บทนำ - ตอนล่าสุด
http://my.dek-d.com/thezircon/writer/view.php?id=893020
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
21
เกตน์สิรีตื่นไปทำงานเช้ากว่าปกติด้วยคืนที่ผ่านมานั้นเธอนอนไม่หลับ มีหลายเรื่องให้คิดเหลือเกิน ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่มีผลพวงมาจากการตัดสินใจครั้งสำคัญ เธออยากมั่นใจว่าตนไม่ได้เลือกทางเดินผิดพลาด แต่เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
หญิงสาวตรวจเช็คกล่องข้อความอันเป็นกิจวัตร มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงานใหญ่ส่งเข้ามาล่าสุด เธอมีหน้าที่จดบันทึกและส่งต่อให้จิรายุอีกที
ทว่าขณะที่เกตน์สิรีกำลังเขียนบันทึกลงสมุดปกแข็งเล่มหนาอยู่นั้น ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็กลับดำมืด เธอเอื้อมมือจะขยับเมาส์ แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างวางมือลง เมื่อปรากฏตัวหนังสือสีชมพูหวานเป็นชื่อเธอบนหน้าจอ
‘Dear Kate…’
แล้วรูปภาพต่างๆ ที่มีเธอในนั้นก็ค่อยซ้อนทับลงมาทีละใบ...ทีละใบ... รูปเธอชูตะเกียบหน้าหม้อสุกี้ รูปรอยยิ้มสดใสในงานวันเกิด รูปใบหน้าด้านข้างที่ถูกแอบถ่ายขณะเหม่อลอยบนโต๊ะทำงาน ส่งผลให้เกตน์สิรีต้องเหลียวไปดูห้องทำงานข้างหลัง ก่อนจะค้อนใส่มู่ลี่บังตา
หญิงสาวหันมองหน้าจออีกครั้ง ภาพต่างๆ ที่ซ้อนทับลงมาราวใบไม้ร่วงเมื่อครู่นี้ค่อยๆ เลือนหายไป แทนที่ด้วยประโยคจากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษเลื่อนขึ้นมา
‘I can be your hero, baby.
I can kiss away the pain.
I will stand by you forever.
You can take my breath away.’ **
สิ้นสุดประโยคสุดท้าย ภาพบนหน้าจอก็ดับมืดลงอีกครั้ง มีเงาคนสะท้อนวูบผ่านหน้าจอดำนั้น เกตน์สิรีหมุนตัวหันไปทั้งเก้าอี้ แล้วก็พบกับมวลดอกไม้ที่ยื่นมาระดับสายตา
กุหลาบสีชมพูจัดเป็นช่อหนาผูกไว้ด้วยริบบิ้นสีขาว กลีบของมันเพิ่งแรกแย้มแลดูบอบบาง น่าทะนุถนอม หญิงสาวสูดหายใจเอากลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ แล้วหัวใจซึ่งโลดแรงก่อนหน้านี้ก็ค่อยสงบลง
เธอรับกุหลาบช่องามพลางลุกยืน มือหนาของชายหนุ่มยังโอบประคองทั้งมือเธอและช่อดอกไม้ไว้ไม่ปล่อย เกตน์สิรีช้อนตามองร่างสูง ก่อนจะรู้ว่าตนพลาดเสียแล้วเมื่อถูกตรึงไว้ด้วยแสงตาคมกล้าประกาศเจตนา ย้ำคำถามที่พาให้เธอล่องลอยบนวิมาน
“แต่งงานกับพี่นะคะ”
ลมหายใจอุ่นตามมากดประทับลงบนหน้าผากมน เปลือกตาบวมช้ำจากการร่ำไห้คืนที่ผ่านมากะพริบไหว เธอให้คำตอบเขาด้วยการยอมถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอด
“เราจะรักกันตลอดไปใช่ไหมคะ” คำถามเดียวหากแทนความสับสนในใจทั้งมวล
เสียงกราดเกรี้ยวของแม่ด่าทอพ่อ คำครหานินทาว่าพ่อนอกใจแม่และมีความสัมพันธ์วิปริตผิดเพศ ภาพแม่พาผู้ชายอื่นเข้าบ้าน เหตุการณ์ต่างๆ ถูกตัดฉับสลับไปมา ก่อนฟิล์มแห่งอดีตม้วนนั้นจะจบลงที่ภาพเด็กหญิงขี่หลังชายวัยกลางคน หนทางขึ้นเขาข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่เมื่อพักจนหายเหนื่อย เลิกงอแงแล้ว เด็กน้อยก็พร้อมลงเดินตามพี่ชายที่เริ่มล่วงหน้าไปไกล กระทั่งลุงหมอและป้าป่านเรียกพลางยื่นมือหา เด็กทั้งสองจึงวิ่งกลับไปจูงมือเดินหน้ากระดานพร้อมๆ กัน
“พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้น้องเกดเสียใจ” จิรายุให้คำมั่น
เขาตัดสินใจมาถึงขั้นนี้แล้วและจะไม่ลังเลอีก ความร้อนรุ่มใจตอนเจ้าหล่อนหายไป แต่เมื่อเจอแล้วพบว่าเกตน์สิรีตกอยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนตน เขาก็แทบคลั่งจนหวิดหุนหันเข้าไปแยกทั้งสองคนจากกัน ถ้าไม่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าตนมีวิธีดีกว่านั้น
แทนที่จะตรงกลับบ้าน จิรายุกลับตรงไปที่โรงงาน เขานั่งแก้ไขโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของหญิงสาวอยู่ค่อนคืนให้เป็นไปตามความตั้งใจ เมื่อกลับบ้านแล้วก็รีบตื่นมาดักรอเจ้าหล่อนยังที่ทำงานแต่เช้าเพื่อดำเนินตามแผนการ
...................................
นับแต่ย้ายมาอยู่บ้านเก่าของนงเยาว์ ความสุขอย่างหนึ่งคือการได้ร่วมทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา แม้ไม่มีโต๊ะหรูและต้องนั่งกับพื้น แต่ก็มีแต่คนที่จริงใจ รักและหวังดีต่อกันอย่างคนในครอบครัว
เกตน์สิรีรวบช้อนหลังข้าวที่ตักมาแค่ทัพพีหมดเกลี้ยงจาน หากเธอไม่ได้ลุกไปเก็บดังเช่นทุกที แต่รอกระทั่งหญิงชราอิ่มเป็นคนสุดท้าย แล้วรั้งแขนแกไว้ให้ลงนั่งฟังเรื่องสำคัญก่อน
“ไหนๆ ก็อิ่มกันแล้ว เกดมีข่าวดีจะบอกทุกคนจ้ะ” เธอยิ้มแจ่มใส ทั้งที่ใจกิ่งเกรงปฏิกิริยาตอบรับจากแม่และยาย
มันคงจะเป็นเรื่องปกติธรรมดากว่านี้ ถ้าเธอกับจิรายุคบกันมานานปี หาใช่เพียงไม่กี่เดือน เกตน์สิรีลอบกลืนน้ำลาย มือกุมมือมารดาซึ่งนั่งเหยียดพิงหมอนชิดกำแพง
“เกดจะแต่งงาน...”
ข่าวดีที่ว่าถูกกลบด้วยเสียงไอโขลกของคนสำลักน้ำ นงเยาว์วางเหยือกน้ำลงกับพื้นไม้ปาร์เกต์ แรงจนน้ำกระฉอกเปื้อนพื้นโดยรอบ หากแกไม่สนใจเช็ด หรืออาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำเมื่อดวงตาเบิกกว้างเอาแต่จ้องมายังเธอ ท่าทางเหมือนถูกผีหลอกตอนกลางวันแสก
เกตน์สิรีรู้สึกถึงแรงเกร็งขืนจากมือซึ่งตนกุมไว้เช่นกัน ครั้นหันมองก็เห็นแม่พยายามขยับปาก ทว่าไร้เสียงเล็ดลอดออกมา
“พี่เกดจะแต่งงานกับคราย” กลายเป็นเด็กชายที่ถามแทนใจผู้ใหญ่ทั้งสอง
“พี่จะแต่งงานกับพี่แบงค์” พี่สาวตอบ ก่อนขยายผลพวงดีๆ ที่จะตามมาให้ทุกคนฟัง “พอแต่งแล้วเราจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมกัน อาม้า...แม่ของพี่แบงค์จะซื้อคืนบ้านหลังเป็นสินสอดน่ะค่ะ ถ้าแม่กับยายพอใจ”
หญิงชราย่นจมูกราวมีใครยื่นของเหม็นจ่อ “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับยายหรอกค่ะ แต่ทำไมถึงปุบปับอย่างนี้”
นลินีส่งเสียงอืออาเห็นด้วย เธอเพิ่งได้ใกล้ชิดลูกไม่ทันไร แกก็จะโผไปจากอกเสียแล้ว เธอน่าจะคิดได้ก่อนหน้านี้ว่าวัยเด็ก...วัยที่ใจของลูกจะมีแต่แม่นั้นไม่ยาวนานเลย แต่เธอกลับทิ้งมันไปอย่างน่าเสียดาย นลินีโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง
“พอดีมีซินแสทักน่ะค่ะว่าถ้าแต่งกันภายในปีสองปีนี้...จะอยู่ยืด” เกตน์สิรีปดมิให้ฟังดูรุนแรงเกินไป เธอหันไปถามน้องชายที่มีท่าทียินดีกับข่าวนี้อยู่คนเดียว “เกมดีใจไหมที่จะได้กลับบ้าน”
เด็กชายกวินยิ้มอวดฟันซี่เล็กพลางชูมือขึ้นกลางอากาศ “ดีใจคับ เกมจะได้เจอเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ได้เจอพี่ปอบ่อยๆ ด้วย”
หญิงสาวลูบผมทรงกะลาครอบของน้องร่วมมารดา เธอเลิกมองว่ากวินคือ ‘น้องชายต่างพ่อ’ หากแต่เป็น ‘พี่น้องร่วมแม่’ เดียวกันต่างหากที่สำคัญ
นงเยาว์ตวัดค้อนใส่สองพี่น้องซึ่งเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โดยเฉพาะคนพี่ที่ให้เหตุผลอันไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย มีอย่างที่ไหนยกเรื่องคำทำนายมาอ้าง
“เกดรักพี่แบงค์จ้ะยาย” เกตน์สิรีเอ่ยอย่างเข้าใจความห่วงใยของผู้มีพระคุณ “สักวันข้างหน้าเกดก็คงตัดสินใจอย่างนี้ ถ้าช่วงเวลานี้คือฤกษ์ดีที่สุด เกดก็ไม่อยากขัดอาม้าของพี่เขา”
“ทำไมไม่ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ล่ะคะ แม่นยำและเที่ยงตรงกว่าคำทำนายเป็นไหนๆ ดีกว่าคุณต้องถลำกายและใจไป มันจะถอนไม่ขึ้นเอานะคะ”
ดวงตาแจ่มจรัสวูบไหว ทำไมเธอจะไม่รู้ถึงความหวังดีของคนเลี้ยงเธอมา ใจจริงแล้วไม่อยากจากพวกท่านไปไหน แต่เกตน์สิรีก็ต้องการลบคำครหา แล้วยังผลดีที่จะตามมาต่อทุกฝ่ายทั้งครอบครัวเธอและเขา ยิ่งสนับสนุนการตัดสินใจของเธอท้ายที่สุด
หญิงสาวกุมมือแม่และยายไว้คนละข้าง ก่อนเอ่ยประโยคตอกย้ำการตัดสินใจของตน
“เกดอยากให้แม่กับยายยินดีกับเกด”
น้ำเสียงและแววตาสะท้อนความมุ่งมั่นนั้นนงเยาว์เคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนคุณหนูของแกตั้งใจจะกลับเมืองนอกโดยไม่หวั่นไหวไปกับคำทัดทาน ทว่าครานั้นกลับมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนใจเสียก่อน แต่ตอนนี้นี่สิจะมีสิ่งใดมาเบี่ยงทางที่เจ้าหล่อนเลือกแล้วได้ แกยังมองไม่เห็นเลย
เส้นขนานสองหัวใจ บทที่ ๒๑
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
21
เกตน์สิรีตื่นไปทำงานเช้ากว่าปกติด้วยคืนที่ผ่านมานั้นเธอนอนไม่หลับ มีหลายเรื่องให้คิดเหลือเกิน ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่มีผลพวงมาจากการตัดสินใจครั้งสำคัญ เธออยากมั่นใจว่าตนไม่ได้เลือกทางเดินผิดพลาด แต่เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
หญิงสาวตรวจเช็คกล่องข้อความอันเป็นกิจวัตร มีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงานใหญ่ส่งเข้ามาล่าสุด เธอมีหน้าที่จดบันทึกและส่งต่อให้จิรายุอีกที
ทว่าขณะที่เกตน์สิรีกำลังเขียนบันทึกลงสมุดปกแข็งเล่มหนาอยู่นั้น ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็กลับดำมืด เธอเอื้อมมือจะขยับเมาส์ แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างวางมือลง เมื่อปรากฏตัวหนังสือสีชมพูหวานเป็นชื่อเธอบนหน้าจอ
‘Dear Kate…’
แล้วรูปภาพต่างๆ ที่มีเธอในนั้นก็ค่อยซ้อนทับลงมาทีละใบ...ทีละใบ... รูปเธอชูตะเกียบหน้าหม้อสุกี้ รูปรอยยิ้มสดใสในงานวันเกิด รูปใบหน้าด้านข้างที่ถูกแอบถ่ายขณะเหม่อลอยบนโต๊ะทำงาน ส่งผลให้เกตน์สิรีต้องเหลียวไปดูห้องทำงานข้างหลัง ก่อนจะค้อนใส่มู่ลี่บังตา
หญิงสาวหันมองหน้าจออีกครั้ง ภาพต่างๆ ที่ซ้อนทับลงมาราวใบไม้ร่วงเมื่อครู่นี้ค่อยๆ เลือนหายไป แทนที่ด้วยประโยคจากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษเลื่อนขึ้นมา
‘I can be your hero, baby.
I can kiss away the pain.
I will stand by you forever.
You can take my breath away.’ **
สิ้นสุดประโยคสุดท้าย ภาพบนหน้าจอก็ดับมืดลงอีกครั้ง มีเงาคนสะท้อนวูบผ่านหน้าจอดำนั้น เกตน์สิรีหมุนตัวหันไปทั้งเก้าอี้ แล้วก็พบกับมวลดอกไม้ที่ยื่นมาระดับสายตา
กุหลาบสีชมพูจัดเป็นช่อหนาผูกไว้ด้วยริบบิ้นสีขาว กลีบของมันเพิ่งแรกแย้มแลดูบอบบาง น่าทะนุถนอม หญิงสาวสูดหายใจเอากลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ แล้วหัวใจซึ่งโลดแรงก่อนหน้านี้ก็ค่อยสงบลง
เธอรับกุหลาบช่องามพลางลุกยืน มือหนาของชายหนุ่มยังโอบประคองทั้งมือเธอและช่อดอกไม้ไว้ไม่ปล่อย เกตน์สิรีช้อนตามองร่างสูง ก่อนจะรู้ว่าตนพลาดเสียแล้วเมื่อถูกตรึงไว้ด้วยแสงตาคมกล้าประกาศเจตนา ย้ำคำถามที่พาให้เธอล่องลอยบนวิมาน
“แต่งงานกับพี่นะคะ”
ลมหายใจอุ่นตามมากดประทับลงบนหน้าผากมน เปลือกตาบวมช้ำจากการร่ำไห้คืนที่ผ่านมากะพริบไหว เธอให้คำตอบเขาด้วยการยอมถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอด
“เราจะรักกันตลอดไปใช่ไหมคะ” คำถามเดียวหากแทนความสับสนในใจทั้งมวล
เสียงกราดเกรี้ยวของแม่ด่าทอพ่อ คำครหานินทาว่าพ่อนอกใจแม่และมีความสัมพันธ์วิปริตผิดเพศ ภาพแม่พาผู้ชายอื่นเข้าบ้าน เหตุการณ์ต่างๆ ถูกตัดฉับสลับไปมา ก่อนฟิล์มแห่งอดีตม้วนนั้นจะจบลงที่ภาพเด็กหญิงขี่หลังชายวัยกลางคน หนทางขึ้นเขาข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่เมื่อพักจนหายเหนื่อย เลิกงอแงแล้ว เด็กน้อยก็พร้อมลงเดินตามพี่ชายที่เริ่มล่วงหน้าไปไกล กระทั่งลุงหมอและป้าป่านเรียกพลางยื่นมือหา เด็กทั้งสองจึงวิ่งกลับไปจูงมือเดินหน้ากระดานพร้อมๆ กัน
“พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้น้องเกดเสียใจ” จิรายุให้คำมั่น
เขาตัดสินใจมาถึงขั้นนี้แล้วและจะไม่ลังเลอีก ความร้อนรุ่มใจตอนเจ้าหล่อนหายไป แต่เมื่อเจอแล้วพบว่าเกตน์สิรีตกอยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนตน เขาก็แทบคลั่งจนหวิดหุนหันเข้าไปแยกทั้งสองคนจากกัน ถ้าไม่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าตนมีวิธีดีกว่านั้น
แทนที่จะตรงกลับบ้าน จิรายุกลับตรงไปที่โรงงาน เขานั่งแก้ไขโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของหญิงสาวอยู่ค่อนคืนให้เป็นไปตามความตั้งใจ เมื่อกลับบ้านแล้วก็รีบตื่นมาดักรอเจ้าหล่อนยังที่ทำงานแต่เช้าเพื่อดำเนินตามแผนการ
...................................
นับแต่ย้ายมาอยู่บ้านเก่าของนงเยาว์ ความสุขอย่างหนึ่งคือการได้ร่วมทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา แม้ไม่มีโต๊ะหรูและต้องนั่งกับพื้น แต่ก็มีแต่คนที่จริงใจ รักและหวังดีต่อกันอย่างคนในครอบครัว
เกตน์สิรีรวบช้อนหลังข้าวที่ตักมาแค่ทัพพีหมดเกลี้ยงจาน หากเธอไม่ได้ลุกไปเก็บดังเช่นทุกที แต่รอกระทั่งหญิงชราอิ่มเป็นคนสุดท้าย แล้วรั้งแขนแกไว้ให้ลงนั่งฟังเรื่องสำคัญก่อน
“ไหนๆ ก็อิ่มกันแล้ว เกดมีข่าวดีจะบอกทุกคนจ้ะ” เธอยิ้มแจ่มใส ทั้งที่ใจกิ่งเกรงปฏิกิริยาตอบรับจากแม่และยาย
มันคงจะเป็นเรื่องปกติธรรมดากว่านี้ ถ้าเธอกับจิรายุคบกันมานานปี หาใช่เพียงไม่กี่เดือน เกตน์สิรีลอบกลืนน้ำลาย มือกุมมือมารดาซึ่งนั่งเหยียดพิงหมอนชิดกำแพง
“เกดจะแต่งงาน...”
ข่าวดีที่ว่าถูกกลบด้วยเสียงไอโขลกของคนสำลักน้ำ นงเยาว์วางเหยือกน้ำลงกับพื้นไม้ปาร์เกต์ แรงจนน้ำกระฉอกเปื้อนพื้นโดยรอบ หากแกไม่สนใจเช็ด หรืออาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำเมื่อดวงตาเบิกกว้างเอาแต่จ้องมายังเธอ ท่าทางเหมือนถูกผีหลอกตอนกลางวันแสก
เกตน์สิรีรู้สึกถึงแรงเกร็งขืนจากมือซึ่งตนกุมไว้เช่นกัน ครั้นหันมองก็เห็นแม่พยายามขยับปาก ทว่าไร้เสียงเล็ดลอดออกมา
“พี่เกดจะแต่งงานกับคราย” กลายเป็นเด็กชายที่ถามแทนใจผู้ใหญ่ทั้งสอง
“พี่จะแต่งงานกับพี่แบงค์” พี่สาวตอบ ก่อนขยายผลพวงดีๆ ที่จะตามมาให้ทุกคนฟัง “พอแต่งแล้วเราจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมกัน อาม้า...แม่ของพี่แบงค์จะซื้อคืนบ้านหลังเป็นสินสอดน่ะค่ะ ถ้าแม่กับยายพอใจ”
หญิงชราย่นจมูกราวมีใครยื่นของเหม็นจ่อ “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับยายหรอกค่ะ แต่ทำไมถึงปุบปับอย่างนี้”
นลินีส่งเสียงอืออาเห็นด้วย เธอเพิ่งได้ใกล้ชิดลูกไม่ทันไร แกก็จะโผไปจากอกเสียแล้ว เธอน่าจะคิดได้ก่อนหน้านี้ว่าวัยเด็ก...วัยที่ใจของลูกจะมีแต่แม่นั้นไม่ยาวนานเลย แต่เธอกลับทิ้งมันไปอย่างน่าเสียดาย นลินีโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง
“พอดีมีซินแสทักน่ะค่ะว่าถ้าแต่งกันภายในปีสองปีนี้...จะอยู่ยืด” เกตน์สิรีปดมิให้ฟังดูรุนแรงเกินไป เธอหันไปถามน้องชายที่มีท่าทียินดีกับข่าวนี้อยู่คนเดียว “เกมดีใจไหมที่จะได้กลับบ้าน”
เด็กชายกวินยิ้มอวดฟันซี่เล็กพลางชูมือขึ้นกลางอากาศ “ดีใจคับ เกมจะได้เจอเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ได้เจอพี่ปอบ่อยๆ ด้วย”
หญิงสาวลูบผมทรงกะลาครอบของน้องร่วมมารดา เธอเลิกมองว่ากวินคือ ‘น้องชายต่างพ่อ’ หากแต่เป็น ‘พี่น้องร่วมแม่’ เดียวกันต่างหากที่สำคัญ
นงเยาว์ตวัดค้อนใส่สองพี่น้องซึ่งเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โดยเฉพาะคนพี่ที่ให้เหตุผลอันไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาเสียเลย มีอย่างที่ไหนยกเรื่องคำทำนายมาอ้าง
“เกดรักพี่แบงค์จ้ะยาย” เกตน์สิรีเอ่ยอย่างเข้าใจความห่วงใยของผู้มีพระคุณ “สักวันข้างหน้าเกดก็คงตัดสินใจอย่างนี้ ถ้าช่วงเวลานี้คือฤกษ์ดีที่สุด เกดก็ไม่อยากขัดอาม้าของพี่เขา”
“ทำไมไม่ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ล่ะคะ แม่นยำและเที่ยงตรงกว่าคำทำนายเป็นไหนๆ ดีกว่าคุณต้องถลำกายและใจไป มันจะถอนไม่ขึ้นเอานะคะ”
ดวงตาแจ่มจรัสวูบไหว ทำไมเธอจะไม่รู้ถึงความหวังดีของคนเลี้ยงเธอมา ใจจริงแล้วไม่อยากจากพวกท่านไปไหน แต่เกตน์สิรีก็ต้องการลบคำครหา แล้วยังผลดีที่จะตามมาต่อทุกฝ่ายทั้งครอบครัวเธอและเขา ยิ่งสนับสนุนการตัดสินใจของเธอท้ายที่สุด
หญิงสาวกุมมือแม่และยายไว้คนละข้าง ก่อนเอ่ยประโยคตอกย้ำการตัดสินใจของตน
“เกดอยากให้แม่กับยายยินดีกับเกด”
น้ำเสียงและแววตาสะท้อนความมุ่งมั่นนั้นนงเยาว์เคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนคุณหนูของแกตั้งใจจะกลับเมืองนอกโดยไม่หวั่นไหวไปกับคำทัดทาน ทว่าครานั้นกลับมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนใจเสียก่อน แต่ตอนนี้นี่สิจะมีสิ่งใดมาเบี่ยงทางที่เจ้าหล่อนเลือกแล้วได้ แกยังมองไม่เห็นเลย