพราะลองประเมินตัวเองดู กลัวมีปัญหาตามมา แต่สุดท้ายต้องรับปากเพราะไม่มีทางเลือกในตอนนั้น
เราทำได้ประมาณ 2 เดือน ก็ขายได้เรื่อยๆ กำไรไม่มาก แต่ก็พออยู่ได้ เพราะทำคนเดียว ลูกค้าก็ไม่มากจนทำไม่ทัน
ปัญหาเกิดเมื่อ 1-2 สัปดาห์ก่อน เป็นปัญหาที่เราไม่รู้จะอธิบายยังไง
เอาเป็นว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเราแล้วกัน เราเลยจะไม่กลับไปทำร้านนั้นอีก
โทรบอกพี่เรา อธิบายสาเหตุ ดราม่าน้ำตาท่วมจอกันเลยทีเดียว พี่เค้าก็หาคนอื่นมาทำแทน
ความทุกข์ของเราตอนนี้คือ เรารู้สึกผิด ที่ทำร้านต่อไปไม่ไหว ด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา
เราก็พยามอย่างสุดความสามารถ แต่มีปัญหาบางอย่างที่เราแก้ไม่ได้ เพราะบอกไปคนอื่นคงไม่เข้าใจ
ทุกข์ของเราคือ เรารู้สึกว่าทำให้ครอบครัวผิดหวัง ทั้งๆ ที่ร้านกาแฟนั่น เราไม่ได้เป็นคนต้นคิดอะไรเลยซักนิด
คนที่เป็นคนต้นคิดนะ ทำได้ไม่ถึงปีพอรายได้ไม่ดีใกล้เจ๊งก็หนีกลับบ้าน ทิ้งร้านไว้ กลายเป็นว่า
ร้านกาแฟที่กำลังจะไปไม่รอด กลายเป็นความผิดของเรา โดยที่เราไม่ใช่คนต้นคิดเลยซักนิด
ช่วงนี้ก็เลย เครียดๆ ทุกข์มาก ตั้งแต่ที่พูดกับพี่เรื่องไม่ไปทำร้านแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่มาหลายวันแล้ว เพราะไม่รู้จะพูดอะไร
ทุกข์ที่เสียดายเรื่องร้าน และรายได้ไหม ก็มีบ้างแต่ไม่มากเท่าเรื่องที่เรารู้สึกทำให้ครอบครัวรู้สึกผิดหวัง
คือพี่เราเค้าก็บอกแล้วว่า ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ เค้าก็หาคนอื่นมาทำแทน แต่เราก็รู้ว่าเค้าคงผิดหวังมั่งแหละ
เรายังรู้สึกผิดอยู่ดี จริงๆ เราไม่ควรไปรับปากว่าจะทำร้านต่อจากคนเริ่มเลย จริงๆ เราปฏิเสธพี่ไปแล้ว 1 ครั้ง
แต่ด้วยสภาพการณ์ตอนนั้น ทำให้เราต้องกลับคำรับปากไป เพราะตอนนั้น งานอิสระที่เราทำอยู่เริ่มมีปัญหาเลยต้อง
คว้าร้านกาแฟนี้ไว้ก่อน เพราะมันเหมือนขอนไม้กลางมหาสมุทรในตอนนั้น
2 เดือนผ่านไปเหมือนจะดี แต่เราก็เจอปัญหา เป็นปัญหาเรื่องสุขภาพของเราเอง
ในชีวิตนี้เราเคยเจอเรื่องทุกข์แสนสาหัส มาแล้ว 2 ครั้งนะ ครั้งนี้ครั้งที่ 3 ไม่รู้จะผ่านไปยังไงดี ผ่านยากจัง
ทุกข์เหลือเกิน ทุกข์จริงทุกข์จัง ไปข้างนอกเห็นคนอื่นมีความสุขจัง เรานี่แบกทุกข์ไว้แสนสาหัส ไม่รู้จะผ่านไปยังไง
กลับมาบ้านก็เงียบๆ จากที่เคยตื่นเช้าๆ ไปเปิดร้านมา 2 เดือน ช่วงนี้นอนตื่นสายได้ไม่มีลิมิต
แต่กลับไม่มีความสุขเลยซักนิด คนที่บ้านเก็เริ่มเงียบๆ ต่อจากนี้ เราคงกลับไปเป็นโรบินฮู้ดเหมือนก่อน
คือหางานอิสระทำ ซึ่งคิดว่าเหมาะกับตัวเรามากกว่า แต่ก็ยังไม่รู้จะเป็นไงต่อไป
มีใครเคยปล่อยโอกาสอะไรที่ดีๆในชีวิตให้หลุดลอยไปมั่งครับ เพราะอะไร และเสียดายไหม แล้วทำใจยังไง ?
ไม่รู้จะไปบอกใคร เรื่องคือเมื่อ 2 เดือนก่อนนี้ พี่เราให้ไปรับช่วงต่อร้านกาแฟ ที่พี่เค้าลงทุนให้คนอื่นทำ
รู้สึกเค้าทำไปได้ 8-9 เดือนแล้วไปไม่รอดก็เลยจะเซ้งร้าน พี่เราเลยให้เราลองทำดู
ตอนแรกเราปฏิเสธ เพราะลองประเมินตัวเองดู กลัวมีปัญหาตามมา แต่สุดท้ายต้องรับปากเพราะไม่มีทางเลือกในตอนนั้น
เราทำได้ประมาณ 2 เดือน ก็ขายได้เรื่อยๆ กำไรไม่มาก แต่ก็พออยู่ได้ เพราะทำคนเดียว ลูกค้าก็ไม่มากจนทำไม่ทัน
ปัญหาเกิดเมื่อ 1-2 สัปดาห์ก่อน เป็นปัญหาที่เราไม่รู้จะอธิบายยังไง
เอาเป็นว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเราแล้วกัน เราเลยจะไม่กลับไปทำร้านนั้นอีก
โทรบอกพี่เรา อธิบายสาเหตุ ดราม่าน้ำตาท่วมจอกันเลยทีเดียว พี่เค้าก็หาคนอื่นมาทำแทน
ความทุกข์ของเราตอนนี้คือ เรารู้สึกผิด ที่ทำร้านต่อไปไม่ไหว ด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา
เราก็พยามอย่างสุดความสามารถ แต่มีปัญหาบางอย่างที่เราแก้ไม่ได้ เพราะบอกไปคนอื่นคงไม่เข้าใจ
ทุกข์ของเราคือ เรารู้สึกว่าทำให้ครอบครัวผิดหวัง ทั้งๆ ที่ร้านกาแฟนั่น เราไม่ได้เป็นคนต้นคิดอะไรเลยซักนิด
คนที่เป็นคนต้นคิดนะ ทำได้ไม่ถึงปีพอรายได้ไม่ดีใกล้เจ๊งก็หนีกลับบ้าน ทิ้งร้านไว้ กลายเป็นว่า
ร้านกาแฟที่กำลังจะไปไม่รอด กลายเป็นความผิดของเรา โดยที่เราไม่ใช่คนต้นคิดเลยซักนิด
ช่วงนี้ก็เลย เครียดๆ ทุกข์มาก ตั้งแต่ที่พูดกับพี่เรื่องไม่ไปทำร้านแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่มาหลายวันแล้ว เพราะไม่รู้จะพูดอะไร
ทุกข์ที่เสียดายเรื่องร้าน และรายได้ไหม ก็มีบ้างแต่ไม่มากเท่าเรื่องที่เรารู้สึกทำให้ครอบครัวรู้สึกผิดหวัง
คือพี่เราเค้าก็บอกแล้วว่า ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ เค้าก็หาคนอื่นมาทำแทน แต่เราก็รู้ว่าเค้าคงผิดหวังมั่งแหละ
เรายังรู้สึกผิดอยู่ดี จริงๆ เราไม่ควรไปรับปากว่าจะทำร้านต่อจากคนเริ่มเลย จริงๆ เราปฏิเสธพี่ไปแล้ว 1 ครั้ง
แต่ด้วยสภาพการณ์ตอนนั้น ทำให้เราต้องกลับคำรับปากไป เพราะตอนนั้น งานอิสระที่เราทำอยู่เริ่มมีปัญหาเลยต้อง
คว้าร้านกาแฟนี้ไว้ก่อน เพราะมันเหมือนขอนไม้กลางมหาสมุทรในตอนนั้น
2 เดือนผ่านไปเหมือนจะดี แต่เราก็เจอปัญหา เป็นปัญหาเรื่องสุขภาพของเราเอง
ในชีวิตนี้เราเคยเจอเรื่องทุกข์แสนสาหัส มาแล้ว 2 ครั้งนะ ครั้งนี้ครั้งที่ 3 ไม่รู้จะผ่านไปยังไงดี ผ่านยากจัง
ทุกข์เหลือเกิน ทุกข์จริงทุกข์จัง ไปข้างนอกเห็นคนอื่นมีความสุขจัง เรานี่แบกทุกข์ไว้แสนสาหัส ไม่รู้จะผ่านไปยังไง
กลับมาบ้านก็เงียบๆ จากที่เคยตื่นเช้าๆ ไปเปิดร้านมา 2 เดือน ช่วงนี้นอนตื่นสายได้ไม่มีลิมิต
แต่กลับไม่มีความสุขเลยซักนิด คนที่บ้านเก็เริ่มเงียบๆ ต่อจากนี้ เราคงกลับไปเป็นโรบินฮู้ดเหมือนก่อน
คือหางานอิสระทำ ซึ่งคิดว่าเหมาะกับตัวเรามากกว่า แต่ก็ยังไม่รู้จะเป็นไงต่อไป