คือว่า เมื่อวานนี้ 23 พ.ค. 56 เลิกงานก็แวะไปที่ BigC สาขาท่าข้าม พอดีเจอยาสระผมยี่ห้อที่ใช้อยู่ประจำลดราคา จากปกติ 109 บาท ลดเหลือ 99 บาท แล้วมันดันมีของแถมให้ด้วย แต่มีเงื่อนไขดังนี้ ซื้อครบ 300 บาทรับฟรีกระเป๋า (แบบสะพายข้าง) ซื้อครบ 500 บาท ฟรีกระเป๋า (แบบมีล้อลาก) แต่ว่ามีติดป้ายไว้ว่า ‘ของแถมหมด’ ก็เลยยังไม่ซื้อ (จะได้ไม่ต้องหิ้วข้ามไปฝั่งเซ็นทรัล ขึ้นรถซูบารุกลับบ้านอย่างทุลักทุเล)
24 พ.ค. 56 แฟนมารับ (ยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน) ก็เลยไปซื้อยาสระผมยี่ห้อนั้นที่ BigC สาขาบางบอน ซื้อ 6 ขวด ขวดละ 99 บาท รวมเป็นเงิน 594 บาท ดังนั้นซื้อครบ 500 บาท หมายความว่าต้องได้กระเป๋า (แบบมีล้อลาก) แต่ก็ซี้อของอย่างอื่นด้วย แล้วที่เคชเชียร์ชวนซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มราคาพิเศษอีก (เป็นสิทธิ์จากใบเสร็จ)...ก็ซี้อ หลังจากนั้นไปแลกของ
พนักงานบอกว่า : “ของแถมสินค้านี้ยังไม่มาค่ะ”
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “อ้าว... ไม่เห็นมีป้ายติดไว้เลย แล้วทำไมที่ BigC สาขาท่าข้าม เค้าติดป้ายว่า ‘ของแถมหมด’ หล่ะคะ” คิดในใจแต่แอบบ่นออกมาลอยๆ ว่า “สินค้าตัวเดียวกัน ของแถมเหมือนกัน แต่ทำไมสาขานึงของแถมหมด แต่อีกสาขานึงของแถมยังไม่มา แล้วจะมาเมื่อไรคะ”
พนักงานบอกว่า : “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่าจะมาเมื่อไร เค้าจะมาส่งให้วันไหนไม่ทราบเพราะไม่แน่นอนค่ะ รับอย่างอื่นแทนได้มั๊ยคะ”
... ในใจก็คิดว่า “จะคืนของทั้งหมด แต่ว่ายังไงเราก็ต้องซี้อยาสระผมไปใช้อยู่ดี” ...
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “แล้วมีอะไรบ้างคะ ที่พอจะแทนกันได้”
พนักงานก็เลยหยิบกระเป๋าที่เป็นของแถมจากสินค้าอื่นมาให้ 3 ใบ (ต่างสินค้ากันด้วย) ซึ่งมันเหมือนกระเป๋าที่ใส่กระดาษแค่ไม่กี่แผ่น ถ้าใส่สมุดหรือหนังสือกระเป๋าอาจขาดได้
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “นอกจากนี้มีอะไรอีกบ้าง”
พนักงานก็เลยชี้ไปที่ ‘ชาม แก้ว ถ้วย กระป๋องน้ำ แล้วก็ของเล่นสำหรับเด็ก’
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “งั้นเอาของเล่นมาดูหน่อย”
พนักงานก็เลยหยิบของเล่นมาให้ 2 กล่อง
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “ถ้าของเล่นอันนั้นอ่ะ (แบบอื่นดูดีน่าสนใจ)”
พนักงานบอกว่า : “ชิ้นนั้นต้องซื้อครบ 3,000 บาทค่ะ” (มีใครซื้อครบบ้าง)
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “งั้นเอานี่ก็ได้ ขอบคุณค่ะ” เฮ้อ!! ดีนะที่หลานกำลังโต แต่ยังเล็กเกินกว่าที่จะเล่นของเล่นนี้
นี่ถ้าไม่ติดว่ายาสระผมที่บ้านกำลังจะหมดเนี่ย...ไม่ซื้อหรอกนะ มีคืนแน่นอน!!
อยากถามหน่อยว่าถ้าของแถมพวกนี้เหลือเนี่ยเอาไปไว้ไหนกันหรอ อยากรู้จริงๆนะ
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันกับเรามั๊ยเกี่ยวกับเรื่อง “ซื้อของแล้วได้ของแถม”
24 พ.ค. 56 แฟนมารับ (ยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน) ก็เลยไปซื้อยาสระผมยี่ห้อนั้นที่ BigC สาขาบางบอน ซื้อ 6 ขวด ขวดละ 99 บาท รวมเป็นเงิน 594 บาท ดังนั้นซื้อครบ 500 บาท หมายความว่าต้องได้กระเป๋า (แบบมีล้อลาก) แต่ก็ซี้อของอย่างอื่นด้วย แล้วที่เคชเชียร์ชวนซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มราคาพิเศษอีก (เป็นสิทธิ์จากใบเสร็จ)...ก็ซี้อ หลังจากนั้นไปแลกของ
พนักงานบอกว่า : “ของแถมสินค้านี้ยังไม่มาค่ะ”
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “อ้าว... ไม่เห็นมีป้ายติดไว้เลย แล้วทำไมที่ BigC สาขาท่าข้าม เค้าติดป้ายว่า ‘ของแถมหมด’ หล่ะคะ” คิดในใจแต่แอบบ่นออกมาลอยๆ ว่า “สินค้าตัวเดียวกัน ของแถมเหมือนกัน แต่ทำไมสาขานึงของแถมหมด แต่อีกสาขานึงของแถมยังไม่มา แล้วจะมาเมื่อไรคะ”
พนักงานบอกว่า : “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่าจะมาเมื่อไร เค้าจะมาส่งให้วันไหนไม่ทราบเพราะไม่แน่นอนค่ะ รับอย่างอื่นแทนได้มั๊ยคะ”
... ในใจก็คิดว่า “จะคืนของทั้งหมด แต่ว่ายังไงเราก็ต้องซี้อยาสระผมไปใช้อยู่ดี” ...
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “แล้วมีอะไรบ้างคะ ที่พอจะแทนกันได้”
พนักงานก็เลยหยิบกระเป๋าที่เป็นของแถมจากสินค้าอื่นมาให้ 3 ใบ (ต่างสินค้ากันด้วย) ซึ่งมันเหมือนกระเป๋าที่ใส่กระดาษแค่ไม่กี่แผ่น ถ้าใส่สมุดหรือหนังสือกระเป๋าอาจขาดได้
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “นอกจากนี้มีอะไรอีกบ้าง”
พนักงานก็เลยชี้ไปที่ ‘ชาม แก้ว ถ้วย กระป๋องน้ำ แล้วก็ของเล่นสำหรับเด็ก’
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “งั้นเอาของเล่นมาดูหน่อย”
พนักงานก็เลยหยิบของเล่นมาให้ 2 กล่อง
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “ถ้าของเล่นอันนั้นอ่ะ (แบบอื่นดูดีน่าสนใจ)”
พนักงานบอกว่า : “ชิ้นนั้นต้องซื้อครบ 3,000 บาทค่ะ” (มีใครซื้อครบบ้าง)
ไอ้เราก็เลยพูดว่า : “งั้นเอานี่ก็ได้ ขอบคุณค่ะ” เฮ้อ!! ดีนะที่หลานกำลังโต แต่ยังเล็กเกินกว่าที่จะเล่นของเล่นนี้
นี่ถ้าไม่ติดว่ายาสระผมที่บ้านกำลังจะหมดเนี่ย...ไม่ซื้อหรอกนะ มีคืนแน่นอน!!
อยากถามหน่อยว่าถ้าของแถมพวกนี้เหลือเนี่ยเอาไปไว้ไหนกันหรอ อยากรู้จริงๆนะ