แด่เพื่อนของฉัน
เรื่องราวของการอกหัก เรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง เป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจเคยประสบพบเจอและผ่านมันไปด้วยรูปแบบต่างๆกัน รวมถึงตัวฉันเองที่เพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์นี้ได้ไม่นาน ตอนนี้ก็ผ่านไปประมาณเกือบ 1 เดือนแล้วล่ะ ฉันเก็บเรื่องราวการอกหักเอาไว้ แทบไม่มีใครที่ฉันพบเจอในชีวิตประจำวันที่รับรู้เรื่องราวของฉันเลย คงอาจเป็นเพราะ ฉันไม่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนรอบข้าง อยากให้เพื่อนเป็นโลกอีกใบที่ไม่ต้องมีเค้าคนนั้นมาเกี่ยวข้อง ฉันแคร์ว่าคนรอบข้างจะรู้สึกกับฉันอย่างไร เก็บไว้อย่างนี้ฉันก็พอมีความสุขไปวันๆ แต่อย่างไรความทุกข์ถึงเรื่องนั้นก็มากัดกร่อนความสุขของฉันไปทุกวันๆ นั่นเพราะฉันยังคงยื้อเพื่อให้ได้ไปกับเค้าอยู่แม้ว่าสถานะจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
จนกระทั่งวันนี้ ฉันรู้สึกถึงจุดๆหนึ่งที่อยากจะบอกเรื่องราวกับใครสักคน ให้เค้าได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน อย่างน้อยมันก็อาจทำให้ก้อนหินที่ฉันแบกไว้บนบ่ามันเบาลงไปบ้าง ฉันตัดสินใจบอกเรื่องราวกับเพื่อนคนหนึ่งของฉัน และการเล่าเรื่องราวนี้ ก็เพราะฉันอยากขอบคุณเพื่อนผู้นี้ อยากจดจำความรู้สึกนี้ไว้ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ฉันมีเรื่องที่ทำให้ถึงขั้นเสียใจมากๆ เสียใจที่สุดในเรื่องของคนๆนั้น น้ำตาของฉันมันเอ่อล้นไปด้วยความทุกข์ทั้งสับสน ทั้งเจ็บใจ เป็นร้องไห้ที่หนักมาก เป็นช่วงเดียวกับที่เพื่อนคนนี้มาอยู่ข้างๆฉัน เค้าบอกให้ฉันเล่าเรื่องราวให้เค้าฟัง เพราะถ้าทุกข์แล้วไม่บอกแล้วจะมีเพื่อนไว้ทำไม ฉันจึงเล่าทุกอย่างให้เค้าฟัง ตั้งแต่ฉันเกิดมาฉันยังไม่เคยร้องไห้ให้กับผู้ชายมาก่อน ฉันรู้สึกแย่ อะไรในที่เคยคิดและจินตนาการไว้ กลับเป็นตรงกันข้ามไปหมด เพื่อนได้แต่ปลอบฉัน และในวันนี้ฉันก็ได้ถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน ฉันเล่าถึงความเป็นอยู่ที่เจ็บช้ำ การทำเป็นว่าดูอารมณ์ดีแต่ซ่อนความทุกข์เอาไว้ เพื่อนบอกฉันว่า เค้าอยากเห็นฉันมีน้ำตาเมื่ออยากร้องไห้ หัวเราะเพราะมีความสุขด้วยใจจริงมากกว่า ไม่ใช่แบบนี้ ฉันเล่าว่าฉันกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องราวของฉันและเอาไปพูดไปต่างๆนานา เพื่อนบอกฉันว่าถึงเค้าจะนินทากัน ฉันก็ไม่ได้ยินหรอก เรื่องแบบนี้เดือนสองเดือนเดี๋ยวมันก็หาย ทุกคนคงจะยินดีที่ฉันได้ออกมาจากความทุกข์ มากกว่าเห็นฉันจมกับความรักที่เป็นฝ่ายยอมทุกอย่างเพียงผู้เดียวมากกว่า เพื่อนบอกฉันว่าถ้าฉันยังยอมทุกอย่างแบบนี้ พอตอนทุกข์ก็มาเสียใจผู้เดียว และพอเค้ามาคุยดีด้วยใหม่ก็กลับไปยอมใหม่อีก ชีวิตก็จะวนไปแบบนี้ เค้าก็อาจจะคิดว่าฉันเป็นของตาย ทำไมถึงลดค่าตัวเองลง ฉันยังมีค่าในสายตาคนอื่นอีกมากมาย เพื่อนอยากให้ฉันเห็นค่าในตัวเองด้วย ทำไมไม่สงสารเพื่อนบ้างหรอ ที่ต้องเสียใจเพราะเห็นฉันต้องเสียใจแบบนี้ TT ฉันถามเพื่อนว่า รู้สึกยังไงบ้างที่พอฉันมีความรัก ก็แยกกันไปอยู่กันสองคน จนหลายครั้งที่ทิ้งเค้าไป แต่พอเสียใจเพราะรักก็กลับมา เพื่อนตอบฉันว่า เค้าเข้าใจว่าคนรักกันไปด้วยกัน ไม่เป็นไร ไปเถอะ แม้จะไปกันสามคนแต่ต้องกลับเพียงคนเดียวเค้ารับได้ ถ้าเจ็บเมื่อไรค่อยกลับมานะ ยังไงเพื่อนก็รู้ว่าเพื่อนรออยู่ที่ไหน ฉันฟังแล้วน้ำตาไหลไม่หยุดเลย ที่ผ่านมาฉันหลงอยู่ในโลกแห่งความรักที่คิดว่าเป็นสิ่งสวยงาม เพื่อนบอกฉันว่า เข้าใจว่าความรักทำให้โลกมีอยู่แค่สองคน แต่ถ้าโลกของเราแตกขึ้นมา เราก็ต้องไปเจอกับคนภายนอกนะ ฉันถามเพื่อนว่า ฉันควรจะเสียดายมั้ย เพราะฉันอาจได้เจอคนที่ดีกว่านี้ในช่วงเวลาที่ฉันได้ตัดสินใจเลือกคนๆนั้นไป เพื่อนตอบฉันว่าไม่เสียดาย เพราะเค้าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้น แล้วในมุมกลับถ้าฉันไปเลือกคนอื่นในตอนนั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาอาจไม่มีความสุขก็ได้ เพื่อนยังบอกฉันอีกว่า ฉันยังโชคดีที่อกหักเมื่ออายุแค่เพียง 20 ยังมีโอกาสได้เจอคนที่ดีๆเข้ามาชีวิตอีกมากมาย เพราะถ้าต้องเจอกับการอกหักครั้งแรกเมื่ออายุมากแล้ว คงอาจจะหลงเดินผิดทางไปแล้ว มันอาจเป็นเรื่องทีดีนะที่ทำให้เราได้มีประสบการณ์ในความรัก ฉันถามว่าเค้ากลัวที่ต้องโสดมั้ย เค้าบอกฉันว่าความโสดก็ทำให้รักครอบครัวมากขึ้นนะ เค้าโสดมาได้ตั้ง 20 ปีแล้ว ทำไมโสดต่อไปจะไม่ได้ล่ะ และสุดท้ายเพื่อนบอกกับฉันว่า เคารพการตัดสินใจของฉัน ขอให้เลือกทางเดินทีดีที่สุด วันนี้ฉันเสียน้ำตาไปหลายเรื่องเป็นทั้งน้ำตาในสิ่งที่เค้าทำกับฉัน น้ำตาแห่งความปลื้มปิติในสิ่งที่เพื่อนพูดกับฉันให้กำลังใจกับฉัน ฉันขอบคุณความอกหักของฉัน ที่ทำให้ฉันได้เห็นใครอีกคนที่เดินทางไปข้างๆกับฉัน พยุงฉันขึ้นจากการล้ม ไม่หัวเราะหรือเยอะเย้ยฉัน แต่กลับสร้างพลังให้ฉันกลับมาเห็นคุณค่าในตัวเองฉันเองอีกครั้ง ใครคนนั้นไม่มีประสบการณ์ในความรักแต่กลับให้คำปรึกษาในความรักของฉัน ทำให้ฉันลึกซึ้งและตื้นตันใจเหลือเกิน และใครคนนั้นก็คือ เพื่อนรักของฉันเอง <3 ขอบคุณเพื่อนคนนั้นจริงๆ สุดท้ายนี้ฉันอยากฝากคำคมดีๆ ให้กำลังใจคนอกหักด้วยกัน
ความรัก…ทำให้คนตาบอดมองไม่เห็นใครอื่น
แต่การอกหัก… ทำให้มองเห็นใครหลายคนที่มองข้ามไป
ความรัก…ทำให้เราแคร์คนที่เรารักมากขึ้น
แต่การอกหัก… ทำให้เราหันมาแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
ความรัก… ทำให้โลกสดใส
แต่การอกหัก… แม้จะทำให้โลกมัวหมอง แต่มันก็ทำให้โลกเราได้มีอากาศครบทุกฤดูกาล
ความรัก… ทำให้เราอยู่แต่กับแฟน
แต่การอกหัก… ทำให้เราอยู่กับเพื่อนมากขึ้น
ความรัก… ทำให้เราคิดถึงแต่คนที่เรารัก
แต่การอกหัก… ทำให้เราคิดถึงคนที่รักเรามากขึ้น นั่นคือ ครอบครัว
ความรัก… ทำให้จิตใจเราอยู่แต่กับคนอื่น
แต่การอกหัก… ทำให้เราอยู่กับตัวเองมากขึ้น
ความรัก… ทำให้เราเอนอ่อนเพื่อเชื่อมโยงกันและกัน
แต่การอกหัก… ช่วยให้เราอยู่คนเดียวอย่างเข้มแข็งให้ได้
ความรัก… ทำให้ฉันกินกับแฟนอย่างมีความสุข
แต่การอกหัก… ช่วยลดน้ำหนัก เพราะอาจกินไม่ลง
ทั้งความรัก และความอกหัก ต่างก็มีทั้งสุขและทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดินทางผ่านวิถีเหล่านั้นไปอย่างไร ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ขอบคุณอกหักในวันนั้น… ที่ทำให้ฉันได้เจอใครในวันนี้…
เรื่องราวของการอกหัก เรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง เป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจเคยประสบพบเจอและผ่านมันไปด้วยรูปแบบต่างๆกัน รวมถึงตัวฉันเองที่เพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์นี้ได้ไม่นาน ตอนนี้ก็ผ่านไปประมาณเกือบ 1 เดือนแล้วล่ะ ฉันเก็บเรื่องราวการอกหักเอาไว้ แทบไม่มีใครที่ฉันพบเจอในชีวิตประจำวันที่รับรู้เรื่องราวของฉันเลย คงอาจเป็นเพราะ ฉันไม่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนรอบข้าง อยากให้เพื่อนเป็นโลกอีกใบที่ไม่ต้องมีเค้าคนนั้นมาเกี่ยวข้อง ฉันแคร์ว่าคนรอบข้างจะรู้สึกกับฉันอย่างไร เก็บไว้อย่างนี้ฉันก็พอมีความสุขไปวันๆ แต่อย่างไรความทุกข์ถึงเรื่องนั้นก็มากัดกร่อนความสุขของฉันไปทุกวันๆ นั่นเพราะฉันยังคงยื้อเพื่อให้ได้ไปกับเค้าอยู่แม้ว่าสถานะจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
จนกระทั่งวันนี้ ฉันรู้สึกถึงจุดๆหนึ่งที่อยากจะบอกเรื่องราวกับใครสักคน ให้เค้าได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน อย่างน้อยมันก็อาจทำให้ก้อนหินที่ฉันแบกไว้บนบ่ามันเบาลงไปบ้าง ฉันตัดสินใจบอกเรื่องราวกับเพื่อนคนหนึ่งของฉัน และการเล่าเรื่องราวนี้ ก็เพราะฉันอยากขอบคุณเพื่อนผู้นี้ อยากจดจำความรู้สึกนี้ไว้ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ฉันมีเรื่องที่ทำให้ถึงขั้นเสียใจมากๆ เสียใจที่สุดในเรื่องของคนๆนั้น น้ำตาของฉันมันเอ่อล้นไปด้วยความทุกข์ทั้งสับสน ทั้งเจ็บใจ เป็นร้องไห้ที่หนักมาก เป็นช่วงเดียวกับที่เพื่อนคนนี้มาอยู่ข้างๆฉัน เค้าบอกให้ฉันเล่าเรื่องราวให้เค้าฟัง เพราะถ้าทุกข์แล้วไม่บอกแล้วจะมีเพื่อนไว้ทำไม ฉันจึงเล่าทุกอย่างให้เค้าฟัง ตั้งแต่ฉันเกิดมาฉันยังไม่เคยร้องไห้ให้กับผู้ชายมาก่อน ฉันรู้สึกแย่ อะไรในที่เคยคิดและจินตนาการไว้ กลับเป็นตรงกันข้ามไปหมด เพื่อนได้แต่ปลอบฉัน และในวันนี้ฉันก็ได้ถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน ฉันเล่าถึงความเป็นอยู่ที่เจ็บช้ำ การทำเป็นว่าดูอารมณ์ดีแต่ซ่อนความทุกข์เอาไว้ เพื่อนบอกฉันว่า เค้าอยากเห็นฉันมีน้ำตาเมื่ออยากร้องไห้ หัวเราะเพราะมีความสุขด้วยใจจริงมากกว่า ไม่ใช่แบบนี้ ฉันเล่าว่าฉันกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องราวของฉันและเอาไปพูดไปต่างๆนานา เพื่อนบอกฉันว่าถึงเค้าจะนินทากัน ฉันก็ไม่ได้ยินหรอก เรื่องแบบนี้เดือนสองเดือนเดี๋ยวมันก็หาย ทุกคนคงจะยินดีที่ฉันได้ออกมาจากความทุกข์ มากกว่าเห็นฉันจมกับความรักที่เป็นฝ่ายยอมทุกอย่างเพียงผู้เดียวมากกว่า เพื่อนบอกฉันว่าถ้าฉันยังยอมทุกอย่างแบบนี้ พอตอนทุกข์ก็มาเสียใจผู้เดียว และพอเค้ามาคุยดีด้วยใหม่ก็กลับไปยอมใหม่อีก ชีวิตก็จะวนไปแบบนี้ เค้าก็อาจจะคิดว่าฉันเป็นของตาย ทำไมถึงลดค่าตัวเองลง ฉันยังมีค่าในสายตาคนอื่นอีกมากมาย เพื่อนอยากให้ฉันเห็นค่าในตัวเองด้วย ทำไมไม่สงสารเพื่อนบ้างหรอ ที่ต้องเสียใจเพราะเห็นฉันต้องเสียใจแบบนี้ TT ฉันถามเพื่อนว่า รู้สึกยังไงบ้างที่พอฉันมีความรัก ก็แยกกันไปอยู่กันสองคน จนหลายครั้งที่ทิ้งเค้าไป แต่พอเสียใจเพราะรักก็กลับมา เพื่อนตอบฉันว่า เค้าเข้าใจว่าคนรักกันไปด้วยกัน ไม่เป็นไร ไปเถอะ แม้จะไปกันสามคนแต่ต้องกลับเพียงคนเดียวเค้ารับได้ ถ้าเจ็บเมื่อไรค่อยกลับมานะ ยังไงเพื่อนก็รู้ว่าเพื่อนรออยู่ที่ไหน ฉันฟังแล้วน้ำตาไหลไม่หยุดเลย ที่ผ่านมาฉันหลงอยู่ในโลกแห่งความรักที่คิดว่าเป็นสิ่งสวยงาม เพื่อนบอกฉันว่า เข้าใจว่าความรักทำให้โลกมีอยู่แค่สองคน แต่ถ้าโลกของเราแตกขึ้นมา เราก็ต้องไปเจอกับคนภายนอกนะ ฉันถามเพื่อนว่า ฉันควรจะเสียดายมั้ย เพราะฉันอาจได้เจอคนที่ดีกว่านี้ในช่วงเวลาที่ฉันได้ตัดสินใจเลือกคนๆนั้นไป เพื่อนตอบฉันว่าไม่เสียดาย เพราะเค้าอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้น แล้วในมุมกลับถ้าฉันไปเลือกคนอื่นในตอนนั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาอาจไม่มีความสุขก็ได้ เพื่อนยังบอกฉันอีกว่า ฉันยังโชคดีที่อกหักเมื่ออายุแค่เพียง 20 ยังมีโอกาสได้เจอคนที่ดีๆเข้ามาชีวิตอีกมากมาย เพราะถ้าต้องเจอกับการอกหักครั้งแรกเมื่ออายุมากแล้ว คงอาจจะหลงเดินผิดทางไปแล้ว มันอาจเป็นเรื่องทีดีนะที่ทำให้เราได้มีประสบการณ์ในความรัก ฉันถามว่าเค้ากลัวที่ต้องโสดมั้ย เค้าบอกฉันว่าความโสดก็ทำให้รักครอบครัวมากขึ้นนะ เค้าโสดมาได้ตั้ง 20 ปีแล้ว ทำไมโสดต่อไปจะไม่ได้ล่ะ และสุดท้ายเพื่อนบอกกับฉันว่า เคารพการตัดสินใจของฉัน ขอให้เลือกทางเดินทีดีที่สุด วันนี้ฉันเสียน้ำตาไปหลายเรื่องเป็นทั้งน้ำตาในสิ่งที่เค้าทำกับฉัน น้ำตาแห่งความปลื้มปิติในสิ่งที่เพื่อนพูดกับฉันให้กำลังใจกับฉัน ฉันขอบคุณความอกหักของฉัน ที่ทำให้ฉันได้เห็นใครอีกคนที่เดินทางไปข้างๆกับฉัน พยุงฉันขึ้นจากการล้ม ไม่หัวเราะหรือเยอะเย้ยฉัน แต่กลับสร้างพลังให้ฉันกลับมาเห็นคุณค่าในตัวเองฉันเองอีกครั้ง ใครคนนั้นไม่มีประสบการณ์ในความรักแต่กลับให้คำปรึกษาในความรักของฉัน ทำให้ฉันลึกซึ้งและตื้นตันใจเหลือเกิน และใครคนนั้นก็คือ เพื่อนรักของฉันเอง <3 ขอบคุณเพื่อนคนนั้นจริงๆ สุดท้ายนี้ฉันอยากฝากคำคมดีๆ ให้กำลังใจคนอกหักด้วยกัน
ความรัก…ทำให้คนตาบอดมองไม่เห็นใครอื่น
แต่การอกหัก… ทำให้มองเห็นใครหลายคนที่มองข้ามไป
ความรัก…ทำให้เราแคร์คนที่เรารักมากขึ้น
แต่การอกหัก… ทำให้เราหันมาแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
ความรัก… ทำให้โลกสดใส
แต่การอกหัก… แม้จะทำให้โลกมัวหมอง แต่มันก็ทำให้โลกเราได้มีอากาศครบทุกฤดูกาล
ความรัก… ทำให้เราอยู่แต่กับแฟน
แต่การอกหัก… ทำให้เราอยู่กับเพื่อนมากขึ้น
ความรัก… ทำให้เราคิดถึงแต่คนที่เรารัก
แต่การอกหัก… ทำให้เราคิดถึงคนที่รักเรามากขึ้น นั่นคือ ครอบครัว
ความรัก… ทำให้จิตใจเราอยู่แต่กับคนอื่น
แต่การอกหัก… ทำให้เราอยู่กับตัวเองมากขึ้น
ความรัก… ทำให้เราเอนอ่อนเพื่อเชื่อมโยงกันและกัน
แต่การอกหัก… ช่วยให้เราอยู่คนเดียวอย่างเข้มแข็งให้ได้
ความรัก… ทำให้ฉันกินกับแฟนอย่างมีความสุข
แต่การอกหัก… ช่วยลดน้ำหนัก เพราะอาจกินไม่ลง
ทั้งความรัก และความอกหัก ต่างก็มีทั้งสุขและทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดินทางผ่านวิถีเหล่านั้นไปอย่างไร ราตรีสวัสดิ์ค่ะ